DCA คือ อะไร? เปิดบัญชีออมหุ้น DCA ที่ไหนดี 2567
สร้างรายได้ทางอ้อมด้วยการลงทุนออมสม่ำเสมอ ทยอยลงทุนเรื่อย ๆ แบบ DCA หรือ Dollar-Cost- Averaging ถัวเฉลี่ยต้นทุนยังไงให้ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการลงทุนที่ง่าย เงินลงทุนตั้งต้นไม่มาก ไม่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก
DCA คืออะไร
DCA ย่อมาจาก Dollar-Cost- Averaging คืออีกรูปแบบหนึ่งของการลงทุน ซึ่งจะลงทุนออมหุ้นอย่างสม่ำเสมอในสินทรัพย์ที่เราเลือกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หรือกองทุนก็ตาม เป็นจำนวนเงินเท่า ๆ กันทุกครั้ง ในระยะเวลาหนึ่งอย่างต่อเนื่อง
เช่น ลงทุนทุกวันที่ 15 ของทุกเดือน หรือ ลงทุนในช่วงต้นเดือนหลังจากเงินเดือนออก โดยให้ระบบหักเงินไปซื้อหุ้นหรือกองทุนจำนวน 1,000 บาท โดยไม่สนใจว่าราคาจะเป็นเท่าไหร่ ซึ่งถ้าเดือนไหน ราคาหุ้นสูงขึ้นเราก็ซื้อได้จำนวนน้อยลง ถ้าราคาหุ้นลดลงเราก็ซื้อได้จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยสร้างวินัยในการออม และการลงทุนโดยไม่คำนึงถึงราคาของสินทรัพย์ลงทุนที่เลือกไว้ว่าราคาเท่าไหร่
โดยปกติแล้วความถี่ของการ DCA ของหลาย ๆ คนมักจะอยู่ที่รายเดือน เป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมที่ใช้สร้างวินัยการลงทุนกัน โดยไม่มีการจับจังหวะตลาดและราคาของสินทรัพย์ จึงเป็นวิธีการลงทุนที่ทำได้ง่าย
การ DCA ส่วนมากจะเหมาะกับมนุษย์เงินเดือน เหตุผลคือ มนุษย์เงินเดือนจะมีรายได้ประจำทำให้สามารถจัดการเงินออมได้ดีกว่าอาชีพอิสระ จึงสามารถนำเงินส่วนหนึ่ง อาจเดือนละ 1,000-5,000 บาท มาสะสมในทรัยพ์สินเพื่อเป็นทุนในอนคตข้างหน้า
DCA อาจจะไม่ใช่วิธีที่ทำให้เราได้ผลตอบแทนดีที่สุดแต่เป็นวิธีที่ทำให้เราสามารถใช้วินัยและความอดทนเพื่อสะสมทรัพย์สินได้ โดยได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาว
ข้อดีข้อเสียของการทำ DCA
ข้อดีของ “DCA”
ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ถือเป็นเรื่องใหม่ และทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ด้านการลงทุน และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนยังไง
แต่เดิม เรามีโบรกเกอร์ หรือ ธนาคารเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่เปิดให้บริการออมหุ้นในระบบ DCA ซึ่งแต่เดิม นักลงุทนหลายท่านเลือกที่จะทำการลงทุนหุ้นถัวเฉลี่ยในแบบตัวของท่านเอง ซึ่งเป็นการลงทุนซื้อหุ้นถัวเฉลี่ยในหุ้นสามัญโดยตรงซึ่งมีความเสี่ยงต่อการถูกทุบราคาอย่างสูง ดั่งวิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่ทุบราคาหุ้นจนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน อาจส่งผลให้หลายท่านที่เคยออมหุ้นในระหว่างที่หุ้นสามัญตัวนั้นมีราคาที่สูง พลอยขาดทุนติดลบไปด้วย
เช่นเดียวกันกับธนาคาร ที่เปิดให้บริการฝากเงินเพื่อลงทุนในกองทุนรวม SET 50 หรือ SET 100 แต่ไม่ได้มีเงื่อนไขที่ให้นักลงทุนต้องนำเงินมาลงทุนเป็นประจำทุกเดือน อาจทำให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องด้านการสะสมทุน จึงทำให้เมื่อต้องการขาย กลับมีหุ้นกองทุนรวมอยู่ในมือเพียงนิดเดียว ซึ่งต่างจากรูปแบบการลงทุน ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ที่ธนาคารจะทำการตัดยอดเงินจากท่านเป็นประจำทุกเดือน ตามที่ท่านกำหนดไว้ตั้งแต่เปิดพอร์ตลงทุน แล้วนำไปลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET 50 , SET 100 หรือ MAI ที่มีพื้นฐานมั่นคงสูง ซึ่งเป็นข้อดีของการลงทุน ออมหุ้นเดือนละ 1000
ข้อดีของ DCA มีอะไรน่าสนใจบ้างมาดูกันต่อเลย
1️⃣ ทุนน้อยก็สามารถลงทุนได้
สามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยการแบ่งรายได้ในแต่ละเดือนมาใช้ลงทุนเป็นประจำโดยไม่กระทบต่อเงินที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละเดือน จึงเหมาะกับนักลงทุนที่อาจจะมีทุนเริ่มต้นไม่มากแต่ต้องออมเงินเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินไว้เฉย ๆ ด้วยการสะสมหุ้นเพื่อให้เงินทำงาน ไม่ต้องใช้เวลาติดตามข่าวสารการลงทุนมากนัก หากลงทุนนานวันเข้าก็จะได้ผลตอบแทนดีกว่าในช่วงราคาหุ้นขาลง เพราะใช้เงินลงทุนเท่าเดิม แต่ได้จำนวนหุ้นมากขึ้น และช่วยลดการขาดทุนหนัก ๆ ได้หากราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างรุนแรงได้
2️⃣ เป็นการเริ่มต้นศึกษาการลงทุนไปในตัว
หลายท่าน กล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะเข้าสู่โลกการลงทุน เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ช่วยให้ท่านได้ศึกษาเรียนรู้ รูปแบบการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อท่านต้องการพัฒนาตัวต่อยอด โดยการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเอง ก็สามารถทำได้ โดยที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว ต่างกับการกระโจนเข้าสู่ตลาดหุ้นในทันที ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียสูงกว่า ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นกลยุทธ์ที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการลงทุนหรือวิเคราะห์ตลาดก็สามารถนำไปใช้ได้
3️⃣ เป็นการออมเงินด้วยการลงทุน ที่ให้ผลประโยชน์มากกว่าดอกเบี้ยประจำ
ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ไม่ได้ให้ผลประโยชน์กับท่านรูปแบบดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ให้ผลตอบแทนท่านในรูปแบบมูลค่าหุ้นที่ท่านถือในมือ ยิ่งท่านลงทุนไว้นานเท่าไหร่ และอัตราถัวเฉลี่ยรวมของหุ้นที่ท่านมีในพอร์ตการลงทุนยิ่งถูกลง
ยกตัวอย่างตอนเริ่มต้นออม ท่านลงทุนในอัตรา 10 บาทต่อหุ้น แต่เมื่อท่านถือนานไป ต้นทุนของท่านลดลงเหลือหุ้นละ 9 บาท แล้วมูลค่าหุ้นที่ท่านถือในมือปรับเป็น 13 บาท หมายความว่า ท่านทำกำไรได้ถึง 4 บาทต่อหุ้น โดยที่หุ้นในมือของท่านมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่ท่านจะได้รับกำไรสูงขึ้นเพิ่มตามไปด้วย และที่สำคัญ ทั้งการฝากประจำและมีรายได้จากดอกเบี้ย และ การออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ยังคงต้องมีการจ่ายภาษีเงินได้ ท่านคิดว่า การลงทุนแบบใดที่ช่วยท่านทำกำไรได้อย่างสมน้ำสมเนื้อกันละครับ
4 เป็นการลงทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ และไม่มีเวลาดูกระดานหุ้นด้วยตัวเอง
สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนกลัวมากที่สุดคือ เงินต้นฉันจะหายไหม นักลงทุนหน้าใหม่กลัวการขาดทุนครับ และยิ่งการขาดทุนในอัตราสูง ยิ่งทำก่อให้เกิดความกลัว ไม่กล้าพัฒนาตัวสู่โลกการลงทุนอีก การลงทุน ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ช่วยให้ท่านเข้าสู่โลกการลงทุนด้วยความสบายใจ เพราะจะมีผู้มีประสบการณ์ในการลงทุนคอยช่วยเหลือท่าน และการลงทุนระบบนี้ เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญ ที่เน้นปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ท่านหมดกังวลได้ที่จะต้องนั่งเฝ้าดูกระดาน ว่าฉันต้องซื้อ หรือต้องขายตอนไหนดี
ข้อจำกัดของ “DCA”
กลยุทธ์หุ้น DCA ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างที่ทำให้นักลงทุนต้องจบลงด้วยผลขาดทุน หากนักลงทุนเลือก DCA ในหุ้นที่ไม่มีอนาคตและแนวโน้มราคาปรับลงทำจุดต่ำสุดใหม่ตลอด แม้จะใช้กลยุทธ์การเฉลี่ยต้นทุนแบบ DCA ก็ยังทำให้นักลงทุนต้องเผชิญผลขาดทุนได้เหมือนกัน
มาดูกันว่าข้อเสียของ DCA มีอะไรบ้าง
1️⃣ ต้นทุนที่ได้จะเป็น ต้นทุนเฉลี่ย
คำว่าต้นทุนเฉลี่ย หมายถึงต้นทุนทั้งจากช่วงที่ราคาสูงและราคาต่ำ ในระยะสั้นอาจมีต้นทุนเฉลี่ยที่สูงกว่าราคาตลาดของสินทรัพย์ลงทุนนั้น ๆ ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การเฉลี่ยต้นทุนเงินดอลลาร์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงและบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้
2️⃣ DCA ไม่ได้ลดความผันผวนของมูลค่าพอร์ตลงทุนโดยรวม
ถ้าจัดพอร์ตลงทุนเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง เช่น หุ้น ทองคำ พอร์ตลงทุนโดยรวมยังคงได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดอยู่ เพราะแม้ว่าตลาดจะประสบกับความผันผวนในระยะสั้นมากมาย แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป หากคุณไม่เพิ่มการลงทุนรายเดือนไปเรื่อย ๆ คุณก็อาจได้หุ้นโดยเฉลี่ยน้อยลงตามไปด้วยเช่นกัน
3️⃣ DCA ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบลงทุนแบบจับจังหวะเวลา
แนวทางการลงทุนของคุณอาจเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากภาวะของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้น สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเงินส่วนบุคคลอาจไม่เหมือนเดิมเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น รูปแบบการลงทุนแบบนี้อาจไม่ตรงตามเป้าหมายของนักลงทุนที่ชอบลงทุนแบบจับจังหวะเวลา จึงอาจส่งผลให้พอร์ตโฟลิโอของคุณอาจไม่มีประสิทธิภาพตามที่คุณต้องการเมื่อเวลาผ่านไปได้
หุ้น DCA ตัวไหนน่าลงทุน ดูจากอะไร
ก่อนอื่นต้องดูกันก่อนว่าหุ้นลักษณะแบบไหนที่ควรพิจารณามาลงทุนแบบ DCA เพราะโดยส่วนมากการลงทุนแบบ DCA ผู้ลงทุนต้องตั้งเป้าหมายการออมหุ้นรายเดือน รายสัปดาห์ หรือราย Quater หากเลือกหุ้นผิด ก็จะทำให้ไม่ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายหรืออาจขาดทุนได้ เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อหุ้นมา DCA จึงต้องเป็นหุ้นพื้นฐานดี ซึ่งควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
ธุรกิจต้องมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพราะจะช่วยให้เลือกหุ้นที่มีความแข็งแกร่งแลสามารถดำเนินการอยู่ในอุตสาหกรรมได้ในระยะยาว
กิจการเติบโตต่อเนื่อง หุ้นต้องสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ในเทรนด์อนาคต ไม่มีแนวโน้มที่จะถูก Disrupt ไปง่าย ๆ เช่น ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่าง ธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า โรงพยาบาลหรือธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ
มีกำไรอย่างสม่ำเสมอในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน กำไรของบริษัทเปรียบเป็นเครื่องสะท้อนความสามารถในการดำเนินงาน ซึ่งบริษัทที่มีพื้นฐานดีควรมีกำไรที่สม่ำเสมอและต่อเนื่อง
หนี้สินไม่เยอะ เป็นสิ่งที่ควรระวัง การมีหนี้ระยะยาวมากเกินไป อาจทำให้บริษัทมีปัญหาเรื่องการชำระหนี้ และเกิดปัญหาต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หากวันใดขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถชำระหนี้ได้ จะเกิดปัญหาทันที
กำไรสะสมเพิ่มอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัทและอนาคตที่มีความมั่นคง
ควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี ต้นทุนจะส่งผลโดยตรงต่อกำไรของธุรกิจ แสดงให้เห็นถึงความสามารถและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่ดี
ทยอยลงทุนทุก ๆ เดือน (DCA) ดียังไง
DCA | ราคาหุ้น | เงินซื้อเฉลี่ยทุกเดือน | จำนวนหุ้นที่ได้ |
เดือนที่ 1 | 10 | 3,000 | 300 |
เดือนที่ 2 | 8 | 3,000 | 375 |
เดือนที่ 3 | 12 | 3,000 | 250 |
เดือนที่ 4 | 7 | 3,000 | 428.57 |
เดือนที่ 5 | 6 | 3,000 | 500 |
เดือนที่ 6 | 8 | 3,000 | 375 |
เดือนที่ 7 | 9 | 3,000 | 333.33 |
เดือนที่ 8 | 11 | 3,000 | 272.73 |
เดือนที่ 9 | 11 | 3,000 | 272.73 |
เดือนที่ 10 | 10 | 3,000 | 300 |
เดือนที่ 11 | 9 | 3,000 | 333.33 |
เดือนที่ 12 | 15 | 3,000 | 200 |
ราคาเฉลี่ย | 9.67 | 36,000 | 3,940.69 |
จากตารางจะเห็นว่าหากราคาหุ้นที่เราต้องการซื้อเฉลี่ยแกว่งตัวอยู่ในช่วง 6-15 บาท ถ้าเราตัดซื้อเฉลี่ยทุกเดือน เดือนละ 3,000 บาท เราจะได้ต้นทุน 9.67 บาทต่อหุ้น ต่ำกว่าราคาหุ้นในเดือน 12 ที่ปิดไป 15 บาทต่อหุ้น โดยเราจะได้จำนวนหุ้น 3,900 หุ้น และใช้เงินไป 36,000 บาท หากเราซื้อหุ้นทีเดียวเมื่อสิ้นปีที่ราคา 15 บาทต่อหุ้น ด้วยเงินจำนวน 36,000 บาทเช่นกัน เราจะได้หุ้นเพียง 2,400 หุ้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าน้อยกว่าวิธีที่เราซื้อเฉลี่ยด้วยแนวทาง DCA
ทำไม”ซื้อหุ้นแบบ DCA” ทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ
1. ต้องเข้าใจก่อนว่าการ DCA ซื้อหุ้นทุกเดือนคืออะไร
การ DCA ซื้อหุ้นทุก ๆ เดือน คือ การที่นักลงทุนทยอยซื้อหุ้นตัวเดียวกันทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน แต่แนะนำว่าให้ลงทุนในทุกเดือนจะดีกว่า เพราะผลตอบแทนออกมาไม่ต่างกัน เพื่อลดความวุ่นวายที่นักลงทุนต้องมาซื้อหุ้นในทุกวัน
โดยวิธีการ คือ จะแบ่งเป็นงวด ๆ เท่ากัน ไม่สนใจราคาว่าจะเป็นเท่าไหร่ เช่น ออมเดือนละ 100 หุ้น หรือจะกำหนดตามวงเงิน 3,000-5,000 บาท ตามที่เราวางแผนไว้
2. ทำการศึกษาให้เข้าใจ เพื่อเลือกว่าเราจะซื้อหุ้นตัวไหน
กฎเหล็กของการซื้อหุ้นแบบ DCA คือ เราต้องมั่นใจว่าเราต้องซื้อหุ้นระยะยาวที่เป็นแนวโน้มเป็นขาขึ้น ห้าม DCA หุ้นเป็นขาลงเด็ดขาด อย่างที่เรารู้กันเป็นอย่างดีว่าหุ้นระยะสั้น มีความผันผวนสูง แล้วพอเวลาผ่านไประยะยาว หุ้นจะสามารถเติบโตได้ดี
3. เปิดบัญชีให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา
แท้จริงแล้วบัญชีหุ้นไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่ สำหรับนักลงทุนมือใหม่แนะนำ ให้เน้นดูว่า ไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ ก็ใช้ได้แล้ว
4. ต้องมีวินัยในการลงทุน
การซื้อหุ้นด้วยการ DCA สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ วินัยในการลงทุน ในเวลาที่เราเห็นตลาดขึ้น บางคนอาจไม่กล้าซื้อ คิดว่าเดี๋ยวต้นทุนของเราจะสูงขึ้น หรือบางคนมีความคิดว่ารอหุ้นลงอีกหน่อยค่อยซื้อแล้วกัน จริง ๆ แล้วถ้าเราตัดเรื่องอารมณ์ออกไป จะทำให้เรากล้าซื้อหุ้นไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง ทำให้เราไม่เสียโอกาส เพราะในระยะสั้นหุ้นจะวิ่งตามแรงซื้อและแรงขายอยู่แล้ว แต่ในระยะยาวหุ้นจะวิ่งตามมูลค่า
5. ต้องตรวจสอบหุ้นที่เราออมเมื่อประกาศงบทุกไตรมาส
ทุก 3 เดือน (ไตรมาส) เราต้องดูว่าหุ้นที่เราซื้อไป ผลประกอบการเป็นไปตามคาดหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามที่คาดไว้ก็สามารถ DCA ได้สบาย แต่ถ้าแย่ก็ต้องดูว่าเป็นเพราะผลกระทบระยะสั้นหรือระยะยาว ถ้าระยะสั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าระยะยาวอาจจะต้องเปลี่ยนหุ้นที่เรา DCA
ในระยะแรกอาจจะดูงบแล้วงง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าจะเปรียบเทียบ ต้องเปรียบเทียบกับงบไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว ห้ามเปรียบเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เพราะเป็นธรรมชาติของธุรกิจ บางเดือนยอดขายดีบางเดือนยอดขายแย่เป็นธรรมดา
เปิดบัญชีออมหุ้น DCA ที่ไหนดี 2567
โบรกเกอร์ | เงินลงทุนขั้นต่ำ(บาท) | นโยบายการลงทุน | ค่าธรรมเนียม* |
SCBS | 2,000 | SET100 | 0.25% |
SBI | 1,000 | SET100 | 0.075% |
Phillip | 1,000 | หุ้น 30 ตัวจากนักวิเคราะห์ | 0.25% |
KS | 5,000 | SET100 | 0.15% |
Nomura | 1,000 | SETHD, SET100 | 0.15-0.25% |
KTBS | 1,000 | SET, mai | 0.25% |
Bualuang | 10,000 | SET100, BMSCITH, BSET100 | 0.30% |
Maybank Kim Eng | 5,000 | SET50, SET100 | 0.15% |
KSS | 2,000 | SET100 | 0.15% |
*ค่าธรรมเนียมยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นของตลาดหลักทรัพย์และ 7%VAT
1. บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ (SCBS)
ออมหุ้นขั้นต่ำ 2,000 บาท
ช่องทางการลงทุน Settrade Streaming เมนู Settrade DCA Order
เงื่อนไขการออม มีทั้งรายเดือน / รายสัปดาห์
นโยบายการลงทุน SET 100 ,TDEX และ BMSCITH
ค่าธรรมเนียม หากส่งคำสั่งเองผ่านอินเตอร์เน็ต 0.157% ของมูลค่าการซื้อขาย แต่หากส่งคำสั่งผ่านผู้ดูแลบัญชี 0.257% ของมูลค่าการซื้อขาย
ลงทุนเริ่มต้น 2,000 บาท ลงทุนแบบรายเดือน เลือกหุ้นได้จาก SET100, TDEX, BMSCITH ซื้อหุ้น 100 ตัว (Board Lot) ค่าธรรมเนียม 0.157% หากซื้อผ่านอินเทอร์เนต หรือ 0.257% เมื่อซื้อผ่านโบรกเกอร์
2. บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด (SBI)
โดยเริ่มออมหุ้นด้วยเงินเพียง 1,000 บาทขึ้นไป
หุ้นในกลุ่ม SET 100 เท่านั้น สำหรับการออมหุ้นแบบ DCA
ค่าคอมมิชชั่นยังคงอยู่ที่อัตราปกติ คือ 0.075% สำหรับบัญชี Cash Balance และ 0.010% สำหรับบัญชี Cash
3. บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (Phillip)
จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท/เดือน
นโยบายการลงทุน เลือกหุ้นที่ต้องการลงทุน โดยเลือกจากลิสต์รายชื่อ 36 หุ้นแนะนำ (ฝ่ายวิเคราะห์จะ Review ทุก 6 เดือน) เลือกได้สูงสุด 20 ตัว
กำหนดวันลงทุน ทุกวันที่ 5,20 และ 28 ของเดือน
ค่าธรรมเนียม 0.257% ของจำนวนเงินที่ลงทุน ขั้นต่ำ 30 บาทต่อรอบการลงทุน (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
4. บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย (KS)
จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท / Symbol/ครั้ง
ช่องทางการลงทุน K-Cyber Trade, Settrade Streaming
นโยบายการลงทุน ซื้อหุ้นที่อยู่ใน SET 100 หรือ ETF
เงื่อนไขการลงทุน มีทั้งรายเดือน / รายสัปดาห์
ค่าธรรมเนียม สำหรับบัญชี Cash Balance 0.157% และบัญชี Cash Account 0.207% ไม่รวมค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ (ขั้นต่ำ 50 บาทต่อวัน)
5. บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (Nomura)
จำนวนเงินลงทุน 1,000 บาท
นโยบายการลงทุน SETHD และ หุ้นที่ CNS ประกาศ (AOT, BDMS, BH, BTS, BJC, CPALL, CPN, GLOBAL, BEM, CPF, HMPRO, KTC)
เงื่อนไขการลงทุน ออมทุกเดือน วันทำการแรกของเดือน
ค่าธรรเมนียม 0.25% ไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นและ VAT
6. บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBS)
ออมหุ้น เริ่มต้น 1,000 บาท KTBST smart DCA
ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
นโยบายการลงทุน SET, mai
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.25%
7. บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง (Bualuang)
จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท/เดือน
นโยบายการรลงทุนใน BMSCITH* ซึ่งเสมือนเป็นการถือครองหลักทรัพย์ทุกตัวในดัชนี MSCI Thailand และ BSET100* ซึ่งเสมือนการถือครองบริษัทขนาดใหญ่ 100 บริษัท, E1VFVN3001* ซึ่งเสมือนลงทุนในหลักทรัพย์เวียดนาม ด้วยระบบตัดเงินเป็นรายเดือน
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (Commission Rate) อยู่ที่ 0.30%
ค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาการลงทุน ราย 2 ปี โดยชำระเดือนแรกของรอบการลงทุน (เงินลงทุนต่อเดือน + 1,070 บาท)
8. Maybank Kim Eng
ออมหุ้น DCA กับ บล. Maybank Kimeng
ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท
นโยบายการลงทุน SET50 / SET 100
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.15%
9. บริษัท หลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS)
จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท
นโยบายการลงทุน หุ้นใน SET 100
เงื่อนไขการลงทุน รายเดือน / รายสัปดาห์
สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการรับเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 50 บาทต่อบัญชีต่อวัน
6 หุ้น DCA แนะนำสำหรับมือใหม่หัดออม
1. หุ้น EGCO
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าเลือกหุ้นมาลงทุน โดยประกอบธุรกิจด้านการลงทุน โดยการถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ที่ประกอบธุรกิจ อาทิเช่น ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในฐานะรายใหญ่ (IPP) และรายเล็ก (SPP) รวมถึงธุรกิจการให้บริการด้านเทคนิคการจัดการแก่โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ หุ้น EGCO ถือเป็นหุ้นที่นักลงทุนหลายคนนำมาใส่ไว้ในรายชื่อบัญชีออมหุ้น เพราะธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน โรงไฟฟ้า มีความสามารถในการเติบโตได้สูง
2. หุ้น MEGA
หุ้น MEGA หรือ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และสินค้าอุปโภคบริโภค ชั้นนำระดับโลก ใครที่ทานวิตามินหรืออาหารเสริมน่าจะรู้จักบริษัทนี้ดี ปัจจุบันยังได้ จำหน่ายสินค้าไปยังประเทศพม่า เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งล้วนเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว
3. หุ้น AOT
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT หุ้นในกลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ AOT หรือ ทอท. ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทย ประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ การจัดการ การดำเนินงาน และการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยมีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ท่าอากาศยานหลักของประเทศ) ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งนี้ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ
4. หุ้น ADVANC
หุ้นในหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างมากในอนาคต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมต่าง ๆ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ได้แก่ เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และธุรกิจดิจิทัล เซอร์วิส
5. หุ้น KBANK
ไม่มีใครไม่รู้จักหุ้นธนาคารยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตามที่ได้รับอนุญาต ซึ่ง ธนาคาร กสิกรไทย เป็นหนึ่งในธนาคารที่ลงทุนและพัฒนาระบบ เทคโนโลยีทางการเงินและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ทันยุคสมัยและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปและเติบโตอย่างต่อเนื่องไปในอนาคต
6. หุ้น BDMS
ธุรกิจในเทรนด์สุขภาพ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและอนาคต หุ้น BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศไทย และยังมีโรงพยาบาลเครือข่ายอยู่ในประเทศกัมพูชาด้วย โรงพยาบาลในเครือ BDMS ที่ทุกคนรู้จักกันดีเช่น กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบี เอ็น เอช เป็นต้น นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจอื่น ๆ ที่สนับสนุนทางด้านการแพทย์ ได้แก่ ธุรกิจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ธุรกิจผลิตยาและธุรกิจผลิตน้ำเกลือ เป็นต้น
ดังนั้น หากเราเลือกลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลเป็นประจำ การทยอยสะสมหุ้นนั้น ไปเรื่อย ๆ จะทำให้ได้รับกระแสเงินสดจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นรายได้ส่วนเพิ่ม (Passive Income) ซึ่งสามารถนำไปสร้างประโยชน์และความสุขให้กับชีวิตได้ นั่นเอง
เทรดหุ้นด้วย CFD ที่ช่วยขยายกำไรด้วยเงินทุนต่ำ
CFD ย่อมาจากสัญญาส่วนต่าง (Contract for Difference) ซึ่งเป็นตราสารการเทรดประเภทหนึ่งและเป็นวิธียอดนิยมที่นักลงทุนใช้เข้าเทรดในตลาดเงิน เหมาะกับสำหรับผู้ที่มีความคาดหวังว่าจะเก็งกำในระยะสั้นด้วยเงินทุนไม่มากและรับความเสี่ยงที่สูงได้ และถ้าหากคิดจะทำกำไรจากการออมหุ้น DCA ก็มีวิธีการง่าย ๆ คือการซื้อให้ถูกและขายให้แพง ด้วยเครื่องมืออย่าง CFD เป็นหนึ่งในเครื่องมือการซื้อขายที่ยืดหยุ่นที่สุด ที่จะมาช่วยในการขยายขอบเขตการทำกำไรให้กับเทรดเดอร์นั่นเอง สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน และตลอด 5 วันทำการต่อสัปดาห์
ตัวอย่างเช่นการเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์ MiTrade
การเทรดหุ้น APPL ด้วย CFD จากโบรกเกอร์ MiTrade มีวิธีซื้อขายง่าย ๆ คือ เมื่อราคา APPL $136.63 ดอลลาร์ หากมองว่าราคาหุ้นกำลังจะปรับตัวขึ้นไปอีกให้เปิดสถานะ Long เพื่อคาดหวังผลกำไรจากส่วนต่างราคาขาขึ้น และวางเงินลงทุนขั้นต่ำ $68.32 บนขนาดสัญญาขั้นต่ำ 10 Lots (ตัว) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นไปก็ปิดสัญญาเพื่อรับรู้กำไร โดยหากปิดสถานะได้ที่ราคา $140.00 ก็จะได้กำไร $33.7 หรือกว่า 50% ด้วยการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเพียง 0.02% เท่านั้น
ในทางตรงกันข้าม เรายังสามารถใช้ CFD ทำกำไรในทิศทางราคาขาลงได้ด้วย เช่น หาก APPL ราคา $136.63 และเรามองว่าราคายังปรับตัวลงไปได้อีก ให้เปิดสถานะ Short ด้วยขั้นต่ำของสัญญา 10 Lots และวางเงินลงทุน $68.32 หลังจากนั้นเมื่อราคาปรับลงไปตามที่ต้องการก็ปิดสถานะเพื่อรับรู้กำไรได้ด้วยวิธีเดียวกัน
เทรดแบบไม่มีเลเวอเรจ | เทรดด้วยเลเวอเรจ | ||
สถานะ Long | สถานะ Long | สถานะ Short | |
ราคาเปิด | $136.63 | $136.63 | $136.63 |
ราคาปิด | $140.00 | $140.00 | $133.00 |
ขนาดสัญญา | 1 ตัว | 1 ตัว | 1 ตัว |
ขนาดสัญญาต่ำสุด | 10 Lot | 10 Lot | 10 Lot |
เลเวอเรจ | 0 | 20 | 20 |
เงินทุนเริ่มต้น | $1366.3 | $68.32 | $68.32 |
กำไรที่ได้ | $33.70 | $33.70 | $36.30 |
อัตราผลตอบเทน | 2% | 50% | 50% |
ตอนนี้ใคร ๆ ก็ให้ความสนใจเรื่องการออมเงินมากขึ้น และที่น่าสนใจคือมีการแชร์เทคนิคการออมเงินมาหลายรูปแบบ หนึ่งในการลงทุนที่กำลังอินเทรนด์ก็คือ DCA หรือ Dollar-Cost- Averaging ที่จะเป็นการหยอดเงินลงทุนในหุ้นที่เราสนใจและมีการศึกษาประสิทธิภาพการทำงานมาอย่างดี สำหรับผู้ที่สนใจการลงทุนประเภทนี้ก็จะสามารถเลือกลงทุนในหุ้นใหญ่ ๆ ในประเทศไทยที่เปิดให้เลือกหลายแห่ง
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในวิธีการออมเงินกับ DCA ที่ง่ายที่สุดก็คือการเทรด CFD กับโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้เราสามารถเปิดสถานะ Long หรือ Short จากการศึกษาข้อมูลหุ้นของเรามาแล้วได้
DCA หรือ Dollar-Cost- Averagin น่าลงทุนสำหรับมือใหม่หรือไม่?
หากอยากเริ่มลงทุนแบบ DCA ต้องทำอย่างไรบ้าง?
DCA เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ดีหรือไม่?
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน