12 หุ้นปันผลสูง 2567 ตารางเปรียบเทียบหุ้นปันผลสูงที่น่าสนใจ!

การลงทุนในหุ้นปันผลสูงเปรียบเสมือนการถือครองเครื่องจักรที่สามารถผลิตเงินให้เราได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของราคาหุ้นในตลาดมากนัก การรับปันผลในแต่ละครั้งเปรียบเสมือนการได้รับ“ดอกผล”จากการลงแรงและเวลาในการลงทุน ในบทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของหุ้นปันผลสูง เข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมหุ้นเหล่านี้ถึงเป็นที่นิยมและมีความสำคัญต่อการสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความมั่นคงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

หุ้นปันผล หมายถึงหุ้นที่บริษัทที่ออกหุ้นนั้นจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ปันผล (Dividend) เป็นการแบ่งปันกำไรบางส่วนของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งปันผลนั้นอาจจ่ายเป็นเงินสดหรือหุ้นเพิ่มก็ได้ หุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูงมักเป็นที่ต้องการของนักลงทุนที่มองหาการสร้างรายได้เสริมอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง

-หุ้นปันผลสูงมักจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอทุกปี หรือทุกไตรมาส ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงสำหรับผู้ถือหุ้น

-บริษัทที่สามารถจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอมักเป็นบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงและกำไรที่สม่ำเสมอ ซึ่งบ่งบอกถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งในธุรกิจ

-การได้รับปันผลอย่างต่อเนื่องช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่ราคาหุ้นตก ทำให้นักลงทุนยังคงได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของปันผลแม้ว่ามูลค่าหุ้นจะลดลง

-หุ้นปันผลเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากการได้รับปันผลอย่างต่อเนื่องสามารถสะสมได้มากขึ้นเรื่อยๆ และสร้างผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว

1.หุ้น TISCO   

หุ้น TISCO  ประกอบธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินทิสโก้ โดยมีธนาคารทิสโก้เป็นหลัก ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ

#ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น TISCO เป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงสม่ำเสมอ กำไรสุทธิ 2Q24F อ่อนลง YoY และ QoQ คาดกำไรสุทธิ 2024F ไว้ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลง -12.8%YoY, -6.7%QoQ เป็นผลจาก 1) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ลดลง, 2) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ต่ำลง สินเชื่อ 5M24 เติบโต +4.5%YoY และ +0.5%YTD 

2.หุ้น  ICHI  

หุ้น  ICHI  บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทในประเทศไทย ประกอบธุรกิจผลิตเครื่องดื่ม โดยมีผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงคือ เครื่องดื่มชาเขียว "อิชิตัน"

#ทำกำไรสุทธิสูงกว่าประมาณการของBloomberg consensus 9%/11% เนื่องจาก GPM สูงกว่าคาด โดยคาดว่า 2Q24 จะเป็นไตรมาสที่ ICHI ทำกำไรสุทธิสูงสุดในปี FY24 เพราะประเทศไทยมีอากาศร้อนจัด แนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 21.9 บาท

3.หุ้น TTW 

หุ้น TTW เป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค ภายใต้สัมปทานประกอบกิจการประปา จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

#คาดกำไรปกติไตรมาส 2/67 จะฟื้นตัวขึ้นได้ QoQ โดยมีแรงหนุนจากทั้งธุรกิจหลักน้ำประปาที่คาดปริมาณขายโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามการเข้าสู่ช่วงการใช้น้ำสูงสุดของภาคครัวเรือนในฤดูร้อน และผลประกอบการของบริษัทร่วม CKP ที่คาดจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากผ่านพ้นช่วง Low season ของฤดูกาลน้ำมาแล้วในไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดว่าจะได้รับผลบวกคาดการณ์ของปรากฏการณ์ลานีญาเพิ่มขึ้น

4.หุ้น DIF 

หุ้น DIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล

#คาด 3BBIF จะรายงานกำไรปกติไตรมาส 2/67 ที่ 1.5 พันลบ. (-34% YoY และ ทรงตัว QoQ) และ DPU ไตรมาส 2/67 ที่ 0.174 บาท (DY ที่ปีละ 12.7%) บล.กสิกรไทยคงมุมมองบวกต่อกลุ่มจากมูลค่าหุ้นที่ไม่แพงจาก DPU รวมที่ 13.30 บาท (IRR ที่ 7.2%) สำหรับ DIF 

5.หุ้น BBL 

หุ้น BBL ธนาคารกรุงเทพ จำกัด

#กุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ Virtual Banking ที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลาย แม้คงดอกเบี้ยนโยบาย แต่ยังมองเป้าหมาย GDP ปี 24-25 ที่ 2.6% และ 3.0% บ่งชี้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดและฟื้นตัวเร่งกว่าตลาดส่วนใหญ่ประเมินในปัจจุบัน ระยะสั้นหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ (จากการคงดอกเบี้ย+สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ฟื้นตัวเด่นสุด)

6.หุ้น SPALI  

หุ้น SPALI  บริษัท ศุภาลัย จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รายใหญ่ของไทย 

#การฟื้นตัวเด่นของผลประกอบการตั้งแต่ไตรมาส 2/67 หนุนจากเปิดโครงการแนวราบใหม่จำนวนมาก และส่งมอบกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ใหม่ นอกจากนี้การมีพอร์ตสินค้าหลากหลาย และส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท SPALI สัดส่วนกว่า 70% ทำให้ได้รับประโยชน์พอสมควรจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ

7.หุ้น DMT 

หุ้น DMT  บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจรับสัมปทานบริหารจัดการทางยกระดับอุตราภิมุข

เคาะราคาเป้าหมาย 14.30 บาท ผลจากกิจกรรมการเดินทางเพิ่มขึ้นหนุนปริมาณรถที่ใช้ทางยกระดับดอนเมืองพุ่ง คาดจำนวนรถใช้ทางด่วนปี 2567 จะเติบโต 20% จากปีก่อน ดันรายได้ค่าผ่านทางตลอดปีนี้เติบโต 19% จากปีก่อน ประเมินแนวโน้มไตรมาส2/67จะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน

8.หุ้น MC 

หุ้น MC  แม็คกรุ๊ป เนินธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกาย ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัท อันได้แก่ Mc, Mc Lady, Bison เป็นต้น

#เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาสสุดท้ายของปีบัญชี 2567 (เม.ย. - มิ.ย. 2567) ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจาก 3 ไตรมาสแรกของปีที่ แม็คกรุ๊ปฯ มีกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าผลดำเนินงานปีบัญชี 2567 จะเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ

9.หุ้น KKP 

หุ้น KKP ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร

#คาดการณ์ว่าสินเชื่อจะเติบโตดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อภาครัฐที่สูงขึ้น และการเติบโตของ GDP ที่คาดการณ์

10.หุ้น INTUCH 

หุ้น INTUCH เป็นบริษัท holding company ที่ถือหุ้นในธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคมเป็นหลัก โดยถือหุ้นบริษัท ADVANC ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์มือถืออยู่ 40.45%

#มุมมองเชิงบวกต่อหุ้น INTUCH หลังจาก ผู้บริหาร GULF ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของ INTUCH สิ่งนี้ทำลายโอกาสที่ส่วนลดของบริษัทโฮลดิ้งของ INTUCH จะแคบลงอีก บล.กสิกรไทยคาดว่าส่วนลดของบริษัทโฮลดิ้งของ INTUCH จะกลับมาอยู่ที่ 15%+/ - ในไม่ช้าก็เร็ว แนะนำ "ซื้อ" จากความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่แข็งแกร่งขึ้นจาก

11.หุ้น KBANK 

หุ้น KBANK ธนาคารกสิกรไทย จำกัด

#ธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคน้อยกว่าและยังมีงบดุลแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม กลุ่มธนาคารจะมี upside risk หากการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น, การส่งออกเติบโตดีขึ้นและรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่

12.หุ้น PTTEP 

หุ้น PTTEP กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

#มีมุมมองเชิงบวกต่อราคาน้ำมันดิบ จากแรงหนุนด้าน Demand และปัญหา Geopolitics แม้การประชุมโอเปกล่าสุดจะมีมติทยอยปรับเพิ่มกำลังผลิตในช่วงไตรมาส 4/67 แต่ Demand ที่แข็งแกร่งตามฤดูกาล ทำให้ฝ่ายมองว่าตลาดน้ำมันดิบจะเข้าสู่ภาวะสมดุล

ตาราคาดการณ์การจ่ายหุ้นปันผลปี 2567

ข้อดีการลงทุนในหุ้นปันผลสูง

👍 ได้รับเงินปันผลสม่ำเสมอ: นักลงทุนจะได้รับเงินปันผลเป็นเงินสดจากบริษัทเป็นประจำ

👍 สร้างรายได้เสริม: เงินปันผลสามารถช่วยสร้างรายได้เสริมนอกเหนือจากเงินเดือน

👍 โอกาสในการเติบโตของมูลค่าหุ้น: มูลค่าหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดีและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ มักจะมีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะยาว

ข้อเสียการลงทุนในหุ้นปันผลสูง

👎 ความเสี่ยง: ราคาหุ้นอาจผันผวน นักลงทุนอาจสูญเสียเงินทุนหากราคาหุ้นลดลง

👎 เงินปันผลไม่แน่นอน: บริษัทอาจตัดสินใจไม่จ่ายปันผล หรือจ่ายปันผลน้อยลง ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท

👎 ภาษี: นักลงทุนต้องเสียภาษีเงินได้จากเงินปันผล 

1. วิเคราะห์การเงินของบริษัท ตรวจสอบงบการเงิน: ศึกษางบการเงินของบริษัทเพื่อดูถึงสถานะการเงิน ความสามารถในการทำกำไร และความสามารถในการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ อัตราส่วนการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio)

   
   

2. ประวัติการจ่ายเงินปันผล ดูความสม่ำเสมอในการจ่ายเงินปันผล เลือกบริษัทที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมักจะเป็นบริษัทที่มีเสถียรภาพทางการเงินสูง

   
   

3. อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล: เป็นอัตราส่วนที่บอกถึงผลตอบแทนที่คุณจะได้รับจากเงินปันผลเทียบกับราคาหุ้น ควรเลือกหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยจากการฝากเงิน

   
   

4. เลือกบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรม ที่มีเสถียรภาพและความต้องการของสินค้าและบริการไม่ลดลงอย่างมากในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน

   
   

5. เลือกบริษัทที่มีหนี้สินไม่สูงเกินไป เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้และยังคงสามารถจ่ายเงินปันผลได้

   
   

6. ศึกษาการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้ดีและมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต

1.ระบุเป้าหมาย โดยกำหนดว่าคุณต้องการรายได้จากเงินปันผลเท่าใดต่อปี และระยะเวลาที่ต้องการลงทุน และพิจารณาว่าคุณยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใดในการลงทุนในหุ้นปันผล

2. สร้างบัญชีซื้อขายหุ้น เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขายหุ้น และเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น กรอกข้อมูลและเอกสารที่จำเป็นในการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับโบรกเกอร์ที่คุณเลือก

3. ซื้อหุ้นปันผลสูงที่สนใจ หลังจากได้วิเคราะห์และคัดเลือกตามที่แนะนำ ระบุจำนวนหุ้นที่ต้องการซื้อและราคาที่คุณต้องการซื้อในระบบของโบรกเกอร์ ตรวจสอบว่าคำสั่งซื้อของคุณได้รับการดำเนินการตามที่ต้องการหรือไม่

4.ติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทและรายงานทางการเงินเพื่อตรวจสอบว่าบริษัทยังคงมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลสูง ปรับปรุงพอร์ตการลงทุนของคุณตามความเปลี่ยนแปลงในตลาดและผลการดำเนินงานของบริษัท

5.รับเงินปันผล ติดตามวันประกาศจ่ายเงินปันผลและตรวจสอบว่าคุณได้รับเงินปันผลเข้าบัญชีหรือไม่ พิจารณาการลงทุนเงินปันผลที่ได้รับกลับเข้าสู่ตลาดเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม

แน่นอนว่านักลงทุนสามารถเข้าลงทุนในหุ้นปันผลสูงในตลาดหุ้นอเมริกาได้ โดยมีช่องทางที่หลายที่ให้บริการ เพื่อให้เหมาะกับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ต้องการ โดยแบ่งตามความเสี่ยงและผลตอบแทนดังนี้

ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนปานกลาง

• ลักษณะ: หุ้นในกลุ่มนี้มักเป็นบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจที่มั่นคง มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ และมีความผันผวนของราคาหุ้นที่ต่ำ

• ตัวอย่าง: บริษัทในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, ธนาคารที่มีความมั่นคง, บริษัทโทรคมนาคม

• ผลตอบแทน: อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 3-5%

• ความเสี่ยง: ความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มักมีรายได้และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ

ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง

• ลักษณะ: หุ้นในกลุ่มนี้มักเป็นบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงมาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งอาจเกิดจากการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนสูงหรือมีความไม่แน่นอนทางการเงิน

• ตัวอย่าง: บริษัทขุดเจาะน้ำมัน, บริษัทพลังงานแสงอาทิตย์

• ผลตอบแทน: อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลมากกว่า 7%

• ความเสี่ยง: ความเสี่ยงสูง เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลอาจไม่ยั่งยืนและราคาหุ้นอาจผันผวนอย่างรุนแรง

- AT&T (T) : บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของอเมริกา จ่ายเงินปันผลปีละ 1.92 ดอลลาร์ต่อหุ้น อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.82%

- Verizon Communications (VZ) : บริษัทโทรคมนาคมอีกแห่งหนึ่งของอเมริกา จ่ายเงินปันผลปีละ 2.66 ดอลลาร์ต่อหุ้น อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.08%

- Pfizer Inc. (PFE) : บริษัทยาชั้นนำของโลก จ่ายเงินปันผลปีละ 1.64 ดอลลาร์ต่อหุ้น อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.82%

- Altria Group Inc. (MO) : บริษัทผลิตบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบ จ่ายเงินปันผลปีละ 2.92 ดอลลาร์ต่อหุ้นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 8.16%

1.ลงทุนผ่านโบรกเกอร์ โบรกเกอร์หลายแห่งมีบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีซื้อขาย และโอนเงินเพื่อลงทุนในหุ้นอเมริกาได้ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบค่าธรรมเนียม และบริการของโบรกเกอร์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจเลือก

2.ลงทุนผ่านกองทุนรวม มีกองทุนรวมหลายประเภท ที่ลงทุนในหุ้นอเมริกา นักลงทุนสามารถเลือกลงทุน

ได้ตามความเสี่ยง และผลตอบแทนที่ต้องการ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบผลการดำเนินงาน ค่าธรรมเนียม และนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน

3.ลงทุนผ่าน ETF หรือ (Exchange Traded Fund) เป็นกองทุนรวมที่ซื้อขายเหมือนหุ้น

มี ETF หลายตัวที่ติดตามดัชนีหุ้นอเมริกา เช่น ดัชนี S&P 500

4.ลงทุนในรูปแบบของ CFD( Contract For Difference) หรือสัญญาส่วนต่าง ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนที่ยอดนิยมในปัจจุบัน ด้วยข้อดีดังต่อไปนี้ ที่ Mitrade นักลงทุน

👉 สามารถลงทุนได้ทั้งสองฝั่ง ขาขึ้น(Buy) และ ขาลง(Sell) ตามสถานการณ์ของบริษัทหรือหุ้นนั้นๆ เพื่อสามารถทำกำไรจากส่วนต่างของราคาเมื่อเทรดถูกตำแหน่ง

👉 ใช้เงินลงทุนน้อยลง เพราะมีเลเวอเรจหรืออัตราทดจากโบรกเกอร์ ช่วยให้ทำกำไรได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้เงินถึง 40 USD ต่อหุ้น สำหรับซื้อหุ้น VERIZON ใช้เพียง 11 USD ได้ถึง 3 หุ้น 

👉 สามารถได้รับสิทธิในการปันผลหุ้นเช่นเดียวกัน ยกเว้นแต่สิทธิการออกเสียง เพราะไม่ได้กรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของหุ้น

   

💸 ห้ามพลาด!!! 💸    

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁    

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑    

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้    

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

การลงทุนในหุ้นปันผลสูงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้เพิ่มเติมและต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า ยังเป็นวิธีที่มั่นคงและปลอดภัยในการลงทุนในตลาดหุ้น ศึกษาข้อมูลและเลือกหุ้นที่เหมาะสม เมื่อเข้าใจและดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้น คุณจะสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนที่มั่นคงและสร้างรายได้สม่ำเสมอได้ในระยะยาว