กลุ่มอุตสาหกรรมคืออะไร? มีอะไรบ้าง

8 นาที
อัพเดทครั้งล่าสุด 31 พ.ค. 2567 03:08 น.
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

ในโลกที่เศรษฐกิจและธุรกิจมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเข้าใจถึงโครงสร้างและลักษณะของอุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ กลุ่มอุตสาหกรรม (Industry and Sector) 


เข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค และรู้จักกับการแข่งขันในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการวางแผนธุรกิจและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์สำหรับนักลงทุน รวมถึงช่วยในการประเมินศักยภาพและความเสี่ยงในการลงทุนนั่นเอง 


กลุ่มอุตสาหกรรมคืออะไร

กลุ่มอุตสาหกรรม (Industry Group) เป็นแนวคิดที่ใช้ในการจำแนกบริษัทหรือองค์กรตามประเภทของกิจกรรมทางธุรกิจที่พวกเขาดำเนินการ ซึ่งช่วยให้การวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีระบบระเบียบมากขึ้น การแบ่งกลุ่มนี้มักทำโดยการพิจารณาประเภทของสินค้าและบริการที่บริษัทเหล่านั้นผลิตหรือจำหน่าย กระบวนการผลิตที่ใช้ รวมถึงตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน


การแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมมีประโยชน์สำหรับนักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้ที่สนใจในตลาดการเงิน เพราะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของอุตสาหกรรมต่างๆ เปรียบเทียบผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มเดียวกัน และติดตามแนวโน้มของตลาดได้


กลุ่มอุตสาหกรรมมีอะไรบ้าง

จำนวนประเภทของกลุ่มอุตสาหกรรมสำหรับหุ้นต่างประเทศนั้น ขึ้นอยู่กับระบบการจัดหมวดหมู่ที่ใช้ โดยทั่วไปแล้ว ระบบที่นิยมใช้มีสองระบบหลัก ดังนี้


  • ระบบ GICS (Global Industry Classification Standard)  เป็นระบบมาตรฐานสากลที่พัฒนาโดย S&P Global แบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมออกเป็น 11 กลุ่มใหญ่ ดังนี้


1.พลังงาน Energy Sector : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ผลิต จัดจำหน่าย และจำหน่ายพลังงาน เช่น บริษัทน้ำมัน บริษัทก๊าซธรรมชาติ บริษัทไฟฟ้า และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างหุ้นเช่น XOM - Exxon Mobil Corp  , CVX - Chevron Corp  , SNP - China Petroleum & Chemical Corp  , ENB – Enbridge


2.วัสดุ Materials Sector : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ผลิต จัดจำหน่าย และจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง วัตถุดิบทางโลหะ และวัตถุดิบอื่นๆ ตัวอย่างหุ้นเช่น Nucor Corporation (NUE):บริษัทผลิตเหล็กยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา , United States Steel Corporation (X):บริษัทผลิตเหล็กยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา , Freeport-McMoRan Inc. (FCX):บริษัทผลิตทองคำ ทองแดง และโมลิบดีนัมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา


3.การก่อสร้าง Construction : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่รับเหมา ก่อสร้าง และซ่อมแซมอาคาร โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ตัวอย่างหุ้นเช่น  1.Vinci SA (VINCI):บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส 2. ACS, Actividades de Construccion y Servicios SA (ACS):บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่จากสเปน 3. Bouygues SA (BOUY):บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส


4.สินค้าอุปโภคบริโภค Consumer Discretionary : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ยา ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนตัว และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ 


  •    Procter & Gamble Company (PG):บริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของแบรนด์ดังมากมาย เช่น Gillette, Pampers, Tide, Ariel, Downy, Oral-B และ Febreze

  •    Nestle SA (NESN):บริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าของแบรนด์ดังมากมาย เช่น Nescafe, Maggi, Kit Kat, Milo, Cheerios และ Nesquik

  •    Coca-Cola Company (KO):บริษัทผลิตน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา


5.บริการด้านสุขภาพ Health Care : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ให้บริการด้านสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล คลินิก บริษัทประกันสุขภาพ และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


  •   Johnson & Johnson (JNJ):บริษัทผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของแบรนด์ดังมากมาย เช่น Tylenol, Motrin, Band-Aid, Neutrogena และ Listerine

  •   Pfizer Inc. (PFE):บริษัทผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของแบรนด์ดังมากมาย เช่น Lipitor, Viagra, Advil, Prevnar และ Comirnaty (วัคซีน COVID-19)


6.บริการด้านการเงิน Financials : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน เช่น ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันภัย และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


  •   JPMorgan Chase & Co. (JPM):ธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา

  •   Bank of America Corporation (BAC):ธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา

  •   Wells Fargo & Company (WFC):ธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา


7.เทคโนโลยีสารสนเทศ Information Technology : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่พัฒนา ผลิต จำหน่าย และให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ


  •    Apple Inc. (AAPL):บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ยอดนิยมมากมาย เช่น iPhone, iPad, Mac, iOS, macOS และ iTunes

  •    Microsoft Corporation (MSFT):บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการ Windows ชุดโปรแกรม Microsoft Office และบริการคลาวด์ Azure


8.การสื่อสาร Communications Services : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ให้บริการสื่อสาร เช่น บริษัทโทรคมนาคม บริษัทเคเบิลทีวี และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


  •    AT&T Inc. (T):บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ให้บริการโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และโทรทัศน์

  •    Verizon Communications Inc. (VZ):บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ให้บริการโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และโทรทัศน์


9.บริการด้านสาธารณูปโภค Utilities : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ให้บริการสาธารณูปโภค เช่น บริษัทน้ำประปา บริษัทไฟฟ้า บริษัทก๊าซ และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


  •    Duke Energy Corporation (DUK):บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ให้บริการไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ และน้ำประปา

  •    Southern Company (SO):บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ให้บริการไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ และน้ำประปา


10.สินค้าทุนอุตสาหกรรม Industrials Sector : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าทุนอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต


  •   Caterpillar Inc. (CAT):บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลหนักยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของแบรนด์ Caterpillar Komatsu และ EMD

  •   Deere & Company (DE):บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของแบรนด์ John Deere


11.บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ Real Estate : กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่พัฒนา บริหารจัดการ และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์


  •   Prologis, Inc. (PLG): บริษัทพัฒนาและบริหารคลังสินค้ายักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา

  •   American Tower Corporation (AMT): บริษัทเจ้าของเสาโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา


ระบบ GICS เป็นระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดหุ้นหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นในประเทศไทย 


  • ระบบ MSCI (Morgan Stanley Capital International) เป็นระบบการจัดหมวดหมู่ที่พัฒนาโดย MSCI Inc. แบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมออกเป็น 11 กลุ่มใหญ่ คล้ายกับระบบ GICS แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันบ้าง ระบบ MSCI นิยมใช้ในตลาดหุ้นบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชียแปซิฟิก จำนวนประเภทของกลุ่มอุตสาหกรรมสำหรับหุ้นต่างประเทศนั้น ขึ้นอยู่กับระบบการจัดหมวดหมู่ที่ใช้ แต่โดยทั่วไปแล้ว จะมีจำนวนประมาณ 10-11 กลุ่มใหญ่ 


เหตุผลที่นักลงทุนควรศึกษาเรื่องกลุ่มอุตสาหกรรม

นักลงทุนควรศึกษาเรื่องกลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหุ้นด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้:


-นักลงทุนเข้าใจภาพรวมของตลาดหุ้น ว่ามีกลุ่มอุตสาหกรรมใดบ้าง แต่ละกลุ่มมีขนาดใหญ่แค่ไหน มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใดบ้าง ข้อมูลเหล่านี้ ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจบริบทของตลาด และสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูล


-นักลงทุนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้น ประกอบด้วยปัจจัยภายในบริษัท เช่น กลยุทธ์ธุรกิจ โครงสร้างการเงิน และปัจจัยภายนอกบริษัท เช่น สภาพเศรษฐกิจ กฎระเบียบ และเทคโนโลยี ช่วยเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ และสามารถวิเคราะห์ว่าบริษัทมีโอกาสเติบโตหรือไม่


-นักลงทุนเปรียบเทียบผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญ เช่น รายได้ กำไร อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ข้อมูลเหล่านี้ ช่วยตัดสินใจได้ว่าบริษัทไหนน่าลงทุนมากกว่ากัน


-นักลงทุนหาโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ นักลงทุนสามารถมองหาบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต มีการบริหารจัดการที่ดี และมีราคาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง


-นักลงทุนลดความเสี่ยงในการลงทุน กระจายการลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยเฉพาะกลุ่ม เช่น หากนักลงทุนลงทุนในบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานเพียงกลุ่มเดียว และราคาน้ำมันดิบลดลง นักลงทุนจะสูญเสียเงินลงทุน


ลงทุนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ด้วยวิธีการใดบ้าง

มีหลายวิธีการที่นักลงทุนสามารถลงทุนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนี้:


ลงทุนโดยตรงในหุ้นของบริษัท: นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนใจ การลงทุนในหุ้น ช่วยให้นักลงทุนเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท และมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล และผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น

รูปภาพแสดงการซื้อหุ้นของบริษัท NKE (ไนกี้) โดยตรงผ่านทางโบรกเกอร์หุ้นที่ให้บริการ

ที่มา: innovestX

1.ลงทุนผ่านกองทุนรวม


กองทุนรวมเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนในหลายๆ หุ้น กองทุนรวมมีหลายประเภท กองทุนรวมบางประเภทลงทุนในหุ้นของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ นักลงทุนสามารถเลือกกองทุนรวมที่เหมาะกับความเสี่ยง และเป้าหมายการลงทุน


2.ลงทุนผ่าน ETF (Exchange Traded Fund)

ETF เป็นกองทุนรวมที่ซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ คล้ายกับหุ้น ETF บางตัวติดตามดัชนีหุ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ นักลงทุนสามารถซื้อ ETF เพื่อลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนใจ


● ซื้อ-ขายได้ Real-time ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ สามารถเลือกราคาซื้อและขายได้

● ค่าใช้จ่ายต่ำ มีค่าธรรมเนียมเท่ากับการซื้อขายหุ้น ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ากองทุนส่วนใหญ่


3.ลงทุนผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures)

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นสัญญาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่าจะซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ในอนาคต นักลงทุนสามารถใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเก็งกำไร หรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนใจ


4.ลงทุนผ่านรูปแบบของสัญญาล่วงหน้าหรือ CFD (Contract for Difference) 

เป็นวิธีการลงทุนที่นิยมกันมากในตลาดการเงิน เนื่องจาก CFD ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริง ๆ มาดูกันว่าการลงทุนใน CFD มีข้อดีดังนี้


🔸 ใช้เลเวอเรจหรืออัตราทด ซึ่ง CFD ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินทุนที่น้อยกว่าเงินทุนที่ต้องใช้ในการซื้อหุ้นโดยตรง 

🔸 ผู้ลงทุนสามารถเปิดสถานะซื้อ(BUY)หรือขาย(SELL) ตามที่คาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง ไม่จำกัดเฉพาะด้านขาขึ้นแบบสินทรัพย์อื่นๆ

🔸 นักลงทุนสามารถเข้าถึงหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลกได้อย่างง่ายดายผ่านแพลตฟอร์ม CFD สามารถใช้เพียงบัญชีเทรดเดียวสลับไปเทรดสินค้าอื่นๆอย่างสะดวก


mitrade
🎉ห้ามพลาด!!!
ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจในปี 2024-2025

จากข้อมูลและการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจในปี 2024-2025 มีดังนี้:


1. กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ: 

กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่พัฒนา ผลิต จำหน่าย และให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ คลาวด์คอมพิวติ้ง และไซเบอร์ซีเคียวริตี้ กลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ


- Apple (AAPL):บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา

- Microsoft (MSFT):บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา

- Amazon (AMZN):บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา


ราคา AMZN แบบเรียลไทม์


2. กลุ่มพลังงาน(พลังสะอาดและพลังงานทางเลือก): 

กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ผลิต จัดจำหน่าย และจำหน่ายพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ กลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม และความต้องการพลังงานที่ยั่งยืน


- NextEra Energy (NEE):บริษัทพลังงานสะอาดยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา

- Enphase Energy (ENPH):บริษัทผลิตแผงโซลาร์เซลล์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา

- Vestas Wind Systems (VWS):บริษัทผลิตกังหันลมยักษ์ใหญ่จากเดนมาร์ก


3. กลุ่มบริการด้านสุขภาพ: 

กลุ่มนี้รวมถึงบริษัทที่ให้บริการด้านสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล คลินิก บริษัทประกันสุขภาพ และบริษัทผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์ กลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตปานกลาง เนื่องจากจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น และความต้องการบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ


- Johnson & Johnson (JNJ):บริษัทผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา

- Pfizer (PFE):บริษัทผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริก

- UnitedHealth Group (UNH):บริษัทประกันสุขภาพยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา


สรุป

การลงทุนในหุ้นต่างประเทศนั้น เปรียบเสมือนการผจญภัยในดินแดนที่เต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยง เข็มทิศสำคัญที่จะนำพาให้นักลงทุนไปสู่จุดหมายแห่งความสำเร็จ นั่นคือ "กลุ่มอุตสาหกรรม" เปรียบเสมือนแผนที่ ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจภาพรวมของตลาด วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เปรียบเทียบผลประกอบการ และหาโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อย
ทำไมนักลงทุนจึงศึกษาเรื่องกลุ่มอุตสาหกรรม
เข้าใจภาพรวมของตลาด ว่ามีกลุ่มอุตสาหกรรมใดบ้าง แต่ละกลุ่มมีขนาดใหญ่แค่ไหน มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใดบ้าง ข้อมูลเหล่านี้ ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจบริบทของตลาด และสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูล นักลงทุนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้น ประกอบด้วยปัจจัยภายในบริษัท เช่น กลยุทธ์ธุรกิจ โครงสร้างการเงิน และปัจจัยภายนอกบริษัท เช่น สภาพเศรษฐกิจ กฎระเบียบ และเทคโนโลยี นักลงทุนเปรียบเทียบผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญ เช่น รายได้ กำไร อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ว่าบริษัทไหนน่าลงทุนมากกว่ากัน นักลงทุนหาโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ นักลงทุนสามารถมองหาบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต มีการบริหารจัดการที่ดี และมีราคาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
ข้อจำกัดของกลุ่มอุตสาหกรรมมีอะไรบ้าง ที่ต้องระวังในการวิเคราะห์
- ผลประกอบการของบริษัทในอดีต อาจไม่สามารถบ่งบอกถึงผลประกอบการในอนาคตได้ เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น เทคโนโลยีใหม่ กฎระเบียบใหม่ และสภาพเศรษฐกิจ อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทได้ - ข้อมูลเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรม อาจไม่สะท้อนถึงความแตกต่างของบริษัทแต่ละแห่งในกลุ่ม เช่น บริษัทบางแห่งอาจมีผลประกอบการดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ในขณะที่บริษัทบางแห่งอาจมีผลประกอบการแย่กว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม - การวิเคราะห์กลุ่มอุตสาหกรรม อาจมองข้ามปัจจัยเฉพาะบริษัท เช่น กลยุทธ์ธุรกิจ โครงสร้างการเงิน และการบริหารจัดการ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทได้อย่างมาก -ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์กลุ่มอุตสาหกรรม อาจไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการวิเคราะห์

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
วิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดในปี 2024‘อยากเล่นหุ้นต้องทํายังไง’ ‘เริ่มเล่นหุ้นแบบไม่รู้อะไรเลย ต้องทำยังไง’ คำถามแบบนี้เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการเข้าสู่โลกการลงทุน ซึ่งวันนี้เราจะมีวิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดมาฝากกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
‘อยากเล่นหุ้นต้องทํายังไง’ ‘เริ่มเล่นหุ้นแบบไม่รู้อะไรเลย ต้องทำยังไง’ คำถามแบบนี้เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการเข้าสู่โลกการลงทุน ซึ่งวันนี้เราจะมีวิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดมาฝากกัน
placeholder
เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี? 6 โบรกเกอร์หุ้นที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2024ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 6 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
ผู้เขียน  MitradeInsights
ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 6 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
placeholder
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
placeholder
ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?ก่อนเทรดหุ้นต้องรู้การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ผู้เขียน  MitradeInsights
การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
placeholder
DCA คือ อะไร? เปิดบัญชีออมหุ้น DCA ที่ไหนดี 2024สร้างรายได้ทางอ้อมด้วยการลงทุนออมสม่ำเสมอ ทยอยลงทุนเรื่อย ๆ แบบ DCAหรือ Dollar-Cost- Averaging ถัวเฉลี่ยต้นทุนยังไงให้ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการลงทุนที่ง่าย เงินลงทุนตั้งต้นไม่มาก ไม่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก
ผู้เขียน  MitradeInsights
สร้างรายได้ทางอ้อมด้วยการลงทุนออมสม่ำเสมอ ทยอยลงทุนเรื่อย ๆ แบบ DCAหรือ Dollar-Cost- Averaging ถัวเฉลี่ยต้นทุนยังไงให้ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการลงทุนที่ง่าย เงินลงทุนตั้งต้นไม่มาก ไม่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์