หุ้น BYD น่าซื้อไหมและวิธีการซื้อเป็นยังไง

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

งานวิจัยของ Counterpoint พบว่า ยอดขายรถ EV ของจีนในปี 2565 เติบโตสูงกว่า 87% YoY ถือเป็นตลาด EV ที่เติบโตสูงที่สุดในโลกท่ามกลางการสงครามราคาและแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมจากผู้ผลิตกว่า 94 รายและแบบรถยนต์กว่า 300 รุ่น BYD เป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่มียอดขายในปี 2565 กว่า 1.8 ล้านคัน ทำให้หุ้น BYD ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในธุรกิจที่กำลังเติบโตสูงนี้ แต่ในปี 2565 นี้หุ้น BYD จะยังน่าซื้อหรือไม่ มีอะไรที่เราควรรู้เกี่ยวกับหุ้นตัวนี้บ้าง เราลองมาดูกัน

หุ้น BYD คือหุ้นอะไร ทำความรู้จักกับ BYD

รถยนต์ BYD


BYD Co., Ltd. เป็นบริษัทผลิตยานยนต์สัญชาติจีนที่ก่อตั้งเมื่อปี 2538 โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่สามารถนำกลับมาชาร์จใหม่ได้ และเข้าเทรดในตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อปี 2545 ด้วยรหัสหุ้น 01211 จากนั้นบริษัทเริ่มเบนเข็มเข้าสู่การผลิตรถยนต์อีวีในปีถัดมา ปัจจุบัน BYD มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซีอาน ประเทศจีน มีโรงงานผลิตยานยนต์ รถบัส รถบรรทุก มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถยก แบตเตอรี่รถยนต์ และปัจจุบันยังประกอบโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEVs (battery electric vehicles) และ PHEVs (plug-in hybrid electric vehicles)  


ในปี 2565 BYD เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าแรกในจีนที่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่า 1 ล้านคันและในวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมาบริษัทก็เพิ่งฉลองยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วครบ 5 ล้านคัน คาดการณ์ว่าภายในครึ่งปีหลังของปี 2566 BYD จะกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประเภท PIEV ที่ใหญ่ที่สุด และใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก Tesla สำหรับการผลิตรถไฟฟ้าประเภท BEV ด้วยส่วนแบ่ง 21.4% และ 15% ของตลาดโลกตามลำดับ 


นอกจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BYD ยังมีหน่วยผลิตแบตเตอรี่ที่ชื่อว่า FinDreams Battery ซึ่งนับเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกด้วยส่วนแบ่ง 12% ในตลาดโลกนับจากครึ่งปีแรกของปี 2565 FinDreams Battery โดยเน้นไปที่การผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ถัดมาในปี 2566 FinDreams ได้ตั้งบริษัทร่วมกับ Huaihai Holding Group ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ จักรยานสามล้อและสกูตเตอร์เพื่อผลักดันการเป็นผู้จัดหาแบตเตอรี่โซเดียมไอออนระดับโลก


ปัจจุบันมี BYD มีมูลค่าตามราคาตลาดที่ $96.85 ล้าน ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในหมวดผู้ผลิตยานยนต์ของโลกรองจาก Tesla Toyota และ Porsche

โครงสร้างธุรกิจหุ้น BYD และปัจจัยที่มีผลต่อราคาหุ้น

BYD DEDIGN


ปัจจุบันหุ้น BYD ยังผลิตทั้งรถยนต์ที่ใช้น้ำมันควบคู่ไปกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ต่อยอดมาจากธุริกจผลิตแบตเตอรี่ดั้งเดิมของตัวเองด้วยพันธกิจที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้เป็น 0 บริษัทเน้นการวิจัยและพัฒนาจากสถาบันวิจัยที่จัดตั้งขึ้นเอง เพื่อสนับสนุนการผลิตสินค้าหลักของบริษัท ได้แก่


1. รถยนต์ BYD 

ใช้เทคโนโลยีหลากหลายในการผลิตรถรองรับทั้ง BEVs (battery electric vehicles) และ PHEVs (plug-in hybrid electric vehicles) ขณะที่ Tesla รองรับเฉพาะรถ BEVs ซึ่งให้ทางเลือกกับผู้บริโภคได้มากกว่า นอกจากนี้ยังมีรุ่นรถยนต์ที่หลากหลายกว่า 30 รุ่น ตั้งแต่ SUV ซีดาน รถยนต์ไฮบริด ไปจนถึงรถยนต์ขนาดเล็ก นอกจากนี้ BYD ยังผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับกลุ่มแท็กซี่สำหรับการสนับสนุนการใช้งานทั้งในประเทศจีนเองและการส่งออกไปต่างประเทศด้วย


2. รถบัสไฟฟ้า 

ไม่ใช่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตสูงในปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มที่จะเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งในปี 2554 BYD ได้ส่งมอบรถบัสไฟฟ้าไปทั่วโลกแล้วกว่า 70,000 คัน และยังเปิดโรงงานผลิตรถบัสไฟฟ้าเพิ่มในฮังการีเพื่อป้อนตลาดในยุโรป


3. รถบรรทุกไฟฟ้า 

เป็นประเภทรถที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเนื่องจากรถบรรทุกไฟฟ้าใช้ค่าดูแลรักษาต่ำกว่ารถบรรทุกที่ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการปล่อยมลพิษน้อยกว่า ซึ่ง BYD ให้บริการรถบรรทุกไฟฟ้าแล้วกว่า 10,000 คันทั่วโลก ตั้งแต่สวีเดนไปจนถึงสหรัฐอเมริกา และตลาดกลุ่มนี้ก็กำลังเติบโตอย่างน่าสนใจเช่นกัน


4. แบตเตอรี่ 

พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีเฉพาะเป็นแบตเตอรี่แบบบาง (Blade Battery) ที่มีความปลอดภัยสูง แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนานากว่า 372 ไมล์สำหรับการชาร์จหนึ่งครั้งและกำลังพัฒนาให้เพิ่มขึ้นเป็น 434-497 ไมล์ในอนาคต 


5. เซมิคอนดักเตอร์ 

BYD มีความได้เปรียบจากค่ายรถไฟฟ้าเจ้าอื่นจากการที่ตัวเองสามารถผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะชิป หรือ เซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นปัญหาสำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยีในจีนที่อาจถูกจำกัดการเข้าถึงโดยสหรัฐและชาติพันธมิตร ทำให้ BYD ไม่มีความเสี่ยงของการขาดแคลนชิปเหมือนบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ และยังมีแผนที่จะนำธุรกิจนี้เข้า IPO เพื่อระดมทุนต่อในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้กว่า $424 ล้าน


ในปี 2554 BYD มีรายได้มาจาก 3 ช่องทาง คือ 

  • รถยนต์และอะไหล่ คิดเป็นสัดส่วน 53.6% ของรายได้ทั้งหมดที่ทำได้ในปีนั้น

  • รายได้จากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็นสัดส่วน 38.8% ของรายได้ทั้งหมด

  • รายได้จากธุรกิจแบตเตอรี่ คิดเป็นสัดส่วน 7.6% ของรายได้ทั้งหมด


จากโครงสร้างรายได้ของบริษัททำให้มีปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาหุ้น BYD ที่นักลงทุนควรจับตามองดังนี้


  1. แผนพัฒนาประเทศของจีนที่กลับมาให้ความสำคัญกับเชื้อเพลิงสะอาดและลดการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากต่างประเทศ 

    ทำให้ผู้ซื้อรถในจีนเริ่มหันมาใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ในปี 2565 จีนมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแล้วกว่า 6.09 ล้านคัน และจะเติบโตเป็น 8.77 ล้านคันหรือคิดเป็นการเติบโต 44% ในอีก 5 ปี 


  2. การแข่งขันที่เริ่มดุเดือดขึ้นของผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 

    ไม่ว่าจะเป็น Tesla ที่เพิ่งดำเนินการผลิตและส่งมอบรถไฟฟ้าจากโรงงานในจีนเป็นครั้งแรกในปีนี้ หรือคู่แข่งสัญชาติจีนเจ้าอื่น เช่น XPENG, Nio, Great Wall Motor ฯลฯ ซึ่งมีผลให้เกิดสงครามราคาและลดส่วนต่างของกำไร (Margin) ลง แต่ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์เจ้าอื่นยังไม่สามารถทำกำไรได้ BYD สามารถเริ่มทำกำไรซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2565 ที่ผ่านมาที่รายงานยอดขาย 479,772 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นกำไร 19,330 ล้าน นับเป็นการเติบโตถึง 426% จากปีก่อนหน้าที่ทำกำไรได้เพียง 3,670 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

วิเคราะห์หุ้น BYD หุ้น BYD น่าลงทุนไหมปี 2566

BYD ได้ชื่อว่าเป็นค่ายรถยนต์ที่มียอดขายมากที่สุดในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก แม้ว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาการแข่งขันด้านราคาของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะดุเดือดมากขึ้นจนบริษัทต้องปรับลดราคารถยนต์รุ่นใหม่ลง 4 – 15% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนกดดันให้ส่วนต่างผลกำไรของ BYD ลดลง 4.1% จากปีก่อนหน้าลงมาอยู่ที่ 18.7% แต่บริษัทยังมีความได้เปรียบและความน่าสนใจในการลงทุนสำหรับปี 2566 อยู่อีกหลายด้าน


1. คาดการณ์การเติบโตของยอดส่งมอบรถและรายได้ของปี 2566 จะเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมา เพียงครึ่งปีแรกของปี 2566 BYD รายงานผลกำไรออกมแล้วกว่า $1.49 พันล้าน คิดเป็นการเติบโตกว่า 205% จากปีก่อนหน้า และเพียงครึ่งปีแรกบริษัทก็ได้ส่งมอบรถแล้วกว่า 1.23 ล้านคัน คิดเป็นจำนวน 96% จากจำนวนที่ส่งมอบในปี 2565 ซึ่งหากบริษัทยังสามารถรักษาความสามารถนี้ต่อไปได้ถึงสิ้นปีก็คาดได้ว่าผลประกอบการของปี 2566 ของ BYD จะสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากกว่าปีที่แล้วได้ไม่ยาก


2. บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง BYD มีสภาพคล่องสูงด้วยกระแสเงินสดที่ $179.62 พันล้าน ขณะที่มีหนี้สินต่ำที่ 21.22% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่บริษัทยังสามารถควบคุมได้และไม่กระทบต่อความสามารถในการดำเนิกิจการ


3. บริษัทให้ผลตอบแทนต่อหุ้น (ROE) สูง ปัจจุบัน BYD ให้ผลตอบแทนต่อหุ้นสูงที่ 20.32% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าบริษัทใหญ่อย่าง Toyota ที่มี ROE เฉลี่ย 13.91% หรือ Volkswagen ที่รายงาน ROE ที่ 9.93%


4. ราคายังอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลด้วย PE 21.79 เท่า ซึ่งเป็นระดับปกติสำหรับการซื้อขายหุ้นสตาร์ทอัปซึ่งแสดงถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อการเติบโตของบริษัท ที่หากมีการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นจะสามารถกด PE ให้ต่ำลงได้ในอนาคต


ด้วยตัวเลขทางการเงินได้แสดงฐานะทางบัญชีที่แข็งแกร่ง บวกกับราคาและผลตอบแทนสมเหตุสมผล แม้การแข่งขันด้านราคาจะมีผลให้บริษัทต้องปรับลดส่วนแบ่งผลกำไรลง แต่ยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ผลตอบแทนของ BYD ในรอบสิ้นปีนี้ออกมาดีกว่าคาดและนับว่าเป็นหุ้นที่น่าลงทุนสำหรับปี 2566 นี้


 วิเคราะห์หุ้น BYD


ในทางเทคนิค หุ้น BYD (1211) เคยขึ้นไปทำราคาสูงสุดไว้ที่ 333.8 ดอลลาร์ฮ่องกงในช่วงกลางปี 2565 จากนั้นปรับตัวลงมาทำจุดต่ำสุดไว้ที่ 162 ดอลลาร์ฮ่องกงในช่วงต้นปี 2566 การปรับตัวลงในครั้งนี้ถูกกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่เริ่มปรับจาก 0.25% ในช่วงกลางปี 2565 ขึ้นมาเป็น 4.25% ในช่วงต้นปี 2566 บวกกับการเริ่มทะยอยขายหุ้น BYD จาก Berkshire Hathaway บริษัทลงทุนชั้นนำที่เคยถือหุ้น BYD กว่า 17% ของหุ้นทั้งหมดก็ได้เริ่มขายหุ้นออกมาตั้งแต่ปลายปี 2565 จนปัจจุบันได้ถือน้อยกว่า 10% แล้ว 


อย่างไรก็ดีหลังจากราคาหุ้นลงไปแตะ 162 ดอลลาร์ฮ่องกง และทำ Double Bottom พร้อมกับเกิดสัญญาณขายมากเกินไป (RSI Over Sold) ในกราฟระดับสัปดาห์ ราคาได้ปรับตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวในกรอบและทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์กลับขึ้นไปได้ ปัจจุบันราคา BYD ได้เคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นซึ่งแม้จะหลุดกรอบด้านบนและล่างบ้าง แต่ก็ยังรักษาโมเมนตัมไว้ได้ ซึ่งจุดที่เป็นกรอบล่างควรเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการเข้าซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว

วิธีลงทุนหุ้น BYD ที่ไทย

BYD เป็นหุ้นที่มีนักลงทุนไทยให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ทำให้เป็นหนึ่งในหุ้นต่างประเทศที่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลายให้นักลงทุนได้เลือกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการลงทุน


1. เทรดหุ้น BYD ผ่าน CFD

CFD คือ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract for difference) ที่เป็นสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงราคาหุ้น BYD ที่เทรดอยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งไม่ได้เป็นการซื้อขายหุ้นจริง ๆ แต่ช่วยให้นักลงทุนสามารถหาโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น BYD ได้ด้วยเงินลงทุนไม่มาก


ข้อดี

  • ใช้เงินลงทุนน้อย แต่เพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้จากการใช้อัตราทดที่ให้สูง ซึ่งอัตราทดนี้สามารถแตกต่างกันได้ในแต่ละโบรกเกอร์ที่ให้บริการ เช่น 2x/ 5x หรือ 10x

  • มีสภาพคล่องสูง ใช้ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ทำให้เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นเพื่อหาโอกาสทำกำไรในทุกสภาพตลาด

  • การเปิดบัญชีทำได้ง่าย ใช้เอกสารไม่มาก อนุมัติรวดเร็ว 


 ข้อเสีย

  • การเทรด CFD ไม่ได้ทำให้เป็นเจ้าของหุ้นจริง ๆ นักลงทุนที่ถือ CFD หุ้น BYD จะไม่ได้ปันผลหรือสิทธิในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น

  • มีความเสี่ยงสูง ที่สามารถสร้างผลกำไรได้สูงแต่ก็สามารถขาดทุนได้ทั้งหมด

  • มีต้นทุนจากอัตราดอกเบี้ยข้ามคืน (Swap) 


▲ ผู้ให้บริการ

Mitrade เป็นโบรกเกอร์ CFD ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC, CIMA และ FSC ให้บริการซื้อขาย CFD ในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรวมทั้งหุ้น BYD ด้วยขนาดขั้นต่ำในการเทรด 1 Lot ที่เท่ากับ 1 หุ้น และมีการใช้อัตราทดที่ 10 เท่า นั้นคือหากมีเงินลงทุน $100 เงินลงทุนนี้จะมีความสามารถสร้างกำไรได้เทียบเท่าเงินทุน $1,000 รองรับการใช้งานภาษาไทยทั้งบนเว็บเบราเซอร์และแอปพลิเคชั่น


ตัวอย่างเปิดคำสั่งซื้อหุ้น BYD กับโบรกเกอร์ Mitrade


mitrade

เทรดหุ้นที่ยอดนิยมทั่วโลก 350+ ตัว!!!


dago ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ
dago ระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบฟรี
dago โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์
dago เงินเสมือนจริงฟรี $50, 000 ดอลลาร์
ตราสารอนุพันธ์อาจจะทำให้คุณขาดทุนทั้งหมด โปรดอ่านพิจรนา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา นำเสนอ โดย Mitrade Holding Ltd.SIB License 1612446
ตราสารอนุพันธ์อาจจะทำให้คุณขาดทุนทั้งหมด โปรดอ่านพิจรนา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา นำเสนอ โดย Mitrade Holding Ltd.SIB License 1612446



2. ลงทุนหุ้น BYD ผ่านการเทรด DR ในตลาดหุ้นไทย

DR (Depositary Receipt) เป็นตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เปิดโอกาสให้นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยสามารถซื้อหุ้นต่างประเทศได้เหมือนกันซื้อหุ้นไทยทั่วไป ซึ่ง DR ของหุ้น BYD ที่เทรดอยู่ใช้ชื่อ BYDCOM80 ออกโดยธนาคารกรุงไทย ด้วยสัดส่วนหุ้น BYD 1 หุ้นจะเท่ากับ DR 1,000 หน่วย และ DR ที่ตราขึ้นนี้จะมีราคาเปลี่ยนแปลงไปตามราคาหุ้นที่เปลี่ยนไปจริง ๆ ร่วมกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทและดอลลาร์ฮ่องกง ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้น BYD ผ่านการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยได้โดยตรง


▲ ข้อดี

  • ซื้อขายได้ง่าย ไม่ต้องแลกเงิน ไม่ต้องเปิดบัญชีเพิ่ม ใช้บัญชีซื้อขายหุ้นส่งคำสั่งได้เหมือนการซื้อขายหุ้นปกติทุกประการ

  • ใช้เงินลงทุนไม่มาก เพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนขั้นต่ำที่ 1 หุ้น BYD จริง ๆ เพราะ DR เป็นการแตกหน่วยลงมาแล้ว

  • ทำให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของหุ้น มีสิทธิได้เงินปันผลจากการถือหุ้นตามสัดส่วนที่ถือ


 ข้อเสีย

  • สามารถทำกำไรได้เฉพาะในทิศทางราคาขาขึ้น

  • สภาพคล่องไม่สูง ทำให้ราคาอาจผิดเพี้ยนไปจากราคาที่ควรเป็นได้ง่ายเนื่องจากมีสภาพคล่องต่ำ

  • มีค่าธรรมเนียมซื้อขายสูง เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น คือ ราว 0.15 – 0.25% ของมูลค่าซื้อขาย และอาจมีขั้นต่ำในการซื้อขายสำหรับโบรกเกอร์บางแห่ง


▲ ผู้ให้บริการ

บริษัทหลักทรัพย์ทั่วไป โดยสามารถใช้บัญชีซื้อขายหุ้นไทยส่งคำสั่งซื้อขาย BYDCOM80 ในเวลาทำการเช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นไทยทุกประการ

สรุป

และทั้งหมดนี้ก็คือ BYD บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ที่มียอดขายมากที่สุดในประเทศจีน และเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ด้วยความครบทั้งการผลิตยานยนต์หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงรถบรรทุกและระบบราง ควบคู่ไปกับการเป็นเจ้าของโรงงานผลิตแบตเตอรี่และเซมิคอนดักเตอร์เป็นของตัวเอง ทำให้ BYD เป็นหุ้นที่น่าสนใจและมีความสามารถในการทำกำไรแม้ในช่วงที่มีความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐสูง และการเติบโตที่น่ามหัศจรรย์ในปี 2565 ที่คาดว่าจะสามารถทำได้ดีกว่าในปี 2566 ก็ทำให้นักลงทุนไม่น่าจะมีคำถามแล้วว่าหุ้น BYD น่าซื้อไหม แต่ควรเริ่มวางแผนการซื้อทั้งจังหวะและจำนวนเงิน เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสการเป็นเจ้าของหุ้นเติบโตที่น่าสนใจตัวนี้ไป

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
How to วิธีเทรดหุ้นแบบละเอียดสำหรับมือใหม่หัดเทรด 2024การเริ่มต้นเทรดหุ้นอาจดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ แต่ด้วยความเข้าใจพื้นฐานและการวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเทรดหุ้นแบบละเอียด พร้อมทั้งวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณเริ่มต้นการเล่นหุ้นได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในเส้นทางการลงทุน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 12 พ.ค. 2023
การเริ่มต้นเทรดหุ้นอาจดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ แต่ด้วยความเข้าใจพื้นฐานและการวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเทรดหุ้นแบบละเอียด พร้อมทั้งวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณเริ่มต้นการเล่นหุ้นได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในเส้นทางการลงทุน
placeholder
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 25 พ.ค. 2023
การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
placeholder
เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี? 8 โบรกเกอร์หุ้นที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2024ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 24 พ.ค. 2023
ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
placeholder
ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?ก่อนเทรดหุ้นต้องรู้การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
placeholder
แนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุน! หุ้นตัวไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2567ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 14 ก.ค. 2023
ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์