ซื้อหุ้นอเมซอนยังไง? สเต็ปการซื้อหุ้น Amazon แบบละเอียด

Amazon (AMZN) มีหน่วยธุรกิจหลายแห่ง ตอนนี้ธุรกิจของ Amazon ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและอัตรากำไรก็มีท่าทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วนักลงทุนไทยจะสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจของ Amazon ได้อย่างไร และจะซื้อหุ้นอเมซอนยังไง? วิธีหนึ่งที่ดีที่สุดก็คือซื้อหุ้นของ Amazon ซึ่งวันนี้ผู้เขียนจะแนะนำวิธีการซื้อ Amazon ให้กับเพื่อนนักลงทุนทุกท่านนะครับ

กราฟแสดงราคา AMZN วันนี้

เทรดหุ้น AMZN เดี๋ยวนี้ >   

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰

*โบนัสสำหรับบูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁 

Amazon เป็นบริษัทเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ก่อตั้งโดย Jeff Bezos ในปี 1994 เดิม Amazon เป็นแพลตฟอร์มสำหรับขายหนังสือออนไลน์ แล้วจึงขยายธุรกิจมาจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายขึ้น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน สตรีมมิ่งดิจิทัล คลาวด์คอมพิวติ้ง และอื่นๆ

ปัจจุบันธุรกิจหลักของ Amazon มีดังนี้

1.อีคอมเมิร์ซ: Amazon เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขายสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ และเสื้อผ้า

2.Amazon Prime: เป็นบริการเพื่อความบันเทิงในรูปแบบออนไลน์ เช่น ภาพยนตร์และซีรีส์ออนไลน์ผ่าน Prime Video บริการฟังเพลงผ่าน Prime Music ฯลฯ รวมถึงมีการผลิตเนื้อหาออริจินัลด้วย

3.Amazon Web Services (AWS): เป็นการให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยถือเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมนี้ โดยมีการให้บริการเซิร์ฟเวอร์ พื้นที่เก็บข้อมูล และโซลูชันคลาวด์อื่นๆ แก่ลูกค้าทั่วโลก

4.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: Amazon ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Kindle (อุปกรณ์อ่านอีบุ๊ค) Fire Tablet Fire TV และ Echo (ลำโพงอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี Alexa)

5.การค้าปลีกแบบดั้งเดิม: Amazon มีร้านค้าแบบดั้งเดิม เช่น Amazon Go (ร้านค้าที่ไม่ต้องผ่านเคาน์เตอร์คิดเงิน) และ Whole Foods Market (เครือซุปเปอร์มาร์เก็ต)

6.ธุรกิจอื่นๆ: Amazon ยังมีการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เช่น Amazon Fresh (บริการจัดส่งอาหารสด) Amazon Pantry (บริการจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภค) และ Amazon Logistics (บริการขนส่งและโลจิสติกส์)

Amazon มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีอิทธิพลมากในหลายด้านทั้งในแง่ของการค้าปลีก เทคโนโลยี และการให้บริการต่างๆ ทั่วโลก

จากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ของ Amazon ระบุไว้ว่า บริษัทมีรายได้ที่ 187.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปี 2023 โดยถ้าไม่นับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้จะเพิ่มขึ้นถึง 11%

• รายได้จากโซนอเมริกาเหนืออยู่ที่ 115.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10%

• รายได้จากโซนต่างประเทศอยู่ที่ 43.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% (หรือ 9% หากไม่นับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน)

• รายได้จาก AWS อยู่ที่ 28.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19%

นอกจากนี้ กำไรจากการดำเนินงานยังเพิ่มขึ้นเป็น 21.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 13.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 อีกด้วย โดยผลประกอบการทั้งปี 2024 มีรายได้สุทธิรวม 638.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11% จากปี 2023 กำไรสุทธิอยู่ที่ 59.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เทียบกับ 30.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ในปี 2023

ในรายงานประจำปีของ Amazon ระบุถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อผลประกอบการไว้ดังนี้

• การเติบโตของ AWS: ยังคงเป็นแหล่งรายได้และกำไรหลักของบริษัท Amazon โดยมีอัตราการเติบโต 19% และมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ด้าน AI มากมายไม่ว่าจะเป็น Trainium2 AI Chip, Amazon Nova, และ Amazon Bedrock เป็นต้น

• การขยายตลาดต่างประเทศ: Amazon มีรายได้จากต่างประเทศเติบโต 9% แม้จะมีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินก็ตาม

• การขยายบริการในอเมริกาเหนือ: Prime มีการจัดส่งสินค้ารวดเร็วขึ้น 65% ในสหรัฐฯ Black Friday และ Cyber Monday ทำให้ Amazon สร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์

• การลงทุนด้าน AI และ Cloud Computing: Amazon ลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI และคลาวด์ เพื่อรองรับการเติบโตระยะยาว

สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 Amazon คาดการณ์ว่ารายได้สุทธิจะอยู่ระหว่าง 151.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 155.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโต 5% ถึง 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2024 โดยกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 14.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 18.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 15.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2024

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 ที่ผ่านมากจนถึงปัจจุบันหุ้น Amazon ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 52.36% ที่ราคา $260.53) สนับสนุนด้วยการเติบโตของการใช้ AI และคลาวด์คอมพิวติ้งในการประมวลผล โดยนักวิเคราะห์ต่างมองว่าการเติบโตของเทคโนโลยีเหล่านี้จะยังสามารถผลักดันผละประกอบการและราคาหุ้น Amazon ให้เติบโตต่อไปได้ โดยที่นักวิเคราะห์ได้ให้มุมมองต่อราคาหุ้นอเมซอนไว้ดังนี้

โดยทั่วไปการลงทุนกับหุ้นอเมซอนทำได้ 2 รูปแบบ คือ การซื้อหุ้นโดยตรงที่จะทำให้นักลงทุนได้รับประโยชน์ในฐานะเจ้าของกิจการทุกประการ และการซื้อตราสารทางการเงินที่ให้ประโยชน์ในการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น Amazon เช่น CFD

1.การซื้อหุ้น Amazon โดยตรงผ่านโบรกเกอร์ในประเทศไทย

การซื้อหุ้น Amazon หรือ หุ้นต่างประเทศผ่านโบรกเกอร์ในไทยถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะมีความปลอดภัยสูงและมีหน่วยงานที่คอยกำกับดูแล ที่สำคัญวิธีการซื้อหุ้นรูปแบบนี้ผู้ลงทุนจะได้หุ้นมาถือครองไว้จริงๆ โดยเรามักจะพบเห็นทั้งในแบบซื้อหุ้นตรงๆ และการถือตราสารแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของ (DR)

วิธีที่นักลงทุนไทยสามารถซื้อหุ้น Amazon ผ่านโบรกเกอร์ไทยสามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธีดังนี้

1) การซื้อหุ้นอเมซอน วิธีนี้จะเป็นวิธีเดียวกับที่นักลงทุนซื้อหุ้นไทยมาเก็บไว้ในพอร์ต แต่จะมีขั้นตอนในการเลือกโบรกเกอร์ การแลกเงิน และการจ่ายภาษีเพิ่มเข้ามา เนื่องจากต้องทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ซึ่งสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ผ่านผู้ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้

• เลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการในไทย เช่น บล. กสิกรไทย (Kasikorn Securities) และ บล. กรุงศรี(Krungsri Securities)

• ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นของโบรกเกอร์ เพื่อลงทะเบียนและเปิดบัญชี

• โอนเงินเข้าบัญชีซื้อขายเต็มจำนวน

• แลกเงินจากเงินบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐ

• ส่งคำสั่งซื้อขายและยืนยันรายการ

2) การซื้อ DR ในหุ้นอเมซอน คือ การลงทุนผ่าน “ใบแทนหุ้น” ที่ผูกกับราคาหุ้น Amazon ในต่างประเทศ นักลงทุนไทยสามารถซื้อได้ผ่านตลาดหุ้นไทย (SET) โดยไม่ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศ

• เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์ในไทยที่ให้บริการ

• ค้นหาสัญลักษณ์ DR ของ หุ้น Amazon

• ดูราคาและตรวจสอบข้อมูล

• ส่งคำสั่งซื้อ โดยเลือกจำนวนหน่อยที่ต้องการซื้อ กด BUY ผ่านทางแอปหรือเว็บไซต์

2. ทำกำไรจากราคาหุ้นด้วยการซื้อตราสารอนุพันธ์อ้างอิงราคาหุ้น Amazon (CFDs)

การลงทุน Amazon ผ่าน CFD คืออะไร? CFD คือเครื่องมือการลงทุนที่ให้นักลงทุน “เก็งกำไร” จากราคาหุ้น Amazon โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของหุ้นจริง  ทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้น (Long) และขาลง (Short) ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการซื้อหุ้นจริง เทรดได้ง่ายผ่านโบรกเกอร์ CFD เช่น Mitrade, XM, FxPro ซึ่งวิธีการเทรดก็ง่าย แค่ทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้

1.เปิดบัญชีผ่านผู้ให้บริการซื้อขาย CFDs โดยพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือและรีวิวของผู้ใช้ประกอบ

2.ฝากเงินเข้าบัญชี โดยที่แต่ละโบรกเกอร์จะมีขั้นต่ำสำหรับการฝากเงินที่แตกต่างกัน เช่น Mitrade มีขั้นต่ำในการฝากเงินที่ $50, IC Market มีเงื่อนไขการฝากเงินขั้นต่ำที่ $200, FxPro มีเงื่อนไขการฝากเงินขั้นต่ำที่ $100

3.มองหาโอกาสในการทำกำไร นักลงทุนสามารถใช้เครื่องมือเช่น บทวิเคราะห์ ข่าว กราฟเทคนิค เพื่อช่วยในการวางแผนซื้อขาย และจับจังหวะในการหาโอกาสทำกำไรบนหุ้น Amazon

4.ส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อถือสถานะ เมื่อได้จังหวะในการทำรายการ นักลงทุนสามารถเปิดสถานะได้ทั้งการซื้อ (Long) เพื่อคาดหวังกำไรในทิศทางราคาหุ้นขาขึ้น หรือ การขาย (Short) เพื่อคาดหวังกำไรในทิศทางราคาหุ้นขาลง

5.ปิดสถานะเพื่อรับรู้กำไร เมื่อราคาหุ้น Amazon เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คาดหวังไว้นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งปิดสถานะเพื่อรับรู้กำไร หรือ Stop loss เมื่อถึงจุดตัดขาดทุน

   

💸 ห้ามพลาด!!! 💸    

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁    

   

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑    

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้    

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

คงไม่เป็นที่สงสัยกันอีกแล้วสำหรับนักลงทุนไทยที่เราจะซื้อหุ้นอเมซอนยังไง การลงทุนในหุ้น Amazon ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่อิงการเติบโตของการใช้ข้อมูล (Data) ที่ขยายตัวขึ้นรองรับการเติบโตของกระแส AI และยังมีบริการที่สนับสนุนการประมวลผล เช่น การทำ Data Center รวมทั้ง E-Commerce และบริการด้านความบันเทิงที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างสดใสในอนาคต จึงนับว่าหุ้นอเมซอนจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนทั้งในด้านการซื้อขายเก็งกำไรรวมทั้งการซื้อเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุนเมื่อมีราคาที่เหมาะสม