หุ้นเวียดนามตัวไหนดี? 8 หุ้นเวียดนามที่น่าลงทุนปี 2568

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

ตลาดหุ้นเวียดนามกำลังจะก้าวสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในปี 2568 แม้เพิ่งจะเจอกับการปรับฐานรุนแรงในช่วงต้นเมษายนที่ผ่านมา แต่จากการคาดการณ์ของหลายฝ่ายมองว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตถึง 6.7% ในปี 2568 บทความนี้ จะพาคุณไปดูว่าหุ้นเวียดนามตัวไหนดี และแนะนำ 8 หุ้นเวียดนามที่น่าลงทุนในปี 2568 นี้

8 หุ้นเวียดนามที่น่าลงทุนในปี 2568

 Vietcombank (VCB)


1. VCB (Vietcombank) - ยักษ์ใหญ่แห่งวงการธนาคารเวียดนาม

Vietcombank เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม ต้องบอกว่าถ้าเปรียบเทียบกับไทย VCB ก็เหมือนธนาคารกสิกรไทยหรือไทยพาณิชย์ที่เป็นทั้งผู้นำตลาดและเป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันต่างชาติต้องมีติดพอร์


ในช่วงที่เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว ความต้องการสินเชื่อและบริการทางการเงินย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ VCB มีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่อัตราการเข้าถึงบริการธนาคารในเวียดนามยังต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้ว จึงมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเปลี่ยนโฉมวงการธนาคาร


ปัจจัยที่น่าสนใจอีกประการของ VCB คือการได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่ต้องการพัฒนาระบบการเงินของประเทศ หากคุณกำลังมองหาหุ้นแกนหลัก (Core Stock) สำหรับพอร์ตลงทุนในเวียดนาม VCB ควรเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ ที่คุณควรพิจารณา


VHM (Vinhomes)

2. VHM (Vinhomes) - ผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย

Vinhomes เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ดำเนินธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยครบวงจร ตั้งแต่คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ไปจนถึงวิลล่าหรูระดับไฮเอนด์ ที่น่าสนใจคือ VHM เป็นบริษัทในเครือของ Vingroup (VIC) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม โดย Vingroup มีขนาดใหญ่ถึง 2.2% ของ GDP เวียดนาม เลยทีเดียว


จินตนาการว่า VHM เป็นเหมือน “แสนสิริ” หรือ “เอพี” ของเวียดนาม แต่มีขนาดใหญ่และมีอิทธิพลมากกว่ามาก โครงการของ VHM มีความโดดเด่นด้านคุณภาพ การออกแบบทันสมัย และการบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพ ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าระดับกลางถึงบนได้ดี


ปัจจัยหนุนสำคัญของ VHM คือการเติบโตของชนชั้นกลางในเวียดนามและการขยายตัวของเมือง  ปัจจุบันสัดส่วนประชากรในเมืองของเวียดนามยังต่ำกว่าไทย แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยคุณภาพดีในเมืองใหญ่เพิ่มสูงขึ้น


นอกจากนี้ VHM ยังได้ประโยชน์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องของเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นถนน รถไฟฟ้า และสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ถึงแม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะมีความผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาว VHM ยังคงมีแนวโน้มเติบโตสูงตามการพัฒนาของประเทศ


GAS (Petrovietnam Gas)

3. GAS (Petrovietnam Gas) - พลังงานหลักของประเทศ

GAS หรือ Petrovietnam Gas เป็นบริษัทพลังงานชั้นนำของเวียดนาม บริษัทดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจ ผลิต ขนส่ง ไปจนถึงการจัดจำหน่าย


หากเปรียบเทียบกับไทย GAS ก็เหมือน ปตท. ที่เป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นบริษัทที่รัฐบาลให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ สถานะนี้ทำให้ GAS มีความได้เปรียบในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรและสัมปทานต่างๆ


จุดแข็งของ GAS อยู่ที่การมีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มีความมั่นคงทางการเงิน และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ในขณะที่เวียดนามกำลังพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ความต้องการพลังงานก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดกว่าและเป็นทางเลือกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


แม้ว่าราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดโลกจะมีความผันผวน แต่แนวโน้มความต้องการพลังงานในเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ GAS ยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่เวียดนามกำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้พลังงานจำนวนมาก


VNM (Vinamilk)

4. VNM (Vinamilk) - แบรนด์นมอันดับหนึ่งแห่งเวียดนาม

Vietnam Dairy Products หรือที่รู้จักกันในชื่อ Vinamilk เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีมูลค่าบริษัทกว่า 6.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าเปรียบเทียบกับไทย VNM ก็คือ “ไทย-เดนมาร์ค” และ “แดรี่โฮม” รวมกันแล้วโตขึ้นอีกหลายเท่า


ปัจจุบัน VNM เป็นผู้ครองตลาดนมและผลิตภัณฑ์จากนมในเวียดนาม มีฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ โรงงานผลิตที่ทันสมัย และเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากตลาดในประเทศแล้ว VNM ยังส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก


ปัจจัยที่น่าสนใจของ VNM คือการเติบโตของการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์จากนมในเวียดนาม ซึ่งยังต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้วมาก โดยปริมาณการบริโภคนมเฉลี่ยต่อคนต่อปีของเวียดนามยังต่ำกว่าไทยและมาเลเซีย แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะเมื่อรายได้ต่อหัวของประชากรเวียดนามเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและโภชนาการมากขึ้น


VNM เป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ทำให้เป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทั้งการเติบโตและรายได้จากปันผล



FPT Corporation (FPT)


5. FPT - ผู้นำด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล

FPT เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของเวียดนามที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นผู้นำในการให้บริการ IT Outsourcing ให้กับบริษัทไฮเทคทั่วโลก ถ้าพูดง่ายๆ FPT เป็นเหมือน “Google” หรือ “Microsoft” ของเวียดนาม แต่มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของลูกค้าองค์กร


นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า FPT มีศักยภาพที่จะกลายเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดของเวียดนามในอีก 10 ปีข้างหน้า ด้วยทิศทางของเวียดนามที่กำลังพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก


จุดแข็งของ FPT คือการมีบุคลากรด้านไอทีที่มีคุณภาพสูงแต่ค่าจ้างยังต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุคที่บริษัทต่างๆ มองหาพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า


ในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ความต้องการบริการด้านไอทีและซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในด้าน AI, Cloud Computing และ Big Data ซึ่ง FPT ได้ลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างจริงจัง ทำให้มีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต


MSN (Masan Group)

6. MSN (Masan Group) - อาณาจักรอาหารและเครื่องดื่ม

Masan Group เป็นบริษัทที่มีธุรกิจหลากหลาย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เป็นผู้นำด้านการผลิตอาหารสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ถ้าเทียบกับไทย MSN ก็เหมือนการรวมกันของ “ไทยเบฟ” “ไทยยูเนี่ยน” และ “มาม่า” เข้าด้วยกัน


จุดแข็งของ MSN คือการมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในเวียดนาม ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Omachi และ Kokomi, ซอสปรุงรส Chin-su, กาแฟ Vinacafe และน้ำปลา Chin-su


นอกจากนี้ MSN ยังได้เข้าซื้อกิจการ VinCommerce จาก Vingroup ในปี 2019 ทำให้เป็นเจ้าของเครือข่ายร้านค้าปลีก VinMart และ VinMart+ ซึ่งมีสาขากว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ เป็นการขยายธุรกิจสู่ภาคค้าปลีกที่มีศักยภาพสูง


ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลง MSN ได้ปรับตัวด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาหารพร้อมทาน และผลิตภัณฑ์พรีเมียม ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของชนชั้นกลางในเวียดนาม

VRE (Vincom Retail)

7. VRE (Vincom Retail) - ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้า

Vincom Retail เป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์การค้าของเวียดนาม เป็นบริษัทในเครือของ Vingroup เช่นเดียวกับ VHM ถ้าเปรียบเทียบกับไทย VRE ก็เหมือน “เซ็นทรัลพัฒนา” ที่เป็นผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้าชั้นนำ


จุดแข็งของ VRE คือการมีที่ดินในทำเลศักยภาพสูง การพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพและทันสมัย รวมถึงการได้รับการสนับสนุนจาก Vingroup ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่แข็งแกร่งที่สุดในเวียดนาม


ปัจจัยหนุนการเติบโตของ VRE มาจากการขยายตัวของชนชั้นกลางในเวียดนาม การเพิ่มขึ้นของกำลังซื้อ และวัฒนธรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป โดยชาวเวียดนามรุ่นใหม่นิยมไปศูนย์การค้ามากขึ้น ทั้งเพื่อการช็อปปิ้ง รับประทานอาหาร และพักผ่อนหย่อนใจ


นอกจากนี้ การมาถึงของแบรนด์ค้าปลีกระดับโลกในเวียดนาม เช่น Zara, H&M, Uniqlo ก็เพิ่มความน่าสนใจให้กับศูนย์การค้า และสร้างโอกาสในการปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้น แม้ว่าการเติบโตของอีคอมเมิร์ซจะสร้างความท้าทายบ้าง แต่ศูนย์การค้ายังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนเมือง


ACV (Airports Corporation of Vietnam)

8. ACV (Airports Corporation of Vietnam) - ผู้บริหารท่าอากาศยานหลักของเวียดนาม

ACV เป็นบริษัทที่บริหารท่าอากาศยานในเวียดนาม ดูแลสนามบินหลักของประเทศเกือบทั้งหมด รวมทั้งสนามบินนานาชาติสำคัญอย่าง Tan Son Nhat (โฮจิมินห์) และ Noi Bai (ฮานอย) ถ้าเปรียบเทียบกับไทย ACV ก็คือ AOT (บมจ. ท่าอากาศยานไทย) นั่นเอง


หนึ่งในจุดแข็งของ ACV คือการที่เวียดนามมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ก่อนการระบาดของ COVID-19 เวียดนามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และหลังจากการเปิดประเทศอีกครั้ง แนวโน้มการท่องเที่ยวก็ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง


ปัจจัยที่น่าสนใจอีกประการคือการลงทุนในโครงการใหม่ โดยเฉพาะสนามบินนานาชาติ Long Thanh ที่กำลังก่อสร้างใกล้โฮจิมินห์ ซึ่งจะเป็นสนามบินที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้ถึง 100 ล้านคนต่อปีเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ โครงการนี้จะเพิ่มศักยภาพในการรองรับการเติบโตของการเดินทางทางอากาศของเวียดนามในอนาคต


แม้ว่า ACV จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา แต่ในระยะยาว อุตสาหกรรมการบินมีแนวโน้มฟื้นตัวและเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่อย่างเวียดนาม ทำให้ ACV เป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว

ทำไมตลาดหุ้นเวียดนามถึงร้อนแรง? เจาะลึกปัจจัยหนุนการเติบโตระยะยาว

การเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น: มังกรเอเชียตัวใหม่

ภาพของเวียดนามในอดีตอาจเป็นประเทศที่ยากจนและเพิ่งผ่านพ้นสงคราม แต่ปัจจุบันเวียดนามได้ก้าวขึ้นมาเป็น “มังกรเอเชียตัวใหม่” ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก


เวียดนามมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าไทยถึง 3 เท่า ในช่วงที่ผ่านมา และในปี 2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามขยายตัว 7.09% ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.7% ในปี 2568 และรัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างน้อย 8% ในปีนี้


การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามมีการเติบโตของกำไรสูงถึง 15-20% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนในหลายประเทศทั่วโลก


การยกระดับสู่ตลาดเกิดใหม่

หนึ่งในปัจจัยที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับตลาดหุ้นเวียดนามคือการยกระดับจากตลาดชายขอบ (Frontier Market) เป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ภายในปี 2568 ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ที่รัฐบาลเวียดนามอนุมัติ


การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดประเภทหรือชื่อเรียก แต่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเม็ดเงินที่จะไหลเข้าสู่ตลาด ปัจจุบันเงินทุนที่จัดสรรให้ตลาดชายแดนทั่วโลกมีน้อยกว่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่กระแสเงินสดสำหรับตลาดเกิดใหม่อยู่ที่ประมาณ 6,800 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแตกต่างกันอย่างมหาศาล


จากข้อมูลของ MSCI ณ วันที่ 15 มีนาคม 2567 เวียดนามเป็นผู้นำในกลุ่มตลาดหุ้นชายขอบด้วยสัดส่วนสูงสุดที่ 28.8% ในดัชนี MSCI Frontier เมื่อเวียดนามได้รับการยกระดับเป็นตลาดเกิดใหม่ กองทุนที่ลงทุนตามดัชนี MSCI Emerging Markets จะต้องปรับพอร์ตเพื่อรวมหุ้นเวียดนามเข้าไปด้วย ส่งผลให้มีเงินลงทุนไหลเข้าตลาดอย่างมีนัยสำคัญ


วัฏจักรตลาดที่น่าสนใจ: ช่วงเวลาแห่งโอกาสหลังการปรับฐาน

ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2568 ตลาดหุ้นเวียดนามได้เจอกับการปรับฐานอย่างรุนแรง โดยดัชนี VN ร่วงลงกว่า 75 จุดในช่วงเช้าของวันที่ 4 เมษายน ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจของสหรัฐที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม และผลกระทบเชิงลบจากตลาดหุ้นสหรัฐ


อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่านี่คือ “โอกาสซื้อ” สำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกล ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคของ VinaCapital ให้ความเห็นว่า แรงขายที่กระจายไปทั่วตลาดแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังต้องการเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินผลกระทบที่แท้จริงของนโยบายนี้ต่อเศรษฐกิจและการเติบโตของผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน


นักลงทุนที่มีประสบการณ์จะรู้ว่าตลาดหุ้นมักจะมีปฏิกิริยาเกินจริงต่อข่าวร้ายในระยะสั้น และการปรับฐานครั้งใหญ่มักจะเป็นโอกาสดีสำหรับการเข้าซื้อหุ้นคุณภาพดีในราคาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในตลาดที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งอย่างเวียดนาม

คนไทยจะซื้อขายหุ้นเวียดนามอย่างไร? คู่มือเริ่มต้นสำหรับนักลงทุนไทย

การลงทุนหุ้นเวียดนามอาจดูเหมือนเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนไทย แต่ในความเป็นจริง การลงทุนในหุ้นเวียดนามไม่ได้ซับซ้อนเท่าที่คิด หากคุณรู้วิธีและเตรียมตัวอย่างเหมาะสม


1. เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นเวียดนามผ่านโบรกเกอร์ในประเทศ

วิธีแรกและง่ายที่สุดสำหรับคนไทยในการลงทุนในหุ้นเวียดนามคือการเปิดบัญชีซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ในประเทศไทยที่มีบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ เช่น บล.กสิกรไทย (KSecurities), บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS), หรือ บล.บัวหลวง (Bualuang Securities) โบรกเกอร์เหล่านี้มีบริการซื้อขายหุ้นในหลายประเทศ รวมถึงเวียดนาม


ขั้นตอนการเปิดบัญชีมีดังนี้

  1. ติดต่อโบรกเกอร์: สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม รวมถึงค่าธรรมเนียมและข้อกำหนดต่างๆ

  2. ยื่นเอกสาร: เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง และหลักฐานทางการเงิน

  3. ฝากเงินเข้าบัญชี: โบรกเกอร์จะกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับการเปิดบัญชีและการซื้อขาย

  4. เลือกหุ้นและส่งคำสั่งซื้อ: หลังจากเปิดบัญชีแล้ว คุณสามารถเลือกหุ้นที่ต้องการลงทุนและส่งคำสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ของโบรกเกอร์


ข้อดีของวิธีนี้คือความสะดวกในการทำธุรกรรมผ่านโบรกเกอร์ในประเทศ และไม่ต้องกังวลเรื่องภาษา แต่ข้อเสียคือค่าธรรมเนียมอาจสูงกว่าการซื้อขายโดยตรงในตลาดเวียดนาม


2. เปิดบัญชีซื้อขายโดยตรงกับโบรกเกอร์ในเวียดนาม

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงตลาดหุ้นเวียดนามโดยตรง คุณสามารถเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ในเวียดนาม เช่น SSI Securities, VNDirect, หรือ HSC (Ho Chi Minh Securities Corporation) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำของประเทศ


ขั้นตอนการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์เวียดนาม

  1. ติดต่อโบรกเกอร์: ส่งอีเมลหรือโทรศัพท์ไปยังฝ่ายบริการลูกค้าของโบรกเกอร์เพื่อสอบถามรายละเอียด

  2. เตรียมเอกสาร: เอกสารที่จำเป็น ได้แก่ หนังสือเดินทาง ใบรับรองที่อยู่ และเอกสารแสดงรายได้

  3. เดินทางไปเปิดบัญชี: ในบางกรณี คุณอาจต้องเดินทางไปยังสำนักงานของโบรกเกอร์ในเวียดนามเพื่อเซ็นเอกสาร

  4. ฝากเงินเข้าบัญชี: โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อเริ่มต้นการซื้อขาย


ข้อดีของวิธีนี้คือค่าธรรมเนียมต่ำกว่า และคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลตลาดได้โดยตรง แต่ข้อเสียคือความยุ่งยากในการจัดเตรียมเอกสารและข้อจำกัดด้านภาษา


3. ลงทุนผ่านกองทุนรวมที่เน้นตลาดหุ้นเวียดนาม

หากคุณไม่สะดวกที่จะซื้อขายหุ้นรายตัว การลงทุนผ่านกองทุนรวมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ง่ายและเหมาะสม กองทุนรวมหลายแห่งในประเทศไทยมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม เช่น กองทุน TMB Eastspring Vietnam Equity Fund หรือกองทุน Bualuang Vietnam Equity Fund


ข้อดีของการลงทุนผ่านกองทุนรวมคือ

  • ไม่ต้องวิเคราะห์หุ้นรายตัวเอง

  • มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพดูแลพอร์ตให้

  • ความเสี่ยงกระจายตัวมากกว่า เพราะกองทุนจะลงทุนในหลายบริษัท


อย่างไรก็ตาม การลงทุนผ่านกองทุนรวมอาจมีค่าธรรมเนียมบริหารจัดการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สูงกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการซื้อหุ้นโดยตรง


4. ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับซื้อขายหุ้นต่างประเทศ

ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์หลายแห่งที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ รวมถึงตลาดหุ้นเวียดนาม เช่น Interactive Brokers, Saxo Bank, หรือ Tiger Brokers แพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นได้ง่ายขึ้นผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ต้องเดินทางไปยังประเทศเป้าหมาย


ข้อดีของแพลตฟอร์มออนไลน์คือ

  • ใช้งานง่ายและสะดวก

  • ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์แบบดั้งเดิม

  • มีข้อมูลและเครื่องมือวิเคราะห์ให้ใช้งานฟรี


แต่ข้อเสียคือแพลตฟอร์มบางแห่งอาจไม่รองรับภาษาไทย และนักลงทุนต้องศึกษาเงื่อนไขการใช้งานอย่างละเอียดก่อนเริ่มต้น

บทสรุป หุ้นเวียดนามตัวไหนดี

ตลาดหุ้นเวียดนามกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง ทั้งจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่เติบโตอย่างรวดเร็ว การยกระดับสู่ตลาดเกิดใหม่ และความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก หุ้นเด่นทั้ง 8 ตัวที่เราแนะนำในบทความนี้ ได้แก่ VCB, VHM, GAS, VNM, FPT, MSN, VRE และ ACV ต่างก็มีศักยภาพในการเติบโตสูงตามแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับนักลงทุนไทย วิธีการเข้าถึงตลาดนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ไทยหรือเวียดนาม ลงทุนผ่านกองทุนรวม หรือใช้แพลตฟอร์มออนไลน์


mitrade    
💸 ห้ามพลาด!!! 💸    
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁    

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑    
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมตลาดหุ้นเวียดนามถึงน่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย?

ตลาดหุ้นเวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 6-7% ต่อปี และกำลังยกระดับสู่ตลาดเกิดใหม่ในปี 2568 นอกจากนี้ หุ้นเวียดนามยังมีค่า PE ต่ำเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโต ทำให้เป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนระยะยาว

คนไทยสามารถลงทุนในหุ้นเวียดนามอย่างไร?

นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในหุ้นเวียดนามได้ผ่าน 4 วิธีหลัก ได้แก่ เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศกับโบรกเกอร์ไทย เช่น KSecurities หรือ SCBS เปิดบัญชีโดยตรงกับโบรกเกอร์ในเวียดนาม เช่น SSI Securities ลงทุนผ่านกองทุนรวมที่เน้นตลาดหุ้นเวียดนาม และใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Interactive Brokers หรือ Saxo Bank

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
How to วิธีเทรดหุ้นแบบละเอียดสำหรับมือใหม่หัดเทรด 2024การเริ่มต้นเทรดหุ้นอาจดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ แต่ด้วยความเข้าใจพื้นฐานและการวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเทรดหุ้นแบบละเอียด พร้อมทั้งวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณเริ่มต้นการเล่นหุ้นได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในเส้นทางการลงทุน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 12 พ.ค. 2023
การเริ่มต้นเทรดหุ้นอาจดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ แต่ด้วยความเข้าใจพื้นฐานและการวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเทรดหุ้นแบบละเอียด พร้อมทั้งวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณเริ่มต้นการเล่นหุ้นได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในเส้นทางการลงทุน
placeholder
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 25 พ.ค. 2023
การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
placeholder
เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี? 8 โบรกเกอร์หุ้นที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2024ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 24 พ.ค. 2023
ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
placeholder
แนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุน! หุ้นตัวไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2568ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 14 ก.ค. 2023
ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
placeholder
ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?ก่อนเทรดหุ้นต้องรู้การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์