10 หุ้นอเมริกา น่าสนใจ 2024 ลงทุนในหุ้นอเมริกา แค่อ่านบทความนี้!
ปี 2024 ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง มีปรับฐานราคาบ้างตามช่วงจังหวะ ซึ่งนักลงทุนหลายคนต่างมองหาโอกาส ในการลงทุนหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นอเมริกาที่ขึ้นชื่อเรื่องศักยภาพและผลตอบแทนที่น่าดึงดูด บทความนี้เราได้คัดสรร 10 หุ้นอเมริกา ที่น่าจับตามองในปี 2024 พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญและโอกาสในการเติบโต เพื่อช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจ เตรียมตัวรับมือกับโอกาสทองในการคว้ากำไรจากตลาดหุ้นอเมริกา
10 หุ้นอเมริกา น่าสนใจ 2024
1.หุ้น AAPL
Apple Inc. ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 เป็นที่รู้จักในนามบริษัทนวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการมือถือแห่งศตวรรษ เช่น iPhone, Mac, iPad และ Apple Watch ในตอนนี้ APPL เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดและมีความสามารถในการทำกำไรมาโดยตลอด ด้วยจุดเด่นที่ก้าวข้ามขีดจำกัดในการออกแบบที่ล้ำสมัยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านฮาร์ดแวร์และบริการ
ราคา AAPL แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $222.91 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $244.61 และตัดขาดทุนหากหลุด $184
@เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- มีการขยายธุรกิจไปในภาคบริการอย่างเช่น Apple TV+, Apple Pay และ Apple Music
- ลงทุนในเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตอย่างต่อเนื่อง เช่น AR และ VR
- มีการเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
- มีการเติบโตของรายได้ที่สม่ำเสมอและมีอัตรากำไรที่สูง
- ความภักดีต่อแบรนด์สูง และอัตราการรักษาลูกค้าค่อนข้างสูง
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview อยู่ที่ $300 ด้วย P/E ปัจจุบัน 36.70 เท่า
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >>
หุ้น Apple พุ่งทำสถิติสูงสุด! ยังน่าลงทุนไหม? จะซื้อหุ้น Apple ยังไง
2. หุ้น NVDA
NVIDIA ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 ซึ่งเข้ามาปฏิวัติวงการเกมและการประมวลผลภาพไปอย่างสิ้นเชิง บริษัทเป็นที่รู้จักในด้าน GPU ที่ตอนนี้เป็นเบอร์หนึ่งในอุตสาหกรรม ปัจจุบัน NVIDIA เป็นผู้นำทั้งในด้าน AI และเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูล ชิปของบริษัทขับเคลื่อนการประมวลผลขั้นสูง รวมถึง Machine Learning และยานยนต์ไร้คนขับอีกด้วย
ราคา NVDA แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $150.27 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $150.27 และตัดขาดทุนหากหลุด $90
@เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- ขยายความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำเพื่อความก้าวหน้าของ AI
- เปิดตัว GPU รุ่นถัดไป พร้อมการลงทุนใน Metaverse
- โดดเด่นในวงการ AI และ machine learning
- ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล
- ศักยภาพการเติบโตสูงในวงการเกมและการสร้างกราฟิกระดับมืออาชีพ
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview อยู่ที่ $202.79 ด้วย P/E ปัจจุบัน 63.57 เท่า
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >>
3. หุ้น MSFT
ไมโครซอฟท์ ก่อตั้งเมื่อปี 1975 Microsoft เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่รู้จักกันในชื่อ Windows, MicrosoftOffice และ Azure ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และการบริการ จนสร้างชื่อให้ MSfT เป็นผู้นำในโลกแห่งเทคโนโลยี
ราคา MSFT แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $410.37 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $499.52 และตัดขาดทุนหากหลุกกรอบ 401.00$
@ เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- การขยายตัวของบริการบนคลาวด์และความปลอดภัยทางไซเบอร์
- การผสานรวม AI ในผลิตภัณฑ์ เช่น Office และ Azure
- การเติบโตของเกมผ่าน Xbox และการเข้าซื้อกิจการ
- เน้นที่ความยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ประจำ
- งบดุลและเงินปันผลที่แข็งแกร่ง
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview $600 P/E ปัจจุบัน 33.87 เท่า
4. หุ้น Alphabet (GOOG)
Alphabet Inc. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 เป็นผู้นำด้านบริการอินเทอร์เน็ต และ Search Engines ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านเครื่องมือค้นหาที่แม่นยำและรวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังมี YouTube และบริการคลาวด์ โดยปัจจุบันได้ขยายธุรกิจไปสู่ AI เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการดูแลสุขภาพอีกด้วย
ราคา GOOG แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $172.65 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $209.19 และตัดขาดทุนบริเวณ $170.00
@ เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- กลยุทธ์และตำแหน่งที่โดดเด่นในโฆษณาออนไลน์
- การอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับบริการค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI
- นวัตกรรมในรถยนต์ไร้คนขับด้วย Waymo และการเติบโตใน Google Cloud
- การพัฒนาเทคโนโลยีด้านสุขภาพผ่าน Verily
- การลงทุนในโครงการพลังงานสีเขียว
- การกระจายความเสี่ยงในอุตสาหกรรมต่างๆ
- กระแสเงินสดที่สม่ำเสมอและหนี้สินต่ำ
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview $240 P/E ปัจจุบัน 28.22 เท่า
5. หุ้น AMZN
บริษัท Amazon (AMZN) ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซระดับโลก เดิมที Amazon เป็นร้านหนังสือ ก่อนจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย รวมถึงระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง ดิจิทัลสตรีมมิ่ง และ AI
ราคา AMZN แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $197.93 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $229.84 และตัดขาดทุนหากหลุด $180
@ เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- การขยายตัวใน Amazon Web Services (AWS)
- การลงทุนด้านโลจิสติกส์และการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ
- การพัฒนาโซลูชันการจัดส่งอัตโนมัติ พร้อมระบบโลจิสติกส์
- การเติบโตในธุรกิจโฆษณา
- การเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่ม
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview $285 P/E ปัจจุบัน 42.40 เท่า
6. หุ้น META
หุ้น META หรือ เมตา เมตา แพลตฟอมส์ เดิมทีคือ Facebook แต่ Meta Platforms ก็ได้เติบโตจนกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่เน้นโซเชียลเน็ตเวิร์ก VR และ Metaverse ด้วยแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp ทำให้มีการเข้าถึงและอิทธิพลมหาศาลโดยการตลาดมหาศาล
ราคา META แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $567.16 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $645.00 และตัดขาดทุนบริเวณ $475.00
@ เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- การลงทุนครั้งใหญ่ในเมตาเวิร์ส มุ่งเน้นนวัตกรรม VR และ AR
- การปรับปรุงโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI
- การขยาย Reels บน Instagram
- ศักยภาพในการสร้างรายได้จากโฆษณาที่เพิ่มขึ้น
- มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview $811.00 P/E ปัจจุบัน 26.71 เท่า
7. หุ้น Berkshire Hathaway (BRK.A)
หุ้น Berkshire Hathaway (BRK.A) บริษัทโฮลดิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเข้าไปลงทุนในบริษัทและองค์กรที่มีชื่อเสียง จนทำให้มูลค่าของ BRK.A เติบโตอย่างต่อเนื่อง Berkshire Hathaway ก่อตั้งโดย Warren Buffett ซึ่งเข้าไปลงทุนในหลายภาคส่วน เช่น ประกันภัย พลังงาน และค้าปลีก Berkshire ถือเป็นการลงทุนที่มั่นคงและมีชื่อเสียงในเรื่องการบริหารจัดการที่รอบคอบ
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $678,000 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $761,241.88 และตัดขาดทุนบริเวณ $735,000 ในกรณีนี้จะเห็นได้ว่าราคายังไม่ถึงช่วงเข้าซื้อ ควรรอเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
@ เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- การบริหารพอร์ตโฟลิโอเงินปันผลที่แข็งแกร่ง
- การลงทุนด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน
- ผู้บริหารที่รอบคอบและมีประสบการณ์
- สำรองเงินสดที่แข็งแกร่งและหนี้สินต่ำ
- ความแข็งแกร่งของเงินปันผลและเน้นการลงทุนที่มีมูลค่า
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview $806,596.70 P/E ปัจจุบัน 14.37 เท่า
8. หุ้น TESLA
Tesla ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 เป็นผู้บุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้าและโซลูชันพลังงานสะอาด นำโดย Elon Musk ที่เข้ามาปฏิวัตินวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า Tesla ได้ขยายธุรกิจไปสู่การกักเก็บพลังงานและเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์
ราคา TSLA แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $248.98 รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $235.39 และตัดขาดทุนบริเวณ $85 ตอนนี้ราคาได้ผ่านช่วงเข้าซื้อไปแล้ว แต่ยังคงสถานะการซื้อไว้
@ เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และ การขยายตัวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก
- การเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานและพลังงานแสงอาทิตย์
- ผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการเข้าถึงทั่วโลก
- แผนงานนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง และการเติบโตของโซลูชันพลังงานหมุนเวียน
- การเพิ่มมูลค่าแบรนด์และฐานลูกค้า
- ผลการดำเนินงานทางการเงินและแผนการขยายธุรกิจที่เติบโต
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview $400 P/E ปัจจุบัน 68.21 เท่า
9. หุ้น AVGO
หุ้น AVGO หรือ Broadcom เป็นบริษัทซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานและเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ ม้ามืดแห่งวงการชิป โดย IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในปี 1999 จนเติบโตกลายมาเป็นผู้นำด้านชิปการสื่อสาร บรอดแบนด์ และศูนย์ข้อมูลที่ทรงอิทธพล
ราคา AVGO แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $168.92 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $195.09 และตัดขาดทุนบริเวณ $160.00
@ เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- การเข้าซื้อกิจการด้านซอฟต์แวร์และโครงสร้างพื้นฐาน
- การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ใน 5G และ WiFi
- การเติบโตของโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์ และ นวัตกรรมศูนย์ข้อมูล
- มีการเติบโตของรายได้ที่มั่นคง
@ ราคาเป้าหมายจาก tradingview $240.00 P/E ปัจจุบัน 147.04 เท่า
10. หุ้น LLY
Eli Lilly and Company เป็นบริษัทด้านเภสัชกรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศอเมริกา เป็นผู้นำในด้านยาสำหรับโรคเบาหวาน มะเร็งวิทยา และภูมิคุ้มกันวิทยา บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2419 และมีประวัติการวิจัยเชิงนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
ราคา LLY แบบเรียลไทม์
@ แนะนำ ราคาปัจจุบัน $818.93 ทางเทคนิค รอแนวรับสำคัญบริเวณ ราคา $1,012.75 และตัดขาดทุนบริเวณ $640.00
@ เหตุใดจึงควรให้ความสนใจและลงทุน
- ความก้าวหน้าในยาสำหรับโรคเบาหวาน
- ยาและการรักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่
- งบในการวิจัยด้านภูมิคุ้มกัน และมุ่งเน้นในการรักษาโรคระบบประสาทเสื่อม
- ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและการเติบโตที่มั่นคง
@ ราคาเป้าหมายจาก Tipranks $1,250.00 P/E ปัจจุบัน 89.58 เท่า
ตารางเปรียบเทียบหุ้นอเมริกาที่น่าสนใจ ล่าสุด
ชื่อหุ้น | ราคาปัจจุบัน | เป้าหมาย | จุดแข็ง/โอกาส |
AAPL | $222.91 | $300 | ความภักดีต่อแบรนด์ และมาร์จิ้นสูง |
NVDA | $150.27 | $202.79 | ความต้องการชิปเพิ่มขึ้น |
MFST | $410.37 | $600 | ธุรกิจคลาวคอมพิวติ้ง และ งบดุล/เงินปันผลที่แข็งแกร่ง |
GOOG | $172.65 | $240 | ธุรกิจโฆษณาออนไลน์, ลงทุนใน AI และกระแสเงินสดที่คงที่ |
AMZN | $197.93 | $285 | ธุรกิจอีคอมเมิรซ์ และระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง |
META | $567.16 | $811 | โฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ VR/AR |
BRK.A | $678,000 | $806,596.70 | การบริหารพอร์ตที่แข็งแกร่ง เน้นการลงทุนที่มีมูลค่า |
TSLA | $248.98 | $400 | เพิ่มมูลค่าแบรนด์ในรถไฟฟ้า และงการเงินแข็งแกร่ง |
AVGO | $168.92 | $240.00 | การเติบโตของเซมิคอนดักเตอร์ และรายได้มั่นคง |
LLY | $818.93 | $1,250.00 | ความก้าวหน้าในการพัฒนายารักษา และเงินปันผลสูง |
ทำไมนักลงทุนควรสนใจหุ้นอเมริกา?
ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา หรือ "วอลล์สตรีท" มักถูกมองว่าเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก
เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโต: มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตประมาณ 2.6% ในปี 2024 ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ฟื้นตัว และภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก
ผลประกอบการบริษัทดีขึ้น: บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะรายงานผลประกอบการที่ดีขึ้นในปี 2024 เนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโต ส่งผลให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น และเงินปันผลที่จ่ายให้นักลงทุนเพิ่มสูงขึ้น
นโยบายการเงินที่ชัดเจน: ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นักลงทุนจึงมีความมั่นใจมากขึ้น และพร้อมที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้น
เทคโนโลยีล้ำสมัย: สหรัฐฯ เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก บริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในอนาคต ดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสูง
วิธีการเลือกหุ้นอเมริกาน่าสนใจ 2024
1. พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มตลาด (Economic and Market Trends)
ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น อัตราดอกเบี้ย, อัตราเงินเฟ้อ, และการเติบโตของ GDP ซึ่งมีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุน
วิเคราะห์ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) โดยเฉพาะการปรับอัตราดอกเบี้ยที่อาจมีผลต่อความน่าสนใจในการลงทุนในหุ้น
2. เลือกหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต (Sector Analysis)
เทคโนโลยี: หุ้นในกลุ่มนี้เช่น NVIDIA (NVDA), Microsoft (MSFT), และ Apple (AAPL) ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการพัฒนา AI, คลาวด์คอมพิวติ้ง, และเทคโนโลยีใหม่ๆ
พลังงานสะอาด: หุ้นเช่น NextEra Energy (NEE) และ Tesla (TSLA) คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางพลังงานและนโยบายสิ่งแวดล้อม
3. ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของบริษัท (Fundamental Analysis)
รายได้และกำไร: วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัท
อัตราส่วนการเงินที่สำคัญ: เช่น P/E Ratio, P/B Ratio, และ D/E Ratio เพื่อประเมินมูลค่าหุ้นและสถานะทางการเงิน
4. การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis)
แนวโน้มราคา: ใช้กราฟราคาต่างๆ เช่น Moving Average, MACD, และ RSI เพื่อประเมินแนวโน้มราคาและจุดเข้าซื้อ
รูปแบบกราฟ: ศึกษารูปแบบกราฟเช่น Cup and Handle, Head and Shoulders เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา
คนไทยลงทุนในหุ้นอเมริกาได้อย่างไร?
1. การลงทุนโดยตรงในหุ้นอเมริกา
คุณสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับบริษัทโบรกเกอร์ที่ให้บริการการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ โดยบางโบรกเกอร์ในประเทศไทยก็มีบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ หรือคุณสามารถเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ในอเมริกาได้โดยตรง
👍ข้อดี: สามารถเลือกลงทุนในบริษัทที่ต้องการได้โดยตรง
👎ข้อเสีย: อาจมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูง และต้องทำการศึกษาเรื่องภาษีและกฎระเบียบต่าง ๆ ของประเทศที่ลงทุน
2. การลงทุนผ่านกองทุนรวม (Mutual Funds)
คุณสามารถลงทุนในกองทุนรวมที่มีการลงทุนในหุ้นอเมริกา โดยไม่ต้องซื้อหุ้นโดยตรงเอง กองทุนรวมจะทำการลงทุนในหุ้นหลายตัวตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้
👍ข้อดี: กระจายความเสี่ยง และการบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ
👎ข้อเสีย: อาจมีค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ และคุณไม่มีสิทธิ์ในการเลือกหุ้นที่กองทุนลงทุน
3. การลงทุนผ่านกองทุน ETF (Exchange-Traded Funds)
ETF คือกองทุนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้น และมักจะมีการลงทุนในดัชนีหรือกลุ่มหุ้นเฉพาะ เช่น ดัชนี S&P 500
👍ข้อดี: ค่าธรรมเนียมต่ำ และสามารถซื้อขายได้ตลอดเวลาเหมือนหุ้น
👎ข้อเสีย: ความยืดหยุ่นในการเลือกการลงทุนอาจน้อยกว่าการซื้อหุ้นโดยตรง
4.การลงทุนผ่านโบรกเกอร์ไทยที่มีบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ
บางโบรกเกอร์ในไทยมีบริการเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะหุ้นอเมริกา เช่น Bualuang Securities, KGI Securities
👍ข้อดี: สะดวกและการทำธุรกรรมเป็นภาษาไทย
👎ข้อเสีย: ค่าธรรมเนียมอาจสูงกว่าการเปิดบัญชีโดยตรงกับโบรกเกอร์อเมริกา
5.การลงทุนผ่านโบรกเกอร์ออนไลน์ CFD
เป็นวิธีที่ยอดนิยมในปัจจุบัน เทรดโดยใช้สัญญาอ้างอิงกับหุ้น หรือ Contract For Different เพราะสะดวกและยืดหยุ่นในการลงทุน
👍ข้อดี: ใช้เลเวอเรจหรืออัตราทด มีค่าธรรมเนียมต่ำ มีสินค้าหลากหลายให้เลือกเทรด
👎ข้อเสีย: ระวังเรื่องโอเวอร์เทรด และศึกษาข้อจำกัดของการเทรด เลือกโบรกเกอร์ที่ได้มาตรฐาน
ตัวอย่างชาร์ตราคาของหุ้น TSLA จากโบรกเกอร์ Mitrade ซึ่งเป็นโบรกเกอร์มาตรฐานระดับโลกและปลอดภัย สามารถถเลือกเทรดได้หลากหลายสินค้า ไม่ว่าจะหุ้นสหรัฐ ทองคำ ค่าเงิน เป็นต้น นักลงทุนควรศึกษาวิธีการลงทุนในรูปแบบของ CFD ให้เข้าใจเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการลงทุน
สรุป
หุ้นอเมริกาในปี 2024 มีความน่าสนใจในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มเทคโนโลยี พลังงานสะอาด การเงินและฟินเทค สุขภาพและเทคโนโลยีชีวภาพ การบริโภค และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของหุ้นเหล่านี้รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นโยบายภาครัฐที่สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้บริโภคและตลาด
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
ทำไมหุ้นอเมริกาถึงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน
ยกตัวอย่างหุ้นอมริกาที่น่าสนใจ และเป็นที่รู้จักของนักลงทุน
ข้อความระวังสำหรับการลงทุนในหุ้นอเมริกา
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน