แนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุน! หุ้นตัวไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2568

โลกการลงทุนปี 2568 เต็มไปด้วยความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี นักลงทุนต้องมองหาโอกาสในหุ้นที่มีศักยภาพสูง อย่างหุ้นในอุตสาหกรรมที่กำลังมาแรง หรือ หุ้นทำกำไรในระยะสั้น โดยบทความนี้ผมได้คัดสรร 12 หุ้นเด่นน่าลงทุน ซึ่งจะช่วยให้คุณลงทุนได้อย่างมั่นใจและเติบโตได้ในทุกสถานการณ์
หุ้นเด่นน่าลงทุนในประเทศไทย
ในปี 2568 ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีหุ้นหลายตัวที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน ด้วยศักยภาพการเติบโตที่มั่นคงในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ เช่น พลังงาน ค้าปลีก โทรคมนาคม และพลังงาน หุ้นเหล่านี้มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตระยะยาวหรือการเก็งกำไรในระยะสั้น ซึ่งผมได้คัดเลือกมาให้แล้ว สำหรับ 4 หุ้นเด่นในตลาดไทยที่ควรจับตามองในปี 2568
ตารางสรุป รวม 4 หุ้นเด่นในไทยที่นักลงทุนไม่ควรพลาด
ชื่อหุ้น | ตัวย่อ | เซกเตอร์ | มูลค่าตลาด(Market Cap) | กำไรต่อหุ้น (EPS) | ราคาปัจจุบัน | จุดเด่น |
สตาร์ ปิโตรเลียม | SPRC | พลังงาน / การกลั่นน้ำมัน | 22,000 ล้านบาท | 0.64 | 5.10 | ได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น และราคาหุ้นต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐาน |
เบทาโกร | BTG | เกษตรและอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม | 34,050 ล้านบาท | 1.19 | 17.60 | ธุรกิจอาหารครบวงจร ขยายตลาดส่งออกและธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน เหมาะกับการเติบโตระยะยาว |
อินโดรามา | IVL | อุตสาหกรรม / ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ | 129,134.69 ล้านบาท | 0.50 | 23.00 | ผู้ผลิต PET ระดับโลก ลงทุนในธุรกิจรีไซเคิลพลาสติก สอดคล้องกับแนวโน้ม ESG |
เจริญโภคภัณฑ์ | CPF | เกษตรและอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม | 174,160.87 ล้านบาท | 1.88 | 20.70 | ธุรกิจอาหารครบวงจร ได้ประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นและราคาสินค้าปศุสัตว์ที่สูงขึ้น |
1.SPRC - บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)
SPRC เป็นหนึ่งในบริษัทโรงกลั่นน้ำมันชั้นนำของไทย โดยได้รับประโยชน์จากค่าการกลั่นที่ปรับตัวดีขึ้นและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
ในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 64.10 พันล้านบาทในไตรมาสล่าสุด และ EPS คาดว่าจะฟื้นตัวเป็นบวกในปี 2568 หลังจากขาดทุนในปีที่ผ่านมา
ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 5.10 บาท โดยมีเป้าหมายราคาที่ 7.97 บาท (+56.3%) ซึ่งยังถือว่ามีโอกาสที่ดีเมื่อเทียบกับมูลค่าที่แท้จริง (Fair Value)
2.BTG - บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)
BTG เป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร โดยมีแผนขยายธุรกิจส่งออกและเพิ่มฐานลูกค้าในกลุ่มบริการอาหาร (Food Service)
คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 จะเติบโตถึง 12% อยู่ที่ 2.77 พันล้านบาท ด้วยแรงหนุนจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 17.20 บาท โดยมีเป้าหมายราคาที่ 24 บาท (+40.9%) ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของรายได้และการจัดอันดับ ESG ระดับ AAA27
3.IVL - บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)
IVL เป็นบริษัทปิโตรเคมีระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสายผลิตภัณฑ์ PET และรีไซเคิลพลาสติก ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มความยั่งยืน
ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 551.77 พันล้านบาท แต่ยังขาดทุนสุทธิเนื่องจากต้นทุนพลังงานสูง อย่างไรก็ตาม การลงทุนในธุรกิจรีไซเคิลคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรในอนาคต
ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 23 บาท โดยมีเป้าหมายราคาที่ 27.50 บาท (+19.6%) ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม
4.CPF - บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
CPF เป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรและอาหารครบวงจร โดยได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าปศุสัตว์ที่สูงขึ้นและความต้องการอาหารแปรรูปทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในปี 2568 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์ปรับเป้าราคาเป็น 30 บาทต่อหุ้น จากแนวโน้มราคาเนื้อสัตว์และต้นทุนที่ลดลง
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 20.9 บาท โดยมีเป้าหมายราคาที่ 30 บาท (+45.5%) ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดส่งออก
หุ้นที่น่าลงทุนระยะยาวตัวไหนดี
ตารางสรุป 4 หุ้นน่าลงทุนในระยะยาว
ชื่อหุ้น | ตัวย่อ | เซกเตอร์ | มูลค่าตลาด (Market Cap) | กำไรต่อหุ้น (EPS) | ราคาปัจจุบัน | จุดเด่น |
Microsoft Corporation | MSFT | เทคโนโลยี / ซอฟต์แวร์และคลาวด์ | $3.06 ล้านล้าน | 3.23 | 408 | ผู้นำในกลุ่มเทคโนโลยี มีรายได้จากคลาวด์ Azure เติบโต 31% และ AI-driven revenue เพิ่มขึ้น 175% YoY |
Chevron Corporation | CVX | พลังงาน / น้ำมันและก๊าซ | $279.02 พันล้าน | 10.05 | 155 | บริษัทพลังงานครบวงจร มีอัตราเงินปันผลสูงถึง 4.50% และโครงการใหม่ในน้ำลึกช่วยเพิ่มกำลังการผลิต |
Amazon.com Inc. | AMZN | เทคโนโลยี / อีคอมเมิร์ซและคลาวด์ | $1.5 ล้านล้าน | 2.48 | 228 | ผู้นำในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและ AWS ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก พร้อมการลงทุนใน AI และโลจิสติกส์ |
Adobe Inc. | ADBE | เทคโนโลยี / ซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ | $228 พันล้าน | 13.50 | 460 | ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ เช่น Photoshop และ Illustrator พร้อมขยายตัวในกลุ่ม AI และ SaaS |
5.Microsoft Corporation (MSFT)
Microsoft เป็นผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows, Microsoft 365, และบริการคลาวด์ Azure ซึ่งยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่ม AI และคลาวด์คอมพิวติ้ง
ในไตรมาส 2 ปี 2568 รายได้รวมอยู่ที่ $69.6 พันล้าน (+12% YoY) และกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $3.23 (+10% YoY). รายได้จากธุรกิจคลาวด์เติบโต 21% เป็น $40.9 พันล้าน
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ $408 และเป้าหมายราคาที่ $542 (+33%) จากนักวิเคราะห์ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวเนื่องจากการเติบโตในธุรกิจ AI และคลาวด์
ราคา MSFT แบบเรียลไทม์
6.Chevron Corporation (CVX)
Chevron เป็นบริษัทพลังงานครบวงจรที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดสูงและจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง บริษัทได้รับแรงหนุนจากการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น
ในไตรมาส 4 ปี 2567 รายได้รวมอยู่ที่ $52.23 พันล้าน (+11.2% จากคาดการณ์) และ EPS อยู่ที่ $2.06 แม้ต่ำกว่าคาดการณ์ แต่บริษัทจ่ายเงินปันผลสูงถึง 4.46%
ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ $155.34 โดยมีมูลค่าตลาด (Market Cap) ที่ $274.93 พันล้าน และเป้าหมายราคาที่ $165 (+6.2%) เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการรายได้จากเงินปันผล
ราคา CVX แบบเรียลไทม์
7.Amazon.com Inc. (AMZN)
Amazon เป็นผู้นำในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและคลาวด์คอมพิวติ้ง โดย AWS ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของรายได้ นอกจากนี้ บริษัทยังลงทุนใน AI และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ในปี 2567 รายได้รวมอยู่ที่ $637 พันล้าน (+11% YoY) โดย AWS มีรายได้สุทธิอยู่ที่ $107.56 พันล้าน และ EPS อยู่ที่ $2.48
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ $228.72 โดยมีเป้าหมายราคาที่ $245 (+7.1%) จากนักวิเคราะห์ เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวเนื่องจากศักยภาพในการเติบโตของ AWS และ AI
ราคา AMZN แบบเรียลไทม์
8.Adobe Inc. (ADBE)
Adobe เป็นบริษัทชั้นนำด้านซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ เช่น Photoshop, Illustrator, และ Adobe Creative Cloud โดยมีรายได้หลักจากการสมัครสมาชิก SaaS ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังขยายตัวในกลุ่ม AI เพื่อเพิ่มศักยภาพผลิตภัณฑ์
ในปี 2567 รายได้รวมอยู่ที่ $17.61 พันล้าน (+9% YoY) และ EPS อยู่ที่ $13.50, โดยรายได้จาก Adobe Experience Cloud เติบโตสูงสุดในกลุ่มธุรกิจ
ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ $460 และมีเป้าหมายราคาที่ $680 (+47%) เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวเนื่องจากความมั่นคงของรายได้และศักยภาพในการเติบโต
ราคา ADBE แบบเรียลไทม์
หุ้นน่าลงทุนระยะสั้นตัวไหนดี
ตารางสรุป 4 หุ้นน่าลงทุนในระยะสั้น
ชื่อหุ้น | ตัวย่อ | เซกเตอร์ | มูลค่าตลาด (Market Cap) | กำไรต่อหุ้น (EPS) | ราคาปัจจุบัน | จุดเด่น |
Qualcomm Incorporated | QCOM | เทคโนโลยี / เซมิคอนดักเตอร์ | $191.99 พันล้าน | 3.41 | 167.96 | ผู้นำในตลาดชิปสำหรับสมาร์ทโฟน, IoT และยานยนต์ พร้อมการเติบโตในตลาด AI และ Automotive ที่แข็งแกร่ง |
Fortinet | FTNT | เทคโนโลยี / ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ | $85.51 พันล้าน | 0.74 | 111 | การเติบโตของ Unified SASE และ AI-driven Security Operations ช่วยขยายตลาดและเพิ่มรายได้ |
Applied Materials | AMAT | เทคโนโลยี / อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ | $147 พันล้าน | 2.38 | 169 | ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิปใน AI และ High-Performance Computing |
Tesla Inc. | TSLA | ยานยนต์ / รถยนต์ไฟฟ้า | $750.23 พันล้าน | 0.91 | 355 | ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิปใน AI และ High-Performance Computing |
9.Qualcomm (QCOM)
Qualcomm เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะชิปสำหรับสมาร์ทโฟน, IoT และยานยนต์ บริษัทได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของตลาด 5G และการขยายตัวในกลุ่ม AI และ Automotive
ในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม $11.7 พันล้าน (+17% YoY) และกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $2.83 โดยธุรกิจ Automotive เติบโตถึง 61% YoY
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ $172 โดยมีเป้าหมายราคาที่ $186.33 (+8.2%) จากนักวิเคราะห์ ซึ่งมองว่าการเติบโตในกลุ่ม IoT และ Automotive จะช่วยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น
ราคา QCOM แบบเรียลไทม์
10.Fortinet (FTNT)
Fortinet เป็นบริษัทชั้นนำด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้ง Secure Access Service Edge (SASE) และ Security Operations ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตสูง
ในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม $5.96 พันล้าน (+12% YoY) และ EPS ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ $0.74 ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ถึง 21%
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ $111 โดยมีเป้าหมายราคาที่ $119.11 (+6.5%) จากนักวิเคราะห์ เหมาะสำหรับเก็งกำไรระยะสั้นจากความต้องการโซลูชันไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่เพิ่มขึ้น
ราคา FTNT แบบเรียลไทม์
11.Applied Materials (AMAT)
Applied Materials เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI และ High-Performance Computing
รายได้ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ $6.75 พันล้าน (+7% YoY) โดย EPS อยู่ที่ $2.38 และคาดว่าความต้องการอุปกรณ์ผลิตชิปจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ $169 โดยมีเป้าหมายราคาที่ $200 (+18%) ในระยะสั้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากแนวโน้มตลาดเซมิคอนดักเตอร์
ราคา AMAT แบบเรียลไทม์
12.Tesla Inc. (TSLA)
Tesla เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการขยายโรงงานผลิตใหม่ในหลายประเทศ
ในไตรมาสล่าสุด Tesla มีรายได้รวม $24.32 พันล้าน (+9% YoY) และ EPS อยู่ที่ $0.91 โดยยอดขายรถยนต์รุ่น Model Y เติบโตสูงสุด
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ $355 โดยมีเป้าหมายราคาที่ $500 (+40%) จากนักวิเคราะห์ ซึ่งมองว่าการขยายกำลังผลิตและยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น
ราคา TSLA แบบเรียลไทม์
การเริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้นอย่างชาญฉลาดนั้นเริ่มจากการเลือกหุ้นที่คุณคุ้นเคยและสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้อย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการศึกษาหลักการพื้นฐานของตลาดหุ้น ทั้งการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค
ก่อนลงทุนจริง ควรกำหนดเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน ว่าต้องการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว เพื่อวางแผนกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มจากการใช้บัญชีทดลองที่ MiTrade ซึ่งให้เงินทดลอง $50,000 เพื่อทดสอบกลยุทธ์ก่อนลงทุนจริง

สุดท้าย ควรวางแผนการลงทุนโดยคำนึงถึงระยะเวลา ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และการกระจายการลงทุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้
เทคนิคขั้นพื้นฐานในการค้นหาหุ้นที่ดีที่สุดในการลงทุน
รู้หรือไม่ นักลงทุนมักพยายามหาสูตรสำเร็จในการลงทุน หรือเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในการเทรด พวกเขาจึงมักมองข้ามสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่าง การบริหารความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในหุ้นไป ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการประเมินและจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้นเพื่อสร้างกำไรและลดความเสี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ดังนั้น นี่คือขั้นตอนหลักๆ ที่ต้องพิจารณา
การวางแผน ก่อนที่จะลงทุนในหุ้นควรมีการวางแผนที่เป็นรูปแบบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การลงทุนของคุณ ระยะเวลาที่คุณพร้อมจะลงทุน และระดับความเสี่ยงที่คุณพร้อมรับได้
การวิเคราะห์หุ้น เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเลือกหุ้นที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนของคุณ คุณควรศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
การกระจายการลงทุน เป็นวิธีที่สำคัญในการลดความเสี่ยงในซื้อหุ้น โดยการกระจายการลงทุนจะช่วยให้คุณเลือกลงทุนได้อย่างหลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงในกรณีที่หุ้นบางตัวมีผลตอบแทนที่ต่ำกว่าคาด
การติดตามผลการลงทุน เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณได้ปรับแผนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้
การวิเคราะห์หุ้นที่คุ้มค่าที่สุด
เมื่อนักลงทุนสามารถวางแผนและกระจายการลงทุนให้เหมาะสม รวมถึงเข้าใจถึงการจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุนแล้ว เราจะมารู้จักวิธีการวิเคราะห์ต่าง ๆ ว่ามีอะไรบ้างที่นิยมใช้กัน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental analysis) เป็นกระบวนการที่ใช้ข้อมูลทางธุรกิจและการเงินของบริษัทเพื่อประเมินค่าและวิเคราะห์ผลประกอบการทางการเงินของบริษัท และปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อราคาหุ้น เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนในหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวิเคราะห์ทางการเงิน การวิเคราะห์ทางธุรกิจ การวิเคราะห์ทางการตลาด เป็นต้น ช่วยให้ผู้ลงทุนได้ทราบข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับบริษัทและองค์กรที่อาจส่งผลต่อผลตอบแทนที่คาดหวังของการลงทุนในหุ้นนั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical analysis) ใช้เครื่องมือและแนวทางทางเทคนิคในการวิเคราะห์และการพยากรณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ซึ่งอาจประกอบด้วยการวิเคราะห์กราฟ เช่น แนวโน้มราคา หาแนวรับหรือแนวต้านสำคัญของราคา และเครื่องมือเทคนิคอื่น ๆ เช่น การเคลื่อนไหวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) แบบเทรดเชิงเทคนิค เช่น การสร้างระบบเทรด และตัวชี้วัดเทคนิค เช่น ตัวชี้วัดความเจริญเติบโต (RSI) หรือแบนด์วิดท์ (Bollinger Bands) เพื่อช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อหรือขายหุ้น
การวิเคราะห์อุตสาหกรรม การวิเคราะห์อุตสาหกรรมเป็นกระบวนการในการศึกษาและวิเคราะห์อุตสาหกรรมเฉพาะ เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการแข่งขัน โอกาสและความเสี่ยงในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าว
วิธีซื้อหุ้นที่น่าลงทุนในปี 2568
การลงทุนในหุ้นให้ประสบความสำเร็จต้องเริ่มจากการเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น Mitrade ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลและได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลก โดยมีขั้นตอนการเริ่มต้นดังนี้
1.ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือแอพมือถือ Mitrade ใช้เวลายืนยันบัญชีเพียง 10 นาที
2.ฝากเงินเข้าบัญชีผ่านธนาคารออนไลน์หรือสแกน QR Code ระบบจะเครดิตเงินให้ทันที
3.ทำความเข้าใจระบบการเทรดพื้นฐาน
เลือกหุ้นที่ต้องการเทรด
กำหนดขนาดการลงทุน
ส่งคำสั่งซื้อขาย
ตั้งราคาเป้าหมายและจุดตัดขาดทุน
4.แนะนำให้เริ่มด้วยบัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนก่อนใช้เงินจริง
5.ติดตามผลการเทรดอย่างใกล้ชิด พร้อมปิดกำไรหรือตัดขาดทุนตามแผนที่วางไว้
การลงทุนที่ดีต้องอาศัยทั้งความรู้และวินัย ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนเริ่มลงทุน และยึดมั่นในแผนการลงทุนที่วางไว้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

** CFDs (Contracts for Difference) คือสัญญาที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์ฐานราคาเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์เอง สินทรัพย์ที่อ้างอิงใน CFDs อาจเป็นหุ้น เงินตรา สินค้า หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ในตลาดทางการเงิน
สรุป
หุ้นทั้ง 12 ตัวข้างต้น ไม่ว่าจะลงทุนระยะยาว หรือ ลงทุนระยะสั้น ล้วนต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจทั้งลักษณะของตัวหุ้นเอง ว่าเหมาะสำหรับเทรดรูปแบบไหน สไตล์ในการลงทุนของนักลงทุน และสภาวะตลาดที่เอื้อต่อการลงทุน ยังไม่พอนักลงทุนควรใช้ประโยชน์ของการลงทุนในแบบ CFD ที่ช่วยให้เข้าถึงหุ้นได้อย่างหลากหลาย เทรดได้ทั้งสองฝั่ง ขึ้นและลง รวมถึงใช้เงินเริ่มต้นลงทุนไม่มาก สิ่งที่สำคัญเช่นกันคือ แนวคิดที่ถูกต้องในเรื่องของการลงทุน การจำกัดความเสี่ยงที่เกิดขึ้น หวังว่าความรู้ในบทความจะช่วยให้นักลงทุน ลงทุมได้อย่างมีความสุข และทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
ควรลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวดี
เริ่มต้นลงทุนในหุ้นด้วยเงินลงทุนเท่าไหร่
ความเสี่ยงที่ เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้นคืออะไร
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน