หุ้นสิงคโปร์ตัวไหนดี？แนะนำ 10 อันดับหุ้นสิงคโปร์ที่น่าลงทุนในปี 2025

หุ้นสิงคโปร์ เป็นตลาดที่มีการซื้อขายหุ้นระหว่างประเทศมากที่สุดในเอเชีย เพราะมีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทต่างชาติจำนวนมากได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้กระจายความเสี่ยงไปสู่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก บทความนี้ เราจะมาดูกันว่าลงทุน หุ้นสิงคโปร์ตัวไหนดี？พร้อมแนะนำ 10 อันดับหุ้นสิงคโปร์ที่น่าลงทุนในปี 2025 กัน

วันนี้ทางผู้เขียนได้ทำการคัดเลือก 10 อันดับหุ้นสิงคโปร์ที่น่าลงทุนในปี 2025 โดยอธิบายถึงความสนใจ และโอกาสในการเติบโต  เพื่อที่จะช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจและวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูรายละเอียดไปพร้อมกันเลย

1. Singapore Telecommunications Limited (SGX: Z74)

บริษัทโทรคมนาคมชั้นนำของเอเชีย ด้วยเครือข่ายครอบคลุม 21 ประเทศ Singtel มีฐานลูกค้ากว่า 770 ล้านรายทั่วภูมิภาค ผลประกอบการไตรมาส 3/2024 แสดงกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 183.4% เป็น 1.3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จากรายได้พิเศษจากการขายหุ้นในบริษัทย่อยอย่าง Intouch Holdings และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม Bharti Airtel ในอินเดีย

การปรับโครงสร้างธุรกิจโดยการลดหนี้และเพิ่มการลงทุนในดิจิทัลทำให้อัตรากำไรดำเนินงาน (EBITDA Margin) ปรับตัวขึ้น 32% นักวิเคราะห์จาก MST Securities มองราคาเป้าหมายที่ 3.47 ดอลลาร์สิงคโปร์ เนื่องจากคาดว่ากลยุทธ์การคืนทุนผ่านการซื้อหุ้นคืนและปันผลจะดึงดูดนักลงทุนระยะยาว

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

2. Sembcorp Industries Ltd (SGX: U96)

ผู้นำด้านพลังงานสะอาดและการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรม ในปี 2024 บริษัทรายงานรายได้จากพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 32% เป็น 4.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์รวม 8.7 กิกะวัตต์ โครงการลมนอกชายฝั่งในเวียดนามมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์และ Solar Farm ขนาด 500 เมกะวัตต์ในอินเดียเป็นปัจจัยหนุนหลัก Kasikorn Securities คาดการณ์ว่า margin กำไรจะแตะ 18% ในปี 2025 จากต้นทุนการผลิตที่ลดลง ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.80 ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยอ้างอิงแผน Net Zero 2050 ของสิงคโปร์ที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

3. Singapore Airlines Limited (SGX: C6L)

สายการบินระดับพรีเมียมที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แม้กำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2024 จะลดลง 48.5% เหลือ 742 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จากภาวะแข่งขัน แต่ SIA ยังรักษาอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) สูง 85.4% และมีเงินสดหมุนเวียน 16.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับขยายเส้นทางบิน DBS Group Research มองว่ารายได้ปี 2025 จะเติบโต 15-20% จากเส้นทางใหม่ในออสเตรเลียและญี่ปุ่น ราคาเป้าหมาย 8.20 ดอลลาร์สิงคโปร์ สะท้อนการฟื้นตัวของตลาดธุรกิจและPremium Economy Class

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

4. ST Engineering Ltd (SGX: S63)

บริษัทวิศวกรรมข้ามชาติที่เชี่ยวชาญด้านการบินและ Smart City ด้วยยอดสั่งซื้อสะสม 23.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2024 โดย 45% มาจากสัญญาระบบ Cybersecurity สำหรับกองทัพสหรัฐฯ โครงการ Smart Nation 2.0 ของสิงคโปร์ที่ลงทุน 3.8 พันล้านดอลลาร์ฯ ส่งผลให้รายได้ภาครัฐของบริษัทเพิ่ม 18% UOB Kay Hian ตั้งราคาเป้าหมาย 4.50 ดอลลาร์สิงคโปร์ เน้นศักยภาพการขยายสัญญา Maintenance, Repair, and Overhaul (MRO) ในตะวันออกกลาง

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

5. Keppel Corporation Limited (SGX: BN4)

บริษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทะเลและพลังงานสะอาด ด้วยสัญญาสร้างแท่นกังหันลมนอกชายฝั่งมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และความร่วมมือกับ Shell ในการผลิต Hydrogen Green Keppel มีแผนลงทุน 10 พันล้านดอลลาร์ฯ ในพลังงานทดสอบจนถึงปี 2573 OCBC Investment Research มองว่าการแยกธุรกิจ Offshore & Marine ส่งผลให้ ROE ปรับขึ้น 12% ราคาเป้าหมาย 7.80 ดอลลาร์สิงคโปร์ จากการประเมิณมูลค่าโครงการพลังงานลมในยุโรป

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

6. UMS Holdings Limited (SGX: 558)

ผู้ผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก UMS มีรายได้ปี 2024 เติบโต 28% ถึง 580 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จากสัญญาจำหน่ายให้ Applied Materials และ Lam Research8 การลงทุน 200 ล้านดอลลาร์ฯ ในโรงงานผลิต Wafer Fabrication ที่มาเลเซียส่งผลให้กำไรต่อหุ้นปี 2025 คาดโต้ 15-20% Phillip Securities ตั้งราคาเป้าหมาย 1.37 ดอลลาร์ฯ เน้นความต้องการ AI Chip และอุปกรณ์ Internet of Things (IoT)

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

7. DBS Group Holdings Ltd (SGX: D05)

ธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ DBS มีสินเชื่อรายย่อยเติบโต 22% ในปี 2024 พร้อมอัตราหนี้เสีย (NPL) ต่ำสุดในภูมิภาคที่ 1.2% การเปิดตัวแอป Digibank ในอินโดนีเซียและเวียดนามช่วยเพิ่มฐานลูกค้ารายใหม่ 1.2 ล้านบัญชี Credit Suisse มองราคาเป้าหมาย 57.80 ดอลลาร์ฯ จากศักยภาพการขยายสัดส่วนตลาด Digital Banking ในอาเซียน

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

8. Venture Corporation Limited (SGX: V03)

ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ความแม่นยำสูง Venture มีรายได้ปี 2024 เติบโต 15% เป็น 3.86 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดย 40% มาจากสัญญาเซ็นเซอร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์การแพทย์ Maybank Kim Eng ตั้งราคาเป้าหมาย 16.80 ดอลลาร์ฯ จากการเป็นพันธมิตรกับ Bosch ในการพัฒนา Smart Factory Solution และการลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ฯ ใน Automation Technology

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

9. Genting Singapore PLC (SGX: G13)

บริษัทเกมและสวนสนุกชั้นนำ ผู้ดำเนินการ Resorts World Sentosa และ Universal Studios Singapore ในปี 2024 มีรายได้เติบโต 22% จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย นักวิเคราะห์คาดการณ์กำไร EBITDA ปี 2025 โต 15% จากการเปิดตัวอีเวนต์ระดับนานาชาติ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 1.20 ดอลลาร์ฯ ตาม EV/EBITDA 12x

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

10. Wilmar International Limited (SGX: F34)

ผู้นำระดับโลกในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ด้วยเครือข่ายการผลิตและจัดจำหน่ายในกว่า 50 ประเทศ ผลประกอบการ ปี 2024 รายได้รวม 67,379 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+0.3% YoY) กำไรสุทธิ 1,169.8 ล้านดอลลาร์ฯ จากการขาดทุนในธุรกิจน้ำตาล ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในอินเดียและอาเซียนเพิ่มขึ้น 13% การเติบโตของธุรกิจ Food Products ที่มียอดขายเพิ่ม 8% เป็น 33 ล้านตัน การลงทุนในพลังงานทดแทนและโครงการ Hydrogen Green ร่วมกับ Shell2021 นักวิเคราะห์มองราคาเป้าหมายเฉลี่ย 3.46 ดอลลาร์สิงคโปร์ (จาก P/E 9.68x และ Dividend Yield 5.2%

อ้างอิงข้อมูลจาก tradingview.com

หากพูดถึง “หุ้นต่างประเทศ” คนส่วนมากก็คงนึกถึงประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ประเทศมหาอำนาจ ที่มีอุตสาหกรรมมากมาย มีแรงงานที่เยอะ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา หรือ จีน เป็นต้น  แต่สำหรับประเทศสิงคโปร์ แม้ว่าจะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่หากพิจารณาในเรื่องของมูลค่าเศรษฐกิจภายในประเทศ ก็ถือว่าเป็นประเทศขนาดเล็กที่มีมูลค่าที่สูงสุดในกลุ่มประเทศตะวันออกเฉียงใต้เลยก็ว่าได้

เนื่องจากว่าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ยังคงเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องมากที่สุดของโลกในด้านการเชื่อมต่อไปสู่การซื้อขายตราสารอนุพันธ์ในเอเชีย ด้วยร้อยละ 90 ของตราสารอนุพันธ์ที่ประกอบไปด้วยดัชนีที่สำคัญในตลาดทุนของเอเชีย รวมถึงญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน และประเทศในอาเซียนอีกด้วย

ทั้งนี้ทางผู้เขียนเองได้ทำการรวบรวมข้อมูลที่เป็นเหตุผลเชิงบวกที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจในตลาดหุ้นสิงคโปร์มากยิ่งขึ้นว่า ”ทำไมหุ้นสิงคโปร์ถึงน่าลงทุน” โดยมีรายละเอียดดังนี้

• สิงคโปร์ เป็นประเทศที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจด้วยนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก ส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตลาดการเงินและภาคการค้าของสิงคโปร์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

  
  

• ประชากรภายในประเทศมีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งข้อนี้แสดงให้เห็นว่าสิงคโปร์ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจนั่นเอง

  
  

• สิงคโปร์เป็นประเทศที่เปิดกว้างทางด้านเศรษฐกิจ มีช่องทางการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่มาจาก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การขนส่ง ตลาดการเงิน และอุตสาหกรรมทางด้านเภสัชกรรม เป็นต้น

เนื้อหาในบทความนี้ไม่ได้เป็นการชักจูงให้นักลงทุนทุกท่านลงทุนแต่อย่างใด เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ “หุ้นสิงคโปร์” ที่น่าลงทุนในปี 2025 นี้เท่านั้น เป็นที่ทราบกับดีอยู่แล้วว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นเราจำเป็นที่ต้องศึกษาให้ดีก่อนลงทุน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียเงินทุนจากการลงทุน ทางผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เป้นอย่างมาก