TOP 10 หุ้นกลุ่มอาหาร: ต้องมีเข้าพอร์ตเติบโตปี 2024
หุ้นกลุ่มธุรกิจอาหารถือเป็นหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นที่นิยมของตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นโลก ด้วยความที่มีลักษณะเด่นคือเป็นสินค้าบริโภค ผู้บริโภคต้องกินซ้ำเรื่อยๆ มีแบรนด์ชัดเจน นักลงทุนที่เน้นปัจจัยพื้นฐานจึงมักจะมองว่าหุ้นกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน เพราะไม่ว่ายุคสมัยไหนจะเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี หุ้นกลุ่มอาหารยังคงได้ประโยชน์จากการบริโภคอย่างต่อเนื่อง วันนี้เรามารู้จักหุ้นกลุ่มอาหารให้มากขึ้น
หุ้นกลุ่มอาหาร มีอะไรบ้าง
หุ้นอาหาร/หุ้นกลุ่มอาหาร/หุ้นอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งหุ้นในกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร อาจหมายถึงหลายอย่างขึ้นอยู่กับคำจำกัดความในการจำแนกซึ่งรวมเฉพาะผู้ผลิตอาหารเท่านั้น จึงมีข้อจำกัดมากเกินไป ให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหุ้นทั่วไปที่แสดงถึงบริษัทที่มีธุรกิจหลักเกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายอาหารนั่นเอง คร่าวๆจำแนกได้ดังนี้
กลุ่มการเกษตรและการแปรรูปอาหาร เช่น เครือเจริญโภคภัณท์(CPF) ,TYSON FOOD (TSN)
กลุ่มผู้ผลิตเครื่องดื่ม เช่น คาราบาว (CBG) , โคคา-โคล่า (KO)
กลุ่มผลิตน้ำตาล เช่น น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) , น้ำตาลขอนแก่น (KSL)
กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เช่น ไมเนอร์กรุ๊ป (MINOR) , The Kroger (KR)
TOP10 หุ้นกลุ่มอาหาร
1.Nestlé SA (NESN)
เป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตสินค้าประเภทอาหารหลายชนิด เช่น กาแฟ เครื่องดื่มช็อกโกแลต ชา นมผง มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเวอแว (Vevey) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
2.The Coca-Cola Company (KO)
บริษัทโคคา-โคล่า เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำอัดลมที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแบรนด์สินค้า โค้ก ก่อตั้งบริษัทขึ้นที่ แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อปี พ.ศ. 2435
3.PepsiCo, Inc. (PEP)
เป๊ปซี่โค เป็นบริษัทอาหาร ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่มข้ามชาติสัญชาติอเมริกัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแฮร์ริสัน รัฐนิวยอร์ก ธุรกิจของเป๊ปซี่โคครอบคลุมทุกด้านของตลาดอาหารและเครื่องดื่ม
4.Unilever PLC (UL)
ยูนิลีเวอร์ เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ผงซักฟอก และสินค้าเพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคลและเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
5.McDonald's Corporation (MCD)
แมคโดนัลด์ เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเครือร้านอาหารจานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีเงินสดแข็งแกร่ง
6.Yum! Brands, Inc. (YUM)
เป็นบริษัทฟาสต์ฟู้ดข้ามชาติสัญชาติอเมริกันที่จดทะเบียนใน Fortune 1000 Yum! บริหารแบรนด์ KFC, Pizza Hut, Taco Bell และ The Habit Burger Grill
7.JBS S.A. (JBSS3.BR)
เป็นบริษัทของบราซิลที่เป็นองค์กรแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยผลิตเนื้อวัว ไก่ และหมูแปรรูปจากโรงงาน
8.Tyson Foods Inc (TSN)
เป็นบริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกันที่ตั้งอยู่ในเมืองสปริงเดล รัฐอาร์คันซอ ซึ่งดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหาร บริษัทเป็นผู้แปรรูปและจำหน่ายไก่ เนื้อวัว และเนื้อหมูรายใหญ่อันดับสองของโลกรองจาก JBS S.A.
9.General Mills, Inc. (GIS)
คือผู้ผลิตและนักการตลาดข้ามชาติในอเมริกาสำหรับอาหารอุปโภคบริโภคแปรรูปที่มีตราสินค้าซึ่งขายผ่านร้านค้าปลีก
10.Mondelez International, Inc. (MDLZ)
เป็นบริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกันด้านขนมหวาน อาหาร ภาชนะใส่อาหาร เครื่องดื่ม และอาหารว่างที่ตั้งอยู่ในชิคาโก Mondelez มีรายได้ต่อปีประมาณ 26.5 พันล้านดอลลาร์ และดำเนินงานในประมาณ 160 ประเทศ
ตารางเปรียบเทียบหุ้นกลุ่มอาหาร
หุ้น/บริษัท | ราคาปัจจุบัน | P/E (เท่า) | ราคาเป้าหมาย | Yield (%) | MKT.Cap (Billion$) |
เนสล์เล่(NESN) | 98.63 CHF | 27.25 | 121.00 CHF | 2.95 % | 263.155 B |
59.67 USD | 24.16 | 64.91 USD | 3.08% | 257.98 B | |
เป็ปซี่(PEP) | 168.94 USD | 28.16 | 187.20 USD | 2.93% | 232.269 B |
ยูนิลิเวอร์(UL) | 48.76 USD | 13.66 | 48.00 USD | 3.81% | 121.92 B |
แมคโดดัลล์(MCD) | 288.99 USD | 25.51 | 319.63 USD | 2.31% | 209.617 B |
128.34 USD | 24.40 | 139.05 USD | 1.89% | 35.975 B | |
JBS (JBSS3.BR) | 24.07 BSL | 44.57 | 29.09 BSL | 8.31% | 53.93 B |
Tyson Food (TSN) | 54.92 USD | N/A | 51.70 USD | 3.57% | 19.51 B |
เจอเนอรัลมิลล์ (GIS) | 64.99 USD | 15.81 | 67.50 USD | 3.63% | 36.907 B |
มอนโดเลซ(MDLZ) | 73.09 USD | 21.88 | 81.04 USD | 2.33% | 99.468 |
หุ้นกลุ่มอาหารมีตัวเลือกชื่อดังอยู่หลายตัวที่คุ้นหูและรู้จักธุรกิจกันและยังถือว่ามี P/E เฉลี่ย(อัตราส่วนกำไรต่อหุ้น) ที่น่าสนใจ ประมาณ 20 เท่า และยังมีผลตอบแทนสูงถึง 3-8% ทำให้หุ้นกลุ่มอาหารจะเป็นที่นิยมสำหรับแบ่งการลงทุนมาเก็บสำหรับหุ้น Defensive ปานกลาง และยังมีรายได้อย่างสม่ำเสมออีกด้วย
หุ้นอาหารพิเศษ
คอลัมม์พิเศษที่เรารวมเอา 8 หุ้นอาหารพิเศษที่จะซื้อในปี 2024 ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ หุ้นกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพน่าสนใจเนื่องจากมีตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วตามที่ผู้คนกำลังมีความสนใจในการดูแลสุขภาพของตนเอง โดยให้น้ำหนักรายชื่อหุ้นที่ได้รับความนิยมในระดับกลางและใหญ่ของสหรัฐ คือดังต่อไปนี้
1.Sprouts Farmers Market LLC (SFM)
เป็นเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ร้านขายของชำมีอาหารธรรมชาติและออร์แกนิกให้เลือกมากมาย รวมถึงผักผลไม้สด อาหารจำนวนมาก วิตามินและอาหารเสริม
2.Beyond Meat (BYND)
เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อสัตว์จากพืชในลอสแองเจลิส ก่อตั้งในปี 2009 โดย Ethan Brown ผลิตภัณฑ์เริ่มต้นของบริษัทเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาในปี 2555 บริษัทเปิดตัวสู่สาธารณะในปี 2562 และกลายเป็นบริษัทอะนาล็อกเนื้อสัตว์จากพืชแห่งแรกที่ออกสู่ตลาด
3.The Hain Celestial Group (HAIN)
เป็นบริษัทด้านอาหารและการดูแลส่วนบุคคลระดับนานาชาติที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีตั้งแต่ชาสมุนไพรที่จำหน่ายโดยแบรนด์ Celestial Seasonings
4.Lifeway Foods (LWAY)
เป็นบริษัทอาหารเพื่อสุขภาพในรัฐอิลลินอยส์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2529 พวกเขาเป็นซัพพลายเออร์คีเฟอร์และผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกที่ผ่านการหมักชั้นนำของสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนไมโครไบโอม
5.SunOpta (STKL)
เป็นบริษัทข้ามชาติด้านอาหารและแร่ธาตุที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เอเดนแพรรี รัฐมินนิโซตา และก่อตั้งขึ้นในปี 2516 ในแคนาดา
6.Amazon-com (AMZN)
แอมะซอน.คอม เป็นเว็บไซต์ในลักษณะอีคอมเมิร์ซ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซีแอตเทิล ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา แอมะซอนเป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริก
7.United Natural Foods (UNFI)
เป็นบริษัทด้านอาหารธรรมชาติและอาหารออร์แกนิกที่พรอวิเดนซ์ โรดไอแลนด์ ผู้จัดจำหน่ายขายส่งด้านสุขภาพและอาหารพิเศษที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
8.Burcon NutraScience Corporation (BU)
เป็นบริษัทด้านอาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ โดยพัฒนาโปรตีนจากพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการและเชิงหน้าที่ และยังพัฒนาผลิตผลิตภัณฑ์และส่วนผสมจากพืชเพื่อใช้ในอาหารและอาหารเสริม
วิธีค้นหาหุ้นกลุ่มอาหารยอดนิยม
มีวิธีที่เข้าถึงข้อมูลหุ้นกลุ่มอาหารมากมาย ดังนี้เป็นช่องทางที่นิยม
ใช้เว็บไซต์การเทรดหุ้นที่มีเครื่องมือค้นหาที่สามารถกรองหุ้นตามกลุ่มอาหารได้ เช่น Yahoo Finance, Google Finance, Bloomberg, หรือ CNBC
ค้นหาหรือเลือกหมวดหมู่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอาหารหรือเครื่องดื่ม
ติดตามข่าวสารทางการเงินและบทวิเคราะห์ในสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ทางการเงิน, รายการข่าวทางการเงินทางโทรทัศน์, หรือเว็บไซต์ข่าวทางการเงิน
ใช้ซอฟต์แวร์/แอพพลิชั่นการวิเคราะห์หุ้นหรือเครื่องมือการวิเคราะห์หุ้นที่มีความสามารถในการค้นหาหุ้นตามกลุ่มอาหาร ส่วนใหญ่ของโปรแกรมการซื้อขายหุ้นมักมีเครื่องมือค้นหาที่ช่วยในการค้นหาหุ้นตามกลุ่มธุรกิจ. เช่น INVESTING.COM , MITRADE
บริษัทหลักทรัพย์ออนไลน์: ตรวจสอบหลักทรัพย์ออนไลน์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มอาหาร, อาหารเสริม, และเครื่องดื่ม โดยหลายๆ เว็บไซต์จะมีเครื่องมือการค้นหาที่ช่วยในการค้นหาหุ้นตามกลุ่มธุรกิจ
ติดต่อนักวิเคราะห์การลงทุน: ติดต่อนักวิเคราะห์การลงทุนหรือที่ปรึกษาการลงทุนเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มอาหารโดยเฉพาะ
ข้อดีในการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร
นักลงทุนหลายท่านอยากทราบแล้วว่าเหตุใดเราจึงเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร มีข้อดีหรือจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ
ความต่อเนื่องของอุตสาหกรรม เพราะกลุ่มอาหารเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมที่มีความต่อเนื่องและไม่ได้แสดงอาการขยายตัวเฉพาะหนึ่งระยะเวลา การบริโภคอาหารเป็นความจำเป็นที่ต้องการตลอดเวลา, ทำให้บริษัทในกลุ่มนี้มีโอกาสทางธุรกิจที่คงทนและมีความเสถียร
ความมั่นคง ผันผวนน้อยและกำไรสูง บางบริษัทในกลุ่มอาหารมักมีโครงสร้างธุรกิจที่เสถียรและกำไรสูง, เนื่องจากอาหารเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องการและบริโภคอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้มีฐานลูกค้าที่มั่นคง
มีนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบริโภค กลุ่มอาหารต้องทำการนวัตกรรมเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบริโภค ซึ่งสามารถสร้างโอกาสในการลงทุนในบริษัทที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถปรับตัวตามตลาดได้ อย่างเช่นเทรนต์การบริโภค เนื้อสัตว์ที่ทำมาจากพืชหรือ Plant Base Meat เป็นต้น
การดูแลสุขภาพและความสำเร็จ บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพมีโอกาสทางธุรกิจที่ดี, โดยเฉพาะในสมัยที่คนมีความสนใจในการรักษาสุขภาพของตนเอง เช่น ใช้สารแทนความหวานอื่นที่ไม่ใช้น้ำตาล หรือแม้แต่เลือกทานคีโตเป็นต้น
ความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร
หลังจากดูข้อดึงดูดที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารแล้ว ต่อไปที่ห้ามพลาดสำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ
ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค – หลังจากโควิดเป็นต้นมา ภาครัฐและเอกชนได้มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบจนทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น จนธนาคารกลางของประเทศต่างๆต้องลดดอกเบี้ยเพิ่มลดเงินเฟ้อ
การแข่งขันรุนแรง – อาหารหรือสินค้าที่ประสบความสำเร็จจะดึงดูดผู้เล่นในตลาดอย่างไว
ต้นทุนที่สูงขึ้น – เงินเฟ้อมาพร้อมกับต้นทุนทางอาหารที่สูงขึ้น ทั้งค่าพลังงาน ค่าแรง รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ
การเปลี่ยนแปลงความชอบของผู้บริโภค - ในยุค 5G แบบนี้ ความใหม่สดและกระแสสามารถเปลี่ยนได้เพียงข้ามคืน
ทำไมต้องเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร
นี่คือเหตุผลทั้ง 6 ประการว่าทำไมนักลงทุนถึงควรมีหุ้นอาหารติดพอร์ตการลงทุนไว้
1.ลักษณะความมั่นคงและเป็นหุ้นเชิงแนวรับ
ความต้องการอาหารค่อนข้างคงที่ และถือเป็นหุ้นแนวรับกองหลัง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรคนก็ต้องกิน เสถียรภาพนี้สามารถทำให้สต๊อกอาหารมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำซึ่งภาคส่วนอื่นๆ อาจมีความผันผวนมากขึ้น
2.ความสามารถในการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว อุตสาหกรรมอาหารมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมที่มีวัฏจักรมากขึ้น ผู้คนให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายกับสิ่งของที่จำเป็น เช่น อาหาร ส่งผลให้สต็อกอาหารไม่เสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดอย่างรุนแรง
3.การเติบโตของประชากร
ด้วยจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น ความต้องการอาหารก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้น แนวโน้มระยะยาวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การแปรรูป และการจัดจำหน่าย
4.รายได้จากเงินปันผล
บริษัทอาหารหลายแห่งขึ้นชื่อในเรื่องการให้เงินปันผลที่มั่นคงและเชื่อถือได้ นักลงทุนที่มองหาการลงทุนเพื่อสร้างรายได้มักจะพบว่าหุ้นอาหารมีความน่าสนใจ เนื่องจากกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในภาคส่วนนี้
5.นวัตกรรมและแนวโน้ม
อุตสาหกรรมอาหารมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทที่สามารถปรับตัวเข้ากับแนวโน้มเหล่านี้และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมอาจนำเสนอโอกาสในการเติบโตให้กับนักลงทุน
6.มีบริษัทและสาขาอยู่ทั่วโลก
บริษัทอาหารหลายแห่งดำเนินกิจการในระดับโลก ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์นี้สามารถช่วยให้พวกเขาเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตในส่วนต่างๆ ของโลก
วิธีลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร
ในการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารนั้นมีหลากหลายวิธีการ จะเลือกหลักมาๆ 3 วิธี
1.ลงทุนในหุ้นอาหารของบริษัทนั้นๆ นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีหลักทรัพย์ของโบรกเกอร์ทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น หลักทรัพย์บัวหลวง หลักทรัพย์ฟินันเซีย เป็นต้น และทำการซื้อขายหุ้นอาหารที่สนใจ ไม่ว่าจะด้วยวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือทางพื้นฐาน ตัวอย่างเช่น ซื้อหุ้น KO หรือโคคา โคลา จำนวน 100 หุ้นที่ราคาหุ้นละ 59.65$ ข้อดีคือ ได้ความเป็นเจ้าของหุ้นที่ถือจริง มีสิทธิต่างๆจากการถือหุ้น เช่นได้เงินปันผล ได้ประชุมผู้ถือหุ้น
ที่มา Bing.com
2.ซื้อผ่านกองทุนรวม (Mutual Fund) เป็นกระบวนการทางการเงินที่นักลงทุนลงทุนเงินกับกองทุนรวมกันกับผู้ลงทุนคนอื่น ๆ เพื่อลงทุนในตลาดทางการเงิน โดยที่กองทุนจะถูกจัดการโดยผู้ดูแลกองทุนหรือผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการเลือกทรัพย์สินทางการเงินต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของกองทุนนั้น ๆ
3.ลงทุนในรูปแบบของ CFD (Contract For Difference) ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เนื่องจาก CFD เป็นตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน ราคาของ CFD จึงมาจากสินทรัพย์อ้างอิง แตกต่างกับหุ้นตรงที่ไม่ได้แสดงถึงการลงทุนในบริษัท CFD จะมีข้อได้เปรียบทั้งส่วนของ มีเลเวอเรจ(อัตราทด) สามารถเทรดได้ทั้งสองฝั่ง ขาขึ้นและขาลง ตามสภาวะตลาด
จากกราฟหุ้น YUM หลังจากที่ลงมาทำ Low ต่ำสุดที่บริเวณ 110 $ / หุ้น เริ่มมีจังหวะกลับตัวขึ้นและเบรกแนวต้านขาลง กำลังทำกรอบแนวรับสำคัญที่ 120-125$ ดังนั้นถ้านักลงทุนต้องการจะซื้อเพื่อรอให้ราคาหุ้นขึ้นไป สามารถรอออเดอร์ฝั่ง BUY ที่โซนแนวรับดังกล่าว และถือไปขายที่ราคาแนวต้านสำคัญทางเทคนิคที่ 135$ และ 142$ ตามลำดับ
สรุป
ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปแนวทางลงทนของหุ้นกลุ่มอาหารในเบื้องต้น ซึ่งถ้านักลงทุนจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดเชิงลึกของหุ้นอาหารแต่ละตัว และดูอัตราส่วนทางการเงินพื้นฐานอื่นๆประกอบการตัดสินใจด้วย จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวังไว้ เพราะหุ้นกลุ่มอาหารยังมีแนวโน้มที่น่าสนใจของนักลงทุนแน่นอนทั้งมูลค่ารวมและเทรนต์ในอนาคต
ทำไมต้องลงทุนหุ้นอาหาร
วิธีการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารที่ได้รับความนิยมคือ
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน