TOP 8 หุ้นกลุ่มอาหาร: ต้องมีเข้าพอร์ตเติบโตปี 2025

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

หุ้นกลุ่มธุรกิจอาหารถือเป็นหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นที่นิยมของตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นโลก ด้วยความที่มีลักษณะเด่นคือเป็นสินค้าบริโภค ผู้บริโภคต้องกินซ้ำเรื่อยๆ มีแบรนด์ชัดเจน นักลงทุนที่เน้นปัจจัยพื้นฐานจึงมักจะมองว่าหุ้นกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน เพราะไม่ว่ายุคสมัยไหนจะเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี หุ้นกลุ่มอาหารยังคงได้ประโยชน์จากการบริโภคอย่างต่อเนื่อง วันนี้เรามารู้จักหุ้นกลุ่มอาหารให้มากขึ้น

หุ้นกลุ่มอาหาร มีอะไรบ้าง

หุ้นอาหาร/หุ้นกลุ่มอาหาร/หุ้นอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งหุ้นในกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร อาจหมายถึงหลายอย่างขึ้นอยู่กับคำจำกัดความในการจำแนกซึ่งรวมเฉพาะผู้ผลิตอาหารเท่านั้น จึงมีข้อจำกัดมากเกินไป ให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหุ้นทั่วไปที่แสดงถึงบริษัทที่มีธุรกิจหลักเกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายอาหารนั่นเอง คร่าวๆจำแนกได้ดังนี้ 


  • กลุ่มการเกษตรและการแปรรูปอาหาร เช่น เครือเจริญโภคภัณท์(CPF) ,TYSON FOOD (TSN)

  • กลุ่มผู้ผลิตเครื่องดื่ม เช่น คาราบาว (CBG) , โคคา-โคล่า (KO)

  • กลุ่มผลิตน้ำตาล เช่น น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) , น้ำตาลขอนแก่น (KSL)

  • กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เช่น ไมเนอร์กรุ๊ป (MINOR) , The Kroger (KR)

TOP 8 หุ้นกลุ่มอาหาร

ในยุคที่ความต้องการอาหารทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารกลับกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ ในส่วนนี้เราจะพาคุณไปสำรวจ “8 หุ้นกลุ่มอาหาร” ที่มีศักยภาพสูงในตลาด ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง พร้อมติดตามกระแสการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้อย่างใกล้ชิด


หุ้นกลุ่มอาหารไทย

อุตสาหกรรมอาหารไทยเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ ไม่เพียงเพราะวัฒนธรรมการบริโภคที่หลากหลายและรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังรวมถึงศักยภาพในการส่งออกที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็น "ครัวของโลก" ต่อไปนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 4 หุ้นอาหารไทยที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งไม่เพียงมีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาและตอบสนองความต้องการของตลาดสากลมากอีกด้วย มาเริ่มสำรวจไปพร้อมกันว่าหุ้นเหล่านี้มีจุดเด่นและโอกาสอย่างไรในโลกการลงทุนอย่างไร


1. Charoen Pokphand Foods Public Company Limited. (CPF)

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 เป็นส่วนหนึ่งของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) CPF เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารแบบครบวงจร โดยดำเนินธุรกิจใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ และการแปรรูปอาหาร ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบัน CPF มีเครือข่ายการดำเนินงานในกว่า 17 ประเทศ และส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 40 ประเทศทั่วโลก


2. Thai Union Group PCL. (TU)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ก่อตั้งขึ้นในปี 1977 เริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากทะเลเพื่อการส่งออก ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดโลกในอุตสาหกรรมอาหารทะเล พร้อมด้วยกลยุทธ์การขยายตัวในตลาดต่างประเทศ เช่น อเมริกาและยุโรป โดยมีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล รวมถึงการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาหารและสุขภาพ เช่น Seafood, TUNY, Chicken of the Sea และ Fish Snacks เป็นต้น


3. ASIAN SEA CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED (ASIAN)

บริษัท เอเชียน ซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 โดยเริ่มต้นจากการผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปที่มีคุณภาพสูง ปัจจุบัน ASIAN เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลแปรรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นที่รู้จักในระดับสากล มีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท รวมถึงการลงทุนในธุรกิจอาหารและเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีฐานการผลิตในประเทศไทยและเครือข่ายการตลาดในหลายประเทศทั่วโลก


4. Minor Food Group (MINT)

บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 โดยเริ่มจากการเปิดร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสชื่อว่า "The Pizza Company" ต่อมาไมเนอร์ ฟู้ดได้ขยายธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่างเต็มตัว พร้อมกับการซื้อกิจการแบรนด์ที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ เช่น The Coffee Club, Burger King, และ Dairy Queen


หุ้นกลุ่มอาหารต่างประเทศ

ธุรกิจอาหารระดับโลกเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค หุ้นกลุ่มอาหารต่างประเทศจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการขยายพอร์ตการลงทุน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ที่มีศักยภาพและน่าจับตามอง


5. Nestlé SA (NESN)

Nestlé SA ก่อตั้งขึ้นในปี 1866 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย Henri Nestlé โดยเริ่มต้นจากการผลิตอาหารสำหรับทารกและต่อมาได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน Nestlé พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งในอาหาร เครื่องดื่ม อาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น Nescafé, KitKat, Nestlé Pure Life, Milo และ Purina โดยดำเนินธุรกิจในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก


6. The Coca-Cola Company (KO) 

บริษัท Coca-Cola Company ก่อตั้งขึ้นในปี 1886 โดย Dr. John Stith Pemberton ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ด้วยการเปิดตัวเครื่องดื่ม Coca-Cola ที่สื่อถึงสัญลักษณ์ของความสดชื่น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก ในตอนนี้ Coca-Cola มีพอร์ตโฟลิโอครอบคลุมกว่า 200 แบรนด์ในกว่า 200 ประเทศ โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น Coca-Cola, Diet Coke และ Coca-Cola Zero Sugar, Sprite, Fanta, Minute Maid, Smartwater และ Dasani เป็นต้น


7. PepsiCo, Inc. (PEP)

รู้หรือไม่? จริงๆ แล้ว PepsiCo ไม่ใช่บริษัทที่ผลิตเฉพาะเครื่องดื่มเท่านั้น โดยในปี 1965 แป๊ปซี่ก่อตั้งขึ้นจากการควบรวมระหว่าง Pepsi-Cola Company และ Frito-Lay, Inc. เริ่มต้นจากการผลิตน้ำอัดลม Pepsi-Cola ซึ่งคิดค้นโดย Caleb Bradham ปัจจุบัน PepsiCo เป็นหนึ่งในบริษัทอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดในโลก มีแบรนด์ยอดนิยมหลากหลายที่ครอบคลุมกลุ่มสินค้าอาหารขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม เช่น Pepsiม, Lay’s, Gatorade, Tropicana, Quaker Oats, Mountain Dew, Cheetos และ Doritos เป็นต้น


8. Unilever PLC (UL)

ยูนิลีเวอร์ เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมระหว่าง Margarine Unie บริษัทผู้ผลิตเนยเทียมในเนเธอร์แลนด์ และ Lever Brothers บริษัทผลิตสบู่ในอังกฤษ ปัจจุบัน Unilever ดำเนินธุรกิจในกว่า 190 ประเทศ ครอบคลุม 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน เช่น Knorr, Hellmann’s, Dove, Lux, Magnum และ Wall’s เป็นต้น


ตารางเปรียบเทียบหุ้นกลุ่มอาหาร

หุ้น/บริษัท ราคาปัจจุบันP/E (เท่า)   ราคาเป้าหมายYield (%)มูลค่าตลาด
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF)

22.0 THB

11.9

30.00 THB

2.06%‪183.41 B‬  THB
ไทยยูเนี่ยน (TU)12.40 THB-4.016.90 THB4.51%52.93 B‬‬  THB

เอเชียน ซี (ASIAN)

7.85 THB7.8
30.00 THB9.29%6.31 B‬  THB

ไมเนอร์ ฟู้ด (MINT)

22.0 THB

42.7

30.00 THB

2.06%‪183.41 B‬  THB
เนสล์เล่(NESN)74.04 CHF17.287.64 CHF3.99%193.12 B‬ CHF
โคคาโคล่า(KO)61.07 USD25.374.05 USD3.14%263.08 B‬ USD
เป็ปซี่ (PEP)142.64 USD20.9177.89 USD3.70%195.70 B‬ USD
ยูนิลิเวอร์(UL)55.13 USD21.562.98 USD3.29%139.56 B‬ USD

หุ้นอาหารพิเศษ

คอลัมน์พิเศษ 8 หุ้นอาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจในปี 2025 การลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจ เนื่องจากตลาดในอุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อร่างกายมากขึ้น เราได้รวบรวมรายชื่อหุ้น 8 บริษัทชั้นนำในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพจากสหรัฐ ซึ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีความมั่นคงและได้รับความนิยมในระดับกลางถึงใหญ่ ดังนี้:


1. Beyond Meat, Inc. (BYND) 

เป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืชที่มีผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เช่น เบอร์เกอร์ ไส้กรอก และนักเก็ต โดยตอบโจทย์ผู้บริโภคที่หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม Beyond Meat ได้สร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งในตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจโปรตีนทางเลือกมากขึ้น


2. Oatly Group AB (OTLY) 

โดดเด่นในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มนมจากพืช โดยเฉพาะนมข้าวโอ๊ตที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการลดการบริโภคนมวัวหรือมีความแพ้นม ผลิตภัณฑ์ของ Oatly สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เน้นสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยผลักดันให้แบรนด์ขยายตัวในระดับโลกอย่างรวดเร็ว


3. Tattooed Chef, Inc. (TTCF) 

เป็นบริษัทที่พัฒนาอาหารสำเร็จรูปจากพืช เช่น ชามอาหารพร้อมทานและของว่างแช่แข็ง โดยมุ่งตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพที่สะดวกและรวดเร็วในชีวิตประจำวัน สินค้าของ Tattooed Chef ยังตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการลดการบริโภคเนื้อสัตว์


4. The Hain Celestial Group, Inc. (HAIN) 

โดดเด่นในตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น อาหารออร์แกนิก ชาสมุนไพร และอาหารขบเคี้ยวที่ปราศจากสารปรุงแต่ง บริษัทนี้มีฐานลูกค้ากว้างและมุ่งเน้นการขยายตลาดในกลุ่มสินค้าสุขภาพและออร์แกนิกซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


5. Danone S.A. (DANOY) 

เป็นบริษัทชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น นม โยเกิร์ต และเครื่องดื่มจากพืช Danone มีจุดแข็งในการนำเสนอสินค้าที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สนับสนุนการบริโภคที่ยั่งยืน


6. Nomad Foods Limited (NOMD) 

โดดเด่นในกลุ่มอาหารแช่แข็งระดับพรีเมียม โดยเน้นส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการอาหารสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพ Nomad Foods มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น อาหารทะเล อาหารจานด่วน และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทดแทน


7. Sprouts Farmers Market, Inc. (SFM) 

เป็นเครือซูเปอร์มาร์เก็ตที่เน้นจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพ ออร์แกนิก และสินค้าที่ผลิตจากกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Sprouts Farmers Market เป็นแหล่งรวมสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาสินค้าเพื่อสุขภาพในราคาที่เข้าถึงได้


8. Ingredion Incorporated (INGR) 

เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาส่วนผสมอาหาร เช่น สารให้ความหวานจากธรรมชาติ แป้งจากพืช และส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ผลิตภัณฑ์ของ Ingredion ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพอย่างกว้างขวางและตอบโจทย์แนวโน้มการบริโภคที่มุ่งเน้นสุขภาพในอนาคต

วิธีค้นหาหุ้นกลุ่มอาหารยอดนิยม

มีวิธีที่เข้าถึงข้อมูลหุ้นกลุ่มอาหารมากมาย ดังนี้เป็นช่องทางที่นิยม


  • ใช้เว็บไซต์การเทรดหุ้นที่มีเครื่องมือค้นหาที่สามารถกรองหุ้นตามกลุ่มอาหารได้ เช่น Yahoo Finance, Google Finance, Bloomberg, หรือ CNBC


    ค้นหาหรือเลือกหมวดหมู่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอาหารหรือเครื่องดื่ม


  • ติดตามข่าวสารทางการเงินและบทวิเคราะห์ในสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ทางการเงิน, รายการข่าวทางการเงินทางโทรทัศน์, หรือเว็บไซต์ข่าวทางการเงิน


  • ใช้ซอฟต์แวร์/แอพพลิชั่นการวิเคราะห์หุ้นหรือเครื่องมือการวิเคราะห์หุ้นที่มีความสามารถในการค้นหาหุ้นตามกลุ่มอาหาร ส่วนใหญ่ของโปรแกรมการซื้อขายหุ้นมักมีเครื่องมือค้นหาที่ช่วยในการค้นหาหุ้นตามกลุ่มธุรกิจ. เช่น INVESTING.COM , MITRADE 


  • บริษัทหลักทรัพย์ออนไลน์: ตรวจสอบหลักทรัพย์ออนไลน์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มอาหาร, อาหารเสริม, และเครื่องดื่ม โดยหลายๆ เว็บไซต์จะมีเครื่องมือการค้นหาที่ช่วยในการค้นหาหุ้นตามกลุ่มธุรกิจ


  • ติดต่อนักวิเคราะห์การลงทุน: ติดต่อนักวิเคราะห์การลงทุนหรือที่ปรึกษาการลงทุนเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มอาหารโดยเฉพาะ 

ข้อดีข้อเสียในการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร

ข้อดีในการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร


นักลงทุนหลายท่านอยากทราบแล้วว่าเหตุใดเราจึงเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร มีข้อดีหรือจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ 


  1. ความต่อเนื่องของอุตสาหกรรม เพราะกลุ่มอาหารเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมที่มีความต่อเนื่องและไม่ได้แสดงอาการขยายตัวเฉพาะหนึ่งระยะเวลา การบริโภคอาหารเป็นความจำเป็นที่ต้องการตลอดเวลา, ทำให้บริษัทในกลุ่มนี้มีโอกาสทางธุรกิจที่คงทนและมีความเสถียร


  2. ความมั่นคง ผันผวนน้อยและกำไรสูง บางบริษัทในกลุ่มอาหารมักมีโครงสร้างธุรกิจที่เสถียรและกำไรสูง, เนื่องจากอาหารเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องการและบริโภคอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้มีฐานลูกค้าที่มั่นคง


  3. มีนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบริโภค กลุ่มอาหารต้องทำการนวัตกรรมเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบริโภค ซึ่งสามารถสร้างโอกาสในการลงทุนในบริษัทที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถปรับตัวตามตลาดได้ อย่างเช่นเทรนต์การบริโภค เนื้อสัตว์ที่ทำมาจากพืชหรือ Plant Base Meat เป็นต้น


  4. การดูแลสุขภาพและความสำเร็จ บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพมีโอกาสทางธุรกิจที่ดี, โดยเฉพาะในสมัยที่คนมีความสนใจในการรักษาสุขภาพของตนเอง เช่น ใช้สารแทนความหวานอื่นที่ไม่ใช้น้ำตาล หรือแม้แต่เลือกทานคีโตเป็นต้น


ความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร


หลังจากดูข้อดึงดูดที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารแล้ว ต่อไปที่ห้ามพลาดสำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ


  1. ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค – หลังจากโควิดเป็นต้นมา ภาครัฐและเอกชนได้มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบจนทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น จนธนาคารกลางของประเทศต่างๆต้องลดดอกเบี้ยเพิ่มลดเงินเฟ้อ


  2. การแข่งขันรุนแรง – อาหารหรือสินค้าที่ประสบความสำเร็จจะดึงดูดผู้เล่นในตลาดอย่างไว


  3. ต้นทุนที่สูงขึ้น – เงินเฟ้อมาพร้อมกับต้นทุนทางอาหารที่สูงขึ้น ทั้งค่าพลังงาน ค่าแรง รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ


  4. การเปลี่ยนแปลงความชอบของผู้บริโภค - ในยุค 5G แบบนี้ ความใหม่สดและกระแสสามารถเปลี่ยนได้เพียงข้ามคืน 

ทำไมต้องเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร

นี่คือเหตุผลทั้ง 6 ประการว่าทำไมนักลงทุนถึงควรมีหุ้นอาหารติดพอร์ตการลงทุนไว้


1.ลักษณะความมั่นคงและเป็นหุ้นเชิงแนวรับ 

ความต้องการอาหารค่อนข้างคงที่ และถือเป็นหุ้นแนวรับกองหลัง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรคนก็ต้องกิน เสถียรภาพนี้สามารถทำให้สต๊อกอาหารมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำซึ่งภาคส่วนอื่นๆ อาจมีความผันผวนมากขึ้น


2.ความสามารถในการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ 

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว อุตสาหกรรมอาหารมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมที่มีวัฏจักรมากขึ้น ผู้คนให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายกับสิ่งของที่จำเป็น เช่น อาหาร ส่งผลให้สต็อกอาหารไม่เสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดอย่างรุนแรง


3.การเติบโตของประชากร 

ด้วยจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น ความต้องการอาหารก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้น แนวโน้มระยะยาวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การแปรรูป และการจัดจำหน่าย


4.รายได้จากเงินปันผล 

บริษัทอาหารหลายแห่งขึ้นชื่อในเรื่องการให้เงินปันผลที่มั่นคงและเชื่อถือได้ นักลงทุนที่มองหาการลงทุนเพื่อสร้างรายได้มักจะพบว่าหุ้นอาหารมีความน่าสนใจ เนื่องจากกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในภาคส่วนนี้


5.นวัตกรรมและแนวโน้ม 

อุตสาหกรรมอาหารมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทที่สามารถปรับตัวเข้ากับแนวโน้มเหล่านี้และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมอาจนำเสนอโอกาสในการเติบโตให้กับนักลงทุน


6.มีบริษัทและสาขาอยู่ทั่วโลก 

บริษัทอาหารหลายแห่งดำเนินกิจการในระดับโลก ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์นี้สามารถช่วยให้พวกเขาเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตในส่วนต่างๆ ของโลก

วิธีลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหาร

ในการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารนั้นมีหลากหลายวิธีการ จะเลือกหลักมาๆ 3 วิธี


1.ลงทุนในหุ้นอาหารของบริษัทนั้นๆ นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีหลักทรัพย์ของโบรกเกอร์ทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น หลักทรัพย์บัวหลวง หลักทรัพย์ฟินันเซีย เป็นต้น และทำการซื้อขายหุ้นอาหารที่สนใจ ไม่ว่าจะด้วยวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือทางพื้นฐาน ตัวอย่างเช่น ซื้อหุ้น KO หรือโคคา โคลา จำนวน 100 หุ้นที่ราคาหุ้นละ 59.65$  ข้อดีคือ ได้ความเป็นเจ้าของหุ้นที่ถือจริง มีสิทธิต่างๆจากการถือหุ้น เช่นได้เงินปันผล ได้ประชุมผู้ถือหุ้น 


กราฟราคาหุ้นโคคาโคล่า หรือ KO

ที่มา Bing.com


2.ซื้อผ่านกองทุนรวม (Mutual Fund) เป็นกระบวนการทางการเงินที่นักลงทุนลงทุนเงินกับกองทุนรวมกันกับผู้ลงทุนคนอื่น ๆ เพื่อลงทุนในตลาดทางการเงิน โดยที่กองทุนจะถูกจัดการโดยผู้ดูแลกองทุนหรือผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการเลือกทรัพย์สินทางการเงินต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของกองทุนนั้น ๆ 


3.ลงทุนในรูปแบบของ CFD (Contract For Difference) ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เนื่องจาก CFD เป็นตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน ราคาของ CFD จึงมาจากสินทรัพย์อ้างอิง แตกต่างกับหุ้นตรงที่ไม่ได้แสดงถึงการลงทุนในบริษัท CFD จะมีข้อได้เปรียบทั้งส่วนของ มีเลเวอเรจ(อัตราทด) สามารถเทรดได้ทั้งสองฝั่ง ขาขึ้นและขาลง ตามสภาวะตลาด

  กราฟราคาหุ้นยัม กรุ๊ป หรือ YUM


จากกราฟหุ้น YUM หลังจากที่ลงมาทำ Low ต่ำสุดที่บริเวณ 110 $ / หุ้น เริ่มมีจังหวะกลับตัวขึ้นและเบรกแนวต้านขาลง กำลังทำกรอบแนวรับสำคัญที่ 120-125$ ดังนั้นถ้านักลงทุนต้องการจะซื้อเพื่อรอให้ราคาหุ้นขึ้นไป สามารถรอออเดอร์ฝั่ง BUY ที่โซนแนวรับดังกล่าว และถือไปขายที่ราคาแนวต้านสำคัญทางเทคนิคที่ 135$ และ 142$ ตามลำดับ


mitrade
💸 ห้ามพลาด!!! 💸
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

สรุป

ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปแนวทางการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารเบื้องต้น ซึ่งนักลงทุนควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะธุรกิจและปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว รวมถึงพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจ เช่น อัตราการเติบโตของรายได้ อัตรากำไรสุทธิ และความสามารถในการจ่ายปันผล เพื่อให้การลงทุนสอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ที่ตั้งไว้

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมต้องลงทุนหุ้นอาหาร

อุตสาหกรรมอาหารหรือหุ้นกลุ่มอาหารนั้น เป็นที่น่าสนใจหลายด้าน อาทิเช่น เป็นหุ้นแนวรับหรือมีความมั่นคงทางด้านการลงทุน เพราะไม่ว่าสภาวะใดอาหารล้วนเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องบริโภคซ้ำๆ ทำให้รายได้บริษัทเสถียร หรือแม้ยามสงครามหรือโรคระบาด ยิ่งจำเป็นที่จะต้องสะสม รวมถึงนวัตกรรมอาหารและเทรนต์ในอนาคตยิ่งทำให้หุ้นกลุ่มอาหารต้องมีติดไว้ในพอร์ตการลงทุน

วิธีการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารที่ได้รับความนิยมคือ

การลงทุนในรูปแบบของ CFD หรือสัญญาส่วนต่าง เป็นที่นิยมของนักลงทุนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ด้วยข้อดีดังต่อไปนี้ - มีเลเวอเรจช่วยให้ใช้เงินทุนน้อยลงในการทำกำไร - มีสินค้าให้เลือกลงทุนอย่างหลากหลายนอกจากหุ้น ไม่ว่าจะ คู่เงิน ทองคำ ดัชนีหุ้น หรือน้ำมัน - มีบัญชีทดลองให้ได้ฝึกฝนการเทรดหรือรูปแบบการลงทุนต่างๆให้คุ้นเคย โดยที่ Mitrade ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ยอดนิยมของ CFD มีเงินทดรองมูลค่าสูงถึง 50,000 USD

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
บิทคอยน์ (Bitcoin) คืออะไร? ศึกษาให้ดีก่อนลงทุน ห้ามพลาด! บทความนี้จะตอบคำถามทั้งหมดที่นักลงทุนที่สนใจลงทุนใน Bitcoin รวมถึง Bitcoin คืออะไร, Bitcoin ทำงานอย่างไร, การขุด Bitcoin คืออะไรและได้เงินจริงไหม, จัดเก็บ bitcoin อย่างไร, บิทคอยน์ ผิดกฎหมายไหม พร้อมคำถามที่น่าตื่นเต้นที่สุด - วิธีเริ่มต้นเทรด Bitcoin นะครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 18 พ.ค. 2023
บทความนี้จะตอบคำถามทั้งหมดที่นักลงทุนที่สนใจลงทุนใน Bitcoin รวมถึง Bitcoin คืออะไร, Bitcoin ทำงานอย่างไร, การขุด Bitcoin คืออะไรและได้เงินจริงไหม, จัดเก็บ bitcoin อย่างไร, บิทคอยน์ ผิดกฎหมายไหม พร้อมคำถามที่น่าตื่นเต้นที่สุด - วิธีเริ่มต้นเทรด Bitcoin นะครับ
placeholder
6 หุ้น AI หรือหุ้น ปัญญาประดิษฐ์ ที่น่าจับตามองบทความนี้จะพูดถึงหุ้น AI ที่น่าจับตามอง และเป็นหุ้นที่น่าลงทุน รวมไปถึงการนำ AI เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการพอร์ตของนักลงทุน สามารถอ่านในบทความกันได้เลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 17 พ.ค. 2023
บทความนี้จะพูดถึงหุ้น AI ที่น่าจับตามอง และเป็นหุ้นที่น่าลงทุน รวมไปถึงการนำ AI เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการพอร์ตของนักลงทุน สามารถอ่านในบทความกันได้เลย
placeholder
วิเคราะห์แนวโน้มราคาบิทคอยน์ 2024 จะไปในทิศทางใดบทความนี้จะเป็นการเรียบเรียงข้อข้อมูลเกี่ยวกับ “Bitcoin” โดยตรง รวมไปถึงการวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ 10 ปีย้อนหลัง การวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ปี 2023 และวิเคราะห์บทสุปราคาบิทคอยน์จะขึ้นหรือลดลงและยังน่าลงทุนอยู่ไหมในปี 2024
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 19 พ.ค. 2023
บทความนี้จะเป็นการเรียบเรียงข้อข้อมูลเกี่ยวกับ “Bitcoin” โดยตรง รวมไปถึงการวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ 10 ปีย้อนหลัง การวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ปี 2023 และวิเคราะห์บทสุปราคาบิทคอยน์จะขึ้นหรือลดลงและยังน่าลงทุนอยู่ไหมในปี 2024
placeholder
มีเงิน 20,000 ลงทุนอะไรดีให้เหมาะกับตัวเอง วันนี้ผมมี 6 วิธีการลงทุน ที่จะทำให้เงินให้งอกเงย ตั้งแต่ผลตอบแทนน้อย ไปยังผลตอบแทนสูง แต่เพื่อนๆ อย่าลืมว่า ผลตอบแทนแทนที่คาดหวังสูง ก็จะมาพร้อมความเสี่ยงที่สูงตามนะครับ มาดูกันเลย!!
ผู้เขียน  ปรีชา มานพInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
วันนี้ผมมี 6 วิธีการลงทุน ที่จะทำให้เงินให้งอกเงย ตั้งแต่ผลตอบแทนน้อย ไปยังผลตอบแทนสูง แต่เพื่อนๆ อย่าลืมว่า ผลตอบแทนแทนที่คาดหวังสูง ก็จะมาพร้อมความเสี่ยงที่สูงตามนะครับ มาดูกันเลย!!
placeholder
ราคาบิทคอยน์ย้อนหลัง ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา และการคาดการณ์อนาคตแนวโน้มราคา บิทคอยน์วันนี้ไปถึงไหนแล้ว ในบทความนี้จะพาทุกคนมาดูข้อมูลล่าสุดของราคาเหรียญสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin ว่ามีราคาเพิ่มขึ้นลดลงอย่างไรบ้าง และเหรียญ BTC จะมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นในปี 2024 หรือไม่อย่างไรไปดูกันได้เลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 05 พ.ค. 2023
แนวโน้มราคา บิทคอยน์วันนี้ไปถึงไหนแล้ว ในบทความนี้จะพาทุกคนมาดูข้อมูลล่าสุดของราคาเหรียญสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin ว่ามีราคาเพิ่มขึ้นลดลงอย่างไรบ้าง และเหรียญ BTC จะมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นในปี 2024 หรือไม่อย่างไรไปดูกันได้เลย
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์