กองทุนหุ้นจีนกองไหนดี แนะนำ 10 กองทุนจีนที่น่าสนใจในปี 2567
กองทุนหุ้นจีน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกองทุนรวมของต่างประเทศที่น่าสนใจ เนื่องจากว่าประเทศจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แม้ว่าในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาตลาดกองทุนรวมหุ้นจีนจะอยู่ในช่วงขาลงบ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ เนื่องจากว่าเป็นประเทศที่มีสภาพคล่องททางเศรษฐกิจสูง บทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ กองทุนหุ้นจีนมีกี่ประเภท พร้อมทั้งแนะนำ 10 กองทุนจีน กองไหนดี 2567 ที่น่าลงทุน ใครที่กำลังมองหากองทุนรวมดีๆของต่างประเทศที่น่าลงทุนติดตามได้ในบทความนี้เลย
กองทุนหุ้นจีนคืออะไร มีกี่ประเภท
กองทุนหุ้นจีน ถือว่าเป็นอีกกองทุนที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเป็นกองทุนที่มีการจดทะเบียนบริษัททั้งในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ตลาดหุ้นในเขตการปกครอง และตลาดหุ้นโลกอีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเศรษฐกิจของจีนนั้น โดดเด่นไปในทางในเรื่องของตลาดเงิน เทคโนโลยี ตลอดจนถึงในเรื่องของ Ecommerce จนทำให้มูลค่าตลาดหุ้นนั้นมีสภาพคล่องสูง ดังนั้นก่อนที่เราจะเข้าไปลงทุนในกองทุนรวมของประเทศจีน เราต้องมาทำความรู้ก่อนว่ากองทุนรวมหุ้นจีนนั้นมีกี่ประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้
กองทุนรวมที่ลงทุนแบบดัชนี (Passive Fund) คือ กองทุนรวมดัชนี Index Fund ทางกองทุนหุนจีนก็มีเช่นกัน ซึ่งจะเป็นลักษณะการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีหุ้นให้ได้มากที่สุด ถือว่าเป็นรูปแบบการลงทุนในกองทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับดี ทั้งนี้ยังมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ เหมาะสมหรับคนที่เริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ
กองทุนรวมที่แบบหุ้นรายตัว (Active Fund) คือ รูปแบบการลงทุนแบบเชิงรุก มีความเสี่ยงสูง ได้ผลตอบแทนดี มีตัวเลือกกองทุนที่หลากหลายมากว่าแบบแรก จุดเด่นของกองทุนประเภทนี้จะเน้นไปเรื่องของความสมารถของผู้จัดการกองทุนที่ต้องการได้รับผลแทนที่สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดนั่นเอง
รูปแบบของการลงทั้ง 2 ประเภทนี้จะมีรายละเอียดแจ้งอยู่ในหนังสือชี้ชวนของกองทุนนั้นๆ นักลงทุนทุกท่านควรอ่านพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพื่อป้องกันเสียสินทรัพย์ของตัวท่านเอง
แนะนำ 10 กองทุนจีน กองไหนดี 2567 ที่น่าลงทุน
มาถึงประเด็นที่น่าสนใจคือการแนะนำ 10 กองทุนรวมหุ้นจีน กองไหนดี ทางผู้เขียนได้การคัดเลือกกองทุนรวมให้ผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.UOBSGC กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เกรธเธอร์ ไชน่า
คือ กองทุนรวมประเภทตราสารทุน ไม่มีขั้นต่ำในการเข้าซื้อครั้งแรก เป็นกองทุนรวมที่เข้าลงทุนในกองทุน United Greater China Fund Class A SGD Acc กองทุนหลักจัดตั้งและบริหารจัดการโดย UOB Asset Management (Singapore) โดยทางกองทุนหลักใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก (active management) ไม่มีจ่ายปันผล ความเสี่ยงสูงระดับ 6
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ +8.43%
2.TMBCHEQ กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index
คือ กลุ่มกองทุนรวมในตลาดเงิน ที่มีการเน้นลงทุนในในกองทุนของ iShares FTSE A50 China Index ETF มีกลยุทธ์การลงทุนในรูปแบบ Passive Fund ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี FTSE China A 50 Net Total Return Index รายละเอียดการซื้อขายขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 1 บาท ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล ความเสี่ยงสูงระดับ 6
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -11.91%
3.SCBCHAE กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
คือ กองทุนรวมประเภทตราสารทุน เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว มีกลยุทธ์การบริหารในรูปแบบ Passive Fund ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี CSI 300 รายละเอียดการซื้อขายขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 1 บาทไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล ความเสี่ยงสูงระดับ 6
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -13.91%
4.K-CHX กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นจีน เป็นตราสารทุน
โดยจะเน้นลงทุนไปในเหน่วยลงทุนของกองทุน CSOP FTSE China A50 ETF (RMB) (กองทุนหลัก คือ กองทุนหลักเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง) นอกจากนี้ยังมีกองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ มีกลยุทธ์การบริหารในรูปแบบ Passive Fund ที่ให้มีผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นจีน FTSE China A50 โดยรายละเอียดการซื้อขายขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 500 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -12.62%
5.SCBCHA กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ ชนิดจ่ายเงินปันผล
ยังคงเป็นกองทุนรวมประเภทตราสารทุน แต่มีความโดดเด่นกว่าทุนรที่กล่าวมา คือมีการจ่ายปันผล ทั้งนี้ยังมีกลยุทธ์รูปแบบการบริหารกองทุนแบบ Passive Fund ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี CSI 300 แต่ว่าการมีความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนในตัวสกุลเงินหยวนอยู่เช่นกัน โดยรายละเอียดการซื้อขายขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 1 บาทเท่านั้น
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -14.77%
6.SCBCHAP กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ ชนิดผู้ลงทุนกลุ่ม/บุคคล
เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) นั่นก็คือ ChainaAMC CSI 300 Index ETF (กองทุนหลัก) สกุลเงินหยวน (RMB) กลยุทธ์การบริหารกองทุนก็คือ Passive Fund จ่ายผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี CSI 300 นั่นเอง ไม่มีการจ่ายปันผล
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -14.73%
7.SCBCEE กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ Hang Seng China Enterprises Index ETF (กองทุนหลัก) โดยมีการจ่ายผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (H-Share Index) เป็นกลยุทธ์การลงแบบ Passive Fund นั่นเอง ไม่มีการจ่ายเป็นปันผล
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -11.56%
8.KF-HCHINAD กองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควิตี้เฮดจ์ปันผล
เป็นอีกหนึ่งกองทุนรวมที่น่าสนใจ มีการจ่ายปันผลและเน้นลงทุนไปในกองกองทุน FSSA Greater China Growth Fund(กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ออกโดยบริษัทที่มีแหล่งรายได้จากประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวันเป็นต้น ดำเนินกลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Fund
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -15.07%
9.KFCHINARMF กองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ
มีลักษณะการบริหารจัดการกองทุนคล้ายกับกองตัวที่ 8 ที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ แต่ว่าจะมีข้อต่างกันก็คือ กองนี้จะเน้นลงทุนในกองทุนรวมของต่างประเทศ FSSA Greater China Growth Fund (Class I - USD) เป็นหลัก มีความเสี่ยงในเรื่องของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริการเข้ามาเกี่ยวข้อง และกองทุนที่ไม่จ่ายปันผลอีกด้วยเช่นกัน
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -15.20%
10.SCBMLCAA กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Machine Learning China All Share ชนิดสะสมมูลค่า
เป็นกองทุนตัวสุดท้ายที่มีความน่าสนใจมาก เนื่องจากว่ามีนโยบายลงทุนในตราสารทุนที่ออกโดยบริษัทสัญชาติจีนเป็นหลัก โดยการลงทุนดังกล่าวส่งผงให้มี net exposure มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Fund คือ จ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนสูงกว่าเกณฑ์ จุดเด่นของทุนรวมตัวนี้ คือ ทางบริษัทมีการคัดหลักทรัพย์อย่างเข้มงวด โดยจะต้องเป็นกลุ่มหลัดทรัพย์ที่มีดารจดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (H-Share) ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเสินเจิ้น (A-Share) และหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับประเทศจีน เท่านั้น
ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี คือ -15.20%
แหล่งที่มาของข้อมูลในแต่กองทุนนั้นมาจากเว็บการเงิน : wealthmagik และ morningstarthailand
คำสรุป
จะเห็นได้ว่ากองทุนรวมจีนที่เราได้แนะนำไปนั้น ส่วนมากจะเป็นกองทุนรวมที่อยู่ในกลุ่มของตลาดเงินเป็นหลัก และมีการกลยุทธ์ในการจ่ายผลตอบแทนแบบ Passive Fund จ่ายราคาจริงและใกล้กับดัชนีหุ้นของตลาด เนื่องจากว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงได้อีกระดับหนึ่งให้แก่ผู้ลงทุน กองทุนที่เราแนะนำในบทความนี้ เป็นการแชร์ความรู้เพียงเท่านั้นไม่ได้เป็นการชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนโปรดศึกษาให้ดีก่อนลงทุน เนื่องจากว่าการลงทุนในกองทุนรวมของต่างประเทศนั้นมีความเสี่ยงสูง
★★ ฝึกฝนเทรดหุ้นต่างประเทศกับ Mitrade ด้วยเงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลล่าร์ 💰💰💰↓↓↓
เทรดหุ้นที่ยอดนิยมทั่วโลก 400 + ตัว
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน