EBITDA คืออะไร ทำไมวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ชอบ แต่เรายังควรดู?

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

EBITDA คืออะไร? ทำไมตัวเลขนี้นักลงุทนระดับตำนานอย่าง คุณปู่ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ถึงไม่เห็นด้วยเอาเสียเลย! และบอกอีกว่ามันไม่ได้ช่วยบ่งบอกความสามารถของบริษัทหรือกิจการนั้น ๆ ได้อย่างแท้จริง แต่ทำไมนักลงทุนหลายต่อหลายคนก็ยังเลือกที่จะพิจารณาค่า EBITDA ควบคู่ไปกับการดูตัวเลขอื่น ๆ ก่อนตัดสินใจเข้าลงทุนล่ะ? แท้จริงแล้ว EBITDA เป็นอย่างไรและมีข้อควรระวังอะไรบ้างที่เราต้องรู้ บทความนี้รวบรวมมาให้แล้ว อ่านจบคุณจะตัดสินใจได้ทันทีว่าควรใช้ EBITDA ในทิศทางไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด

EBITDA คืออะไร

EBITDA ย่อมาจาก Earnings Before Interest, Tax, Depreciation, and Amortization แปลได้ว่า กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ซึ่งกล่าวง่าย ๆ ก็คือ “กำไรจากการดำเนินงาน ส่วนที่เป็นเงินสด” นั่นเอง


ตัวอย่างบริษัทที่นิยมแสดงตัวเลข EBITDA ในการแสดงความสามารถในการดำเนินกิจการ เช่น Tesla, SEA Group และ Start-Up ต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ในช่วง Growth Stage หรือกำลังมีการเติบโตสูง ๆ

EBITDA สำคัญอย่างไรต่อนักลงทุน

EBITDA


EBITDA คือ ตัวชี้วัดว่าธุรกิจนั้น ๆ มีความสามารถในการทำกำไรมากแค่ไหน โดยที่ไม่ต้องคิดต้นทุนทางการเงิน นโยบายทางบัญชีและภาษี ดังนั้น EBITDA จึงเป็นการวัดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา สามารถใช้วัดความสามารถของธุรกิจต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันได้เป็นอย่างดี


ตัวอย่างเช่น บริษัท A มีค่า EBITDA สูงกว่า บริษัท B ก็หมายความได้ว่ามีความสามารถในการทำกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายหลาย ๆ ด้าน ได้มากกว่านั่นเอง


แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องระวังเพราะค่า EBITDA อาจจะออกมาดีเกินกว่า “รายได้สุทธิ” เพราะมันไม่ได้นับค่าใช้จ่ายหลาย ๆ ส่วน และถึงแม้ธุรกิจนั้นจะขาดทุน ค่า EBITDA ก็สามารถเป็นบวกได้เช่นกัน

วิธีคำนวณ EBITDA

สูตรคำนวณ EBITDA = กำไรก่อนค่าภาษีเงินได้ + ต้นทุนทางการเงิน + ค่าเสื่อมราคา + ค่าตัดจำหน่าย


หรือ


สูตรคำนวณ EBITDA คือ EBIT + ค่าเสื่อมราคา + ค่าตัดจำหน่าย


▲ ตัวอย่างการคำนวนด้วยสูตร EBITDA 

ตัวอย่างการคำนวณค่า EBITDA ของบริษัท THAI PRESIDENT FOODS จากงบการเงินปี 2563


โดยใช้สูตรคำนวณค่า EBITDA = กำไรก่อนค่าภาษีเงินได้ + ต้นทุนทางการเงิน + ค่าเสื่อมราคา + ค่าตัดจำหน่าย

ก่อนอื่นเราต้องไปสำรวจตัวเลขดังต่อไปนี้ ในงบการเงินของบริษัทก่อน


  • ตัวเลข “กำไรก่อนค่าภาษีเงินได้” ปี 2563 คือ 5,997,820,107 บาท


กำไรก่อนค่าภาษีเงินได้



  • ตัวเลข “ต้นทุนทางการเงิน” ปี 2563 คือ 2,831,397 บาท



กำไรก่อนค่าภาษีเงินได้



  • ตัวเลข “ค่าเสื่อมราคา” ปี 2563 คือ 1,207,201,652 บาท


ค่าเสื่อมราคา



  • ตัวเลข “ค่าตัดจำหน่าย” ปี 2563 คือ 8,860,374 บาท


ค่าตัดจำหน่าย





คำนวณหาค่า EBITDA


จากสูตร  EBITDA = กำไรก่อนค่าภาษีเงินได้ + ต้นทุนทางการเงิน + ค่าเสื่อมราคา + ค่าตัดจำหน่าย


EBITDA = (5,997,820,107 + 2,831,397 + 1,207,201,652 + 8,860,374)

EBITDA = 7,216,713,530 บาท


ดังนั้น ค่า EBITDA ของบริษัท THAI PRESIDENT FOODS จากงบการเงินปี 2563 คือ 7,216,713,530 บาท


สามารถดูค่า EBITDA ได้จากที่ไหน

ปกติแล้วค่า EBITDA จะไม่ได้แสดงในรายงานทั่วไปในงบการเงินของบริษัท แต่ก็มีบางบริษัทที่ใส่ข้อมูลในส่วนนี้ไว้ โดยส่วนมากจะอยู่ใน “รายงานประจำปี” ตัวอย่างดังภาพ จากบริษัท MINOR INTERNATIONAL


ebitda



แต่ถ้าบริษัทที่คุณสนใจไม่ได้แสดงรายการ EBITDA ไว้ คุณก็สามารถคำนวณด้วยสูตรของ EBITDA ได้เลยเช่นเดียวกัน ซึ่งข้อมูลของสิ่งที่ต้องใช้คำนวณจะแสดงอยู่ในงบการเงินทั้งหมด


EBITDA ใช้อย่างไร

EBITDA คือ ตัวเลขที่เหมาะสมในการใช้เปรียบเทียบความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท เพื่อดูว่ามันเป็นกี่เท่าในการจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งยิ่งค่ามากถือว่ายิ่งดี สามารถใช้เปรียบเทียบความสามารถของบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ แต่แนะนำว่าควรใช้ค่า EBITDA ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 1-2 ปีเท่านั้น ไม่เหมาะกับการใช้ในระยะยาว เนื่องจากค่า EBITDA จะมีค่าเสื่อมราคาที่เกิดขึ้นจริง

ค่า EBITDA Margin เท่าไหร่ถึงจะดี

EBITDA Margin คือ อัตราส่วนระหว่าง EBITDA กับรายได้ทั้งหมดของบริษัท


สูตร EBITDA Margin = EBITDA / รายได้ทั้งหมดของบริษัท x 100


ระดับ EBITDA Margin ที่ดีซึ่งสะท้อนความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรมากกว่า 10 ขึ้นไป และยิ่งค่า EBITDA Margin สูงเท่าไร ก็ยิ่งหมายความว่าบริษัทนั้นมีความเสี่ยงทางการเงินที่น้อยกว่าเท่านั้น

EBITDA vs Operating Income

Operating Income คือ รายได้จากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นรายได้หลักที่ได้มาจากการดำเนินธุรกิจตามวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร เช่น รายได้จากการขายสินค้าและบริการ หรือ รายได้จากการให้ผลิตสินค้าและจัดจำหน่าย เป็นต้น


สูตร Operating Income = รายได้รวม (Gross Income) – ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operation Expenses)

*รายได้รวม (Gross Income) = ยอดขายสุทธิ (Net Income) - ต้นทุนขาย (Cost of goods Sold)


ซึ่ง Operating Income มีความแตกต่างจาก EBITDA อยู่ คือ EBITDA คือการแสดงถึงผลกำไรที่บริษัททำได้ โดยไม่ได้หักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ออกไปด้วย 


ในขณะที่ Operation Income มีการหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวกับการดำเนินงานทางธุรกิจทั้งหมด หมายถึงว่า มีการหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ออกไปด้วยนั่นเอง


เพื่อให้เห็นภาพความเกี่ยวข้องและความแตกต่างระหว่าง EBITDA กับ Operating Income อย่างชัดเจนมากขึ้น เราได้แสดงเป็นตารางเปรียบเทียบดังนี้



EBITDA

Operating Income

นิยาม

EBITDA เป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้ในการบ่งบอกความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

Operating Income เป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้ในการบ่งบอกกำไรที่จากการดำเนินงานของบริษัท

การใช้

เพื่อคำนวณศักยภาพในการสร้างกำไรของบริษัท

เพื่อให้แน่ใจว่ารายได้สามารถแปลงเป็นกำไรได้มากเพียงใด

การคำนวณ

EBITDA = กำไรก่อนค่าภาษีเงินได้ + ต้นทุนทางการเงิน + ค่าเสื่อมราคา + ค่าตัดจำหน่าย

Operating Income = รายได้รวม (Gross Income) – ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operation Expenses)

การยอมรับ

EBITDA ไม่ใช่มาตรการทางบัญชีอย่างเป็นทางการของ GAAP

Operating Income เป็นมาตรการทางบัญชีอย่างเป็นทางการของ GAAP

การปรับเปลี่ยน

มีการบวกเพิ่มค่าดำเนินการ เช่น ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายโดยบริษัท

ไม่มีการบวกเพิ่มค่าเสื่อมราคาและค่าตัดราคา

ข้อควรระวังในการใช้ EBITDA

แน่นอนว่าถึงแม้ค่า EBITDA คือ สิ่งที่สะท้อนความสามารถของธุรกิจในการสร้างผลกำไร แต่ก็ยังมีข้อควรระวังของการใช้ค่า EBITDA ที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญ ดังนี้


● EBITDA คือ ตัวเลขที่ปรับแต่งได้

ค่า EBITDA นั้นเป็นตัวเลขที่ปรับแต่งได้ เนื่องจากมีการบวกเพิ่มค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเข้าไป จุดนี้อาจมีการแต่งตัวเลขเพิ่มจากบริษัท เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเกินความเป็นจริงได้


● การคำนวณ EBITDA อาจผิดพลาดได้

ค่า EBITDA เป็นตัวเลขที่ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของความสามารถของบริษัทได้แม่นยำนัก ความผิดพลาดนั้นอาจจะเป็นการที่บริษัทมีหนี้ที่ต้องจ่ายเยอะ หรือ ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นสัญญาณที่ไม่ดี แต่สวนทางกับตัวเลขของ EBITDA ที่ยังคงดูสูงจนอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นบริษัทที่มีการดำเนินการที่ดีอยู่


● EBITDA ไม่ได้สะท้อนความเก่งของบริษัทอย่างแท้จริง

เนื่องจาก EBITDA คือ ตัวเลขที่ทำการบวกค่าใช้จ่ายในส่วนที่คาดว่าไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการหลัก เช่น ค่าเสื่อมราคา, ค่าตัดจำหน่าย, ดอกเบี้ยและภาษี แต่ในความเป็นจริงนั้น อย่างไรค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่เจ้าของบริษัทหรือกิจการจำเป็นต้องใช้ความสามารถในการควบคุมให้อยู่ในจำนวนที่ไม่สูงเกินไปอยู่ดี เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณเงินทุนหมุนเวียนให้เหมาะสม แต่ถ้าเลือกจะไม่นำไปคิดคำนวณแล้ว ก็เท่ากับว่าไม่ได้พิจารณาเรื่องของสภาพคล่องของบริษัท และนั่นก็สะท้อนได้ว่าตัวเลข EBITDA ไม่ได้บ่งบอกถึงความสามารถของบริษัทอย่างแท้จริง


สรุป

EBITDA (Earnings Before Interest, Tax, Depreciation, and Amortization) เป็นตัวเลขที่แสดงการทำกำไรจากการดำเนินงานของกิจการ โดยไม่ได้นำค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการหลัก ได้แก่ ดอกเบี้ยและภาษี, ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย มาหักลบออก เนื่องจากมีแนวคิดว่าค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไม่ได้สะท้อนถึงความสามารถอย่างแท้จริงว่าบริษัทนั้น ๆ มีความเก่งในการสร้างกำไรได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นการใช้ EBITDA เพื่อตัดสินใจลงทุนเพียงอย่างเดียวก็ไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีนัก เนื่องจากนักลงทุนหลายคนก็มองว่า EBITDA ไม่ได้สะท้อนประเด็นของ “สภาพคล่อง”ของบริษัท ดังนั้นแล้วควรพิจารณาร่วมกับตัวเลขอื่นและปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องร่วมด้วย

บทความที่เกี่ยวข้องที่คุณอาจจะสนใจด้วย >>>

วิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียด

เปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี? 10 โบรกเกอร์ที่น่าเปิดพอร์ตหุ้น

ROA คืออะไร และ ROA ที่ดีเป็นยังไง

EPS คืออะไร นักลงทุนใช้ EPS มาทำอะไรได้บ้าง

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
How to วิธีเทรดหุ้นแบบละเอียดสำหรับมือใหม่หัดเทรด 2024การเริ่มต้นเทรดหุ้นอาจดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ แต่ด้วยความเข้าใจพื้นฐานและการวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเทรดหุ้นแบบละเอียด พร้อมทั้งวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณเริ่มต้นการเล่นหุ้นได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในเส้นทางการลงทุน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 12 พ.ค. 2023
การเริ่มต้นเทรดหุ้นอาจดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ แต่ด้วยความเข้าใจพื้นฐานและการวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเทรดหุ้นแบบละเอียด พร้อมทั้งวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณเริ่มต้นการเล่นหุ้นได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในเส้นทางการลงทุน
placeholder
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 25 พ.ค. 2023
การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2567 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
placeholder
เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี? 8 โบรกเกอร์หุ้นที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2024ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 24 พ.ค. 2023
ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
placeholder
ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?ก่อนเทรดหุ้นต้องรู้การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
placeholder
แนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุน! หุ้นตัวไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2567ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 14 ก.ค. 2023
ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์