หุ้นบลูชิพ[blue chip]คืออะไร แนะนำหุ้นบลูชิพ[blue chip]ในไทยและต่างประเทศ
แวดวงตลาดหุ้น คือการลงทุนที่มีความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ แม้ว่าโลกจะมีสถานการณ์เปลี่ยนไปในรูปแบบใด ตลาดหุ้นยังคงยืนยันได้อย่างแข็งแกร่งในทุกสถานการณ์ ในภาวะการณ์ที่เกิดความเปลี่ยนแปลง ก็จะมีหุ้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมา ซึ่งในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ เรื่องราวของ หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ถูกหยิบยกขึ้นมาว่าเป็นกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในการลงทุน สำหรับมือใหม่หัดลงทุน คงอยากทำความรู้จักหุ้นและอยากรวยไปด้วยกันกับนักลงุทนผู้มากประสบการณ์พร้อมกันกับ หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] การที่เรามีข้อมูล หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] อยู่ในมือ คือความได้เปรียบที่จะช่วยกระดับเราให้เป็นนักลงทุนที่มีองค์ความรู้มากกว่านักลงทุนทั่วไป ไปทำความรู้จักกับหุ้นทำเงินในภาวะวิกฤตอย่าง หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ทั้งในตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศกันครับ
หุ้นบลูชิพ [blue chip] คืออะไร - ทำความรู้จักผู้ช่วยพารวยกลุ่มใหม่ในตลาดหุ้น หุ้นบลูชิพ [blue chip]
เชื่อแน่ว่าสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ คงไม่มีใครได้ยินเรื่องราวของหุ้นกลุ่ม หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] เป็นแน่ มองหาบนกระดานการซื้อขายหุ้น ก็ไม่มีรหัสบอกให้รู้ว่า หุ้นตัวไหนกันหนอคือหุ้นกลุ่ม หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ในความเป็นจริงแล้ว การกำหนดนิยามความหมายของ หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] นั้นไม่ได้เป็นการเจาะจงในกลุ่มหุ้น และการลงทุนในรูปแบบปกติ แล้วมือใหม่อย่างเรา จะรู้ได้อย่างไรว่า ตัวไหนคือหุ้นทำเงินในกลุ่ม หุ้นบลูชิพ [ blue chip ]
นิยามความหมายของหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ถือเป็นศัพท์แสลงในวงการหุ้นครับ โดยรากฐานคำที่ใช้เรียกหุ้นในกลุ่มนี้มาจากแวดวงการพนัน โดยมีพื้นฐานมาจากชิพสีต่าง ๆ ที่ใช้ในการเล่นการพนัน โดยที่ชิพสีน้ำเงินจะมีมูลค่าสูงที่สุด ดังนั้น เมื่อมีการนำคำว่า หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] มาใช้อธิบายลำษณะของหุ้น จึงมีความหมายว่า หุ้นตัวนั้นมีความแข็งแกร่งระดับเสริมใยเหล็ก มีทุนในการประกอบกิจการสูงมาก อีกทั้งยังมีผลกำไรเติบโตอย่างโตเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีทั้งในภาคธุรกิจและผู้ถือหุ้นทั้งหลาย ถ้าจะเปรียบเปรยแบบสาย VI คงต้องบอกว่า หุ้นในกลุ่ม หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] เพชรประดับยอดมงกุฎของกลุ่มหุ้น VI เป็นแน่ เพราะพื้นฐานของหุ้น VI คือ หุ้นที่มีการจ่ายปันผลดี ถือเก็บกินผันผลระยะยาวได้ แล้วยิ่งถ้าเป็น VI ที่เป็น หุ้น บลูชิพ [ blue chip ] มันจะแข็งแกร่งมันคงขนาดไหน
อีกซักนิด ก่อนชวนคุณผู้อ่านไปลงทุนหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ทั้งในและต่างประเทศ ขอฝากเกร็ดความรู้เคียงคู่โต๊ะกาแฟ เวลาไปคุยกับใครแล้วเขาคุยเรื่องหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] จะได้คุยกับเขารู้เรื่องแบบถึงแก่น ชนิดที่คนฟังต้องอุทานว่า “ เฮ้ย คนนี่รู้จริงแฮะ ” ที่มาของการเรียกหุ้นซักตัวที่มีความแข็งแกร่งในระดับโคตรเพชรแห่งวงการหุ้นทั้งในแง่เงินลงทุนและผลตอบแทน เกิดขึ้นครั้งแรกในปี คศ.1923 โดยเจ้าหน้าที่ของตลาดหุ้น Dow Jones ชื่อ โอลิเวอร์ จินโกลด์ ( Oliver Gingold ) เขาสังเกตเป็นหุ้นบางตัวมีราคาซื้อขายที่สูงถึง 200$ ต่อหุ้น ถือว่าเป็นราคาที่แพงมากในขณะนั้น เขาจึงใช้คำว่า บลูชิพ [ blue chip ] เพื่อกำหนดลักษระพิเศษของหุ้นเหล่านี้เพื่อง่ายต่อการติดตาม ทำให้หลังจากนั้นคำนี้จึงถูกใช้เรียกหุ้นที่มีความมั่นคงในระดับสูงที่สุด ทั้งมูลค่าการตลาด เงินทุนสำหรับการลงทุน เรียกได้ว่า ไม่แกว่งกันง่าย ๆ
หุ้นกลุ่ม บลูชิพ [ blue chip ] ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักลงุทนที่ต้องการทำกำไรระยะยาว รวมถึงกระได้รับผลตอบแทนเป็นประจำในต่างประเทศ มีข้อมูลที่น่าสนใจบอกว่า นักลงทุนวัยเกษียณที่ต้องการลงทุนโดยที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงสูงมาก จะมีสัดส่วนการถือหุ้นกลุ่มบลูชิพ [ blue chip ] ในพอร์ตการลงทุนของเขาในระดับ 40-60 % ของพอร์ตการลงทุนเลยทีเดียว เรียกว่า เป็นหุ้นเนื้อหอมของกลุ่มนักลงทุนสูงวัย ที่ผมมองว่า ถ้าเราสามารถไล่เก็บหุ้นในกลุ่ม บลูชิพ [ blue chip ] ไว้เรื่อย ๆ และถือครองไว้จนถึงวันเกษียณอายุการทำงานของตัวเอง มันคงสร้างมูลค่าให้กับเราอย่างมหาศาลทีเดียว
การพิจารณาหลักเกณฑ์หุ้นตัวใดเข้าขั้นการเป็นหุ้นกลุ่ม บลูชิพ [ blue chip ]
เอาละครับ กระเป๋าสั่นกันแล้วใช่ไหม รู้กันแล้วล่ะที่นี้ว่า มีหุ้นสุดยอดหุ้นทำเงินแฝงอยู่ในตลาดหุ้น วันนี้ฉันจะออกไปช้อนซื้อหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] มาเก็บไว้บ้าง ว่าแต่ เอ กระดานหุ้นไทยมีหุ้นมากมายก่ายกอง แล้วนักลงทุนหน้าใหม่ หวังมีชีวิตที่ดีอย่างฉันจะถือหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ตัวไหนดีหนอ เพื่อช่วยให้ทุกคนได้พบกันหุ้นทองคำ พากระเป๋าสั่นให้อย่างซื้อเก็บไว้ ขอนำข้อมูลลับฉบับคนเล่นหุ้นซุบซิบกันว่า วิธีการค้นหาหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] บนกระดานยการลงทุนของไทย เขาใช้อะไรเป็นตัวคัดกรอง ซึ่งสามารถแจกแจงรายละเอยด เป็นข้อมูลพื้นฐานให้นักลงทุนได้ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นถูกตัวกันนะครับ โดยธรรมชาติของหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] มีลักษณะดังนี้
มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามการตลาด [ Market Capitalization ] ในระดับสูงมาก สำหรับตลาดหุ้นไทย กำหนดไว้ว่า มูลค่าหลักทรัพย์ทางการตลาดของหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ต้องมีมูลค่าที่สูงกว่า หนึ่งแสนล้านบาทขึ้นไป
มีผลกำไรต่อเหนือติดต่อกันยาวนาน 5 ปีขึ้นไป
มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงมาก เรียกได้ว่าประกาศขายเมื่อไหร่ ไม่เคยเหลือเผื่อเศษหุ้นไว้ให้นักลงทุนเล็ก ๆ ได้เก็บกัน
ผลิตภัณฑ์ของหุ้นกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างของตลาด แม้อาจไม่ได้เป็นผู้นำหลัก แต่ถือเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดได้
นับว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการประกอบการตัดสินใจว่าหุ้นตัวได้คือ หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ที่นักลงทุนทั้งหลาย
ต่างเฝ้ามอง รอเข้าซื้อเพื่อการลงทุน ไม่อยากครับ เราสามารถฝึกได้ที่บ้านด้วยการอ่านงบการเงิน รวมไปถึงผลประกอบการของหุ้นหลาย ๆ ตัวแล้วลองตัดสินใจดูว่า มันใช่หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ที่เขาค้นหากันอยู่หรือเปล่า
ส่องกล้องมองหา 5 หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] สายพันธุ์ไทย
กระเป๋าสั่นกันล่ะทีนี้ รู้เทคนิคการหาหุ้นน้ำดี ราสวย ผลประกอบการเยี่ยม ปันผลเจ๋งอย่างหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] แต่จะดีกว่านั้นไหม ถ้าเราจะขอรีวิวหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] สายพันธืไทยให้นักลงทุนรุ่นใหม่ หรือคนทั่วไปที่พึ่งเริ่มเข้าสู่สนามการลงทุน ได้ช้อนซื้อหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ไว้ในพอร์ตการลงทุนของตัวเอง โดยการพิจารณาหุ้นที่มีการจากอัตราเงินปันผลในระดับ 3% ขึ้นไป ไล่เรียงตามลำดับดังนี้ครับ ไงดูข้อมูลเหล่านี้เสร็จแล้ว ลองเอาไปเข้าสูตรการวิเคราะห์หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ด้านบนดูนะครับว่าตรงกันไหม
★ TISCO บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หุ้นด้านการเงินที่มือพื้นฐานแข็งแกร่ง ด้วยมูลค่าตลา
3.03 แสนล้านบาท โดยมีค่าเปอร์เซ็นต์การปันผลที่ 8.41% โดยเมื่อเที่ยบกับมูลค่าหุ้นในปัจจุบันที่ 74.75 บาท ปรับตัวแบบสวิงขึ้นลง คงต้องมองจังหวะเข้าทำให้ดี หลายคนอทาจหวังซื้อขาย แต่เพราะความผันผวนของราคาสูงจึงต้องตัดสินใจให้ดีว่าจะลงทุนในรูปแบบใด
★ PTTGC บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีชั้นนำของเมืองไทย มูลค่าการตลาดสูงถึง 2.73 แสนล้านบาท ถือเป็นหุ้นที่มีการจ่ายอัตราปันผลสูงที่สุด อยู่ที่ 8.06% เมื่อเทียบกับอัตรามูลค่าหุ้นในตลาดวันนี้อยู่ที่ 46.25 บาท ซึ่งราคาปรับตัวจากราคาที่เคยแตะระดับสูงสุดที่ 60 บาท นับว่าเป็นดอกาสดีที่สามารถช้อนซื้อไว้ได้ โอกาสคืนทุนมาไวแน่
★ LH บริษัท บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)เรื่องสร้างบ้าน เราใส่ใจ บริษัทด้านการลงทุนในการ
ก่อสร้างและอสังหาริมทรัยพ์เจ้าดังของประเทศ โครงการบ้านของ LH เกิดขึ้นที่ไหนเรียกได้ว่า พาทำเลทองเกิดขึ้นตาม มูลค่าการตลาดสูงถึง 1.27 แสนล้านบาท อัตราการจ่ายปันผลอยู่ที่ 7.01% ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับราคาหุ้นแล้ว ราคาหุ้นถือว่าเก็บได้สบาย โดยราคาอยู่ที่ 6-10 บาท ซึ่งราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8 บาท เรียกได้ว่า โอกาสทำเงินมาแล้ว ช้อนซื้อด่วน
★ SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) แม้อาจไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งของราคาหุ้นสูงสุดในแวดวงธนาคาร
แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในเจ้าตลาดที่กำหนดทิศทางการเงินการลงทุน มูลค่าการตลาดอยู่ที่ 3.93 แสนล้านบาท อัตราการจ่ายปันผลอยู่ในระดับปานกลางที่ 4.74% เมื่อเทียบกับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงจาก 120 บาท มาอยู่ที่ระดับ 77 บาท เรียกได้ว่า ซื้อเพื่อเก็งกำไรก็ได้ กินปันผลก็ดี เชื่อแน่ว่า SCB สามารถทะยานกลับขึ้นมาในฐานราคาที่คุณพอใจ
★ INTUCH บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เบื้องหลังความสำเร็จในแวดวงการสื่อสาร INTUCH คือ
ตัวแทนในการติดตั้งเครือข่ายด้านการสื่อสารในประเทศไทย มูลค่าการตลาดอยู่ที่ 2.15 ล้านบาท โดยมีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4.03% กับราคาหุ้นที่อยู่ในระดับปานกลาง 56.25 บาท แม้ราคาค่อนข้าแงรงเมื่อเทียบกับปันผล ถือได้ว่าเก็บไปได้ยาว ๆครับ
ตะลุยไกลถึงต่างแดน เก็บหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] สายต่างประเทศ
สำหรับการเก็บหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ในสายการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ คงต้องพิจารณาจากตลาดการลงทุนในหุ้นว่าคุณจะเลือกลงทุนในตลาดหุ้นใด เพียงแต่ หัวใจสำคัญของการดูหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ในสายต่างประเทศ จะมองเรื่องการปันผลควบคู่กันไปด้วย สำหรับเกณฑ์การจ่ายเงินปันผลที่ถือเป็นมาตรฐานหลักในการเลือกหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ก็คือ อัตราการจ่ายปันผลจะต้องเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 5 ปี โดยมีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และมีผลตอบแทนในอัตราขั้นต่ำ 10% ต่อหุ้น
วิธีการง่าย ๆสำหรับการติดตามดูหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ในตลาดต่างประเทศ ให้ติดตามดูหุ้นในกลุ่ม SET ต่าง ๆ ของตลาดหุ้นนั้น ๆ โดยใช้สูตรในการพิจาร ณาตามข้างต้นครับยกตัวอย่างเช่นหุ้นของ NASDAQ หรือ นิเคอิ ว่าคุณสนใจหุ้นตัวใด แต่ถึงกระนั้นก็ขอแนะนำหุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ที่น่าสนใจในต่างประเทศซัก 5 รายการนะครับ
★ Berkshire Hathaway (ticker: BRK.B, BRK.A)มูลค่าการตลาด 1 พันล้านเหรียญ สหรัฐในนามการลงทุนของ
UNICOM โดยผู้บริหารใหญ่ของ Berkshire Hathaway (ticker: BRK.B, BRK.A) คือ ปู่ วอร์เรน บัฟเฟต์ ซึ่งมีมูลค่าการจ่ายปันผลสูงถึง 17 % เลยทีเดียว
★ AbbVie (ABBV) หุ้นในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์อาหารและยา ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเป็นผู้นำในด้านการผลิตยา
ที่สำคัญทั้ง HIV และ โรคซาร์ส โดยมีอัตราการจ่ายเงินปันผล 5.8% ต่อมูลค่าหุ้น 95 $ นับว่า ผลประกอบการใช้ได้ดีเลยทีเดียว
★ Alibaba Group Holding (BABA) บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนที่ทำผลกำไรจากการค้าบนโลกออนไลน์ได้อยากเป็น
กอบเป็นกำ แม้ยังอาจมีความสงสัยไม่ใคร่วางใจกับการเจริญเติบโตของบริษัทว่าจะยั่งยืนหรือหวือหวาชั่วคราว การถือครองหุ้นของ อาลีบาบา ยังคงน่าสนใจในช่วงขาคืนของการซื้อขายผ่านโลกออนไลน์
★ Johnson & Johnson (JNJ) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตสินค้าด้านอุปโภค บริโภครายใหญ่ระดับโลก มูลค่า
หุ้นและผลตอบแทนเติบโตเพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่มีส่วนในการผลิตวัคซีนป้องกันโรค ซาร์ส และ โควิด 19 ถือเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่ จอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน เข้าไปทำและสร้างรายได้อันงดงามให้แก่บริษัท
★ Facebook (FB) เจ้าพ่อด้านสื่อบนโลกออนไลน์ ความเติบโตของ FACEBOOK อาจมีข้อสะดุดบ้างแต่ก็ไม่ได้ถือ
ว่ามีผลกระทบต่อการลงทุนมากนัก เป็นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งด้านกาสื่อออนไลน์ที่น่าจับตามองในฐานะหนึ่งในหน้าของ GAFAM ห้ายักษ์ใหญ่แห่งวงการ IT ของสหรัฐอเมริกา อันได้แก่ Google Amazon Facebook Apple และ Microsoft
หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] คือหุ้นที่ได้ชื่อว่าเป็นหุ้นที่เติบโตและมีผลตอบแทนที่ดีเป็นลำดับต้น ๆ ในวงการการลงทุนในหุ้น การค้นหาหุ้น หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] แต่เดิมอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ แต่การมองหา หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] จะไม่ได้เป้นเรื่องยากอีกต่อไป เมื่อเรามีข้อมูลของลักษณะ หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ที่เหมาะแก่การลงทุนทั้งหุ้นในเมืองไทยและต่างประเทศ ไม่ขอเป็นถือเป้นการชี้นำนะครับ แต่ข้อมูลทุกอย่างคือข้อมูลที่ได้รับการพิจารณาจากแหล่งข้อมูลมากมาย ท่านอานจพบหุ้น หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ในรูปแบบของท่าน แต่ยังไงขอให้องมาตรฐานการพิจารณาในมาตรฐานของนักลงทุนนะครับ กระเป๋ษสั่นอีกแล้ว ขอตัวไปช้อนซื้อหุ้น หุ้นบลูชิพ [ blue chip ] ในตลาดหุ้นไทยก่อนนะครับ สวัสดีครับ
1.หุ้นบลูชิพปลอดภัยหรือไม่?
2.หุ้นบลูชิพทำงานอย่างไร?
3.หุ้นบลูชิพน่าลงทุนหรือไม่?
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน