การคาดการณ์และการวิเคราะห์การลงทุนในหุ้น Alibaba ในปี 2566
หุ้น Alibaba ยักษ์ใหญ่ของธุรกิจ E-Commerce อันดับ 1 ของจีน วันนี้เราจะพานักลงทุนไปเจาะลึกข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับหุ้นของ Alibaba ในปี 2566 ว่ายังเป็นหุ้นที่น่าลงทุนอยู่ไหม
ประสิทธิภาพของหุ้น Alibaba ในห้าปีที่ผ่านมา
ย้อนกลับไป 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจของอาลีบาบาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ขยายและเพิ่มความหลากหลายของฐานลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์ตลาดที่ไม่ปกติก็ตาม จนในที่สุดอาลีบาบาได้กลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ จนมียอดขายจากทุกกลุ่มธุรกิจกลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในขณะที่ธุรกิจ Cloud Computing มีรายได้เติบโตขึ้น 59% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยการที่เรามีกำไรเพิ่มขึ้นและมีกระแสเงินสดที่ดี ทำให้การลงทุนในหุ้นของอาลีบาบา สามารถสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักและลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวสำหรับนักลงทุน
ข้อมูลสถิติหลักทรัพย์อ้างอิง (บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด)
หน่วย:พันบาท | ปี 2562 | ปี 2563 | ปี 2564 |
สินทรัพย์ | 5,057,963.23 | 6,881,354.35 | 8,858,432.60 |
หนี้สิน | 1,832,641.05 | 2,271,103.31 | 3,179,107.23 |
ส่วนของผู้ถือหุ้น | 3,225,322.17 | 4,610,251.04 | 5,679,325.38 |
รายได้ขาย/บริการ | 1,975,039.03 | 2,671,395.46 | 3,759,311.84 |
ต้นทุนขาย/บริการ | 1,084,515.36 | 1,479,884.99 | 2,207,535.07 |
กำไรสุทธิ | 459,111.44 | 782,287.76 | 787,764.72 |
รายงานประจำปี 2564 ของ Alibaba สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม หมายเหตุ: FX RMB/THB=5.2410 จาก BOT อัตราขายเฉลี่ย ณ วันที่ 10 ก.พ. 2565
(หมายเหตุ ข้อมูลสถิติหลักทรัพย์ปี 2565 ยังไม่เผยแพร่ ต้องรอจบไตรมาสแรกของปี 2566 และข้อมูลหลักทรัพย์ปี 2566 ต้องรอจบไตรมาสแรกของปีถัดไป)
รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ อาลีบาบา
ก่อนอื่น ขอสรุปประวัติรายละเอียดให้นักลงทุน ดูกันก่อนว่า Alibaba ทำธุรกิจอะไรบ้าง และตอนนี้รายได้ธุรกิจแต่ละปีเป็นยังไง
อาลีบาบา ก่อตั้งในปี 1999 โดยมีสมาชิกเพียง 18 คน มี Jack Ma เป็นแกนนำ จะมุ่งเน้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก จนปัจจุบันจะเห็นได้ว่าธุรกิจของ Alibaba เติบโตและมีหลายธุรกิจมาก เช่น ธุรกิจ e-Commerce แบบ B2C และ C2C ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ ธุรกิจการเงิน ธุรกิจสือมีเดียและความบันเทิง ลักษณะคล้าย Youtube ของสหรัฐฯ
ต่อมา อาลีบาบา ร่วมมือกับรัฐบาลไทยจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันกับอาลีบาบา เพื่อส่งเสริมโอกาส SMEs ไทยเข้าสู่ระบบอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบาจึงทำให้เป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือของอาลีบาบาและรัฐบาลไทย
โครงการที่ แจ็ค หม่า ต้องการร่วมมือกับประเทศไทย ประกอบด้วย 5 โครงการ ได้แก่
โครงการความร่วมมือด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวดิจิทัล
โครงการเปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com
โครงการอบรมพัฒนาดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent)
โครงการร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการ SME ไทย
โครงการจัดตั้งศูนย์ Smart Digital Hub ใน พื้นที่อีอีซีเพื่อส่งเสริมการค้ากับจีนและกลุ่ม CLMV
และเมื่อปี 2559 อาลีบาบา ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Lazada Group อย่างเป็นทางการ โดยมูลค่าประมาณ 35,000 ล้านบาท แพลตฟอร์มที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักเป็นอย่างดี
ข้อมูลการดำเนินงานของ Alibaba
บริษัท | อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (Alibaba Group Holding Limited) |
ปีก่อตั้ง | ปี 1999 |
ผู้ก่อตั้ง | Jack Ma |
ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร | Daniel Yong ZHANG |
ผู้ถือหุ้นใหญ่ | SoftBank Group 14.6% (ปี 2022) |
Jack Ma และครอบครัว 2.57% | |
2542 | ร่วมก่อตั้งบริษัทในเมืองหางโจว ด้วยเงินทุน 6 หมื่นดอลลาร์ และระดมทุนได้อีก 5 ล้านดอลลาร์ |
2543 | ระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุนนำโดยซอฟท์แบงก์ ของญี่ปุ่น |
2546 | เปิดแพลตฟอร์ม เถาเป่า เพื่อแข่งกับผู้นำตลาดอย่าง อีเบย์ของสหรัฐ |
2547 | เปิดบริการชำระเงินออนไลน์ อาลีเพย์ แข่งกับ เพย์พาล |
2548 | ยาฮู เข้าลงทุน 1000 ล้านดอลลาร์แลกกับถือหุ้น 40% |
2555 | อาลีบาบาจ่าย 7600 ดอลลาร์ ซื้อหุ้นส่วนใหญ่คืนจากยาฮู |
2556 | แจ็คหม่า ลงจากตำแหน่ง CEO แต่ยังบริหารงานอยู่ |
2557 | ทำ IPO ตลาดหุ้นนิวยอร์ก มูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงที่สุดใน โลก |
2561 | แจ็คหม่า สละเก้าอี้ และส่งให้ แดเนียล จาง CEO ปัจจุบัน |
2562 | แจ็คหม่าลงจากตำแหน่งประธาน แต่ยังนั่งบอร์ดบริหารจนถึงการประชุมผู้ถือหุ้น 2563 |
2563 | อาลีบาบากรุ๊ปเปิดตัว Taobao Deals อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นแอปอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะที่มีข้อเสนอโดยตรงจากโรงงานและผลิตภัณฑ์สั่งทำพิเศษ |
2564 | อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัวโปรเซสเซอร์ภายในองค์กรใหม่ชื่อ “Yitian 710” พร้อมประกาศแผนตั้งศูนย์ข้อมูลใหม่ 2 แห่งในเกาหลีใต้และไทย |
2565 | Alibaba Cloud ประกาศเปิดตัวทั่วโลกของ Energy Expert ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อความยั่งยืนที่จะช่วยลูกค้าทั่วโลกวัด วิเคราะห์และจัดการการปล่อยคาร์บอนของกิจกรรมทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของตน |
ธุรกิจทั้งหมดของ Alibaba
อี-คอมเมิร์ซในประเทศจีน | อี-คอมเมิร์ซระหว่างประเทศ | บริการผู้บริโภคในประเทศ | สื่อดิจิทัลและความบันเทิง | นวัตกรรมและอื่น ๆ | การขนส่งโลจิสติกส์ | ระบบคลาวด์ |
ค้าปลีก | ค้าปลีก | บริการถึงบ้าน | ||||
- Taobao - Taobao Deals - TMALL - Taocaicai - Idle Fish - TMALL GLOBAL - TMALL MART - Intime Department Store - Alibaba Health - FRESHIPPO - SUN ART Retail Group Limited | - AliExpress - Lazada - Trendyol - Daraz | - Ele.me - Taoxianda | - YOUKU - Alibaba Pictures - LINGXIGAMES - Damai - Quark - UC | - DAMO ALIBABA DAMO ACADEMY - TMALL GENIE | - CaiNiao | - Alibaba Cloud - DingTalk |
ขายส่ง | ขายส่ง | บริการจัดส่งปลายทาง | ||||
- 1688 | - Alibaba.com | - Amap - Fliggy |
การวิเคราะห์รายงานทางการเงินของอาลีบาบา
รายได้รวมของ Alibaba ย้อนหลัง 5 ปี รายได้ของอาลีบาบา ส่วนใหญ่มาจากรายได้ E-Commerce ภายในประเทศเป็นหลัก
ที่มา: statista
ผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ของ Alibaba 2561
รายได้: 117,278 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
กำไรต่อหุ้น (ADS): 12.64 หยวน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรสุทธิ: 33,052 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 37% และ 33% ตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
ผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ของ Alibaba 2562
รายได้: 161,456 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรต่อหุ้น (ADS): 18.19 หยวน เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรสุทธิ: 52,309 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ของ Alibaba 2563
รายได้: 221,084 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนหน้า
กำไรต่อหุ้น (ADS): 2.75 หยวน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนหน้า
กำไรสุทธิ: 79,427 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนหน้า
ผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ของ Alibaba 2564
รายได้: 242,580 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรต่อหุ้น (ADS): 16.81 หยวน ลดลง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรสุทธิ: อยู่ที่ 20,429 ล้านหยวน ลดลง 74% และ 75% เมื่อเทียบเป็นรายปีตามลำดับ
ผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ของ Alibaba 2565
รายได้: 247,756 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรต่อหุ้น (ADS): 19.26 หยวน สำหรับไตรมาสนี้พุ่งขึ้น 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี
กำไรสุทธิ: 49,932 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
คู่แข่งหลักของอาลีบาบา
ทุกคนแทบรู้จัก Alibaba ในฐานะ Platform E-Commerce ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของจีน และอันดับต้น ๆของโลกกันอยู่แล้ว แต่จะหารู้ไม่ว่า Platform E-Commerce ยักษ์ใหญ่ อย่าง อาลีบาบา ก็มีคู่แข่งในประเทศจีนเหมือนกัน
ต้องยอมรับว่า ในเวลานี้ JD.com หรือ Jingdong คือคู่แข่งที่มาแรงที่สุดในประเทศจีนที่จะมาเขย่าบัลลังก์เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซของ Alibaba ให้สั่นคลอนได้ หลังจาก Tencent (เทนเซนต์) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีของจีนได้ทุ่มทุนซื้อหุ้น 15% ใน JD.com พร้อมโอนธุรกิจอีคอมเมิร์ซของ Tencent (เทนเซนต์) ทั้งหมดให้ JD.com ดูแล จึงทำเป็นจุดเปลี่ยนของ JD.com และส่งผลให้จำนวนลูกค้าของ JD.com เพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านคน จากก่อนหน้าที่มีเพียง 47.4 ล้านคน หลังจากนั้นก็ได้มีการจับมือกับห้างสรรพสินค้าของสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นเว็บ E-Commerce ได้มีการเติบโตขึ้นทุกปี
และ Pinduoduo Platform E-Commerce น้องใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งคู่แข่งหลัก ที่รองลงมาจาก JD.com ซึ่งมีผู้ใช้งานรวมกว่า 788.4 ล้านคน แซงหน้า อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ในวงการอีคอมเมิร์ซ มียอดผู้ใช้งานรวมเพียง 779 ล้านคนเท่านั้น ปัจจุบัน Pinduoduo ได้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งของ อาลีบาบา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนคู่แข่งไทยที่มีผลกระทบต่อ อาลีบาบา จะเป็นแอปพลิเคชั่น Shopee ของประเทศไทย ซึ่งมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ราว ๆ เดียวกันกับ Lazada ซึ่งอาลีบาบาก็เป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย เนื่องจากทั้งสองแพลตฟอร์มนี้มีการทำงานคล้าย ๆ กันและมีโปรโมชั่นคล้ายกันมาก อีกทั้ง Shopee ยังมีการซื้อสินค้าไปก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลังทำให้ผู้คนหันมาใช้งานแพลตฟอร์ม Shopee กันมากขึ้น จึงถือว่าเป็นคู่แข็งหลักของ Lazada ในประเทศไทยที่มีอาลีบาบาเป็นหุ้นส่วนอยู่
หุ้น Alibaba คาดการณ์ในปี 2566
การคาดการณ์ในปี 2566 นี้ นักวิเคราะห์หุ้นได้ประเมินการฟื้นตัวของภาคการบริโภคทั่วประเทศจีน จากจีนกลับมาเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีการคาดการ เผยงบ 3Q23 คาดทั้งรายได้และกำไร โดยเพิ่มขึ้น 2%YoY ที่ RMB247.7bn และ 69%YoY อยู่ที่ RMB27.7bn โดยมีแรงหนุนการลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลง ประกอบการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ทำให้ Alibaba ได้รับผลจากการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศรวมถึงภายนอกประเทศด้วยที่เพิ่มขึ้น หลังจากมีการเปิดเมือง แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจยังอยู่ในสถานการณ์ที่อ่อนแออยู่ เนื่องจากการฟื้นตัวยังถูกจำกัดอยู่บวกกับแรงกดดันการแข่งขันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอีกด้วย
ราคา BABA แบบเรียลไทม์
หุ้น Alibaba จะขึ้นหรือลง?
Nasdaq Analyst Research ซึ่งรวบรวมบทวิเคราะห์เกี่ยวกับเป้าหมายราคาหุ้นของนักวิเคราะห์ค่ายต่าง ๆ เอาไว้ พบว่า คำแนะนำล่าสุดของนักวิเคราะห์ที่มีเกี่ยวกับหุ้น BABA ก็ยังคงแนะนำให้ซื้ออยู่ โดยคาดการณ์ราคาหุ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 146.23 ดอลลาร์/หุ้น คาดการณ์สูงสุดอยู่ที่ 175 ดอลลาร์/หุ้น และคาดการณ์ต่ำสุดอยู่ที่ 120 ดอลลาร์/หุ้น
อีกทั้งหุ้นของบริษัท อาลีบาบากรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด ในฮ่องกงเพิ่มขึ้นกว่า 8% (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ม.ค. 66) ถือเป็นสัญญาณของการลงทุนที่ดี ในการนำไปสู่ผลกำไรที่ดีในอนาคตของนักลงทุนอีกด้วย
ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนในอาลีบาบา
ข้อดีของหุ้นอาลีบาบา ก็คงไม่พ้นการพัฒนาการเติบโตอยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดก็เพิ่งจับมือกับ Xpeng สตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้า พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคต อาลีบาบา ยังคงต้องมีแผนการพัฒนากลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อการแข่งขันกับบรรดาธุรกิจน้องใหม่ ซึ่งจะเป็นอย่างไรก็คงต้องรอดูต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อมีข้อดีย่อมหนีไม่พ้นข้อเสียด้วยเช่นกัน ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์อ้างอิงต่างประเทศ หรืออัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ยังคงต้องติดตามข่าว สถานการณ์ ที่จะนำมาซึ่งความผันผวนของการลงทุนในอาลีบาบา การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วย
ความเสี่ยงในการลงทุน
เนื่องจากอาลีบาบากุมอำนาจตลาดในจีนเยอะพอสมควรความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นของอาลีบาบาในตอนนี้ ก็ไม่ได้อยู่ในจุดจะสูญเสียทุกอย่าง ถึงแม้ว่าคู่แข็งจะตามทันก็ตาม เพราะนักลงทุนอย่าลืมว่ากิจการของอาลีบาบาที่ทำอยู่นั้น ก็ยังคงกินส่วนแบ่งการตลาดอยู่สูงมากพอสมควร ซึ่งธุรกิจของอาลีบาบา ไม่เพียงแค่ขายของอย่างเดียว แต่ยังมีบริษัทด้านขนส่ง โลจิสติกส์ ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง สื่อและบันเทิง เทคโนโลยี และนวัตกรรมอื่น ๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าการลงทุนในหุ้น อาลีบาบา จะไม่ได้มีความเสี่ยงเลย เพราะนอกจากนี้อาจเกิดความเสี่ยงได้จากความผันผวนของตลาด ความเสี่ยงของการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่าง ๆ เกิดขึ้น
คนไทยอยากลงทุนในหุ้น Alibaba ต้องทำอย่างไร?
โดยปัจจุบัน นักลงทุนไทยมีโอกาสลงทุนหุ้นต่างประเทศในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
1.ลงทุนผ่านตลาดหุ้นในต่างประเทศโดยตรง
โดยการเปิดบัญชีเทรดหุ้นโดยตรงกับโบรกเกอร์ไทย บางบริษัทหลักทรัพย์จะมีบริการให้ซื้อหลักทรัพย์ในต่างประเทศได้ ซึ่งเราก็จะสามารถไปซื้อหุ้น Alibaba โดยตรงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีเงินต้นมากหน่อย
2.ลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ
หรือที่เรียกว่า กองทุน FIF เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ โดยผู้จัดการกองทุนจะนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศและให้ผลตอบแทนกลับมาเป็นเงินบาท ปัจจุบันมีกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศในไทยหลายกองที่ลงทุนในหุ้น Alibaba อยู่ มีทั้งที่เข้าไปซื้อเองโดยตรงเลย หรือที่ไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนสามารถไปค้นหาได้ว่ากองทุนไหนบ้างที่ลงทุนในหุ้น Alibaba โดยดูจากข้อมูลในหนังสือชี้ชวนและสรุปรายละเอียดการลงทุนของกองทุน วิธีนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มีเงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก ก็สามารถลงทุนได้
3.ลงทุนผ่านตลาดหุ้นไทย
ลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับผลตอบแทนในต่างประเทศ ได้แก่ ETF / DW และ DR & DRx โดย Alibaba DR เป็นตราสารที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย สามารถลงทุนหุ้น Alibaba ได้ด้วยสกุลเงินบาทผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งคนที่จะลงทุนได้ จะต้องมีบัญชีซื้อขายหุ้นอยู่ด้วย
ลงทุนในตราสารอนุพันธ์ CFD (Contract for Difference) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์ แต่ซื้อขายทำกำไรจากสินทรัพย์นั้นได้จริง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อขายสัญญา CFD ในหุ้น คริปโตเคอร์เรนซี และสินทรัพย์อื่น ๆ อีกมากมาย
ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ !🤑
สรุป หุ้น Alibaba น่าลงทุนไหมในปี 2566
สำหรับผู้เขียนแล้วถ้ามองกันแบบยาว ๆ ก็ยังมองว่าหุ้น Alibaba ก็ยังน่าซื้อเก็บต่ออยู่ดี เพราะว่า ธุรกิจของอาลีบาบา มีหลากหลายธุรกิจมาก ซึ่งมีทั้งแบบกลุ่มประเภทธุรกิจใหญ่ ๆ ก็จะเป็นธุรกิจการเงิน (Alipay) ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ ธุรกิจสื่อมีเดียและความบันเทิง ลักษณะคล้าย Youtube ของสหรัฐฯ (Youku) และธุรกิจ e-Commerce และ Cloud เปรียบได้ว่าอาลีบาบาแทบจะเป็นทุกอย่างของคนในประเทศจีนไปแล้ว
โดยรายได้ e-Commerce มาจากธุรกิจ อย่างเช่น Tmall Lazada Taobao ฯลฯ ไตรมาสล่าสุด (รอบไตรมาส 2 ปี 64 นับตั้งแต่เดือนก.ค.-ก.ย. 63) โตกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมทั้งยอดขายวันคนโสดปี 63 ครั้งล่าสุด (วันที่ 1-11 พ.ย. 63) ทะลุ 7.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับครั้งก่อน
รวมทั้งไตรมาสเดือนต.ค.-ธ.ค. 65 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 2% กลุ่มธุรกิจค้าปลีกในจีนรายได้ลดลงเล็กน้อย 1% เป็น 169,986 ล้านหยวน สินค้ากลุ่มแฟชั่นมียอดขายลดลงมาก แต่ได้กลุ่มสุขภาพ สัตว์เลี้ยง และอาหารสดมาชดเชย ขณะที่กลุ่มค้าปลีกต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 18% เป็น 19,645 ล้านหยวน มาจากการเติบโตทั้ง Lazada AliExpress และ Trendyol ที่เติบโตมาก จากข้อมูลรายได้การเติบโตที่กล่าวไปข้างต้นผู้เขียนคิดว่าในปี 2566 นี้ก็ยังถือว่า หุ้น Alibaba ยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุนอยู่ไม่ใช่น้อย
1.Alibaba เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
2.Alibaba เป็นหุ้นที่ดีที่จะซื้อในปี 2023 หรือไม่?
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน