BTC ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 4.3 ดอลลาร์ แนวโน้มของตลาดจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหรือราคาจะยังคงลดลงแบบนี้ต่อไป?
รีวิวภาพรวมตลาด
สัปดาห์ที่แล้ว (12.04-12.10 น.) ราคาสกุลเงินดิจิทัล (Crypto) ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวชี้วัดหลายตัวได้แตะระดับสูงสุดใหม่
มูลค่าตลาดรวมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจาก 1.49 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสูงสุด 1.64 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นถึง 10%
ในทางตรงข้าม ดัชนีชี้วัดทัศนคตินักลงทุน (Investor sentiment index) เพิ่มขึ้นก่อนแล้วจึงลดลง โดยเพิ่มขึ้นจาก 73 เป็น 74 จากนั้นลดลงกลับมาที่ 73 และสุดท้ายก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ที่มา: MacroMicro
โดยทั่วไป สกุลเงินกระแสหลักยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น ในบรรดาสกุลเงินเหล่านี้ได้แก่ Avalanche (AVAX) ที่ดำเนินการได้ดีเกินคาดโดยเพิ่มขึ้น 64% ตามมาด้วย Cardano (ADA) ที่เพิ่มขึ้น 46%
ทว่า Bitcoin Cash (BCH) ดำเนินการได้แย่ที่สุด โดยมีความผันผวนอยู่ที่ 0 ตามมาด้วยสกุลเงินของแพลตฟอร์ม OKB ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 2% เท่านั้น
ที่มา: MacroMicro
นอกจากนี้ราคา Bitcoin (BTC) เพิ่มขึ้น 4% และส่วนแบ่งมูลค่าตลาดลดลง 1% คิดเป็น 52% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ราคาของ Ethereum (ETH) เพิ่มขึ้น 5% และส่วนแบ่งมูลค่าตลาดลดลง 1% โดยมีส่วนแบ่งทั้งหมด 17% ราคาของ BTC และ ETH เพิ่มขึ้น แต่อัตราส่วนมูลค่าตลาดลดลง ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่ากองทุนมีการหมุนเวียน
43,000 ดอลลาร์จะเป็นตำแหน่ง Long และ Short ที่สำคัญสำหรับการเริ่มเกมที่ดุเดือดของ BTC
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ราคาของ Bitcoin มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นจากสูงสุด 40,000 เหรียญสหรัฐเป็น 42,400 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ราคาของ BTC ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากประมาณ 42,000 ดอลลาร์เป็นสูงสุด 44,400 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 5%
ที่มา: TradingView
สำหรับ BTC ในช่วงสามปีที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นใน 24 ชั่วโมงมากกว่า 5% ถือเป็นความผันผวนครั้งใหญ่มากและจะผลักดันให้เกิดความเชื่อมั่นในตลาดทั้งหมดเป็นเชิงบวก ยิ่งไปกว่านั้นการที่ราคาของ BTC เพิ่มขึ้นป็นเวลาสองวันติดต่อกันดังกล่าวนี้ได้จุดประกายความเชื่อมั่นในการลงทุนในสกุลเงินดิติตอลอื่น ๆ นี่เป็นเหตุผลสำคัญในการกระตุ้นการไหลเวียนของเงินทุนซึ่งนำไปสู่สภาวะหยุดนิ่ง (stagflation) ใน BTC ตามมา
ตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 10 ธันวาคม ราคา BTC ผันผวนใกล้กับ 44,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นเวลาสี่วันติดต่อกันโดยไม่มีแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนหรือการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ช่วงความผันผวนระหว่างวันอยู่ที่ประมาณ 1% นี่เป็นปรากฏการณ์สภาวะหยุดนิ่ง (stagflation) ทั่วไปที่บ่งชี้ว่าภาวะกระทิงอ่อนแอ ในกรณีนี้ เป็นเรื่องง่ายที่จะให้โอกาสผู้ขายชอร์ต หรือ Short Sell โต้กลับ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ราคา BTC เผชิญกับการลดลงอย่างรวดเร็ว โดยลดลงจาก 44,000 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 40,400 ดอลลาร์สหรัฐ โดยลดลง 9%
ที่มา: TradingView
ดังที่เห็นได้จากแผนภูมิด้านล่าง ราคา BTC ได้ทะลุเส้นระดับกลาง (เส้นประ) ที่ 43,000 ดอลลาร์ ในช่วง 38,000-48,000 ดอลลาร์ หากราคาปิดของวันนี้ไม่สามารถเข้าถึงได้สูงกว่าราคานี้ การฝ่าวงล้อมจะถือว่าใช้ได้ ซึ่งหมายความว่าด้วยราคา 43,000 ดอลลาร์จะก่อให้เกิดแนวต้านระยะสั้น ซึ่งจะระงับการเพิ่มขึ้นของ BTC และผู้ขายชอร์ต หรือ Short Sell อาจยังคงพยายามผลักดันราคา BTC ลงไปที่แนวรับที่แข็งแกร่งที่ 38,000 ดอลลาร์
ที่มา: TradingView
อย่างไรก็ตาม หาก BTC สามารถฟื้นคืนการขาดทุนที่ 43,000 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ได้ก็ยังคงมีโอกาสที่จะพลิกฟื้นความเชื่อมั่นที่เป็นขาลงได้ และตลาดกระทิงจะยังคงโจมตี 48,000 ดอลลาร์ต่อไป
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน