WTI ถอยลงไปใกล้ 68.00 ดอลลาร์ เพราะความผิดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

FXStreet
อัพเดทครั้งล่าสุด
Mitrade
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

  • ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันอังคาร ราคา WTI ลดลงไปวิ่งใกล้ 68.00 ดอลลาร์

  • USD ที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อน้ำมันที่ซื้อขายด้วยสกุลเงิน USD

  • แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนทําให้นักลงทุนผิดหวัง


ในวันอังคาร ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) เกณฑ์มาตรฐานน้ํามันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายที่ประมาณ 68.00 ดอลลาร์ ราคา WTI ปรับตัวลดลงท่ามกลางความกลัวว่ารัฐบาลทรัมป์จะจุดชนวนสงครามการค้า ผ่านภาษีศุลกากรและความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุปสงค์ในจีน 

ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลกระทบต่อราคา WTI ต่อไป ทรัมป์ได้ประกาศความตั้งใจที่จะเรียกเก็บภาษีตั้งแต่ 10% ถึง 20% สําหรับการนําเข้าทั้งหมด และภาษีเพิ่มเติมสําหรับผลิตภัณฑ์ที่นําเข้าจากจีนมากถึง 60% สงครามการค้าครั้งใหม่กับจีนมีแนวโน้มที่จะส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งทําให้การฟื้นตัวของความต้องการน้ำมันดิบล่าช้า

เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมีส่วนทําให้ WTI ปรับตัวลดลง ในขณะเดียวกัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดมูลค่าของ USD เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินต่างประเทศ ไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในรอบสี่เดือนที่บริเวณ 105.70 ทําให้ราคาน้ำมันที่ซื้อขายด้วยสกุลเงิน USD มีราคาแพงขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนปิดออเดอร์เพื่อทำกำไรกับการลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์อาจจํากัดขาลงของราคาน้ำมันในขณะนี้ 

แพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของรัฐบาลปักกิ่งซึ่งประกาศเมื่อวันศุกร์นั้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ข้อมูลที่ประกาศเมื่อสุดสัปดาห์แสดงให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคของจีนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบสี่เดือนในเดือนตุลาคม ในขณะที่ภาวะเงินฝืดของราคาผู้ผลิตลงลึกขึ้น ซึ่งทําให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุปสงค์ผู้ใช้งานน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลกอย่างจีน


WTI Oil FAQs


น้ำมัน WTI คืออะไร?

น้ำมัน WTI เป็นน้ำมันดิบประเภทหนึ่งที่จําหน่ายในตลาดต่างประเทศ WTI ย่อมาจากเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (West Texas Intermediate) ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำมันสามประเภทหลัก ได้แก่ Brent และ Dubai Crude และ WTI น้ำมันดิบ WTI เรียกอีกอย่างว่าน้ำมัน "เบา" และน้ำมัน "หวาน" เนื่องจากมีน้ำหนักและปริมาณกํามะถันค่อนข้างต่ำ ตามลําดับแล้ว WTI ถือเป็นน้ำมันคุณภาพสูงที่กลั่นได้ง่าย มีแหล่งที่มาในสหรัฐอเมริกาและจัดจําหน่ายผ่านศูนย์กลาง Cushing ซึ่งถือเป็น "เส้นทางเดินน้ำมันหลักของโลก" เป็นเกณฑ์มาตรฐานสําหรับตลาดน้ำมันและราคาของน้ำมัน WTI มักถูกอ้างอิงในสื่อต่างๆ


ปัจจัยใดที่ผลักดันให้ราคาน้ำมัน WTI เคลื่อนไหว?

เช่นเดียวกับสินทรัพย์ทั้งหมด อุปสงค์และอุปทานเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของราคาน้ำมัน WTI ด้วยเหตุนี้ การเติบโตทั่วโลกจึงเป็นตัวขับเคลื่อนอุปสงค์น้ำมันให้เพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอ มีความไม่มั่นคงทางการเมือง สงคราม และการคว่ำบาตรต่างๆ ปัจจัยเหล่านี้อาจสามารถกดดันอุปทาน และส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน นอกจากนี้ การตัดสินใจของกลุ่มโอเปก ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เป็นอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนราคาที่สําคัญ และมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐก็มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันดิบ WTI เนื่องจากเป็นน้ำมันที่มีการซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น เมื่อเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ก็อาจทําให้น้ำมันมีราคาถูกลงมากขึ้น และในทางกลับกันด้วยเช่นกัน


ข้อมูลน้ำมันดิบคงคลังส่งผลต่อราคาน้ำมัน WTI อย่างไร

รายงานน้ำมันคงคลังรายสัปดาห์ที่ประกาศโดยสถานบันปิโตรเลียมของอเมริกา หรือ American Petroleum Institute (API) และสำนักงานข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานหรือ Energy Information Agency (EIA) ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน WTI ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่เปลี่ยนแปลงไปสะท้อนให้เห็นภาพอุปสงค์/อุปทานที่ผันผวน หากข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าน้ำมันดิบคงคลังลดลง อาจหมายความว่าอุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้น และผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น การที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสูงขึ้นสามารถสะท้อนให้เห็นอุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้น รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของ API จะประกาศทุกวันอังคารและของ EIA จะประกาศในถัดไป ตัวเลขจากรายงานเหล่านี้มักจะคล้ายกัน อาจจะมีความแตกต่างกันเพียง 1% (มีโอกาสราว ๆ 75%) ข้อมูลจาก EIA ถือว่ามีความน่าเชื่อถือมากกว่าเนื่องจากเป็นหน่วยงานของรัฐ


OPEC มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมัน WTI อย่างไร?

OPEC (หรือองค์การบริหารน้ำมันปิโตรเลียมของประเทศกลุ่มผู้ส่งออก - Organization of the Petroleum Exporting Countries) เป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 12 ประเทศที่ร่วมกันกําหนดโควตาการผลิตน้ำมันสําหรับประเทศสมาชิก มีการประชุมปีละสองครั้ง การตัดสินใจขององค์กรนี้มักส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน WTI เมื่อโอเปกตัดสินใจลดโควตาการผลิต นั่นอาจทําให้อุปทานน้ำมันตึงตัว ผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น แต่เมื่อโอเปกเพิ่มการผลิต ก็จะมีผลตรงกันข้าม OPEC+ หมายถึงกลุ่มประเทศสมาชิกนอกจากโอเปกดั้งเดิมเพิ่มอีกสิบประเทศ โดยประเทศที่มีอิทธิพลที่สุดก็คือรัสเซีย

เนื้อหาของบทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำการลงทุนได้ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้นและผู้อ่านไม่ควรใช้บทความนี้เป็นพื้นฐานการลงทุนใด ๆ Mitrade ไม่รับผิดชอบต่อผลลัพธ์ใด ๆ ตามบทความนี้และไม่รับประกันความถูกต้องของเนื้อหาของบทความนี้

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
ราคา WTI ร่วงลงสู่ระดับใกล้ $68.00 เมื่อ OPEC ลดมุมมองต่ออุปสงค์West Texas Intermediate (WTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์ราคามาตรฐานของน้ำมันดิบของสหรัฐฯ  กำลังวิ่งซื้อขายที่ประมาณ 68.00 ดอลลาร์ในวันพุธ ราคา WTI ปรับตัวลดลงหลังจากองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2024 ลงการปรับลดการเติบโตของอุปสงค์ล่าสุดของ OPEC สร้างแรงกดดันในการขายต่อน้ำมันโลก  ทาง OPEC ระบุในรายงานประจําเดือนเมื่อวันอังคารว่า ความต้องการน้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 1.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bps) ในปี 2024  ลดลงจากการเติบโตที่ 1.93 ล้านบ
ผู้เขียน  FXStreet
11 เดือน 13 วัน พุธ
West Texas Intermediate (WTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์ราคามาตรฐานของน้ำมันดิบของสหรัฐฯ  กำลังวิ่งซื้อขายที่ประมาณ 68.00 ดอลลาร์ในวันพุธ ราคา WTI ปรับตัวลดลงหลังจากองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2024 ลงการปรับลดการเติบโตของอุปสงค์ล่าสุดของ OPEC สร้างแรงกดดันในการขายต่อน้ำมันโลก  ทาง OPEC ระบุในรายงานประจําเดือนเมื่อวันอังคารว่า ความต้องการน้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 1.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bps) ในปี 2024  ลดลงจากการเติบโตที่ 1.93 ล้านบ
placeholder
ราคาน้ำมันปรับลดลงจากสัญญาณการเพิ่มขึ้นของน้ำมันคงคลังในสหรัฐฯInvesting.com - ราคาน้ำมันปรับลดลงในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากข้อมูลจากภาคอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด ขณะที่ความสนใจยังคงอยู่ที่ความเป็นไปได้ของการหยุดชะงัก
ผู้เขียน  Investing.com
11 เดือน 06 วัน พุธ
Investing.com - ราคาน้ำมันปรับลดลงในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากข้อมูลจากภาคอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด ขณะที่ความสนใจยังคงอยู่ที่ความเป็นไปได้ของการหยุดชะงัก
placeholder
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 1.5% หลัง OPEC+ เลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปInvesting.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากที่กลุ่ม OPEC+ ประกาศว่าจะเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตที่วางแผนไว้ในเดือนธันวาคมออกไปอย่างน้อยอีกหนึ่งเดือน โดยอ้างถึงแรงกดดันด้าน
ผู้เขียน  Investing.com
11 เดือน 04 วัน จันทร์
Investing.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากที่กลุ่ม OPEC+ ประกาศว่าจะเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตที่วางแผนไว้ในเดือนธันวาคมออกไปอย่างน้อยอีกหนึ่งเดือน โดยอ้างถึงแรงกดดันด้าน
placeholder
ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น ตัวเลข API ที่ลดลงเป็นปัจจัยหนุนน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะหมดอายุในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 74.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 70.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อ 21:02 ET (01:02 GMT)
ผู้เขียน  Investing.com
10 เดือน 17 วัน พฤหัส
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะหมดอายุในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 74.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 70.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อ 21:02 ET (01:02 GMT)
placeholder
ราคาน้ำมันดิบลดลง 3% จากปัญหาอุปสงค์และจากเหตุการณ์อิสราเอล-อิหร่านน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะหมดอายุในเดือนธันวาคม ลดลง 3% เป็น 75.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 3% เป็น 71.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 21:19 น. ET (01:19 GMT)
ผู้เขียน  Investing.com
10 เดือน 15 วัน อังคาร
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะหมดอายุในเดือนธันวาคม ลดลง 3% เป็น 75.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 3% เป็น 71.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 21:19 น. ET (01:19 GMT)
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์