นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยคาดการณ์ว่าแผ่นดินไหวที่เกิดจากรอยเลื่อนสะกายในเมียนมาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรงในไตรมาสสองของปีนี้ ซึ่งอาจทำให้ GDP ติดลบเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่เติบโตได้สูงเกือบ 4% ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและความไม่แน่นอนจาก After Shocks สร้างความไม่มั่นคงในโครงสร้างพื้นฐาน การชะลอตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ ความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของอาคารสูง และความเสี่ยงต่อภาคมหภาคของเศรษฐกิจไทย
ในภาวะการชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์ ทำให้คอนโดมิเนียมและอาคารสูงที่มีมาตรฐานการก่อสร้างไม่ดีขายออกได้ยาก ราคาที่อยู่อาศัยแนวราบมีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้น การปรับปรุงมาตรฐานการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่และการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง นายอนุสรณ์เตือนว่าหากไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ผลกระทบระยะยาวต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นจะรุนแรง
นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างประเทศในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการลดกิจกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดต้นทุนทางเศรษฐกิจที่มากถึง 20% ของ GDP โลก ระบบประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนมีบทบาทสำคัญในการดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ซึ่งรวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาลและการชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป
ในตอนท้าย นายอนุสรณ์ย้ำว่าการสร้างระบบเตือนภัยและมาตรการป้องกันภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพในกรุงเทพฯ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์อาคารถล่มเพื่อลดปัญหาคอร์รัปชันที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน