คาดการณ์ราคาทองคํา: XAUUSD ปรับตัวลดลงมาวิ่งต่ำกว่า $2,350 ก่อนประกาศข้อมูล PMI ของสหรัฐฯ
- ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันจันทร์ ราคาทองคําเคลื่อนไหวในแดนลบใกล้ $2,325
- อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ลดลงสู่อัตรารายปีที่ต่ำที่สุดในรอบกว่าสามปี
- ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนทางการเมืองของการเลือกตั้งรัฐสภาของฝรั่งเศสทําให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันจันทร์ ราคาทองคํา (XAUUSD) ขยับลงมาที่ $2,325 โลหะมีค่าร่วงลงท่ามกลางท่าทีระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นักลงทุนจะจับตาดูประกาศข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ISM เดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 49.0 ในเดือนมิถุนายน จาก 48.7 ในเดือนพฤษภาคม
การอ่านค่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ลดลงตามที่คาดไว้ แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทําให้เฟดยังคงรักษาจุดยืนดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ข้อมูลที่ประกาศจากสํานักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าเมื่อเทียบเป็นรายปี PCE ทั่วไปของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนพฤษภาคม เทียบกับ 2.7% ในเดือนเมษายน ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการของตลาด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 2.6% YoY ในเดือนพฤษภาคมจาก 2.8% ในเดือนเมษายน ซึ่งตรงกับการคาดการณ์
นางแมรี่ ดาลีย์ (Mary Daly) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่านโยบายการเงินกําลังทํางานของมัน แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเมื่อใดจะเหมาะสมที่จะลดอัตราดอกเบี้ย แมรี่กล่าวเพิ่มเติมว่า "หากอัตราเงินเฟ้อยังคงไม่ยอมลดลง หรือลดลงอย่างช้าๆ อัตราดอกเบี้ยจะต้องอยู่สูงขึ้นนานขึ้น" อนึ่ง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นโดยทั่วไปจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคํา เนื่องจากจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน
นอกจากนี้ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่มีปัญหา และธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดําเนินการเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ มิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า นโยบายของเฟดในปัจจุบันน่าจะเพียงพอที่จะลากอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย และเสริมว่าธนาคารกลางไม่ควรเปิดโอกาสพิจารณาการลดดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง
ตามรายงานของ CNN อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กําลังเกิดขึ้น และความไม่แน่นอนหลังการเลือกตั้งรัฐสภารอบแรกของฝรั่งเศสอาจเพิ่มกระแสความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย และฉุดเงินดอลลาร์ให้ต่ําลง
ทองคำ (Gold): คําถามที่พบบ่อย
ทําไมผู้คนคนถึงลงทุนในทองคํา?
ทองคํามีบทบาทสําคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เพราะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะที่เก็บมูลค่าและสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ปัจจุบันนอกเหนือจากความงดงามและการใช้งานสําหรับเครื่องประดับแล้ว ทองคำยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าถือเป็นการลงทุนที่ดีในช่วงเวลาที่มีความวุ่นวาย ทองคํายังถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและเป็นการคานการอ่อนค่าของสกุลเงินเพราะไม่ได้พึ่งพาผู้ออกหรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
ใครเป็นผู้ซื้อทองคํามากที่สุด?
ธนาคารกลางเป็นผู้ถือทองคํารายใหญ่ที่สุด ธนาคารกลางต่างๆ ซื้อทองคำตามเป้าหมายของพวกเขาเพื่อสนับสนุนสกุลเงินของตนเองในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่มีเสถียรภาพ ธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะกระจายทุนสํารองและซื้อทองคําเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในระบบเศรษฐกิจและสกุลเงิน การมีทองคําสํารองสูงสามารถเป็นแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ว่าประเทศของตนอยู่ห่างไกลจากคำว่าล้มละลาย ตามข้อมูลจากสภาทองคําโลก ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มทองคํา 1,136 ตันมูลค่าประมาณ 70 พันล้านดอลลาร์ให้กับทุนสํารองในปี 2022 นับเป็นยอดซื้อรายปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติ ธนาคารกลางจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เช่นจีนอินเดียและตุรกีกําลังเพิ่มปริมาณสํารองทองคําอย่างรวดเร็ว
ทองคํามีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่นอย่างไร?
ทองคํามีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นทั้งสินทรัพย์สํารองหลักและสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ทองคํามีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทําให้นักลงทุนและธนาคารกลางสามารถกระจายสินทรัพย์ของพวกเขาในช่วงเวลาที่ปั่นป่วน ทองคํายังมีความสัมพันธ์ผกผันกับสินทรัพย์เสี่ยง ขาขึ้นในตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะทําให้ราคาทองคําอ่อนกำลังลงในขณะที่การเทขายในตลาดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนราคาทองคำ
การเคลื่อนไหวของราคาของทองคําขึ้นอยู่กับอะไร?
ราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวได้เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวของภาวะถดถอยลงลึกสามารถทําให้ราคาทองคําเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัย ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน ทองคํามีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ในขณะเดียวกัน ต้นทุนเงินที่สูงขึ้นมักจะสร้างแรงกดดันให้กับทองคำ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าดอลลาร์สหรัฐ (USD) มีพฤติกรรมอย่างไร เนื่องจากสินทรัพย์มีราคาอ้างอิงกับดอลลาร์ (XAUUSD) ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะควบคุมราคาทองคํา ในทางตรงกันข้าม ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาทองคําให้สูงขึ้น
บทความแนะนำ
