dent ทรัมป์จะต้องยกเลิก DOGE ของ Elon Musk ในตอนนี้ เพื่อความอยู่รอดของเศรษฐกิจ
Elon Musk สัญญาว่าจะลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง 2 ล้านล้านดอลลาร์ “กระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล” (DOGE) สุดแหวกแนวของเขา ซึ่งได้รับมอบหมายจาก dent ทรัมป์ ควรจะลดไขมันจากงบประมาณอันล้นเหลือของอเมริกา แต่ความเป็นจริงและเศรษฐกิจที่เปราะบางอาจทำให้เขาต้องล้มเลิกโครงการนี้ไปโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้อีลอนเองก็ยอมรับว่าเป้าหมายนั้นเป็นเพียงการยิงพระจันทร์ ในการให้สัมภาษณ์กับ X (ชื่อเดิมคือ Twitter) มหาเศรษฐีผู้แปลกประหลาดรายนี้ลดระดับเป้าหมายของเขาที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยกล่าว ว่า "เรามีโอกาสที่ดีที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์"
ผู้เชี่ยวชาญเตือนเขาอย่างรวดเร็วว่าแม้เป้าหมายที่ลดระดับลงนี้ยังเป็นเรื่องแฟนตาซี งบประมาณในการตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ คุณจะตัดเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์จากสิ่งที่ไม่ได้รวมกันถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ได้อย่างไร สปอยเลอร์: คุณทำไม่ได้
การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจมีหลากหลาย
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้ถดถอย แต่ก็ไม่ได้เร่งรีบเช่นกัน Goldman Sachs ประมาณการว่า เศรษฐกิจจะเติบโต 2.5% ในปี 2568 แซงหน้าการสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg ซึ่งกำหนดการเติบโตไว้ที่ 1.9% ได้อย่างสบายๆ
Conference Board มีความมั่นใจน้อยกว่าเล็กน้อย โดยคาดการณ์การเติบโต 2% ในปีนี้ แต่ถึงแม้จะเป็นการอัปเกรดจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1.7% S&P Global Ratings สะท้อนตัวเลข 2% ซึ่งทั้งหมดนี้ให้ความรู้สึกเหมือนหายใจออกโดยรวมเมื่อเทียบกับ 2.7% ในปี 2024
อย่างไรก็ตามตลาดแรงงานกำลังเย็นลง อัตราการว่างงานคาดว่าจะสูงถึง 4.2% เพิ่มขึ้นจาก 3.7% ในปีก่อนหน้า การสร้างงานชะลอตัว โดยเฉลี่ยประมาณ 150,000 งานต่อเดือน ไม่แย่ แต่ชัดเจนว่าวันที่ดีที่สุดอยู่ข้างหลังเรา
จากนั้นมีอัตราเงินเฟ้อ - ลดลงจากจุดสูงสุดในปี 2565 ที่ 9.1% เป็น 3% ที่น่าพอใจมากขึ้นในช่วงปลายปี 2567 แต่บรรลุเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐหรือไม่ นั่นคือยูนิคอร์นที่ทุกคนไล่ตาม นักวิเคราะห์คิดว่าจะมีเสถียรภาพภายในสิ้นปี 2568
ในขณะเดียวกัน Fed ก็กำลังเล่นเกมของตัวเอง โดยค่อยๆ ลดอัตราดอกเบี้ยลง ภายในเดือนตุลาคม 2025 อัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางอาจอยู่ในช่วง 3.00–3.25% ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อ
ความฝันที่เป็นไปไม่ได้ของ DOGE
DOGE ควรจะเป็นอัญมณีมงกุฎของแผนเศรษฐกิจของทรัมป์ Elon ซึ่งเป็นผู้นำโครงการร่วมกับวิเวก รามาสวามี ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีชีวภาพ มีงานเดียวคือค้นหาความไร้ประสิทธิภาพในการใช้จ่ายของรัฐบาลแล้วแก้ไข ง่ายใช่มั้ย? ผิด.
หน่วยงานไม่มีอำนาจที่แท้จริง โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นคณะที่ปรึกษาที่โยนความคิดต่างๆ ลงในโมฆะทางการเมือง โดยหวังว่าสภาคองเกรสหรือทำเนียบขาวจะหยิบยกความคิดเหล่านั้นขึ้นมา แม้ว่าอีลอนของอีลอนจะใหญ่พอที่จะแบกน้ำหนักได้ แต่ตัวเลขของเขากลับไม่เป็นเช่นนั้น
การตัดเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์จะหมายถึงการตัดโครงการใช้จ่ายภาคบังคับเช่น Medicaid “ความยากลำบาก” คือวิธีที่ Elon อธิบายถึงผลที่ตามมาจากการตัดต่อเหล่านี้ ความวุ่นวายทางการเมืองก็ยิ่งเป็นเช่นนั้น
และอย่าลืมไฟป่าที่ลุกไหม้ทั่วแคลิฟอร์เนียในขณะที่เราพูดคุยกัน พวกมันกำลังจะกลายเป็นภัยพิบัติไฟป่าที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่าความเสียหายระหว่าง 250,000 ล้านถึง 275,000 ล้านดอลลาร์ โครงสร้างกว่า 12,000 หลังถูกทำลายลง มีผู้เสียชีวิต 24 ราย และการบูรณะใหม่จะใช้เวลาหลายทศวรรษ
ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องน่าเศร้าเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อภารกิจของ DOGE ทุกดอลลาร์ที่ใช้ไปกับการบรรเทาภัยพิบัติคือเงินดอลลาร์ที่อีลอนแตะต้องไม่ได้
ภาษีศุลกากรเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่ง การบริหารของทรัมป์สามารถยกระดับพวกเขาให้เกินค่าเฉลี่ยในปัจจุบันที่ 2% นั่นอาจฟังดูเล็กน้อย แต่แม้แต่การปรับขึ้นภาษี 1% ก็อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.1% สำหรับเศรษฐกิจที่ยังคงต้องต่อสู้กับการควบคุมเงินเฟ้อ ปัญหาดังกล่าวจึงไม่มีใครอยากจัดการ
อัตราเงินเฟ้อและผลกระทบของทรัมป์
อัตราเงินเฟ้อไม่ได้เป็นเพียงปัญหาทางเศรษฐกิจอีกต่อไป แต่ยังเป็นปัญหาทางการเมืองด้วย Joe Lavorgna ที่ปรึกษาเศรษฐกิจในระยะแรกของทรัมป์ ชี้ให้เห็นว่าการตัดสินใจล่าสุดของ Federal Reserve นั้นน่าสับสน เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว พวกเขาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุด เนื่องจากคิดว่าตลาดงานกำลังชะลอตัว
แต่เมื่อจำนวนงานดีดตัวขึ้น พวกเขายังคงลดลง 25 จุดในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นก็ตาม หากอัตราเงินเฟ้อยังคงเหนียวแน่น Lavorgna เตือนว่า Fed จะไม่มีใครตำหนินอกจากตัวมันเอง
วาระการเติบโตของทรัมป์ขึ้นอยู่กับการรักษาอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำ แต่ความคาดหวังของพรรคพวกไม่ได้ช่วยอะไร ในระหว่างการบริหารของไบเดน พรรครีพับลิกันกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่สูง ในขณะที่พรรคเดโมแครตมีทัศนคติเชิงบวกมากกว่า ตอนนี้บทบาทกลับกัน
พรรครีพับลิกันคิดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.1% (น่าหัวเราะ) ในขณะที่พรรคเดโมแครตคาดหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 4% ที่สมจริงกว่านี้ หากอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 4% นโยบายของทรัมป์อาจระเบิดได้ภายใต้น้ำหนักของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจต่าง ๆ ต่างก็หันไปสนใจการเติบโตแบบก้าว vibe ของทรัมป์ การเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานในเดือนธันวาคมอาจเป็นผลโดยตรงจากชัยชนะในการเลือกตั้งของเขา บริษัทต่างๆ รู้สึกมองโลกในแง่ดี เริ่มจ้างงานมากขึ้น ดีสำหรับงาน ไม่ดีต่อเงินเฟ้อ การมีงานมากขึ้นหมายถึงการใช้จ่ายมากขึ้น การใช้จ่ายมากขึ้นหมายถึงอัตราเงินเฟ้อไม่หายไป
DOGE เป็นเพียงพื้นที่เล็กๆ ของการพนันทางเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าของทรัมป์ ฝ่ายบริหารกำลังพยายามปักหลัก—ลดต้นทุนโดยไม่กระทบต่อการเติบโต แต่ด้วยแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเศรษฐกิจที่เปราะบาง งานนี้จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของ Elon ภายในฝ่ายบริหารก็อาจมีบทบาทเช่นกัน ทรัมป์รู้สึกเหมือนว่าเขาให้อำนาจแก่เขามากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวลือว่าอีลอนอาจลงสมัครรับตำแหน่งในปี 2571 เขามีแนวโน้มจะลดขนาดความสัมพันธ์ของพวกเขาลง
บทความแนะนำ
