TradingKey – หลังจากที่ราคาทองคำระหว่างประเทศพุ่งขึ้น 25% ในปี 2025 กระแสราคาทองก็ได้รับแรงหนุนใหม่อีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่จะปลด เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สร้างความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเงิน พร้อมเน้นสนับสนุนการถือทองคำ โดยกล่าวว่า “มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่”
เช้าวันที่ 21 เมษายน ราคาทองคำระหว่างประเทศปรับขึ้นเกือบ 1% ปัจจุบันซื้อขายที่ 3,381.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้วยแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองทะลุระดับ 3,380 ดอลลาร์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และยังคงทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
ช่วงเช้าของวันที่ 21 เมษายน ทรัมป์เผยแพร่ข้อความบนแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า “กฏเหล็กของการเจรจาต่อรองให้สำเร็จคือ มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่” ข้อความนี้ถูกมองว่าเป็นชนวนตรงที่กระตุ้นให้ราคาทองขึ้นอย่างยั่งยืนในวันนั้น
นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์วิจารณ์พาวเวลล์เรื่องชักช้าในการลดดอกเบี้ยหลายครั้ง และเรียกร้องให้เขาลาออก ขณะที่ทำเนียบขาวก็ยืนยันว่ากำลังพิจารณาปลดประธานธนาคารกลาง
ภายใต้ระบบการเมืองสหรัฐฯ นโยบายของธนาคารกลางควรทำงานอย่างอิสระจากประธานาธิบดี แผนปลดพาวเวลล์จึงถูกต่อต้านจากนักเศรษฐศาสตร์และนักการเมืองหลายฝ่าย รวมถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนท์
เบสเซนท์คัดค้านการปลดตำแหน่งโดยตรง มองว่าอาจทำให้ตลาดการเงินสั่นคลอนและมีต้นทุนสูงเกินไป ขณะที่ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส อีริก ลอมบาร์ด เตือนว่าหากทรัมป์ลงมือจริง อาจทำลายความน่าเชื่อถือของดอลลาร์และโยกคลอนเศรษฐกิจสหรัฐฯ
วันที่ 21 เมษายน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงต่ำกว่า 99 จุด แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามปี ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นยิ่งหนุนให้ราคาทองพุ่งต่อ
นักยุทธศาสตร์ของ Saxo Bank ระบุว่า ความตึงเครียดที่ทวีขึ้นทำให้ตลาดอยู่ในภาวะเฝ้าระวัง และความกังวลต่อความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะเข้าแทรกแซง Fed ก็ยิ่งเพิ่มอุปสรรคใหม่ให้กับตลาด
เพียงไม่กี่วันก่อน Citibank ปรับเป้าราคาทองช่วงสามเดือนข้างหน้าเป็น 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองปัจจุบันได้ทะลุเป้าปี 2025 ที่หลายสถาบันบนวอลล์สตรีทตั้งไว้ เช่น เจพีมอร์แกน ที่ 3,000 ดอลลาร์ และ Deutsche Bank ที่ 3,350 ดอลลาร์ ไปเรียบร้อยแล้ว