การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ดูเหมือนจะพร้อมที่จะทดสอบจุดสูงสุดหลายเดือนอีกครั้งที่บริเวณประมาณ $33.40
- โลหะเงินปรับตัวเป็นบวกเป็นวันที่สามติดต่อกันและไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดรายสัปดาห์ใหม่.
- การตั้งค่าทางเทคนิคสนับสนุนตลาดกระทิงและสนับสนุนแนวโน้มการปรับตัวขึ้นต่อไป.
- การปรับตัวลดลงใดๆ ที่มุ่งสู่ $32.00 อาจถูกมองว่าเป็นโอกาสในการซื้อ.
โลหะเงิน (XAG/USD) ดึงดูดนักลงทุนที่ซื้อในช่วงราคาต่ำในบริเวณระดับ $32.00 และปรับตัวเป็นบวกเป็นวันที่สามติดต่อกันในวันพุธ โลหะเงินไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดรายสัปดาห์ใหม่ในช่วงครึ่งแรกของตลาดลงทุนยุโรป โดยตลาดกระทิงกำลังมองหาการสร้างแรงผลักดันต่อไปเหนือระดับ $33.00.
จากมุมมองทางเทคนิค การปิดตลาดที่ยั่งยืนเหนือระดับ $32.50-$32.55 ในคืนที่ผ่านมาได้ยืนยันการทะลุออกจากกรอบการซื้อขายระยะสั้นและสนับสนุนเทรดเดอร์ขาขึ้น นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์ในกราฟรายวันยังแสดงให้เห็นว่าเส้นทางที่มีแนวต้านน้อยที่สุดสำหรับ XAG/USD ยังคงเป็นขาขึ้นและสนับสนุนแนวโน้มการปรับตัวขึ้นเพิ่มเติม.
โลหะเงินดูเหมือนจะพร้อมที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปสู่ระดับสูงสุดในวันศุกร์ที่ผ่านมา ประมาณโซน $33.35-$33.40 ก่อนที่จะมุ่งหวังที่จะกลับไปที่ระดับ $34.00 จุดกลม การเคลื่อนไหวอาจขยายไปยังระดับอุปสรรคระหว่าง $34.45 และในที่สุดจะดัน XAG/USD ไปยังบริเวณ $35.00 หรือจุดสูงสุดในรอบหลายปีที่แตะในเดือนตุลาคม.
ในทางกลับกัน การปรับตัวลดลงที่มีนัยสำคัญในขณะนี้ดูเหมือนจะพบแนวรับที่ดีในบริเวณ $32.00-$31.90 การลดลงเพิ่มเติมอาจถูกมองว่าเป็นโอกาสในการซื้อ ซึ่งจะช่วยจำกัดการปรับตัวลดลงสำหรับ XAG/USD ใกล้โซนแนวนอน $31.75-$31.70 การทะลุผ่านระดับนี้อาจเปลี่ยนแนวโน้มในระยะสั้นไปยังฝั่งตลาดหมี.
XAG/USD อาจเร่งการปรับตัวลดลงไปยังการทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) 100 วัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ใกล้บริเวณ $31.20 ก่อนที่จะมุ่งสู่ระดับ $31.00 จุดกลม การเคลื่อนไหวตามมาควรเปิดทางให้การปรับตัวลดลงไปยังแนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปใกล้โซน $30.25, จุดทางจิตวิทยา $30.00 และโซนแนวนอน $29.55-$29.50.
กราฟรายวันโลหะเงิน
โลหะเงิน FAQs
แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ
ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน
โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน
ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน
บทความแนะนำ
