ราคาทองคําดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ ขาดความเชื่อมั่นขาขึ้นก่อนการประชุม FOMC
- ในวันจันทร์ ราคาทองคําฟื้นตัวเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่เคยแตะเมื่อก่อนหน้านี้
- ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ กับ USD ที่ลดลงเป็นประโยชน์ต่อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง XAU/USD
- การเก็งว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินน้อยลงหมายความว่าฝั่งขาขึ้นจะระวังตัวก่อนการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้
ราคาทองคํา (XAU/USD) ปรับตัวสูงขึ้นในเซสชั่นเอเชียลดลงสู่ภูมิภาค $2,644-2,643 หรือระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ และสําหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่าทองคำจะหยุดการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยแนวโน้มอ่อนค่าท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กลับมาปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ กลายเป็นปัจจัยสําคัญที่ให้การสนับสนุนโลหะมีค่าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนดูเหมือนจะเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะมีท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นในการลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ท่ามกลางสัญญาณว่าความคืบหน้าในการลดอัตราเงินเฟ้อสู่เป้าหมาย 2% ที่อาจจะต้องหยุดลง สิ่งนี้ควรทําหน้าที่เป็นแรงหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และ USD ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคํา สินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น เทรดเดอร์อาจไม่วางออเดอร์ และเลือกที่จะรอผลการประชุมนโยบาย FOMC สองวันที่คาดการณ์ในวันพุธ ที่คาดหวังกันไว้สูง
ราคาทองคําดึงดูดกระแสความต้องการสินทรัพย์หลบภัย ท่ามกลางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ โอกาสขาขึ้นดูเหมือนจะมีไม่มาก
- อิสราเอลตัดสินใจใช้แผนการจัดสรรเงินของรัฐเพื่อขยายสถานะของประเทศ และเพิ่มจํานวนประชากรเป็นสองเท่าในที่ราบสูงโกลันซึ่งถูกยึดครอง เพิ่มความเสี่ยงว่าความตึงเครียดจะทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว
- การโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซาทําให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 53 คน ในขณะที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่ากองกําลังทางอากาศและภาคพื้นดินทางตอนเหนือของพื้นที่ได้สังหารกลุ่มติดอาวุธหลายสิบคนและจับกุมคนอื่นๆ
- มาร์ค รัตเต้ เลขาธิการนาโตเตือนว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียต้องการลบยูเครนออกจากแผนที่ และอาจตามมาด้วยส่วนอื่นๆ ของยุโรปต่อไป
- หอสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนของซีเรียกล่าวว่าเครื่องบินขับไล่ของอิสราเอลพุ่งเป้าไปที่เครื่องยิงขีปนาวุธทางตอนใต้ของซีเรีย และทําการโจมตีทางอากาศกับเรดาร์ทางตะวันออกของซีเรีย
- เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ระบุว่าเทรดเดอร์เชื่อว่ามีโอกาสมากกว่า 93% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดต้นทุนการกู้ยืมลง 25 จุดเบสิสในวันพุธ
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตอกย้ำความคาดหวังว่าเฟดจะชะลอวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
- ในวันศุกร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ ท่ามกลางการเก็งว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินน้อยลง ซึ่งน่าจะจํากัดการเพิ่มขึ้นของราคาทองคํา
- ในวันจันทร์จะมีการเปิดเผยดัชนี PMI เบื้องต้นทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลให้นักลงทุนกล้าเสี่ยงมากขึ้นในวงกว้าง และเป็นแรงผลักดันให้กับโลหะมีค่าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- อย่างไรก็ตาม โฟกัสจะอยู่ที่การตัดสินใจที่สําคัญของ FOMC ในวันพุธ เทรดเดอร์จะใช้คําชี้นําจากแถลงการณ์นโยบาย และคําพูดของประธานเฟด Jerome Powell เป็นข้อมูลสำหรับการลงทุน
ราคาทองคําจําเป็นต้องทะลุลงต่ำกว่าบริเวณ 2,643 ดอลลาร์เพื่อให้ตลาดหมีสามารถคุมเทรนด์ได้ในระยะสั้น
จากมุมมองทางเทคนิค ระดับต่ำสุดของเซสชั่นเอเชียบริเวณ $2,644-2,643 ตรงกับโซนที่มีออเดอร์อยู่เยอะ การปรับตัวลดลงต่อเนื่องมีโอกาสที่จะฉุดราคาทองคําไปที่โซนราคา $2,625 ระหว่างทางไปสู่ระดับต่ำสุดรายเดือน บริเวณโซน $2,614 และแนวรับสําคัญที่ $2,605-2,600 การทะลุลงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่าราคานี้และมีทรงจะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นใหม่สําหรับเทรดเดอร์ขาลง และปูทางไปสู่การปรับตัวลดลงลึกขึ้น
ในทางกลับกัน โซนราคา $2,665-2,666 ดูเหมือนจะทําหน้าที่เป็นแนวต้านแรกก่อนบริเวณ $2,677 ซึ่งสูงกว่าราคาทองคําสามารถตั้งเป้าที่จะกลับไปยืนเหนือตัวเลข $2,700 โดยประมาณ การขยับขึ้นสูงกว่านี้อาจพาราคาปรับตัวขึ้นต่อไปสู่ระดับสูงสุดของสวิงรายเดือนที่บริเวณ $2,726 ซึ่งหากเคลียร์อย่างเด็ดขาด จะเป็นช่วงเวลาสําหรับการเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นต่อไป
Gold FAQs
ทองคํามีบทบาทสําคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เพราะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะที่เก็บมูลค่าและสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ปัจจุบันนอกเหนือจากความงดงามและการใช้งานสําหรับเครื่องประดับแล้ว ทองคำยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าถือเป็นการลงทุนที่ดีในช่วงเวลาที่มีความวุ่นวาย ทองคํายังถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและเป็นการคานการอ่อนค่าของสกุลเงินเพราะไม่ได้พึ่งพาผู้ออกหรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
ธนาคารกลางเป็นผู้ถือทองคํารายใหญ่ที่สุด ธนาคารกลางต่างๆ ซื้อทองคำตามเป้าหมายของพวกเขาเพื่อสนับสนุนสกุลเงินของตนเองในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่มีเสถียรภาพ ธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะกระจายทุนสํารองและซื้อทองคําเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในระบบเศรษฐกิจและสกุลเงิน การมีทองคําสํารองสูงสามารถเป็นแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ว่าประเทศของตนอยู่ห่างไกลจากคำว่าล้มละลาย ตามข้อมูลจากสภาทองคําโลก ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มทองคํา 1,136 ตันมูลค่าประมาณ 70 พันล้านดอลลาร์ให้กับทุนสํารองในปี 2022 นับเป็นยอดซื้อรายปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติ ธนาคารกลางจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เช่นจีนอินเดียและตุรกีกําลังเพิ่มปริมาณสํารองทองคําอย่างรวดเร็ว
ทองคํามีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นทั้งสินทรัพย์สํารองหลักและสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ทองคํามีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทําให้นักลงทุนและธนาคารกลางสามารถกระจายสินทรัพย์ของพวกเขาในช่วงเวลาที่ปั่นป่วน ทองคํายังมีความสัมพันธ์ผกผันกับสินทรัพย์เสี่ยง ขาขึ้นในตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะทําให้ราคาทองคําอ่อนกำลังลงในขณะที่การเทขายในตลาดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนราคาทองคำ
ราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวได้เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวของภาวะถดถอยลงลึกสามารถทําให้ราคาทองคําเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัย ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน ทองคํามีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ในขณะเดียวกัน ต้นทุนเงินที่สูงขึ้นมักจะสร้างแรงกดดันให้กับทองคำ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าดอลลาร์สหรัฐ (USD) มีพฤติกรรมอย่างไร เนื่องจากสินทรัพย์มีราคาอ้างอิงกับดอลลาร์ (XAUUSD) ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะควบคุมราคาทองคํา ในทางตรงกันข้าม ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาทองคําให้สูงขึ้น
บทความแนะนำ
