คู่ AUD/USD อยู่ในสถานะเป็นกลางที่ประมาณ 0.6235 ในวันพฤหัสบดี พยายามที่จะได้รับแรงหนุนก่อนการประกาศข้อมูล GDP ไตรมาสที่ 4 ของสหรัฐฯ ธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่ยังคงท่าทีระมัดระวัง โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าของการลดเงินเฟ้อที่หยุดชะงัก ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คาดว่าจะเปลี่ยนไปสู่ท่าทีผ่อนคลายนโยบายในเดือนหน้า ซึ่งกดดันเงินออสซี่เพิ่มเติม
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตชะลอตัวลงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ตัวเลขเบื้องต้นเผยว่า GDP ขยายตัวในอัตราต่อปีที่ 2.3% ต่ำกว่าฉันทามติที่ 2.6% และลดลงอย่างมากจากการเติบโต 3.1% ในไตรมาสก่อนหน้า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้นเป็น 2.3% สะท้อนถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ PCE พื้นฐานยังคงอยู่ที่ 2.2% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5%
นอกจากนี้ การขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาด โดยการขอรับสวัสดิการครั้งแรกลดลงเหลือ 207,000 จาก 223,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเสริมท่าทีระมัดระวังของเฟดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามที่คาดการณ์ แต่ได้ลบภาษาที่เกี่ยวกับความคืบหน้าของเงินเฟ้อไปสู่เป้าหมาย 2% ออก ส่งสัญญาณถึงท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้น ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ชี้แจงในภายหลังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มีเจตนาส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบาย ซึ่งทําให้การตีความที่เข้มงวดในตอนแรกอ่อนลงเล็กน้อย
นักลงทุนกําลังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่จะออกมา โดยเฉพาะรายงานดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของเฟด ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นต่อเงินออสซี่ยังคงอ่อนแอเนื่องจากการเก็งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ RBA เพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์ที่ ANZ คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเบสิสในเดือนกุมภาพันธ์
AUD/USD ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แสดงโมเมนตัมขาขึ้นที่จํากัด ดัชนี Relative Strength Index (RSI) อยู่ที่ 47 ยังคงอยู่ในแดนลบแต่กําลังเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน แท่งฮิสโตแกรมของ MACD พิมพ์แท่งสีเขียว บ่งบอกถึงโอกาสการปรับฐานขาขึ้น
แนวต้านสําคัญอยู่ที่ 0.6250 ในขาลง 0.6200 ทําหน้าที่เป็นแนวรับสําคัญ โดยการทะลุลงต่ํากว่าจะเปิดประตูไปสู่ 0.6170 จนกว่าจะเกิดการทะลุกรอบที่ชัดเจน คู่สกุลเงินนี้มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในโหมดการปรับฐาน