ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพฤหัสบดี คู่ NZDUSD เพิ่มขึ้นเล็กน้อยไปที่ประมาณ 0.5875 อย่างไรก็ตาม ขาขึ้นของทั้งคู่อาจมีไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนรอฟังความเห็นจากคนในเฟดเพื่อรับสัญญาณการลงทุนเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และนโยบายการบริการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะนำเสนอ
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ 106.60 หลังถอยกลับจากระดับสูงสุดของปีที่ 107.06 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การเก็งที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดอาจชะลอเส้นทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากความกังวลว่านโยบายของทรัมป์อาจกระตุ้นอัตราเงินเฟ้ออีกครั้งทําให้ดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินกีวี
ตามการสํารวจความคิดเห็น ของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 จะมีน้อยกว่าที่คาดไว้จากเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นเพราะนโยบายของทรัมป์
มิเชล โบว์แมน (Michelle Bowman) สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงและทรงตัวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรดําเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง
ในด้านนิวซีแลนด์ มีความคาดหวังเพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินสดอย่างเป็นทางการ (OCR) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) ตลาดเชื่ออย่างเต็มที่ว่าธนาคารกลางฯ จะลดอัตราดอกเบี้ย 50 bps โดยมีโอกาส 12% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ย 75 bps มากขึ้น Sharon Zollner หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ANZ คาดว่า RBNZ จะลด OCR ลง 50 จุดเบสิส (bps) ในสัปดาห์หน้า ทําให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.25% "หากมีเซอร์ไพรส์ การลดดอกเบี้ยที่มากกว่านั้นดูเหมือนจะเป็นไปได้มากกว่าการลดในขนาดที่เล็กลง" Zollner กล่าวเสริม
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) หรือที่เรียกกันในชื่อเล่นว่ากีวี เป็นสกุลเงินที่ซื้อขายกันดีในหมู่นักลงทุน มูลค่าของสกุลเงินดังกล่าวถูกกําหนดโดยความแข็งแรงของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์และนโยบายจากธนาคารกลางภายในประเทศ ถึงกระนั้น ก็มีปัจจัยเฉพาะบางอย่างที่สามารถทําให้ NZD เคลื่อนไหวได้อย่างเช่น ผลการดําเนินงานของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะขยับราคากีวี เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เช่นหากมีข่าวร้ายสําหรับเศรษฐกิจจีนก็มักจะหมายถึงการส่งออกของนิวซีแลนด์ไปยังประเทศจีนที่จะน้อยลง และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและค่าเงิน อีกปัจจัยหนึ่งที่ทําให้ NZD เคลื่อนไหวอย่างเจาะจงคือราคานม เนื่องจากอุตสาหกรรมนมเป็นสินค้าส่งออกหลักของนิวซีแลนด์ ราคานมที่สูงช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออก ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและต่อสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตั้งเป้าที่จะบรรลุและรักษาอัตราเงินเฟ้อระหว่าง 1% ถึง 3% ในระยะกลาง โดยมุ่งเน้นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้จุดกึ่งกลางที่ 2% ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงจะกําหนดระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป RBNZ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อทําให้เศรษฐกิจเย็นตัวลง แล้วการดำเนินการดังกล่าวจะทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นเพิ่มความน่าสนใจของนักลงทุนที่จะลงทุนในประเทศและช่วยหนุนค่าเงิน NZD ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมีแนวโน้มที่จะทำให้ NZD อ่อนค่าลง ด้านส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยหรือที่เรียกว่า Rate Differential ในนิวซีแลนด์คือระดับของอัตราดอกเบี้ยในนิวซีแลนด์หรือที่ธนาคารกลางคาดการณ์ เทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นหรือกําหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ ยังสามารถมีบทบาทสําคัญในการขยับคู่เงิน NZD/USD
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจระดับมหภาคในนิวซีแลนด์เป็นกุญแจสําคัญในการประเมินสถานะทางเศรษฐกิจและอาจส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าของดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง การว่างงานต่ำและความเชื่อมั่นนักลงทุนที่สูงเป็นปัจจัยบวกสําหรับ NZD การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจนี้มาพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ในทางกลับกันหากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ สกุลเงิน NZD ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ต้องมีความกล้าเสี่ยง หรือแม้เมื่อนักลงทุนรับรู้ว่าความกล้าเสี่ยงของด้านตลาดในวงกว้างอยู่ในระดับต่ำแต่มีการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตการเติบโต สถานการณ์นี้ก็มีแนวโน้มที่จะนําไปสู่แนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นสําหรับสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ และสกุลเงินแบบที่เรียกว่า 'สกุลเงินสายสินค้าโภคภัณฑ์' อย่างเช่นกีวีด้วย NZD มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนหรือมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนมักจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและหลบไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเสถียรภาพมากกว่า