คู่ NZD/USD รีเฟรชระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ที่ใกล้ 0.6150 ในเซสชั่นเอเชียของวันจันทร์ คู่สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยายการปรับตัวขาขึ้นเป็นเซสชั่นซื้อขายที่ห้า เนื่องจากการอภิปรายเกี่ยวกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนกันยายนได้เพิ่มขึ้นหลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ของสหรัฐอเมริกา (US) ในเดือนมิถุนายนชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานที่กำลังกลับสู่ภาวะปกติ
ตามเครื่องมือ CME FedWatch ข้อมูลในการประเมินราคาของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Federal Funds Futures) 30 วันแสดงให้เห็นว่า โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเป็น 75.8% จากที่ 64% ที่บันทึกไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งในการประชุมของเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม
ข้อมูลจากรายงาน NFP แสดงให้เห็นว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็น 4.1% จากประมาณการและตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ 4.0% โดยรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงซึ่งเป็นมาตรวัดโมเมนตัมการเติบโตของค่าจ้างชะลอตัวลงตามที่คาดการณ์ไว้ทั้งรายเดือนและรายปี ตัวเลขการจ้างงานใหม่ออกมาสูงขึ้นที่ 206K โดยเทียบกับการประมาณการที่ 190K แต่ต่ำกว่าตัวเลขของเดือนพฤษภาคมที่ 218K
การเก็งที่มากขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างมาก โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งติดตามมูลค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ หกสกุล กำลังซื้อขายใกล้ระดับต่ําสุดในรอบสามสัปดาห์ที่ใกล้ 104.85 ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นในเซสชั่นการซื้อขายของวันจันทร์ แต่อยู่ใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดของสัปดาห์นี้ที่ประมาณ 4.29%
ในสัปดาห์นี้ สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) จะน่าสนใจอย่างมากในตลาด เนื่องจากมีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ในวันพุธ โดยทาง RBNZ ได้ถูกคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าจะปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (OCR) ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 5.5% ดังนั้นนักลงทุนจะให้ความสนใจกับความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด โดยผู้เข้าร่วมตลาดมองว่า RBNZ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตลอดทั้งปีนี้