Investing.com - ราคาน้ำมันขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าซัพพลายจะเกินดุลในปี 2025 แต่การลดลงก็ถูกจำกัดด้วยความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ของจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่
ณ เวลา 08:30 น. (GMT+7) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ขยับลง 0.1% มาเป็น 73.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ขยับลงเล็กน้อยมาเป็น 69.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองสัญญาที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ก็เตรียมปิดสัปดาห์ด้วยกำไรที่สูง หลังได้รับแรงหนุนจากการประชุมเชิงนโยบายที่สำคัญของจีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นในตลาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐและเพิ่มความต้องการพลังงาน
การคาดการณ์ซัพพลายของ IEA กดดันราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันพฤหัสบดี หลังจากที่สำนักงานพลังงานสากลปรับเพิ่มการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในปีหน้าเล็กน้อย แต่ยังคงมีมุมมองว่าตลาดน้ำมันจะมีซัพพลายที่เพียงพอ
บรรยากาศของตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลทางเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงการเติบโตของความต้องการน้ำมันในจีนที่อ่อนแอกว่าที่คาด ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับการบริโภคน้ำมันทั่วโลก IEA ระบุว่าความต้องการน้ำมันในจีนกำลังลดลง ซึ่งตอกย้ำมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ซัพพลายส่วนเกิน
องค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ก็ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันในปี 2024 และ 2025 ลงเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันในวันพุธที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้องค์กรยังได้ขยายระยะเวลาการลดการผลิตออกไปอีก
แม้จะมีการคาดการณ์ซัพพลายส่วนเกิน แต่กิจกรรมน้ำมันในเดือนธันวาคมยังคงเพิ่มขึ้นและปัจจัยตามฤดูกาลก็อาจช่วยพยุงราคาน้ำมันในระยะสั้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้ม เนื่องจากซัพพลายที่เพิ่มขึ้นและความต้องการที่ยังคงซบเซาส่งผลกระทบต่อสมดุลในตลาด
ความหวังจากมาตรการกระตุ้นของจีนหนุนราคาน้ำมัน
จีนได้ประกาศแผนเพิ่มงบประมาณขาดดุล เพิ่มการออกหนี้ และผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ตามรายงานของสื่อรัฐจากการประชุม Central Economic Work Conference (CEWC) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 11-12 ธันวาคม
นักวิเคราะห์มองการเปลี่ยนแปลงนี้ว่าเป็นสัญญาณว่าจีนพร้อมที่จะรับภาระหนี้มากขึ้นเพื่อให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าการบริหารความเสี่ยงทางการเงินในระยะสั้น มาตรการเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่กิจกรรมอุตสาหกรรม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งอาจเพิ่มการบริโภคพลังงานโดยเฉพาะน้ำมัน
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ Janet Yellen ระบุเมื่อวันพุธว่าตลาดน้ำมันโลกที่อ่อนแอลงอาจเป็นโอกาสในการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมต่อภาคพลังงานของรัสเซีย เนื่องจากสหรัฐยังคงพยายามขัดขวางความสามารถของมอสโคล์ในการทำสงครามกับยูเครน อีกทั้งแนวโน้มการลดซัพพลายจากรัสเซียก็ยังช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันอีกด้วย