Investing.com - วอลล์สตรีทคาดว่าจะมีการซื้อขายอยู่ในแดนลบเล็กน้อยในวันนี้ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญที่อาจเป็นแนวทางสำหรับนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในอนาคต
1. จับตาข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ
สหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูล ดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อพื้นฐานที่เฟดให้ความสำคัญในวันนี้
ขณะนี้ ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคมหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ยังคงแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา
แม้ว่าจะมีกำหนดการณ์เปิดเผยข้อมูล CPI และ PPI ประจำเดือนพฤศจิกายนก่อนการประชุมของเฟดในวันที่ 17-18 ธ.ค. แต่รายงาน PCE ครั้งนี้จะเป็นรายงานสุดท้ายก่อนการประชุมดังกล่าว
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าดัชนีราคา PCE จะเพิ่มขึ้น 2.3% ต่อปีในเดือนตุลาคม ซึ่งสูงขึ้นจาก 2.1% ในเดือนก่อนหน้า
รายงานการประชุม ของเฟดในเดือนพฤศจิกายนที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร ได้ชี้ให้เห็นว่าสมาชิกยังคงสนับสนุนแนวทางการผ่อนคลายทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป
2. หุ้นฟิวเจอร์สขยับลงเล็กน้อยก่อนรายงานเงินเฟ้อ
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ โดยนักลงทุนต่างระมัดระวังก่อนการเปิดเผยมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญ
ณ เวลา 16:00 น. (GMT+7) ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับลง 25 จุด หรือ 0.1% ขณะนี้ S&P 500 ฟิวเจอร์ส ปรับลง 8 จุด หรือ 0.1% และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ลดลง 45 จุด หรือ 0.2%
ด้านดัชนีหลักนั้นปิดอยู่ในแดนบวกในวันอังคาร โดย S&P 500 และ ดาวโจนส์ ทำจุดสูงสุดใหม่ทั้งในเซสชั่นและในช่วงปิดตลาด
กิจกรรมการซื้อขายในวันนี้อาจจะเบาบาง เนื่องจากตลาดจะปิดในวันพฤหัสบดีสำหรับวันหยุดขอบคุณพระเจ้า และจะปิดการซื้อขายเร็วกว่าปกติในวันศุกร์
ความสนใจหลักของวันนี้คือการเปิดเผยรายงานดัชนีราคา PCE [ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น] เนื่องจากนักลงทุนกำลังมองหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต โดยเฉพาะในการประชุมเดือนธันวาคม
อีกทั้งก็ยังมีรายงานผลประกอบการรายไตรมาสให้ติดตามในวันนี้อีก ขณะที่หุ้นของ Dell Technologies (NYSE:DELL) ร่วงลงอย่างหนักในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด หลังจากบริษัทให้คำแนะนำผลประกอบการในไตรมาสปัจจุบันที่น่าผิดหวัง
3. ภาษีอาจกระทบต่อกำไรของ S&P 500 อย่างมาก - Citi
แม้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งในวาระที่สอง แต่ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อมในตลาดโลกแล้ว หลังจากที่เขาขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก
ทรัมป์อ้างว่ามาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดการอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายและการนำเข้ายาเสพติด แต่ในขณะเดียวกันอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท ตามรายงานของนักวิเคราะห์จาก Citi ซึ่งระบุว่าตลาดยังไม่ได้สะท้อนความเสี่ยงนี้อย่างเต็มที่มากนัก
Citi ระบุว่าภาษีอาจทำให้ประมาณการกำไรของ S&P 500 ในปี 2025 ลดลง "หลายเปอร์เซ็นต์" และอาจลดอัตรากำไรขั้นต้นลงมากกว่า 250 จุดพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม Citi ชี้ให้เห็นว่าบริษัทจำนวนมากนั้นได้รับการยกเว้นจากภาษีในช่วงวาระแรกของทรัมป์
Citi กล่าวว่า ตลาดกำลังเคลื่อนย้ายจากช่วงของความไม่แน่นอนในผลการเลือกตั้งไปสู่ความไม่แน่นอนในนโยบาย โดยชี้ถึงปัจจัยที่ยังไม่แน่ชัดเกี่ยวกับสิ่งที่รัฐบาลสมัยที่สองของทรัมป์จะส่งผลต่อตลาด
4. Apple เผชิญความท้าทายในจีน
Tim Cook ซีอีโอของ Apple (NASDAQ:AAPL) ได้ปรากฏตัวที่งาน China International Supply Chain Expo ในกรุงปักกิ่งเมื่อต้นสัปดาห์ โดยใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตัวเขาและบริษัทในจีน
จีนถือเป็นตลาดสำคัญของ Apple และยังเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานของบริษัท เนื่องจากอุปกรณ์ส่วนใหญ่ของ Apple ถูกประกอบขึ้นในประเทศจีน
การปรากฏตัวของ Cook ในจีนเกิดขึ้นในขณะที่ Apple กำลังเผชิญกับยอดขาย iPhone ที่ซบเซาในประเทศ เนื่องจากต้องต่อสู้กับการแข่งขันที่มากขึ้นจากผู้ผลิตภายในประเทศ เช่น Huawei
ยอดขายสมาร์ทโฟนแบรนด์ต่างประเทศ รวมถึง iPhone ของ Apple ในจีน ลดลงถึง 44.25% ในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามข้อมูลที่เผยแพร่ในช่วงเช้าวันนี้โดยสถาบันวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล
การเปิดตัว iOS 18.2 ของ Apple ซึ่งมีกำหนดการณ์ในเดือนธันวาคม ก็คาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับรอบการเปลี่ยนเครื่อง iPhone ในไตรมาสถัดไป ตามที่นักวิเคราะห์จาก Citi ระบุ
"การเปิดตัว iOS 18.2 ในเดือนธันวาคมจะเป็นตัวกำหนดสำคัญสำหรับอัตราการเปลี่ยนเครื่อง iPhone" Citi กล่าวเพิ่มเติม
5. ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแม้มีข้อตกลงการหยุดยิง
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ โดยนักลงทุนต่างกำลังประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ รวมถึงการลดลงของน้ำมันคงคลังในสหรัฐ
ณ เวลา 16:40 น. น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์สปรับขึ้น 0.5% เป็น 69.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.3% มาเป็น 72.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาทั้งสองปิดตลาดลดลงในวันอังคาร หลังอิสราเอลตอบตกลงในข้อตกลงการหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ซึ่งอาจยุติความขัดแย้งข้ามพรมแดนอิสราเอล-เลบานอน และลดความกังวลเกี่ยวกับการสู้รบที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคที่อุดมด้วยน้ำมันนี้
ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร ยังแสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ของวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งตรงข้ามกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
หากข้อมูลดังกล่าวนี้ได้รับการยืนยันโดย ข้อมูลสินค้าคงคลังน้ำมันอย่างเป็นทางการ ในวันนี้ มันก็จะเพิ่มความหวังขึ้นว่าความต้องการเชื้อเพลิงในสหรัฐนั้นยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้อุปทานน้ำมันตึงตัวขึ้นในเดือนต่อ ๆ ไป
ความสนใจของตลาดในตอนนี้จึงเปลี่ยนไปอยู่ที่การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ในสัปดาห์หน้า เพื่อดูการกำหนดแผนการผลิตในอนาคต