Investing.com - ราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยในตลาดเอเชีย หลังคำขู่เรื่องนโยบายภาษีการค้านำเข้าเพิ่มเติมของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ยังคงจำกัดการเติบโตของโลหะมีค่า
ทองคำยังคงฟื้นตัวจากการขาดทุนอย่างหนักในวันก่อนหน้า หลังจากมีรายงานหลายฉบับที่ชี้ให้เห็นว่าการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและเลบานอนใกล้บรรลุผลแล้ว ซึ่งมันจะลดความต้องการของสินทรัพย์ปลอดภัยลง
ราคาทองคำสปอต ขยับขึ้น 0.1% เป็น 2,628.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.4% มาเป็น 2,653.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 11:24 น. (GMT+7)
คำขู่เรื่องนโยบายภาษีของทรัมป์หนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
ทรัมป์ได้ขู่จะเพิ่มภาษีนำเข้าอีก 10% กับจีนและอีก 25% กับแคนาดารวมถึงเม็กซิโก โดยอ้างว่ามาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดการลักลอบเข้าเมืองของผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติดผ่านประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ
คำขู่นี้ได้เพิ่มความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่ในระดับโลก โดยเฉพาะกับจีน ซึ่งทรัมป์เคยหาเสียงโดยสัญญาว่าจะใช้มาตรการการค้าที่เข้มงวดกับปักกิ่ง
จีนได้ออกมาประณามคำขู่นี้ อีกทั้งความเป็นไปได้ที่จะเกิดการตอบโต้ก็ยิ่งลดความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงลง
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นที่ของทองคำก็ยังคงถูกจำกัดด้วยการแข็งค่าของเงินดอลลาร์หลังจากคำประกาศของทรัมป์ โดยดอลลาร์กลับมาใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองปีที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านโลหะมีค่าอื่น ๆ มีการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย โดย แพลตตินัมฟิวเจอร์ส ขยับลง 0.1% มาอยู่ที่ 943.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 30.823 ดอลลาร์
ความตึงเครียดที่ลดลงในตะวันออกกลางยังให้แรงหนุนต่อทองคำได้จำกัด
การเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำยังถูกจำกัดลงอีกจากการคาดการณ์ที่ว่าความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนจะลดลง โดยมีรายงานหลายฉบับระบุว่าการเจรจาหยุดยิงนั้นใกล้จะบรรลุผล
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางนั้นเคยเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำในช่วงต้นปีนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กัน
ทองคำยังคงรักษากำไรได้บางส่วนจากสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย โดยมอสโคล์ได้ขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่อการใช้ขีปนาวุธระยะไกลของยูเครน