กองทุน ETF ซื้อที่ไหน?8 โบรกเกอร์ออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในETF
ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเ ป็นนักลงทุน แต่จะเริ่มต้นอย่างไรดี? กองทุน ETF (Exchange Traded Fund)กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยม ด้วยความสะดวก กระจายความเสี่ยง และผลตอบแทนที่น่าสนใจ แต่จะซื้อกองทุน ETF ได้ที่ไหนดี? บทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 8 โบรกเกอร์ออนไลน์ชั้นนำ ที่ให้บริการซื้อขายกองทุน ETF ครบ จบ ในที่เดียว พร้อมเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และฟีเจอร์เด่น ให้คุณเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณมากที่สุด
วิธีเลือกกองทุน ETF ที่ดีที่สุด?
ก่อนที่จะเริ่มต้นเลือกกองทุน ETF คุณควรกำหนดวัตถุประสงค์การลงทุนของคุณให้ชัดเจน ว่าคุณต้องการทำกำไรจากการลงทุนในระยะสั้นหรือระยะยาว และวัตถุประสงค์การลงทุนของคุณเกี่ยวข้องกับการลงทุนในสินทรัพย์ใดบ้าง เช่น หุ้น, ตราสารหนี้, หรือสินค้า
ค้นคว้าและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุน ETF ที่คุณสนใจ รวมถึงประเภทของกองทุน, ประสิทธิภาพย้อนหลัง, ค่าธรรมเนียม, และกำไรที่คาดหวัง คุณสามารถใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ออนไลน์หรือข้อมูลจากโบรกเกอร์เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในกองทุน ETF เช่น ค่าซื้อขาย, ค่าบริการ, และค่าดูแลรักษา รวมถึงการทบทวนการจัดการกองทุนและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย
ประเมินความเสี่ยงที่คุณพร้อมรับ และตรวจสอบว่ากองทุน ETF ที่คุณสนใจมีระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนและโปรไฟล์การลงทุนของคุณ
สำรวจการดูแลรักษาของกองทุน ETF และประสิทธิภาพของกองทุนในช่วงเวลาย้อนหลัง เพื่อให้คุณมั่นใจว่ากองทุนมีประสิทธิภาพที่ดีและการบริหารโดยมีประสิทธิภาพ
ศึกษาประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้จัดการกองทุน รวมถึงความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ในการจัดการกองทุน ETF
ดูผลการจัดการกองทุน ETF ที่คุณสนใจในช่วงเวลาย้อนหลัง เพื่อทราบว่ากองทุนมีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองความคาดหวังของคุณได้หรือไม่
ศึกษาความเป็นมาและประวัติของกองทุน ETF เพื่อทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในการจัดการและประสิทธิภาพในอดีต
กองทุน ETF ซื้อที่ไหน? 8 โบรกเกอร์ออนไลน์ที่ดีที่สุด
1. KGI Securities: บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ
จุดเด่น: ค่าธรรมเนียมต่ำ แพลตฟอร์ม KGI Trade Online ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ครบครัน
ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย ETF กับ KGI (ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์) ได้หลายวิธี ได้แก่
-การซื้อขายบนกระดานหลักทรัพย์ ETF เป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯมีราคา Bid Offer ให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นทั่วไป
-การซื้อขายโดยวิธี Put-through เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขาย ETF จำนวนมาก (ตั้งแต่ 1 Creation Unit ขึ้นไป) โดยนักลงทุนสามารถติดต่อ KGI ในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่องเพื่อตกลงราคาซื้อขาย ETF แล้วจึงทำการบันทึกรายการซื้อขายนั้นเข้ามาในระบบ Put-through
2. BBL Securities บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง
จุดเด่น: แอปพลิเคชั่น BBL Invest ใช้งานสะดวก มีฟีเจอร์ครบครัน ลงทุนง่าย...ด้วย ETF ซื้อเหมือนหุ้นตัวเดียว แต่ได้สารพัดหุ้นดีมารวมกัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากใช้เงินลงทุนเริ่มต้นจำนวนไม่มาก แต่สามารถกระจายความเสี่ยงในหลักทรัพย์หลายตัว
3. Yuanta Securities: บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า
จุดเด่น: ค่าธรรมเนียมต่ำ แพลตฟอร์ม Yuanta Online ใช้งานง่าย
ETF เพียงกองทุนเดียว เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ นักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธีมหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ ตัวอย่าง ETF หุ้นต่างประเทศ:
· SPDR® S&P 500® ETF Trust (SPY): ลงทุนในหุ้น 500 ตัวในดัชนี S&P 500 ของสหรัฐอเมริกา
· Vanguard FTSE Developed Europe ETF (VEA): ลงทุนในหุ้นยุโรป
4.Interactive Brokers
โบรกเกอร์ ETF ที่ดีที่สุด ใน 2024. ค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก. ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย. เครื่องมือวิจัยที่ยอดเยี่ยมมากมาย. มี ETF มากถึง 13,000 กองทุน และเงินทุนเริ่มต้นที่ 0 $ โดยมีค่าธรรมเนียมซื้อ ETF อยู่ที่ 1 USD
- ทางโบรกเกอร์ IB เสนอเครื่องมือการวิเคราะห์ที่หลากหลาย นักลงทุนสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อวิเคราะห์ ETF และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูล
- แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่าย: IB มีแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่าย นักลงทุนสามารถซื้อขาย ETF ได้อย่างรวดเร็วและสะดวก
5.Saxo Bank
แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ยอดเยี่ยม. การวิจัยที่โดดเด่น. พอร์ตผลิตภัณฑ์ที่กว้างขวาง. ดอกเบี้ยที่จ่ายสำหรับเงินสดที่ไม่ได้ลงทุน.
- ทาง Saxo Bank เสนอ ETF มากกว่า 18,000 ตัวจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก นักลงทุนสามารถค้นหา ETF ที่ตรงกับกลยุทธ์การลงทุนของตนได้อย่างง่ายดาย
- Saxo Bank มีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ETF ที่ต่ำ นักลงทุนสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นเมื่อเทรด ETF กับ Saxo Bank
- Saxo Bank เสนอแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและทรงพลัง นักลงทุนสามารถซื้อขาย ETF ได้อย่างรวดเร็วและสะดวก มีเครื่องมือการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ช่วยให้นักลงทุนวิเคราะห์ ETF และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูล
6.Trading 212
หุ้นจริงและ ETFs ไม่มีค่าคอมมิชชั่น. การเปิดบัญชีที่รวดเร็วและง่ายดาย. แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ยอดเยี่ยม. จ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ไม่ได้ลงทุน....
- ทาง Trading 212 นำเสนอค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ETF 0% สำหรับหุ้นและ ETF บนตลาดหลักในยุโรปและสหรัฐอเมริกา หมายความว่านักลงทุนสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นเมื่อเทรด ETF กับ Trading 212
-Trading 212 เสนอ ETF มากกว่า 3,000 ตัวจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก นักลงทุนสามารถค้นหา ETF ที่ตรงกับกลยุทธ์การลงทุนของตนได้อย่างง่ายดาย
7.Firstrade
การเทรดหุ้น, ETF, กองทุน และตัวเลือกฟรี. เครื่องมือวิจัยที่มั่นคง. เครื่องมือการศึกษาที่มีคุณภาพ.Firstrade เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการเทรด ETF Firstrade มีจุดเด่นหลายประการ ดังนี้:
- Firstrade เสนอค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ETF 0% สำหรับหุ้นและ ETF บนตลาดหลักในสหรัฐอเมริกา หมายความว่านักลงทุนสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นเมื่อเทรด ETF กับ Firstrade
- Firstrade เสนอ ETF มากกว่า 2,400 ตัวจากตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา นักลงทุนสามารถค้นหา ETF ที่ตรงกับกลยุทธ์การลงทุนของตนได้อย่างง่ายดาย
8.Mitrade
Mitrade อาจมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน และใช้เงินเริ่มต้นเพียง 50 USD รวมถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายของ Mitrade อาจมีความสะดวกสบายและใช้งานง่าย รวมถึงมีเครื่องมือการวิเคราะห์ที่ช่วยให้การตัดสินใจในการลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญความหลากหลายใน ETF: Mitrade อาจมีการเสนอหลากหลายของ ETF ให้เลือกซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกใช้ ETF ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตนได้
ประเภทของกองทุน ETF
ประเภทหลักของกองทุน ETF แบ่งตามสินทรัพย์อ้างอิง ดังนี้:
กองทุน ETF อ้างอิงดัชนีหุ้น
มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหุ้นอ้างอิง เช่น SET50 S&P500 Nikkei225
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นกลุ่มใหญ่ กระจายความเสี่ยง
ตัวอย่าง: KETF-SET50 K-SET50 KIDX
กองทุน ETF อ้างอิงสินค้าโภคภัณฑ์
มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ้างอิง เช่น ทองคำ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หรือเก็งกำไรราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ตัวอย่าง: GOLD-ETF GOXD
กองทุน ETF อ้างอิงตราสารหนี้
มุ่งสร้างผลตอบแทนจากดอกเบี้ยของตราสารหนี้อ้างอิง เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้บริษัท
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้สม่ำเสมอ เน้นความมั่นคงต่ำความเสี่ยง
ตัวอย่าง: THFIXED TFixed50
กองทุน ETF อ้างอิงสินทรัพย์อื่นๆ
ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น อสังหาริมทรัพย์ สินทรัพย์ดิจิทัล
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง มองหาโอกาสการลงทุนรูปแบบใหม่
ตัวอย่าง: K-REIT BITCOIN-ETF
ข้อดีของการลงทุนในกองทุน ETF
1. สะดวก รวดเร็ว: ซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น สามารถซื้อขายได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่มีอินเตอร์เน็ต
2. ลงทุนโดยไม่ต้องมีเงินทุนมาก: ใช้เงินมัดจำ (Margin) เพียงส่วนหนึ่ง ของมูลค่าการลงทุน ช่วยให้สามารถลงทุนในกองทุน ETF ที่มีราคาแพง ด้วยเงินทุนที่จำกัด
3. เก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง: สามารถซื้อ (BUY) เพื่อคาดหวังว่าราคาจะขึ้น หรือขาย (SELL) เพื่อคาดหวังว่าราคาจะลงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้น ตามสถานการณ์ตลาดที่เหมาะสม
4. กระจายความเสี่ยง: ลงทุนในกองทุน ETF เพียงตัวเดียว ก็สามารถกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นหลายตัวในดัชนีอ้างอิง ลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นตัวเดียว
5. เข้าถึงตลาดต่างประเทศ: สามารถลงทุนในกองทุน ETF ต่างประเทศ ได้อย่างสะดวก เพิ่มโอกาสในการลงทุน
6. เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท: นักลงทุนมือใหม่ สามารถเรียนรู้การลงทุนผ่าน CFD ได้ง่าย โดนนักลงทุนมืออาชีพ สามารถใช้ CFD เพื่อเก็งกำไร หรือป้องกันความเสี่ยง
วิธีการลงทุนกองทุน ETF
วิธีที่ 1 ผ่านแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์: มีแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์ที่เชื่อถือได้ซึ่งมอบความสะดวกในการซื้อขายกองทุน ETF ต่างๆ อย่างอิสระ เช่น Wealthfront, Betterment
วิธีที่ 2 ผ่านบริษัทการลงทุน: บางบริษัทการลงทุนใหญ่มักมีกองทุน ETF ที่พวกเขาจัดจำหน่ายโดยตรง คุณสามารถเปิดบัญชีกับบริษัทเหล่านี้และลงทุนในกองทุน ETF ที่พวกเขาเสนอ
วิธีที่ 3โบรกเกอร์ทางการเงิน CFD และแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์ของโบรกเกอร์ สามารถเปิดบัญชีการลงทุนกับโบรกเกอร์ทางการเงินที่คุณเชื่อถือได้ เหล่านี้รวมถึงโบรกเกอร์ออนไลน์ที่รู้จักกันดีเช่น Fidelity, Charles Schwab, TD Ameritrade บางโบรกเกอร์ให้บริการการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานง่าย เช่น Robinhood, eToro หรือ Mitrade โดยลักษณะการลงทุนด้วยสินค้า CFD ในกองทุน ETF ใหม่มากกว่า 35 ตัว
ตัดสินใจเลือกกลยุทธ์การลงทุน ETF
แม้การลงทุนใน EFT อาจจะดูไม่มีอะไรซับซ้อน และเรียบง่าย แต่นักลงทุนยังคงต้องการเลือกกลยุทธ์การลงทุน ETF ว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
-กลยุทธ์ Buy and Hold: เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ต้องการความสะดวก ไม่ชอบติดตามตลาดบ่อยๆ ซื้อ ETF ไว้ระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลกับราคาในระยะสั้น เหมาะกับ ETF ที่ติดตามดัชนีหุ้น หรือสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว
-กลยุทธ์ DCA (Dollar Cost Averaging): ลงทุนเงินจำนวนเท่าๆ กัน เป็นระยะๆ ช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อในราคาที่สูง เหมาะกับนักลงทุนที่มีเงินทุนจำกัด ต้องการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
-กลยุทธ์ Rebalancing: ปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย และความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นประจำ ขาย ETF ที่ราคาสูง ซื้อ ETF ที่ราคาต่ำ เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ต้องการควบคุมความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
-กลยุทธ์ Sector Rotation: ลงทุนใน ETF ที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจ (Sector) ที่คาดว่าจะเติบโตในช่วงนั้นๆ ซื้อ ETF ของกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะทำผลงานดี ขาย ETF ของกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะทำผลงานแย่ เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ติดตามข่าวสาร และวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค
-กลยุทธ์ Asset Allocation: กระจายการลงทุนใน ETF หลากหลายประเภท หลากหลายสินทรัพย์ ลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงต่ำความเสี่ยง
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกกลยุทธ์:
เป้าหมายการลงทุน: ต้องการผลตอบแทนระยะสั้น หรือระยะยาว
ความเสี่ยงที่ยอมรับได้: ยอมรับความเสี่ยงสูง ปานกลาง หรือต่ำ
ระยะเวลาการลงทุน: ลงทุนระยะสั้น หรือระยะยาว
เงินทุน: มีเงินทุนมาก หรือเงินทุนจำกัด
ความรู้ และประสบการณ์: นักลงทุนมือใหม่ หรือมีประสบการณ์
สรุป
การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนใน ETF ขึ้นอยู่กับความต้องการและวัตถุประสงค์ของนักลงทุนแต่ละคน จึงควรพิจารณาค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ความสะดวกในการใช้งาน และคุณสมบัติอื่น ๆ ที่สำคัญโดยใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นแนวทางในการตัดสินใจ แต่สิ่งที่สำคัญคือความรู้และความเข้าใจในการลงทุนสินค้าประเภท ETF ควรศึกษารายละเอียดของแต่ละกองทุน ETF และความเสี่ยงที่รับได้ในการลงทุน
ETF คืออะไร และแตกต่างจากหุ้นทั่วไปยังไงบ้าง
แนวทางการเลือกโบรกเกอร์สำหรับลงทุนใน ETF มีข้อแนะนำอย่างไรบ้าง
ข้อควรระวังสำหรับการลงทุนในสินค้าอย่าง ETF ที่ต้องคำนึงถึง
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน