การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและต่ำที่มือใหม่ควรทราบ!
หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทุนก็คือ ความเสี่ยงในการลงทุนมีอะไรบ้าง? แม้ว่าคำว่าความเสี่ยงนี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องผิวเผินก็ตาม แต่นักลงทุนมือใหม่หรือมืออาชีพก็ล้วนต้องให้ความสนใจกันอย่างมาก เพราะสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเงินทุนของคุณโดยตรง มาวิเคราะห์และเรียนรู้การลงทุนมีความเสี่ยงไปพร้อมๆกัน
ความเสี่ยงในการลงทุน มีกี่ประเภท
ในฐานะนักลงทุนต้องใส่ใจกับคำว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ เพราะคำนี้เป็นพื้นฐานการลงทุนที่จะทำให้คุณเข้าใจภาพรวมของการลงทุนทั้งหมดได้ มาดูประเภทของความเสี่ยงที่พบบ่อยกัน
1. ความเสี่ยงทางการตลาด
ความเสี่ยงอันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพโดยรวมของตลาดการเงินที่อาจแบ่งย่อยประเภทได้ดังต่อไปนี้
ความเสี่ยงด้านหุ้น: เป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคาหุ้น เช่น สภาพเศรษฐกิจ ความรู้สึกของตลาด และประสิทธิภาพของบริษัท อาจทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นหรือลดลง
ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยที่อาจจะส่งผลเชิงลบต่อมูลค่าของการลงทุน โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่มีรายได้คงที่ เช่น พันธบัตร เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ราคาพันธบัตรมักจะลดลง
ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน: ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอาจส่งผลต่อมูลค่าของการลงทุนเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น หากสกุลเงินต่างประเทศมีค่าลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินในประเทศของผู้ลงทุน มูลค่าของการลงทุนก็จะลดลง
ความเสี่ยงด้านสินค้าโภคภัณฑ์: การเปลี่ยนแปลงราคา เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่นอุปทานและอุปสงค์ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และสภาพอากาศ
2. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
เกิดขึ้นเมื่อผู้ลงทุนไม่สามารถซื้อหรือขายการลงทุนได้อย่างรวดเร็วเพียงพอที่จะป้องกันหรือลดการขาดทุน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ไม่ได้ซื้อขายในตลาดเปิด เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือพันธบัตรบางประเภท
สำหรับตลาดที่ไม่มีสภาพคล่องอาจมีผู้ซื้อเพียงไม่กี่รายซึ่งอาจบังคับให้ผู้ลงทุนต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ การทำความเข้าใจสภาพคล่องของการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าจะส่งผลต่อความสะดวกและเวลาในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ได้มากกว่า
3. ความเสี่ยงจากการกระจุกตัว
เรียกอีกอย่างว่า Concentration risk เกิดขึ้นเมื่อพอร์ตการลงทุนมีน้ำหนักในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป ทำให้มีความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เหล่านั้นเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงนี้อาจนำไปสู่การสูญเสียจำนวนมากหากสินทรัพย์หรือภาคส่วนนั้นทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน
ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัว จำเป็นต้องกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ ภาคส่วน และภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย การกระจายความเสี่ยงช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ลดผลกระทบจากผลงานที่ไม่ดีของสินทรัพย์เดียวหรือกลุ่มสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง โดยการถือครองสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ผสมผสานกัน นักลงทุนสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมดุลและยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น
4. ความเสี่ยงดานเครดิต
หรือที่เรียกว่าความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (Credit Risk หรือ Default Risk) คือ ความเสี่ยงที่ผู้ออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร จะไม่สามารถชำระหนี้ตามภาระผูกพันทางการเงินได้ ซึ่งหมายความว่าผู้ออกตราสารอาจไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหรือคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนด
เมื่อลงทุนในตราสารหนี้ นักลงทุนจะทำหน้าที่เป็นเจ้าหนี้และเผชิญกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งผู้ออกตราสารอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลา พันธบัตรรัฐบาลที่ออกในสกุลเงินของประเทศ (เช่น พันธบัตรรัฐบาลไทยในสกุลเงินบาทหรือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในสกุลเงินดอลลาร์) โดยทั่วไปถือว่าไม่มีการผิดนัดชำระหนี้เนื่องจากอำนาจทางภาษีของรัฐบาล
ในทางตรงกันข้าม พันธบัตรของบริษัทมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งแตกต่างกันไปตามผลกำไรของบริษัท ลักษณะผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างทางการเงิน หน่วยงานจัดอันดับเครดิตจะประเมินปัจจัยเหล่านี้และจัดอันดับเครดิตเพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ได้ ก.ล.ต. กำหนดให้ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ขายให้กับประชาชนต้องมีการจัดอันดับเครดิต
5. ความเสี่ยงจากการนำเงินที่ได้จากตราสารหนี้ไปลงทุนต่อ
เกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนไม่สามารถนำรายได้หรือเงินต้นไปลงทุนในอัตราผลตอบแทนเดียวกับการลงทุนเดิมซ้ำได้ ความเสี่ยงนี้มักเกิดขึ้นในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตัวอย่างเช่น หากพันธบัตรครบกำหนดหรือผู้ออกพันธบัตรเรียกคืนพันธบัตรก่อนกำหนดเมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ นักลงทุนอาจพบการลงทุนใหม่ที่มีผลตอบแทนต่ำกว่าซึ่งจะทำให้รายได้โดยรวมลดลง
6. ความเสี่ยงที่เกิดจากอำนาจซื้อของเงินที่ลดลง
คือศักยภาพในการกัดเซาะอำนาจซื้อของผลตอบแทนจากการลงทุนจากเงินเฟ้อ กล่าวคือเมื่อเงินเฟ้อสูงขึ้น มูลค่าผลตอบแทนที่แท้จริงจะลดลง ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถซื้อได้น้อยลงด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม ความเสี่ยงนี้มีความสำคัญสำหรับการลงทุนตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรหรือบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งผลตอบแทนจะคงที่และไม่เพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ
7. ความเสี่ยงจากระยะเวลาในการลงทุน
ความไม่แน่นอนที่ระยะเวลาในการลงทุนของนักลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่คาดคิดเนื่องจากเหตุการณ์ในชีวิต เช่น การสูญเสียงาน เหตุการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ หรือความต้องการทางการเงิน ซึ่งอาจบังคับให้นักลงทุนต้องขายการลงทุนเร็วกว่าที่วางแผนไว้ โดยอาจเกิดในช่วงที่ตลาดตกต่ำ ส่งผลให้ขาดทุนได้
8. ความเสี่ยงจากการมีอายุยืนหลังวัยเกษียณ
ความเสี่ยงที่นักลงทุนจะใช้เงินออมจนหมดก่อนกำหนด ส่งผลให้ขาดดุลทางการเงินเมื่อเกษียณอายุ เมื่ออายุขัยเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงนี้จึงยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น นักลงทุนต้องวางแผนสำหรับช่วงเกษียณที่อาจยาวนานขึ้น โดยต้องแน่ใจว่าเงินออมและการลงทุนสามารถรองรับได้ตลอดช่วงชีวิต
9.ความเสี่ยงจากกองทุนรวมที่ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
ความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ความเสี่ยงเหล่านี้ได้แก่ ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทน ความเสี่ยงทางการเมือง ซึ่งความไม่มั่นคงทางการเมืองหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ซึ่งสภาพเศรษฐกิจและวัฏจักรที่แตกต่างกันในต่างประเทศอาจส่งผลกระทบต่อผลการลงทุนได้
การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง มีอะไรบ้าง
การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอาจให้ผลตอบแทนที่มากมายได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินจำนวนมากเช่นกัน มาดูกันว่าการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงที่เทรดเดอร์ออนไลน์ควรทราบจะมีอะไรบ้าง
1. สกุลเงินดิจิทัล
สกุลเงินเหล่านี้อาจมีผันผวนอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ ตัวอย่างเช่น Bitcoin มีราคาที่ผันผวนอย่างมากที่บางครั้งก็เกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ความผันผวนนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่นอารมณ์ของตลาด เหตุการณ์ข่าว และประกาศของหน่วยงานกำกับดูแล
2. สัญญาส่วนต่าง (CFD)
CFD เป็นผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์อ้างอิงได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ แม้ว่า CFD จะให้ผลกำไรมหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน เนื่องจาก CFD ซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้น ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจกับตำแหน่งของตนได้ สิ่งที่น่าสนใจคือเลเวอเรจนี้สามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็ทำให้ขาดทุนมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ CFD คือความเสี่ยงของคู่สัญญา เนื่องจาก CFD เป็นการซื้อขายหลักทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ (OTC) จึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ของคู่สัญญา หากผู้ให้บริการ CFD ประสบปัญหาทางการเงิน เทรดเดอร์อาจไม่ได้รับผลกำไรหรือเงินทุนเริ่มต้นคืน
3. ออปชั่นและฟิวเจอร์ส
เป็นอนุพันธ์ทางการเงินที่อนุญาตให้เทรดเดอร์ซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในอนาคต ตราสารเหล่านี้มีการเลเวอเรจสูงและดำเนินการอย่างรวดเร็วทำให้อาจเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์มมือใหม่
4. การซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex)
เป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งเป็นอีกสกุลเงินหนึ่งในตลาดโลก เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องมากที่สุด แต่ก็มีความผันผวนสูงเช่นกัน การเทรดฟอเร็กซ์มักจะดำเนินการโดยใช้มาร์จิ้น ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนจำนวนค่อนข้างน้อย เลเวอเรจนี้สามารถนำไปสู่ผลกำไรจำนวนมากแต่ก็อาจนำไปสู่การสูญเสียจำนวนมากได้เช่นกัน
ความผันผวนของตลาดในการซื้อขายฟอเร็กซ์นั้นได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ มากมาย เช่น ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายของธนาคารกลาง
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
การลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด มีอะไรบ้าง
ในทางตรงกันข้ามกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากที่สุด มือใหม่ก็อาจลองมองการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดเพื่อเริ่มต้นลงทุนทีละน้อยได้ มาดูว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
พันธบัตรรัฐบาล
พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากได้รับการหนุนหลังด้วยเครดิตของรัฐบาล จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ในวันที่ 6 ของเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลยังทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด เนื่องจากพันธบัตรเหล่านี้มักทำผลงานได้ดีในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งนักลงทุนต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า
กองทุนรวมตลาดเงิน
กองทุนตลาดเงินและพันธบัตรระยะสั้นเหมาะสำหรับ ผู้เริ่มต้นที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากแต่ไม่คุ้นเคยกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง หรือบุคคลที่ต้องการสภาพคล่องเพื่อใช้จ่ายในระยะสั้นหรือในกรณีฉุกเฉินหรือผู้ที่มีเป้าหมายทางการเงินในระยะใกล้ที่ต้องการเงินทุนภายในปีหน้า และไม่สามารถเสี่ยงเงินของตนเองได้
หุ้นบลูชิป
หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง มีประวัติการทำกำไรที่มั่นคงและจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ บริษัทเหล่านี้มักเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้หุ้นมีความผันผวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดเล็กหรือบริษัทที่เก็งกำไรมากกว่า ตัวอย่างหุ้นบลูชิป ได้แก่ บริษัทอย่าง Apple, Microsoft และ Johnson & Johnson
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> หุ้น Apple พุ่งทำสถิติสูงสุด! ยังน่าลงทุนไหม? จะซื้อหุ้น Apple ยังไง |
เทคนิคการลดความเสี่ยงในการลงทุน
ทุกการลงทุนย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง เรามาดูว่าจะมีเทคนิคอะไรช่วยให้คุณบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่รุนแรง
เมื่อการลงทุนแต่ละประเภทมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันไป การเลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงก็อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่พึ่งเริ่มต้นที่ยังไม่เข้าใจตลาดการลงทุนอย่างถ่องแท้ ดังนั้น คุณควรศึกษาว่าการลงทุนรูปแบบไหนเหมาะกับงบประมาณของคุณมากกว่า
ลดปริมาณการลงทุนลง
เมื่อคุณสนใจที่จะลงทุนอะไรอย่างหนึ่งแล้ว คุณอาจพบว่ามีการลงทุนหลายแบบที่เป็นไปได้สำหรับคุณ อย่างไรก็ตาม การลงทุนตามใจทุกอย่างทั้งหมดอาจไม่เป็นการดี ดังนั้นคุณควรเริ่มวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและลองตัดการลงทุนที่สำคัญและคุณสามารถบริการจัดการได้ก่อน
การถ่ายโอนความเสี่ยง
คุณอาจลองปิดการลงทุนหนึ่งเพื่อเปลี่ยนไปลงทุกอีกประเภทเพื่อโอกาสที่ดีกว่าหากคุณพบว่าสิ่งที่การลงทุนอยู่นั้นอาจไม่คุ้มค่า หรืออาจใช้เวลามากเกินไปกว่าจะทำกำไรได้ ดังนั้น การเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนก็เป็นการถ่ายโอนความเสี่ยงที่น่าสนใจเช่นกัน
เรียนรู้รูปแบบการลงทุนให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจ
มีข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมากมายที่ให้คุณศึกษาทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน แต่ก็อาจไม่แพงเกินกว่าความเสี่ยงที่คุณจะได้รับมา ดังนั้น คุณควรเสียเวลากับการศึกษาด้านการลงทุนที่สนใจให้ถ่องแท้จากนั้นจึงเริ่มต้นการลงทุนอย่างจริงจัง
สรุป
การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะ สกุลเงินดิจิทัล CFD อนุพันธ์และฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ และ ETF ที่มีการเลเวอเรจ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้นั้นมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาความสามารถในการรับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนเริ่มต้นลงทุนเพื่อประโยชน์สูงสุดของคุณ
ผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการ ลงทุนแน่นอนหรือไม่
มือใหม่อยากลองวิเคราะห์ความเสี่ยงในการ ลงทุนควรทำอย่างไร
ทำไมใคร ๆ ก็พูดว่าการ ลงทุน มีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุน
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน