กองทุนต่างประเทศ โอกาสสู่โลกแห่งการลงทุนที่กว้างใหญ่
"เคยสงสัยไหมว่าทำไมนักลงทุนมืออาชีพทั่วโลกถึงให้ความสำคัญกับการลงทุนในต่างประเทศ? คำตอบก็คือ การกระจายความเสี่ยงนั่นเอง! การลงทุนในหลายๆ ประเทศ ช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงในประเทศเดียว และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว ถ้าคุณต้องการสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่งและหลากหลาย การลงทุนในกองทุนต่างประเทศคือคำตอบ" มาติดตามบทความนี้กัน แล้วคุณจะเข้าใจว่าโอกาสและความเสี่ยงเราสามารถเลือกได้ด้วยความรู้
กองทุนต่างประเทศคืออะไร
กองทุนต่างประเทศ คือ กองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นในต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ระดมมาจากนักลงทุนไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่อยู่ในต่างประเทศ เช่น กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า เอแชร์ อิควิตี้ ฟันด์ กองทุนเปิด KTAM ออล เอเชีย แปซิฟิก อิควิตี้ ฟันด์ เป็นต้น
แล้วกองทุนต่างประเทศแตกต่างจากกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) อย่างไร?
การจัดตั้ง: กองทุนต่างประเทศตั้งขึ้นในต่างประเทศ ในขณะที่ FIF ตั้งขึ้นในประเทศไทย
ผู้จัดการ: กองทุนต่างประเทศมีผู้จัดการกองทุนชาวต่างชาติ ส่วน FIF มีบริษัทจัดการลงทุนในไทยเป็นผู้จัดการ
นักลงทุน: กองทุนต่างประเทศมักเปิดให้ลงทุนสำหรับนักลงทุนสถาบันหรือรายใหญ่ ในขณะที่ FIF เปิดให้ลงทุนสำหรับนักลงทุนทั่วไปในประเทศไทย
กองทุนต่างประเทศมีการทำงานอย่างไร
1.ระดมทุน: บริษัทจัดการกองทุนจะเสนอขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุน
2.นำเงินไปลงทุน: เงินที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนจะถูกนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศตามที่ระบุไว้ในนโยบายการลงทุนของกองทุน
3.บริหารจัดการ: ผู้จัดการกองทุนจะคอยติดตามและวิเคราะห์ตลาด ตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
4.แบ่งปันผลตอบแทน: ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนจะถูกนำมาแบ่งปันให้แก่นักลงทุนตามสัดส่วนของหน่วยลงทุนที่ถืออยู่ สามารถเป็นไปได้ทั้งกำไรและขาดทุนเช่นกันขึ้นอยู่ที่นโยบาย
ทำไมต้องลงทุนในกองทุนต่างประเทศ
การลงทุนในกองทุนต่างประเทศมีข้อดีหลายประการที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ดีขึ้น นี่คือเหตุผลหลัก:
1. การกระจายความเสี่ยง (Diversification)
การลงทุนในกองทุนต่างประเทศช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศเพียงอย่างเดียว หากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากตลาดต่างประเทศที่อาจเติบโตในช่วงเวลาเดียวกันและผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่มีความรู้เฉพาะด้าน
2. เข้าถึงโอกาสในตลาดที่เติบโตสูง
ตลาดต่างประเทศบางแห่ง เช่น สหรัฐอเมริกา, ยุโรป, จีน หรืออินเดีย มีบริษัทชั้นนำระดับโลก เช่น Apple, Google, Tesla และ Alibaba คุณสามารถลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไม่มีในประเทศไทย เช่น เทคโนโลยี, พลังงานสะอาด, การแพทย์ล้ำสมัย หรือธุรกิจออนไลน
3. ป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินและเงินเฟ้อ
เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่า กองทุนต่างประเทศอาจให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน การลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศยังช่วยป้องกันมูลค่าของเงินลงทุนจากผลกระทบของเงินเฟ้อในประเทศ
4. โอกาสลงทุนในสินทรัพย์พิเศษ (Alternative Assets)
กองทุนต่างประเทศเปิดโอกาสให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีในประเทศ เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ในยุโรป, สินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ, น้ำมัน) และตลาดเกิดใหม่
ประเภทของกองทุนต่างประเทศ
กองทุนต่างประเทศมีหลากหลายประเภทให้เลือกเพื่อตอบสนองความต้องการและเป้าหมายการลงทุนที่แตกต่างกันไป การเลือกประเภทของกองทุนที่เหมาะสมจะช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้ตามที่คาดหวัง
1. กองทุนหุ้นต่างประเทศ (Equity Fund) ลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างชาติ โดยอาจลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทเทคโนโลยี หรือหุ้นในตลาดเกิดใหม่ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงตลาดหุ้นทั่วโลกและมีแนวโน้มผลตอบแทนสูงในระยะยาว EX. SCBWORLD(A) หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนีหุ้นโลก
2. กองทุนพันธบัตรต่างประเทศ (Bond Fund) ลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลหรือบริษัทต่างชาติ
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้สม่ำเสมอและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น เช่น กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อีเมอร์จิ้ง ออพพอร์ทูนิตี้ส์ บอนด์ ฟันด์
3. กองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ (Real Estate Investment Trust - REIT)ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น อาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ หรือศูนย์การค้า ในต่างประเทศ
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ต้องลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เอง เช่น กองทุนอสังหา ทิสโก้ ยูเอส รีท (TUSREIT)
4. กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Fund) ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือพลังงาน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและป้องกันเงินเฟ้อ เช่น K-GOLD-A(A) และ SCBCOMP
5. กองทุนธีม (Thematic Fund) ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธีมเฉพาะ เช่น เทคโนโลยี พลังงานสะอาด หรือสุขภาพ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจในธีมการลงทุนเฉพาะเจาะจงและต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เติบโต เช่น KCHANGERMF และ K-VIETNAM-SSF
ความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา
1. ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินของสกุลเงินที่กองทุนไปลงทุน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หากค่าเงินอ่อนลงเมื่อเทียบกับบาท ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนก็จะลดลงตามไปด้วย
2. ความเสี่ยงจากตลาด เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศมีความผันผวนสูงกว่าตลาดในประเทศ ทำให้มูลค่าของกองทุนอาจลดลงได้อย่างรวดเร็ว รวมถึง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศที่ลงทุน อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์และผลตอบแทนของกองทุน
3. ความเสี่ยงจากประเทศ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สงคราม หรือความไม่สงบ อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน หรือความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อสูง หรือปัญหาหนี้สินของประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทน รวมถึง การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้านการลงทุนของประเทศนั้นๆ อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกองทุน
4. ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง กองทุนบางกองอาจมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้การซื้อขายหน่วยลงทุนทำได้ยาก และอาจทำให้ราคาห่างจากมูลค่าสุทธิต่อหน่วย (NAV)
5. ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย การปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบต่อราคาของพันธบัตรและหุ้น ส่งผลให้เม็ดเงินไหลไปมาจากตลาดที่ผลตอบแทนดีกว่า
ประเภทความเสี่ยง | วิธีการลดความเสี่ยง |
ความเสี่ยงจากตลาด | กระจายการลงทุน |
ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง | เลือกกองทุนที่มีนโยบายชัดเจน |
ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน | เลือกค่าเงินที่มีเสถียรภาพสูง |
ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย | ติดตามข่าวสารอัพเดททันสถานการณ์ |
ความเสี่ยงจากต่างประเทศ | เน้นลงทุนระยะยาวมากกว่า |
กลยุทธ์การลงทุนในกองทุนต่างประเทศ
แนะนำวิธีการลงทุนที่ยอดนิยมในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับ เป้าหมายการลงทุน การจำกัดความเสี่ยง และบริหารจัดการเงินทุนของแต่ละคนด้วยเช่นกัน
- ลงทุนตามธีม เลือกกองทุนที่ลงทุนในธีมที่น่าสนใจ เช่น พลังงานสะอาด เทคโนโลยี หรือสุขภาพ ซึ่งเป็นธีมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต
จุดแข็ง ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงอุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีที่คาดว่าจะเติบโตในอนาคตได้อย่างตรงจุด
- ลงทุนตามภูมิภาค เลือกกองทุนที่ลงทุนในภูมิภาคที่มีศักยภาพ เช่น เอเชีย ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา
จุดแข็ง ทั่วโลกมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน การลงทุนในภูมิภาคที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น เอเชีย หรือ เทคโนโลยี อาจนำมาซึ่งผลตอบแทนที่สูงกว่า
- ลงทุนตามขนาดบริษัท เลือกกองทุนที่ลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็ก ซึ่งมีลักษณะและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน
จุดแข็ง นักลงทุนสามารถเลือกกองทุนที่สอดคล้องกับความเชื่อและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น หากต้องการความเสี่ยงต่ำ อาจเลือกกองทุนที่เน้นหุ้นขนาดใหญ่
- ลงทุนตามสไตล์การลงทุน เลือกกองทุนที่สอดคล้องกับสไตล์การลงทุนของตนเอง เช่น กองทุนหุ้นเติบโต กองทุนหุ้นปันผล หรือกองทุนตราสารหนี้
จุดแข็ง มีสไตล์การลงทุนที่ชัดเจน จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจซื้อขายมากเกินไป
- Dollar-Cost Averaging (DCA) ซื้อกองทุนเป็นงวดๆ ในจำนวนเงินที่เท่ากันสม่ำเสมอ ช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด
จุดแข็ง การลงทุนแบบ DCA ช่วยสร้างวินัยในการออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คุณมีวินัยทางการเงินมากขึ้น
- ลงทุนในสินค้าที่ยืดหยุ่นกว่าสัญญาส่วนต่าง หรือ Contract For Difference (CFD) ซึ่งบางโบรกเกอร์จะมีกองทุนต่างๆที่นำมาเป็นสินค้าอ้างอิงกับ CFD เพื่อให้นักลงทุนได้ใช้จุดแข็งของการลงทุนประเภทสัญญานส่วนต่าง ทำกำไรและเข้าถึงการลงทุนได้สะดวกขึ้น เช่น iShares China Large Cap ETF , Vanguard REIT ETF เป็นต้น
จุดแข็ง สินค้า CFD มีตัวเลือกกองทุนให้เลือกหลากหลาย อยู่ที่กองทุนที่มาอ้างอิง รวมถึงใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจหรืออัตราทด ช่วยให้นักลงทุนใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียงแค่ 50$ ก็สามารถเริ่มลงทุนในกองทุนต่างประเทศได้แล้ว
ราคา VNQ แบบเรียลไทม์
ปัจจัยในการเลือกกองทุน
การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกกองทุนต่างประเทศที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของคุณได้ดียิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์การลงทุน: ควรชัดเจนว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร เช่น การเติบโตของเงินทุน, รายได้ประจำ หรือการลงทุนระยะยาว
ความเสี่ยง: ประเมินระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ เนื่องจากกองทุนต่างประเทศอาจมีความผันผวนสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและนโยบายของประเทศนั้น ๆ
ประสิทธิภาพในอดีต: ดูผลการดำเนินงานของกองทุนในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ควรระลึกว่าผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถรับประกันผลในอนาคต
ค่าธรรมเนียม: ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการจัดการและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในกองทุน
การจัดการกองทุน: พิจารณาความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของผู้จัดการกองทุน รวมถึงทีมงานที่ดูแลการลงทุน
นโยบายการลงทุน: เข้าใจว่านโยบายการลงทุนของกองทุนนั้น ๆ จะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใด และมีการกระจายความเสี่ยงอย่างไร
สรุป
การลงทุนในกองทุนต่างประเทศเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงิน แต่การวางแผนการเงินที่ดีนั้น ต้องประกอบด้วยการออม การลงทุน และการบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมว่า อนาคตทางการเงินของคุณอยู่ในมือคุณเอง คุณพร้อมที่จะสำรวจโอกาสการลงทุนทั่วโลกหรือยัง?
3 ข้อที่ต้องระมัดระวังที่สุดสำหรับการลงทุนในกองทุนต่างประเทศ
ความผันผวนทางเศรษฐกิจ: เศรษฐกิจของประเทศที่คุณลงทุนอาจมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผ ลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทุน
ความเสี่ยงจากสกุลเงิน: การลงทุนในกองทุนต่างประเทศอาจเสี่ยงต่อความเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อผลตอบแทนที่คุณได้รับ
กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ: ต้องเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในประเทศนั้น ๆ ซึ่งอาจแตกต่างจากบ้านเราของคุณ
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน