Robo Advisor คืออะไร? TOP 8 Robo Advisors ที่ดีที่สุด
ยุคนี้ 2024 ถ้าไม่พูดถึงอีกหนึ่งกระแสที่มาแรงผู้ช่วยในการลงทุนได้เป็นอย่างสะดวกกับ Robo Advisor ซึ่งสามารถวางแผนการเทรดและลงทุนผ่านโปรแกรมอัตโนมัติที่ตั้งไว้ภายในก็คือ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งตัวของ Robo Advisor มีที่มาที่ไปอย่างไร หรือจะมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักลงทุนวิธีใดบ้าง เรามารู้จัก Robo Advisor ในบทความนี้
Robo Advisor คืออะไร?
Robo advisor คือระบบที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีการเงินเพื่อให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนแก่ลูกค้าโดยไม่ต้องมีคำปรึกษาจากมนุษย์ทางไกล Robo advisor ใช้วิธีการประมวลผลข้อมูลและอัลกอริทึมเพื่อทำการวิเคราะห์โปรไฟล์การลงทุนของลูกค้าและนำเสนอวางแผนลงทุนที่เหมาะสมตามวัตถุประสงค์การลงทุนของผู้ลงทุนนั้น ๆ
-ประวัติของ Robo Advisor : มีการนำมาใช้งานครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ในปี 2007 โดย Betterment มีจุดประสงค์แรกในการใช้งาน คือ การใช้เพื่อปรับสมดุลสินทรัพย์ภายในกองทุน (rebalance assets) ตามระยะเวลาที่กำหนดแบบอัตโนมัติ โดยที่นักลงทุนสามารถทำได้เองผ่านทางอินเตอร์เฟซออนไลน์ที่ใช้งานง่าย
-กลยุทธ์การลงทุน Robo advisor : สามารถทำงานได้ทั้งในการลงทุนในตลาดหุ้น ค่าเงิน ทองคำ และตลาดลงทุนอื่น ๆ เช่น กองทุนรวม (mutual funds), ETFs (Exchange-Traded Funds), และสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ โดยมีการให้บริการทางออนไลน์หรือแพลตฟอร์มทางดิจิทัลเป็นหลัก
Robo Advisor ทำงานอย่างไร?
ทำงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีการเงินเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนและให้คำแนะนำการลงทุนให้กับผู้ลงทุน โดยมีขั้นตอนการทำงานพื้นฐานดังนี้:
Robo Advisor จะเริ่มต้นด้วยขั้นตอนการเก็บข้อมูลทางการเงินและวัตถุประสงค์การลงทุนของลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับรายได้, ประวัติการลงทุน, และความเสี่ยงทางการเงินของลูกค้า
Robo Advisor จะใช้อัลกอริทึมและโมเดลปัญญาประดิษฐ์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินที่เก็บไว้และกำหนดโปรไฟล์การลงทุนที่เหมาะสมสำหรับลูกค้า
Robo Advisor จะทำการแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมตามโปรไฟล์ที่ได้รับการวิเคราะห์ ซึ่งอาจรวมถึงการวางแผนการลงทุนในหลายประเภทของทรัพย์สินทางการเงิน
Robo Advisor จะดำเนินการจัดทำและดูแลพอร์ตการลงทุนให้กับลูกค้า. นอกจากนี้, มีการตรวจสอบและปรับปรุงพอร์ตเพื่อทำให้เข้ากับเป้าหมายการลงทุนและเปลี่ยนแปลงทางตลาด
คุณสมบัติ Robo Advisor ทั่วไป
Robo Advisor ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และอัลกอริทึมเพื่อวิเคราะห์โปรไฟล์การลงทุนของลูกค้า โดยดูถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระดับความเสี่ยง, ระยะเวลาการลงทุน
Robo Advisor จะทำการจัดทำและดูแลพอร์ตการลงทุนให้กับลูกค้า สามารถปรับปรุงพอร์ตโดยอัตโนมัติตามเปลี่ยนแปลงทางตลาด
Robo Advisor มีฟังก์ชันที่ช่วยในการเข้าใจความเสี่ยงทางการเงินและช่วยให้ผู้ลงทุนทำการตัดสินใจในการลงทุนในลักษณะที่เข้าใจได้
Robo Advisor มักมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการใช้บริการที่จัดการการลงทุนด้วยมนุษย์ traditional
TOP 8 Robo Advisors ที่ ดีที่สุด
Robo Advisor | คุณสมบัติเด่น | ค่าธรรมเนียม | เงินฝากขั้นต่ำ |
การวางแผนทางการเงินที่ซับซ้อน พอร์ตการลงทุนที่ปรับแต่งได้ | 0.25% สำหรับบัญชีส่วนใหญ่ ไม่มีค่าคอมมิชชั่นการซื้อขายหรือค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน | $500 | |
พอร์ตการลงทุนราคาประหยัดและปรับแต่งได้ | 0% | $100 ($500 ขั้นต่ำสำหรับบัญชีเกษียณอายุ) | |
ใช้งานง่าย มีเครื่องมือและเครื่องคิดเลขในการวางแผนเป้าหมายที่ยอดเยี่ยม | 0.45% ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 0.85% พร้อมที่ปรึกษา | $1,000 | |
ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนรายใหม่หรือที่เน้นมือถือเป็นหลัก ตัวเลือกการลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคม | 0.30% | $500 | |
ตัวเลือกพอร์ตโฟลิโอที่คัดสรรมามากมาย บัญชีเงินสดที่ให้ผลตอบแทนสูงและการเข้าถึงที่ปรึกษาที่ทีมงานจริง | 0% | $10 | |
ปรับสมดุลอัตโนมัติและการฝากซ้ำ เข้าถึงที่ปรึกษาทางการเงินโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม | 0% | $0 | |
ปัดเศษเงินสำรองของคุณให้เป็นการลงทุน ปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโออัตโนมัติ | 0% | $0 | |
พอร์ตหุ้นและพันธบัตรและการปรับสมดุลอัตโนมัติ | 0% | $500 |
ข้อดีข้อเสียของ Robo Advisor
ข้อดีของ Robo Advisor
1. คนทั่วไปเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น
การลงทุนด้วย Robo Advisor ใช้เงินลงทุนไม่มากและเน้นความสม่ำเสมอ ทั้งยังตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาข้อมูลด้านการลงทุนอีกด้วย
2. ค่าธรรมเนียมต่ำ
การให้ Robo Advisor เป็นที่ปรึกษาในการลงทุนค่าธรรมเนียมย่อมต่ำกว่าอยู่แล้ว จากปกติที่ Human Advisor มักชาร์จเพิ่ม 1-2% ของมูลค่าพอร์ต แต่ Robo Advisor บางตัวชาร์จเพียง 0.25-0.5% เท่านั้น นอกจากนี้ ยังไม่คิดค่าคอมมิชชันในการซื้อ-ขายและปรับพอร์ต
3. ปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ
ปรับสมดุลพอร์ต (Rebalancing) ให้อัตโนมัติเพื่อให้การลงทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เราตั้งไว้ ซึ่งผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องมาบริหารหรือซื้อ-ขายเอง
4. ไม่ใช้อารมณ์ตัดสินใจลงทุน
การใช้ Robo Advisor จะตัดส่วนอารมณ์นี้ออกไป โดยจะวิเคราะห์สภาวะตลาดและพิจารณาขายสินทรัพย์ก็ต่อเมื่อราคาตลาดอยู่ในเกณฑ์ดีแล้วเท่านั้น
ข้อเสียของ Robo Advisor
1. ไม่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้ทั้งหมด
บางครั้งผู้ลงทุนอาจอยากซื้อ-ขายด้วยตัวเองเพราะคิดว่าผลลัพธ์น่าจะดีกว่า แต่ด้วยข้อจำกัดของ Robo Advisor กลับไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจำเป็นต้องเป็นไปตามกลยุทธ์ของ Robo Advisor ที่ระบบเขียนโปรแกรมเอาไว้
2. ข้อจำกัดในการเลือกสินทรัพย์ลงทุน
ปกติ Robo Advisor จะเป็นผู้คัดเลือกและแบ่งสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และความเสี่ยงตามที่เลือกไว้ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกสินทรัพย์ตามแผนใดก็ได้ที่ Robo Advisor ออกแบบไว้ให้ แต่จะไม่สามารถเลือกตามใจตัวเองหรือปรับแต่งเองได้ทั้งหมด
3. ไม่สามารถปรึกษาแบบ Face-to-Face ได้
ข้อจำกัดของการมีที่ปรึกษาการลงทุนเป็น AI คือเวลาไม่แน่ใจหรือไม่สบายใจเกี่ยวกับการลงทุน ผู้ลงทุนจะไม่สามารถปรึกษาหรือพูดคุยได้เหมือนกับการมีที่ปรึกษาเป็นมนุษย์
Robo Advisor เหมาะกับใคร
Robo Advisor เป็นเทคโนโลยีออนไลน์ที่ช่วยจัดการการเงินเฉพาะบุคคล โดยครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนการลงทุน ไปจนถึงการทำการลงทุน ตามลูกค้าที่ต้องการระดับความเสี่ยงที่รับได้ร่วมกับข้อมูลจากที่ต่าง ๆ ทั้งจากตลาดต่างประเทศ ข้อมูลการลงทุน บทวิเคราะห์ และสูตรการคำนวณขั้นสูง ดังนั้น Robo Advisor เหมาะกับ “ทุกคนที่ต้องการลงทุน” โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลหรือยังมีความรู้ด้านการลงทุนไม่มากพอ
คุณต้องการ Robo Advisor หรือที่ปรึกษาทางการเงินหรือไม่
แน่นอนว่าระบบของ Robo Advisor สามารถทำหน้าที่ของที่ปรึกษาทางการไ ด้ โดยควบคู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งอื่นๆควบคู่กันไป โดยเฉพาะคนที่ไม่มีเวลาบริหารจัดการลงทุนด้วยตัวเอง หรือยังไม่รู้ว่าจะเริ่มลงทุนยังไง เจ้า Robo Advisor นี้จะเป็นตัวช่วยทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยจะสร้างและออกแบบพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่เรายอมรับได้
มี Robo Advisor ในประเทศไทยบ้างไหม
เรื่องของ Robo Advisor อาจจะเป็นเรื่องที่ยังไม่แพร่หลายมากในบ้านเรา หรือนักลงทุนเริ่มรู้จักกันมากขึ้นเพราะทางธนาคารหรือกลุ่มฟินเทคต่างๆ เช่น INNOVESTX จาก SCBS หรือ WEALTH PULS จาก KSecurities และ ODINI หรือ FINNOMINA ที่เริ่มทำตลาดมากขึ้น ผ่านกองทุนและผู้แนะนำการลงทุน เพื่ออำนวยความสะดวกกับลูกค้าให้ตรงวัตถุประสงค์การลงทุน
สำหรับ Robo Advisor นั้นมีให้บริการทั้งหุ้นภายในประเทศและหุ้นต่างประเทศ เพราะถือว่าเป็นโอกาสที่ดีกับนักลงทุนได้ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง ยิ่งหุ้นต่างประเทศ เลือกลงทุนด้วยตัวเองผ่านทาง CFD หุ้นหรือสัญญาส่วนต่างเป็นทางเลือกสำหรับศึกษาทั้งทางเทคนิคและพื้นฐานหุ้นอีกด้วย ซึ่ง CFD เป็นวิธีการลงทุนที่ยอดนิยมของนักลงทุนปัจจุบัน ทั้งใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อยและเปิดบัญชีสะดวก
Robo Advisor ราคาเท่าไหร่
ราคาของ Robo Advisor สามารถแตกต่างกันไปตามบริษัทและบริการที่คุณเลือกใช้งาน รวมถึงความซับซ้อนของการบริการที่นำเสนอด้วย บาง Robo Advisor อาจมีโครงสร้างราคาที่คงที่ตามจำนวนเงินที่ลงทุน, ในขณะที่บางบริษัทอื่นๆ อาจเรียกค่าธรรมเนียมเป็นร้อยละของมูลค่าพอร์ตหรือมูลค่าการลงทุนทั้งหมดของลูกค้า
ตารางแสดงค่าธรรมเนียมของ Robo Advisor จากบริษัทต่างๆ
บริษัทหรือหลักทรัพย์ | ค่าบริการ/ค่าธรรมเนียม | จุดเด่น |
INNOVESTX By SCBS | เริ่มต้นเดือนละ 2,000 บาท | เงินลงทุนเริ่มต้น 5,000 บาท |
ODINI By Robowealth | ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม | ซื้อขายได้มากถึง 19 บลจ. |
Robo Advisor By Finnomina | ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม | เงินลงทุนเริ่มต้น 5,000 บาท |
Wealth Plus By KSecurities | ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม | Auto Balance ทุกๆ 6 เดือน |
สรุป
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์แต่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามการลงทุน คงไม่พลาดบริการจาก Robo Advisor จากบริษัทต่างๆ ในแบบที่ใช่กับสไตล์ที่ชอบกัน เพราะ Robo Advisor ออกแบบมาช่วยวิเคราะห์การลงทุนและปรับบาลานซ์ความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดผันผวนแต่สบายใจได้ และได้ผลตอบแทนตามวัตถุประสงค์ เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญดูแลให้ ใครล่ะจะไม่อยากเลือก
นักลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับ Robo Advisor
ข้อควรระวังสำหรับการลงทุนในรูปแบบที่ใช้ Robo Advisor
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน