กองทุน SSF คืออะไร? ต่างจาก LTF อย่างไร?

อัพเดทครั้งล่าสุด
Lloyd Luo
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

ในวงการการลงทุน ณ ตอนนี้ กองทุน SSF ดูเหมือนจะที่สนอกสนใจของใครหลาย ๆ คน ด้วยกองทุน SSF จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างไรและจะสามารถแทนที่กองทุน LTF ที่หมดสิทธิประโยชน์ทางภาษีตั้งแต่สิ้นปีที่แล้วได้ไหม


ก่อนที่เราจะแนะนำว่ากองทุน SSF คืออะไร? ต่างจาก LTF อย่างไร? เรามาทำความรู้จักกับกองทุน LTF กันเสียก่อน

กองทุน LTF คืออะไร

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund) จัดตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้นโดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจูงใจ 


กองทุน LTF มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน


ตัวอย่างกองทุน LTF (ธนาคารกสิกรไทย)


  ●   KS50LTF เป็นกองทุน LTF ที่เน้นการลงทุนหุ้นตามดัชนี SET50

  ●   KMSLTF เป็นกองทุน LTF ที่เน้นการลงทุนหุ้นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีแนวโน้มเติบโตดี

  ●   K70LTF เป็นกองทุน LTF ที่เน้นการลงทุนหุ้นไม่เกิน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยส่วนที่เหลือลงทุน ในตราสารหนี้


กองทุน LTF ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ เนื่องจากหุ้นมีโอกาสขาดทุนมากกว่าและหนักกว่าตราสารหนี้ โดยที่


  ●   กองทุนแบบ passive (กองทุนดัชนี) จะทำผลตอบแทนล้อตามดัชนีที่อ้างอิง หากดัชนีวิ่งขึ้น ผลตอบแทนของกองทุนก็ขึ้นตาม หากดัชนีวิ่งลง ผลตอบแทนก็ดิ่งลงตาม


  ●   กองทุนแบบ active (มีผู้จัดการกองทุน) ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้จัดการกองทุน หากได้ผู้จัดการกองทุนฝีมือดี อาจได้รับผลตอบแทนสูงกว่าตลาด ในทางตรงกันข้าม หากได้ผู้จัดการกองทุนฝีมือไม่ดี อาจได้รับผลตอบแทนด้อยกว่าตลาด


กองทุน LTF ไม่กำหนดขั้นต่ำในการซื้อ (รายละเอียดแตกต่างกันตามแต่ละกองทุน) และไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี ปีไหนอยากใช้สิทธิลดหย่อนก็ค่อยซื้อได้ แต่ต้องถือครองอย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน มิฉะนั้น คุณอาจจะต้องจ่ายเงินปรับย้อนหลังก้อนโต


สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน LTF แบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้


 ●   เงินลงทุนในกองทุน LTF สามารถใช้ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 500,000 บาท


 ●   กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน ไม่ต้องจ่ายภาษีเงินได้ ยกเว้น กรณีที่ลงทุนเกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินหรือเกิน 500,000 บาท เมื่อขายคืนหน่วยลงทุนแล้วได้กำไร กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนในส่วนที่เกินมาดังกล่าวจะนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้


เป็นที่น่าเสียดายว่า สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน LTF ดังที่กล่าวข้างต้นสิ้นสุดลงแล้วตอนสิ้นปี 2562 แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป กระทรวงการคลังได้ออกกองทุนแบบใหม่มาทดแทนกองทุน LTF ในชื่อ ”กองทุน SSF”

กองทุน SSF คืออะไร

กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Fund) มีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินในระยะยาวโดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจูงใจ


นโยบายการลงทุนของกองทุน SSF ไม่จำกัดอยู่เพียงหุ้นไทยเท่านั้น กองทุน SSF สามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ ดัชนี เป็นต้น โดยต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปีนับจากวันที่ซื้อแต่ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี


กองทุน SSF ไม่กำหนดขั้นต่ำ (รายละเอียดแตกต่างกันตามแต่ละกองทุน) โดยที่คุณสามารถใช้เงินลงทุนในกองทุน SSF หักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 200,000 บาทและเมื่อรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท (ระยะเวลาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอยู่ที่ปี 2563 - 2567)


การลงทุนเพื่อการเกษียณอายุประกอบด้วย


  ●   กองทุน RMF

  ●   กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

  ●   กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

  ●   กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน

  ●   กองทุนการออมแห่งชาติ

  ●   เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ


นอกจากนั้นแล้ว กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนก็ไม่ต้องเสียภาษีเช่นกัน


นอกเหนือจากกองทุน SSF แล้วยังมีกองทุน SSF Extra ที่ออกมาเพื่อช่วยพยุงตลาดหุ้นที่กำลังร่อแร่แบบสามวันสี่วันทรุด


กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (Super Saving Fund Extra Class) จะคล้ายคลึงกับกองทุน SSF แต่มีความแตกต่างตรงที่นโยบายการลงทุนของกองทุน SSF Extra จะเน้นการลงทุนหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน แถมมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วยการหักหย่อนลดภาษีได้สูงสุด 200,000 บาทเป็นพิเศษ ไม่รวมกับกองทุน SSF และการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ


ข้อสำคัญคือ กองทุน SSF Extra สามารถซื้อได้ภายในวันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น พลาดแล้วพลาดเลย และสามารถใช้หักลดหย่อนภาษีในปี 2563 เท่านั้น

กองทุน SSF, SSF Extra กับ LTF ต่างกันตรงไหน

เพื่อให้คุณเห็นภาพความแตกต่างระหว่างสามกองทุนอย่างชัดเจน เราจึงทำการสรุปข้อมูลความแตกต่างของกองทุน SSF, SSF Extra กับ LTF ตามรายละเอียดด้านล่าง


รายละเอียด            

SSF EXTRA

SSF

LTF

ลดหย่อนภาษี

ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงินได้พึงประเมิน

ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน

ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน

ลดหย่อนสูงสุด

200,000 บาท

200,000 บาท

500,000 บาท

เงื่อนไขลดหย่อน

ไม่มี

นับรวม SSF และการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ไม่เกิน 500,000 บาท

ไม่มี

ระยะเวลาถือครอง

10 ปีนับจากวันที่ซื้อ

10 ปีนับจากวันที่ซื้อ

7 ปีปฏิทิน

ปีใช้สิทธิลดหย่อนภาษี

ซื้อภายใน 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2563

ซื้อภายในปี 2563 - 2567

สิ้นสุด 2562

สินทรัพย์ลงทุน

หุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ลงทุนได้ทุกประเภทหลักทรัพย์

หุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

จำนวนซื้อขั้นต่ำ

ไม่มี/ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

ไม่มี/ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

ไม่มี

ที่มา: TISCOAdvisory


ตอนนี้คุณน่าจะพอเห็นความแตกต่างระหว่างกองทุน SSF Extra, SSF กับ LTF แล้ว หากคุณสนใจลงทุนในกองทุน SSF Extra หรือ SSF แต่ไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลของแต่ละกองทุนได้จากที่ไหน ทางเรารวบรวมรายชื่อกองทุน SSF และ SSF Extra ที่เปิดจำหน่ายตอนนี้ให้คุณแล้ว

รายชื่อกองทุน SSF และกองทุน SSF Extra


กองทุน

SSF/SSF Extra  

ประเภทกองทุน

ปันผล/ไม่ปันผล    

บลจ.

ONE-TCMSFF

SSF

กองทุนผสม

ไม่ปันผล

ONEAM

ONE-TCMSFF-SSFX

SSF Extra     

กองทุนผสม

ไม่ปันผล

ONEAM

KFDIVSSF

SSF

กองทุนหุ้น

ปันผล

KrungsriAsset     

KFGBRANSSF

SSF

กองทุนหุ้น

ปันผล

KrungsriAsset

KFENS50SSF

SSF

กองทุนหุ้น

ปันผล

KrungsriAsset

KFCASHSSF

SSF

กองทุนตลาดเงิน

ไม่ปันผล

KrungsriAsset

KFAFIXSSF

SSF

กองทุนตราสารหนี้

ไม่ปันผล

KrungsriAsset

KFHAPPYSSF

SSF

กองทุนผสม

ไม่ปันผล

KrungsriAsset

KFS100SSFX

SSF Extra

กองทุนรวม

ปันผล

KrungsriAsset

MTQ-SSF

SSF

กองทุนหุ้น

ปันผล

MFC

MTF-SSF

SSF

กองทุนผสม

ปันผล

MFC

MTQ-SSFX

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ปันผล

MFC

MTF-SSFX

SSF Extra

กองทุนผสม

ปันผล

MFC

LHSMARTDSSF-SSF

SSF

กองทุนผสม

ปันผล

LHFUND

LHSMARTDSSF-SSFX

SSF Extra

กองทุนผสม

ปันผล

LHFUND

PRINCIPAL iPROBEN-SSF        

SSF

กองทุนอสังหาริมทรัพย์   

ไม่ปันผล   

PRINCIPAL

PRINCIPAL TDIF-SSF

SSF

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

PRINCIPAL

PRINCIPAL SET50SSF-SSF

SSF

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

PRINCIPAL

PRINCIPAL SET50SSF-SSFX   

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

PRINCIPAL

UOBEQ-SSF

SSF

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

UOBAM

UOBEQ-SSFX

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

UOBAM

KT70/30S-SSFX

SSF Extra

กองทุนผสม

ปันผล

KTBAM

KTESGS-SSFX

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ปันผล

KTBAM

PHATRA SET50 ESG-SSFX

SSF

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

PhatraAM

SCBEQ-SSFX

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ปันผล

SCBAM

SCB70-SSFX

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ปันผล

SCBAM

SCBSET-SSFX

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ปันผล

SCBAM

T-ES-EQDSSFX

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ปันผล

T-Fund

K-SUPSTAR-SSFX

SSF Extra

กองทุนผสม

ปันผล

KAsset

TEGSSF

SSF

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

Tisco

TEGSSEF

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

Tisco

BEQSSF

SSF

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

BBLAM

ASP-SME-SSF

SSF

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

ASSET PLUS

ASP-SME-SSFX

SSF Extra

กองทุนหุ้น

ไม่ปันผล

ASSET PLUS

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Wealthmagik.com

สรุป

ด้วยกองทุน LTF สิ้นสุดการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในปี 2562 ทำให้กองทุน SSF และ SSF Extra ถือเกิดขึ้น โดยที่


กองทุน SSF ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวโดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจูงใจ ตัวเลือกสินทรัพย์ลงทุนหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ หุ้น ตราสารหนี้ ดัชนี เป็นต้น โดยต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปีนับจากวันที่ซื้อเพื่อมิให้เสียสิทธิ์และจ่ายค่าปรับก้อนโตย้อนหลัง


กองทุน SSF Extra ออกแบบมาเพื่อพยุงตลาดหุ้นไทยที่อาการร่อแร่จากวิกฤต COVID-19 ที่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลกโดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจูงใจ นโยบายการลงทุนคล้ายคลึงกับกองทุน LTF ซึ่งแตกต่างจากกองทุน SSF และสามารถซื้อในช่วงวันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น และต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปีนับจากวันที่ซื้อเพื่อมิให้เสียสิทธิ์และจ่ายค่าปรับก้อนโตย้อนหลัง


หากคุณกำลังมองหาช่องทางลดหย่อนภาษี คุณไม่ควรพลาดกองทุน SSF ที่ให้หักลดหย่อนสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินหรือไม่เกิน 200,000 บาทและเมื่อรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ แล้วไม่เกิน 500,000 บาท และกองทุน SSF Extra ที่ให้คุณสามารถลดหย่อนสูงสุด 200,000 บาทต่างหากจากกองทุน SSF และการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ

คำถามที่พบบ่อย

1.RMF และ LTF คืออะไร?

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่ต้องถือครองเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 7 ปี มีคุณสมบัติที่ให้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ซึ่งจะช่วยให้ตลาดหุ้นเกิดสภาพคล้องและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นกองทุนที่เน้นการออมเงินในระยะยาวเพื่อใช้ในยามเกษียณ โดยจะเน้นสิทธิประโยชน์ในด้านภาษีเช่นเดียวกัน


2. What is SSF and RMF?

SSF เป็นกองทุนเพื่อการออม แต่ RMF คือกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ทั้งคู่มีเป้าหมายเพื่อการเก็บออม และลดหย่อนภาษีเช่นเดียวกัน โดย SSF จะต้องถือเป็นเวลา 10 ปี นับจากวันที่ซื้อครั้งแรก ส่วน RMF สามารถถือขั้นต่ำอย่างน้อย 5 ปีได้ ที่สำคัญยังเป็นกลุ่มกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ได้ในทุกประเภทอีกด้วย


3. SSF ประเทศไทย คืออะไร?

กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ Super Savings Fund (SSF) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือ LTF เน้นลงทุนในสินทรัพย์ทุกๆ ประเภท ถือกันนานๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปีจากวันที่ซื้อ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เป็นไปตามสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร


*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์