Passive Income คืออะไร

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

จะดีแค่ไหนถ้าเราได้นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วมีเงินงอกเงยอยู่ตลอดเวลา นี่ไม่ใช่โฆษณาขายฝัน คุณแค่ต้องรู้ว่า Passive Income คืออะไร สิ่งนี้ทำงานอย่างไรและเราจะสร้าง Passive Income นี้ขึ้นมาได้อย่างไร และนี่คือบทความที่จะพาคุณไปรู้จักกับ Passive Income ที่จะบอกถึงความแตกต่างระหว่าง Passive Income กับรายได้ประเภทอื่น ๆ รวมถึง 8 ไอเดียสร้าง Passive Income สำหรับปีนี้เพื่อเป็นตัวเลือกในการสร้างรายได้โดยไม่ต้องออกแรง

Passive Income คืออะไร

Passive income คือ กระแสเงินสดจ่ายออกมาเป็นรายได้อย่างสม่ำเสมอโดยที่เราไม่ต้องอะไร เช่น การให้เช่าบ้านสร้าง passive income ได้จากค่าเช่าที่มีการจ่ายเป็นงวด ๆ ตลอดเวลาที่มีการเช่า หรือ หุ้นปันผลที่มีการจ่าย passive income ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นงวด ๆ ตลอดเวลาที่มีการถือหุ้นนั้นไว้


การสร้างรายได้แบบ passive income มักเกิดจากการถือสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น ลิขสิทธิ์ในสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้อย่าง รูปภาพ ebook เพลง หรือ มีความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ที่จับต้องได้อย่าง เงินสด หุ้น หรือ อสังหาริมทรัพย์ แล้วนำสินทรัพย์เหล่านั้นไปสร้างเป็นรายได้ต่อโดยที่ไม่ต้องลงแรงเพิ่ม

ประเภทของรายได้ Active Income vs Passive Income vs Portfolio Income

นอกจาก Passive Income แล้ว บางครั้งเรายังได้ยิน Active Income และ Portfolio Income อีกด้วย ซึ่งทั้ง 3 คำนี้เป็นประเภทของรายได้ที่เราสามารถสร้างได้และมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ดังนี้


  • Active income

    คือ รายได้ที่มาจากการทำงานแล้วได้มา ไม่ว่าจะเป็นงานชั่วคราว เช่น รับจ้างทำความสะอาด รับจ้างเลี้ยงเด็ก หรือเงินเดือนจากการทำงาน ซึ่งจะจ่ายออกมาเมื่อมีการทำงาน และจะหยุดได้เมื่อไม่ได้ทำงานแล้ว ดังนั้นเพื่อให้ได้รายได้ในส่วนนี้มาเราต้องทำงานอยู่ตลอด


  • Passive Income

    คือ รายได้ที่รับเข้ามาโดยที่ไม่ต้องทำงานหรือลงแรง ซึ่งต่างจาก Active income คือ แม้เราไม่ได้ทำงานหรือออกแรงก็สามารถได้รับรายได้ส่วนนี้ได้ ทำให้เป็นตัวเลือกในการสร้างรายได้ควบคู่กับ Active Income ได้โดยไม่ขัดแย้งกัน


  • Portfolio Income

    เป็นรายได้ที่ได้จากการลงทุนในลักษณะที่ได้ครั้งเดียวเมื่อมีการซื้อขาย แต่สามารถทำซ้ำได้ เช่น ส่วนต่างราคาขายหุ้น กำไรจากการซื้อขายหน่วยลงทุน ซึ่ง Portfolio Income ไม่ถือเป็น Passive income เพราะยังต้องมีการวางแผนเฝ้าดูแลพอร์ต แต่ผลตอบแทนส่วนเพิ่มเช่นเงินปันผลสามารถนับเป็น Passive income ได้


ตัวอย่าง Active Income และ Passive Income ที่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน


Active Income

Passive Income

การรับจ้างถ่ายภาพ 

การขายภาพบน Shutterstock

การเขียนต้นฉบับส่งสำนักพิมพ์

การเขียน ebook ขายบน Amazon

การเป็นโปรแกรมเมอร์ให้บริษัท

การเขียน pattern โค้ดขายเอง

การเปิดหน้าร้านขายของ

การให้เช่าพื้นที่บนบล็อก/เพจเพื่อโฆษณา


รายได้ทั้งสามประเภทเป็นทางเลือกในการสร้างความมั่งคั่ง ที่สองอย่างหลังมักไม่ได้รับความสนใจ แต่เป็นตัวช่วยที่ดีเพื่อบรรลุเป้าหมายความมั่งคั่งของแต่ละคนได้เร็วขึ้น

8 ไอเดียสร้าง Passive Income ที่ใครก็ทำได้

Passive Income


1. สร้างผลงานลิขสิทธิ์

ผลงานลิขสิทธิ์ เช่น หนังสือ เพลง เท็มเพลต รูปภาพ/รูปวาด สามารถนำมาใช้ในการสร้าง Passive Income ได้ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีในการทำซ้ำแบบไม่มีต้นทุนผ่านแพลตฟอร์มขายสินค้าลิขสิทธิ์เหล่านั้น เช่น Shutterstock/ Adobe Stock สำหรับการลงขายภาพถ่าย/ภาพวาด, หรือ Amazon/MEB/Ookbee สำหรับขายหนังสือ E-Book/ Audio Book, Canva สำหรับลงขายเท็มเพลตงานดิจิทัลต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการทำคลิปลงใน Youtube/Facebook ก็สามารถสร้าง Passive Income จากยอดผู้เข้าชมคลิปได้เช่นกัน


▲ ข้อดี

  • สร้าง Passive Income ได้โดยไม่ต้องมีเงินทุนตั้งต้น

  • สามารถเลือกสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลายตามความถนัดไม่ว่าจะเป็นการวาดเขียนหรือถ่ายรูป

  • เป็นการสร้างผลงานครั้งเดียวแต่กลายเป็น Passive Income ไปได้อีกเป็นระยะเวลายาวนาน


※ ข้อควรคำนึงถึง

  • การลงขายผลงานดิจิทัลกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะมีเงื่อนไขการจ่ายส่วนแบ่งผลกำไรที่จะมีการหักค่าบริการและตัวกลางออกไปและจ่ายให้กับผู้สร้างเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น


2. เงินฝากประจำ

การฝากประจำเป็นการสร้าง Passive Income จากดอกเบี้ยที่มีการจ่ายออกมาตามระยะเวลาที่กำหนด ถือเป็นการสร้าง Passive Income แบบคลาสสิคที่เรารู้จักกันมานานและไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อน เพียงแค่เลือกระยะเวลาที่ต้องการฝากเงินไว้กับธนาคารที่เลือก เมื่อครบกำหนดระยะเวลา เช่น ครึ่งปีหรือหนึ่งปี ธนาคารก็จะจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราที่กำหนด


▲ ข้อดี

  • เป็นการสร้าง Passive Income ที่ไม่ต้องลงแรงเลย

  • มีความเสี่ยงต่ำและให้ Passive Income ที่แน่นอนตรงเวลา คาดดำนวณก่อนล่วงหน้าได้


※ ข้อควรคำนึงถึง

  • ต้องอาศัยเงินลงทุนเป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คาดหวัง เนื่องจากมีการจ่ายผลตอบแทน(ดอกเบี้ย) ในอัตราที่ค่อนข้างน้อยกว่าการลงทุนวิธีอื่น


  • มีความเสี่ยงจากการการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อาจทำให้มีการจ่ายผลตอบแทนที่เป็น Passive Income มากขึ้นหรือลดลงก็ได้ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง


  • มีการหักภาษีดอกเบี้ย 15% ณ ที่จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดาและมีสิทธิเลือกไม่นำไปรวมภาษีเงินได้ปลายปี


3. ซื้อพันธบัตร/หุ้นกู้

การซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้เป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนได้ค่อนข้างแน่นอน สามารถจ่ายกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยที่ตราไว้หน้าตั๋ว (Coupon Rate) ได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไปตามเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ หากเป็นรัฐบาลที่มีความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ต่ำจะให้ดอกเบี้ยน้อยกว่าหุ้นกู้ที่ออกโดยเอกชนที่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้นมา ซึ่งการเลือกลงทุนประเภทนี้ควรคำนึงถึงฐานะการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้เป็นสำคัญ


▲ ข้อดี

  • สร้าง Passive Income ได้โดยไม่ต้องลงแรงเลย

  • ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากประจำ


※ ข้อควรคำนึงถึง

  • ต้องอาศัยเงินทุนตั้งต้นจำนวนหนึ่งเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ต้องการ

  • ดอกเบี้ยหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% สำหรับบุคคลธรรมดาและมีสิทธิเลือกไม่นำไปรวมภาษีเงินได้ปลายปี

  • มีความเสี่ยงจากเครดิตผู้ออกหุ้นกู้ที่ในกรณีแย่สุดอาจไม่สามารถชำระดอกเบี้ยรวมถึงเงินต้นคืนได้


4. ซื้อประกันสะสมทรัพย์

 อีกหนึ่งรูปแบบการออมที่สามารถสร้าง Passive Income ไปพร้อมกับประโยชน์ด้านประกันไปด้วยในตัว โดยเราสามารถจ่ายเบี้ยประกันเพื่อไปสะสมเป็นเงินต้นแล้วจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ยในวันครบกำหนดอายุ โดยบริษัทประกันมักให้ดอกเบี้ยที่ราว 2 – 3% ต่อปี และกลายเป็น Passive Income ที่จ่ายครั้งเดียวตอนไถ่ถอน


▲ ข้อดี

  • สร้าง Passive Income ได้โดยไม่ต้องลงแรงเลย

  • ให้ผลประโยชน์ด้าน Passive Income มาพร้อมกับประโยชน์ในด้านการประกันชีวิต

  • รายได้ส่วนนี้ไม่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เหมือนเงินฝาก และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้


※ ข้อควรคำนึงถึง

  • ต้องอาศัยเงินลงทุนจำนวนมาก แต่สามารถแบ่งเป็นการทะยอยรายงวด

  • ได้ Passive Income เป็นก้อนเดียวเมื่อครบอายุ ไม่ได้มีการทะยอยจ่ายเป็นกระแสเงินสด


5. ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์

การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งวิธีสร้าง Passive Income ที่เราคุ้นเคยกันดี จากการที่มีอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด หรือพื้นที่สำหรับขายของ สามารถนำมาปล่อยเช่าเพื่อสร้างเป็นกระแสเงินสดที่เป็นรายได้ นอกเหนือไปจากการลงทุนให้ราคาอสังหาริมทรัพย์นั้นเติบโตตามวัฏจักรเศรษฐกิจ และทำให้เราได้รับ Passive Income จาก ค่าเช่า ที่มีการจ่ายออกมาอย่างสม่ำเสมอ


▲ ข้อดี

  • สามารถสร้าง Passive Income ได้นอกเหนือไปจากการปล่อยอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้เฉย ๆ

  • สามารถสร้าง Passive Income ไปพร้อมกับการเติบโตของราคาอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวโดยไม่เสียกรรมสิทธิในทรัพย์สินนั้น

  • สามารถสร้างรายได้ได้เร็ว ตั้งแต่เดือนแรกที่มีการเริ่มสัญญาเช่า


※ ข้อควรคำนึงถึง

  • ต้องมีกรรมสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ก่อน

  • รายได้จะเกิดขึ้นเมื่อมีผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น จึงมีความเสี่ยงที่จะขาดรายได้หากไม่มีผู้เช่า

  • มีต้นทุนค่าเสื่อมจากการดูแลรักษาอสังหาริมทรัพย์ที่อาจต้องนำมาคิดลดในอนาคต


6. ซื้อหน่วยลงทุน REIT

การซื้อหน่วยลงทุน REIT หรือ Real Estate Investment Trust เป็นตัวเลือกในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่สร้าง Passive Income ได้จากเงินปันผลที่ทรัสต์สามารถจัดเก็บได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ทรัสต์ถืออยู่ ด้วยวิธีนี้ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนเพื่อสร้าง Passive Income ได้จากอสังหาริมทรัพย์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำนักงาน โรงแรม หรือแม้แต่โครงสร้างพื้นฐาน


▲ ข้อดี

  • ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก มีการซื้อขายเปลี่ยนมือง่ายเหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไป

  • มีทางเลือกหลากหลายให้เลือกลงทุนในแบบที่นักลงทุนรายบุคคลทั่วไปอาจทำไม่ได้


※ ข้อควรคำนึงถึง

  • เงินปันผลที่ได้รับต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

  • มีความเสี่ยงด้านราคาของหน่วยลงทุนที่อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามภาวะตลาด


หุ้น


7. ซื้อหุ้นปันผล

การซื้อหุ้นเป็นการลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม แต่นอกจาก Portfolio Income ที่จะได้จากการเติบโตของราคาหุ้นแล้ว หากหุ้นนั้นมีปันผลนักลงทุนก็ยังจะสามารถสร้างผลตอบแทนจาก Passive Income ได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นประเภท Devidend Stock หรือหุ้นปันผล ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีกำไรสม่ำเสมอ และสามารถจ่ายปันผลสูงได้อย่างคงเส้นคงวา ก็สามารถทำให้นักลงทุนสามารถสร้าง Passive Income ได้กว่า 6 - 8% ต่อปีทีเดียว (ขึ้นอยู่กับต้นทุนที่เข้าซื้อและจำนวนปันผลที่จ่าย)


▲ ข้อดี

  • สามารถสร้าง Passive Income ไปพร้อมกับ Portfolio Income ได้

  • ให้ผลตอบแทนเป็นสัดส่วนสูงเมื่อเทียบกับ Passive Income ที่ได้จากการฝากเงินหรือลงทุนในหุ้นกู้

  • มีสภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ง่ายใน Exchange

 

※ ข้อควรคำนึงถึง

  • มีความเสี่ยงด้านราคาหุ้นที่อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามภาวะตลาด โดยเฉพาะในภาวะวิกฤตที่ราคาอาจปรับลดจนทำให้ขาดทุนเงินต้นได้

  • เงินปันผลที่ได้รับต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้


8. Staking เงินคริปโท

ถือเป็นน้องใหม่สำหรับวงการการเงินการลงทุนเลยสำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่ก็มีทางเลือกสำหรับการสร้าง Passive Income สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างกระแสเงินสดนอกเหนือไปจาก Portfolio Income ที่มีการถือเหรียญอยู่ โดยนักลงทุนสามารถนำเหรียญคริปโทที่มีอยู่ไปฝากไว้กับ Pool ต่าง ๆ ที่เปิดให้มีการ Stake เหรียญตามผลตอบแทนที่กำหนดไว้ ซึ่งมีตั้งแต่ 3-5 % ขึ้นไปถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดีผลตอบแทนที่สูงนี้มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงที่นักลงทุนจะต้องสูญเสียเงินต้นหากผู้รับฝากเหรียญนั้นไม่มีเครดิตที่ดีพอ


▲ ข้อดี

  • ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับ Passive Income ประเภทอื่น ๆ

  • มีการซื้อขายได้ง่ายบนแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ

  • เป็นทางเลือกในการสร้าง Passive Income ไปพร้อมกับ Portfolio Income


※ ข้อควรคำนึงถึง

  • เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงที่นักลงทุนอาจสูญเสียเงินต้นทั้งหมดได้

  • ยังมีกฎระเบียบไม่ชัดเจนเรื่องภาษีจากผลตอบแทนที่เกิดขึ้น

  • ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในระดับสูงและไม่เหมาะกับนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน


สรุป

การสร้าง Passive Income คือทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายความมั่งคั่งของตัวเองได้เร็วขึ้นกว่าการเลือกพึ่งพาการสร้างรายได้เพียงจาก Earned Income หรือ Portfolio Income ซึ่งช่องทางการสร้าง Passive Income ในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลาย มีตั้งแต่ไม่ต้องใช้เงินต้นสำหรับเริ่มต้นลงทุนเลย ไปจนถึงการลงทุนด้วยเงินทุนที่อาศัยความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งแต่ละคนก็สามารถเลือกไอเดียที่เหมาะกับข้อจำกัดของตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องเลียนแบบหรือมีสูตรความมั่งคั่งที่เหมือนกันคนอื่นเลย

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
หาเงินออนไลน์ ถูกกฎหมาย! แนะนำ 9 วิธีหาเงินออนไลน์การหาเงินหลักล้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคที่ไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเท่าเทียมกัน ห้ามพลาดกับวิธีหาเงินออนไลน์ทั้ง 9 แบบที่เรานำมาฝาก
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 28 พ.ย. 2023
การหาเงินหลักล้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคที่ไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเท่าเทียมกัน ห้ามพลาดกับวิธีหาเงินออนไลน์ทั้ง 9 แบบที่เรานำมาฝาก
placeholder
วิธีดูกราฟราคาทองที่นักลงทุนทองคำต้องรู้ ฉบับมือใหม่ต้องอ่านบทความนี้จะแนะนำวิธีดูกราฟราคาทองสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มตลาด และระบุจังหวะการซื้อขายที่เหมาะสม
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 01 มิ.ย. 2023
บทความนี้จะแนะนำวิธีดูกราฟราคาทองสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มตลาด และระบุจังหวะการซื้อขายที่เหมาะสม
placeholder
10 อันดับแอพหาเงินสร้างรายได้เสริมปี 2024ยังจำเป็นอยู่ไหมกับการทำงานกินเงินเดือนที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็นั่งทำงานหารายได้จากหลายช่องทางต้องบอกว่าหมดยุคแล้วกับตอกบัตรเข้าออฟฟิศ และนี่คือทั้งหมดของแอพหาเงินที่เรารวบรวมมาเป็นตัวเลือกสำหรับการสร้างรายได้แบบง่าย ๆ ที่บ้านสำหรับปีนี้ที่เรานำมาฝากกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 30 ส.ค. 2023
ยังจำเป็นอยู่ไหมกับการทำงานกินเงินเดือนที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็นั่งทำงานหารายได้จากหลายช่องทางต้องบอกว่าหมดยุคแล้วกับตอกบัตรเข้าออฟฟิศ และนี่คือทั้งหมดของแอพหาเงินที่เรารวบรวมมาเป็นตัวเลือกสำหรับการสร้างรายได้แบบง่าย ๆ ที่บ้านสำหรับปีนี้ที่เรานำมาฝากกัน
placeholder
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และ มีอะไรบ้างต้นทุนในธุรกิจ ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ บทความนี้ เรามาทำความรู้จักกันว่า ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
3 เดือน 01 วัน ศุกร์
ต้นทุนในธุรกิจ ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ บทความนี้ เรามาทำความรู้จักกันว่า ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
placeholder
คำสั่ง Long , Short คืออะไร? ​คำสั่ง Long (Buy), Short (Sell) คืออะไร คราวนี้เราก็จะมาพาเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ไปทำความรู้จักคำสั่งนี้กัน เพื่อคล้าโอกาสการเทรดและทำกำไรจากความผันผวนของตลาดเงินให้มากขึ้น ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 08 มิ.ย. 2023
​คำสั่ง Long (Buy), Short (Sell) คืออะไร คราวนี้เราก็จะมาพาเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ไปทำความรู้จักคำสั่งนี้กัน เพื่อคล้าโอกาสการเทรดและทำกำไรจากความผันผวนของตลาดเงินให้มากขึ้น ตามมาดูกันเลย
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์