ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และ มีอะไรบ้าง

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

ต้นทุนในธุรกิจ ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ การเข้าใจในต้นทุนเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดราคาสินค้าหรือบริการอย่างเหมาะสม วางแผนการใช้จ่ายและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประเมินจุดคุ้มทุนเพื่อกำหนดเป้าหมายการขายและวางแผนการเติบโต การจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาความมั่นคงทางการเงินและเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว


บทความนี้ เรามาทำความรู้จักกันว่า ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) คืออะไร

ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) คือ ต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับของการผลิตหรือการขายในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ไม่ว่าธุรกิจจะผลิตหรือขายสินค้ามากน้อยเพียงใดก็ตาม ต้นทุนเหล่านี้จะคงที่และจำเป็นต้องจ่ายไม่ว่าจะมีการดำเนินการหรือไม่ก็ตาม สำคัญต่อการวางแผนทางการเงินและการคำนวณกำไร เพราะเป็นต้นทุนที่ธุรกิจต้องรับภาระอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าระดับการผลิตหรือยอดขายจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ตาม


ลักษณะของต้นทุนคงที่

  • ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือการขาย

    ต้นทุนคงที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามการเปลี่ยนแปลงในปริมาณการผลิตหรือยอดขาย ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าธุรกิจจะดำเนินการมากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม ต้นทุนเหล่านี้ยังคงเท่าเดิม


  • ความสำคัญในการวางแผนการเงินและการกำหนดราคา

    ต้นทุนคงที่มีบทบาทสำคัญในการวางแผนทางการเงินและการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการ เพราะต้องคำนวณให้แน่ใจว่าราคาขายสามารถครอบคลุมทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร และยังสามารถสร้างกำไรได้


การจัดการและการวางแผนทางการเงินที่ดีต้องพิจารณาถึงต้นทุนคงที่เพื่อให้ธุรกิจสามารถครอบคลุมต้นทุนพื้นฐานและมีกำไรอย่างยั่งยืน ความเข้าใจในต้นทุนคงที่และวิธีการบริหารจัดการเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถนำพาไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) มีอะไรบ้าง

Fixed Cost


ต้นทุนคงที่เป็นต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือการขายในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าธุรกิจจะดำเนินการมากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม ต้นทุนเหล่านี้จะยังคงเท่าเดิม ตัวอย่างของต้นทุนคงที่ ได้แก่:


  • ค่าเช่า

    ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าที่ดินหรืออาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นต้นทุนที่จ่ายเป็นประจำทุกเดือนหรือปีไม่ว่าจะมีการผลิตหรือขายสินค้ามากน้อยเพียงใด


  • เงินเดือนของพนักงาน 

    เงินเดือนที่จ่ายให้กับพนักงานแบบคงที่หรือเต็มเวลา ไม่ขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตหรือยอดขาย


  • ค่าประกัน 

    ค่าใช้จ่ายสำหรับประกันธุรกิจหรือประกันสินทรัพย์ ซึ่งจ่ายเป็นประจำเพื่อคุ้มครองธุรกิจจากความเสี่ยงต่าง ๆ


  • ค่าอาคารและอุปกรณ์

    ค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อหรือการคิดค่าเสื่อมราคาของอาคารและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงานธุรกิจ


  • ดอกเบี้ยเงินกู้ 

    ดอกเบี้ยที่จ่ายสำหรับเงินกู้ที่ธุรกิจได้รับ เป็นต้นทุนคงที่ที่ต้องจ่ายไม่ว่าธุรกิจจะมีการดำเนินการมากหรือน้อย


การจัดการและวางแผนทางการเงินที่ดีต้องคำนึงถึงต้นทุนคงที่เหล่านี้ เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ต้องจ่ายไม่ว่าจะมีการดำเนินการหรือไม่ ความเข้าใจในต้นทุนคงที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถคำนวณต้นทุนรวมและกำไรได้อย่างแม่นยำ และเป็นพื้นฐานสำคัญในการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการอย่างเหมาะสม

ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร

ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) คือ ต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตหรือการขายของธุรกิจ ไม่เหมือนกับต้นทุนคงที่, ต้นทุนผันแปรเพิ่มขึ้นเมื่อปริมาณการผลิตหรือการขายเพิ่มขึ้น และลดลงเมื่อปริมาณการผลิตหรือการขายลดลง


ลักษณะของต้นทุนผันแปร

  • เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือการขาย

    ต้นทุนผันแปรมีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงโดยตรงตามปริมาณการผลิตหรือการขาย ซึ่งหมายความว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการผลิตหรือขายมากขึ้น และจะลดลงเมื่อการผลิตหรือขายน้อยลง


  • ผลกระทบต่อต้นทุนหน่วยผลิตภัณฑ์ 

    เนื่องจากต้นทุนผันแปรเปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต ต้นทุนหน่วยผลิตภัณฑ์จึงเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งสามารถช่วยให้ธุรกิจประเมินและควบคุมต้นทุนการผลิตต่อหน่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การเข้าใจต้นทุนผันแปรช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการผลิตและการขายได้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถปรับระดับการผลิตเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยในการกำหนดราคาขายที่สามารถครอบคลุมต้นทุนและสร้างกำไรได้

ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) มีอะไรบ้าง

Variable Cost


ต้นทุนผันแปรเป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือการขายของธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าเมื่อปริมาณการผลิตหรือการขายเพิ่มขึ้น ต้นทุนผันแปรก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน และเมื่อปริมาณการผลิตหรือการขายลดลง ต้นทุนผันแปรก็จะลดลงตาม นี่คือตัวอย่างของต้นทุนผันแปร


  • ค่าวัตถุดิบ 

    ต้นทุนสำหรับวัสดุหรือส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ซึ่งเพิ่มขึ้นตามปริมาณสินค้าที่ผลิต


  • ค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ตรง

    รวมถึงค่าแรงงานตรงที่จ่ายให้กับพนักงานที่มีส่วนร่วมโดยตรงในกระบวนการผลิตสินค้า


  • ค่าพลังงานและน้ำ

    ค่าใช้จ่ายสำหรับไฟฟ้าและน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งเพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิต


  • ค่าบรรจุภัณฑ์

    ต้นทุนสำหรับวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการห่อหุ้มหรือบรรจุสินค้าสำหรับการจัดส่งหรือการขาย


  • ค่าขนส่งและการจัดส่ง 

    ต้นทุนในการขนส่งสินค้าจากโรงงานไปยังลูกค้าหรือจุดจำหน่าย ซึ่งเพิ่มขึ้นตามปริมาณสินค้าที่ต้องการจัดส่ง


  • ค่าคอมมิชชันการขาย

    ค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับทีมขายหรือตัวแทนจำหน่ายตามปริมาณการขายที่พวกเขาสร้างขึ้น


การจัดการต้นทุนผันแปรอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจเพื่อให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตและเพิ่มกำไรได้ การเข้าใจต้นทุนผันแปรช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินและวางแผนการผลิตและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในขณะที่ยังคงควบคุมต้นทุนได้

ความแตกต่างระหว่างต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร

การแบ่งประเภทต้นทุนในธุรกิจนั้นมีความสำคัญสำหรับบริษัทอย่างมาก เพราะการวิเคราะห์ต้นทุนเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนใน ทรัพย์สิน โรงงาน และอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงสุดได้ ตัวอย่างเช่น ต้นทุนแรงงานโดยตรงที่สูงอาจกระตุ้นให้บริษัทลงทุนในเครื่องจักร ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายแรงงานผันแปรเพื่อแลกกับต้นทุนคงที่ที่มีเสถียรภาพมากขึ้นได้ เรามาดูความแตกต่างระหว่างต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรที่บริษัทควรคำนึง ดังนี้


ต้นทุนคงที่ คือค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่คงที่ไม่ว่าระดับการผลิตจะเป็นเท่าใดก็ตาม ต้นทุนเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ว่าบริษัทจะผลิตสินค้าจำนวนมาก ผลิตเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลยก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว ต้นทุนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับภาระผูกพันในระยะยาวและไม่ผันผวนตามการดำเนินงานประจำวัน เนื่องจากต้นทุนคงที่มีเสถียรภาพ ธุรกิจจึงมักอาศัยต้นทุนเหล่านี้ในการจัดทำงบประมาณและคาดการณ์รายได้ของบริษัท  ตัวอย่างของต้นทุนคงที่ ได้แก่


  • ค่าเช่าโรงงาน

  • เงินเดือนผู้บริหาร

  • ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์


ต้นทุนผันแปรมักจะเปลี่ยนแปลงตามสัดส่วนโดยตรงของระดับผลผลิตหรือยอดขาย ต้นทุนเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อการผลิตเพิ่มขึ้นและจะลดลงเมื่อการผลิตลดลง ต้นทุนผันแปรเกี่ยวข้องกับด้านการดำเนินงานของธุรกิจ และให้ความยืดหยุ่นในการจัดการค่าใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนผันแปรไปตามการผลิต จึงสามารถปรับต้นทุนเหล่านี้ได้ตามต้องการโดยอิงตามความต้องการหรือความจำเป็นในการผลิต  ตัวอย่างของต้นทุนผันแปร ได้แก่


  • วัตถุดิบ

  • ค่าจ้างแรงงานโดยตรง

  • ค่าบรรจุภัณฑ์และการจัดส่ง

การวิเคราะห์ต้นทุนผสม

การวิเคราะห์ต้นทุนผสมเป็นกระบวนการที่รวมต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรเข้าด้วยกันเพื่อวิเคราะห์ต้นทุนรวมของการดำเนินธุรกิจ วิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจโครงสร้างต้นทุนของตนได้อย่างละเอียด และมีข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจในหลาย ๆ ด้าน เช่น การกำหนดราคา, การวางแผนการผลิต, การจัดสรรทรัพยากร, และการประเมินความสามารถในการแข่งขัน


การรวมต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรเพื่อวิเคราะห์ต้นทุนรวม

การคำนวณต้นทุนรวม: โดยการรวมต้นทุนคงที่ (ซึ่งเป็นต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะผลิตหรือขายมากน้อยเพียงใด) และต้นทุนผันแปร (ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือการขาย) เพื่อได้ภาพรวมของต้นทุนที่ธุรกิจต้องรับภาระในการดำเนินการ


ความสำคัญของการรู้จักต้นทุนผสมในการตัดสินใจด้านธุรกิจ


  • การกำหนดราคา

    การรู้จักต้นทุนผสมช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดราคาสินค้าหรือบริการได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถครอบคลุมต้นทุนและสร้างกำไร


  • การวางแผนการผลิต

    ธุรกิจสามารถวางแผนการผลิตและจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร


  • การตัดสินใจการลงทุน 

    การวิเคราะห์ต้นทุนผสมช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยการคำนวณต้นทุนและประโยชน์ที่คาดหวัง


  • การควบคุมต้นทุน 

    ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุพื้นที่ที่มีต้นทุนสูงและหาวิธีลดต้นทุนเหล่านั้นได้


  • การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในตลาด

    ธุรกิจสามารถประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงในตลาดหรือปริมาณการขายจะมีผลกระทบต่อต้นทุนและกำไรอย่างไร


การเข้าใจต้นทุนผสมไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยในการตัดสินใจด้านต่างๆ ที่จะนำไปสู่การเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาว

คำสรุป

บทความนี้ เราได้ทำความรู้จักกันแล้วว่า ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และมีอะไรบ้าง การเข้าใจในต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรเป็นส่วนสำคัญของการจัดการและการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการผลิต การกำหนดราคาสินค้าหรือบริการ การควบคุมต้นทุนหรือการวิเคราะห์ความเสี่ยงและการตัดสินใจการลงทุน ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรมีบทบาทในการกำหนดโครงสร้างต้นทุนของธุรกิจ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและความมั่นคงทางการเงิน

บทควาที่คุณอาจจะสนใจด้วย>>>

สินทรัพย์ (Asset) คืออะไรและประเภทของสินทรัพย์ มีอะไรบ้าง

อุปสงค์ อุปทาน คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรต่อการลงทุน

คำถามที่พบบ่อย

เงินเดือนเป็น fixed cost ไหม

ใช่ เพราะเงินเดือนเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทที่จะต้องมีการจ่ายออกทุกเดือนจึงนับว่าเป็นต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)


ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย หายังไง?

ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย = จำนวนหน่วยทั้งหมดที่ผลิต ÷ ต้นทุนผันแปรทั้งหมด


ต้นทุนคงที่ คิดยังไง?

ต้นทุนคงที่ = ต้นทุนการผลิตทั้งหมด - (ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย x จำนวนหน่วยที่ผลิต)


*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
หาเงินออนไลน์ ถูกกฎหมาย! แนะนำ 9 วิธีหาเงินออนไลน์การหาเงินหลักล้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคที่ไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเท่าเทียมกัน ห้ามพลาดกับวิธีหาเงินออนไลน์ทั้ง 9 แบบที่เรานำมาฝาก
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 28 พ.ย. 2023
การหาเงินหลักล้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคที่ไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเท่าเทียมกัน ห้ามพลาดกับวิธีหาเงินออนไลน์ทั้ง 9 แบบที่เรานำมาฝาก
placeholder
วิธีดูกราฟราคาทองที่นักลงทุนทองคำต้องรู้ ฉบับมือใหม่ต้องอ่านบทความนี้จะแนะนำวิธีดูกราฟราคาทองสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มตลาด และระบุจังหวะการซื้อขายที่เหมาะสม
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 01 มิ.ย. 2023
บทความนี้จะแนะนำวิธีดูกราฟราคาทองสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มตลาด และระบุจังหวะการซื้อขายที่เหมาะสม
placeholder
10 อันดับแอพหาเงินสร้างรายได้เสริมปี 2024ยังจำเป็นอยู่ไหมกับการทำงานกินเงินเดือนที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็นั่งทำงานหารายได้จากหลายช่องทางต้องบอกว่าหมดยุคแล้วกับตอกบัตรเข้าออฟฟิศ และนี่คือทั้งหมดของแอพหาเงินที่เรารวบรวมมาเป็นตัวเลือกสำหรับการสร้างรายได้แบบง่าย ๆ ที่บ้านสำหรับปีนี้ที่เรานำมาฝากกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 30 ส.ค. 2023
ยังจำเป็นอยู่ไหมกับการทำงานกินเงินเดือนที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็นั่งทำงานหารายได้จากหลายช่องทางต้องบอกว่าหมดยุคแล้วกับตอกบัตรเข้าออฟฟิศ และนี่คือทั้งหมดของแอพหาเงินที่เรารวบรวมมาเป็นตัวเลือกสำหรับการสร้างรายได้แบบง่าย ๆ ที่บ้านสำหรับปีนี้ที่เรานำมาฝากกัน
placeholder
คำสั่ง Long , Short คืออะไร? ​คำสั่ง Long (Buy), Short (Sell) คืออะไร คราวนี้เราก็จะมาพาเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ไปทำความรู้จักคำสั่งนี้กัน เพื่อคล้าโอกาสการเทรดและทำกำไรจากความผันผวนของตลาดเงินให้มากขึ้น ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 08 มิ.ย. 2023
​คำสั่ง Long (Buy), Short (Sell) คืออะไร คราวนี้เราก็จะมาพาเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ไปทำความรู้จักคำสั่งนี้กัน เพื่อคล้าโอกาสการเทรดและทำกำไรจากความผันผวนของตลาดเงินให้มากขึ้น ตามมาดูกันเลย
placeholder
เทรดเดอร์ (Trader)คืออะไร มีกี่ประเภท และวิธีทำกำไรที่ดีที่สุดมีอะไรบ้างหลายคนคงคุ้นหูกับคำว่าเทรดเดอร์หรือนักเทรดมาสักระยะและอาจยังไม่เข้าใจที่มาของคำนี้อย่างลึกซึ้งเท่าไหร่นัก ดังนั้นในบทความนี้จะมาอธิบายถึงคำว่า เทรดเดอร์ (Trader) และประเภทที่แตกต่างกันรวมทั้งใครกันแน่ที่เทรดฟอเร็กซ์เก่งที่สุดในโลกโดยจะมาสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ กันที่นี่ที่เดียว
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 11 ส.ค. 2023
หลายคนคงคุ้นหูกับคำว่าเทรดเดอร์หรือนักเทรดมาสักระยะและอาจยังไม่เข้าใจที่มาของคำนี้อย่างลึกซึ้งเท่าไหร่นัก ดังนั้นในบทความนี้จะมาอธิบายถึงคำว่า เทรดเดอร์ (Trader) และประเภทที่แตกต่างกันรวมทั้งใครกันแน่ที่เทรดฟอเร็กซ์เก่งที่สุดในโลกโดยจะมาสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ กันที่นี่ที่เดียว
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์