CFD คืออะไรและทำงานอย่างไร?

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์เช่น Forex หุ้น ดัชนี ทองคำหรือบิทคอยน์ แต่คุณมีเงินไม่มากแต่ก็มีความคาดหวังว่าจะเก็งกำไรในระยะสั้น การลงทุนด้วยเครื่องมือ CFD อาจจะเป็นคำตอบสำหรับการลงทุนของคุณ


ว่าแต่ CFD คืออะไร, CFD ทำงานอย่างไร CFD, จะช่วยให้คุณลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยอย่างไร, ข้อดีและความเสี่ยงในการเทรด CFD คืออะไร เรามาหาคำตอบกันครับ

CFD คืออะไร

CFD (Contract for Difference)หรือแปลเป็นไทยว่า สัญญาซื้อขายส่วนต่าง เป็นตราสารอนุพันธ์รูปแบบหนึ่งที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากส่วนต่างของราคาเปิดและราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิงโดยไม่ต้องทำการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงนั้นจริง แต่เป็นสัญญาที่ทำการซื้อขายได้ทันทีเพียงส่งคำสั่งซื้อขาย และเสนอความได้เปรียบด้านอัตราทด (เลเวอเรจ) ทำให้เทรดเดอร์สามารถวางเงินเพียงจำนวนหนึ่งแต่ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับการซื้อขายสินค้านั้นจริงด้วยเงินเต็มจำนวน


△ ตัวอย่างเช่น

คุณคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ด้วยการใช้เลเวอเรจ 1:100 คุณเปิดคำสั่งซื้อทองคำที่มีมูลค่า $1,000 ดอลลาร์(ประมาณ 31, 200 บาท)ด้วยการฝากมาร์จิ้น $10 ดอลลาร์(ประมาณ 312 บาท—)


หากราคาเพิ่มสูงขึ้นไปถึง $ 1,100 ดอลลาร์ คุณปิดคำสั่งซื้อทันทีและรับรู้กำไร $100 ดอลลาร์[ประมาณ 3,120 บาท(ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น)] ได้เลย


หมายถึงคุณทำกำไร $100 ดอลลาร์ด้วยต้นทุน $10 ;ดอลลาร์เอง คิดผลตอบแทนเป็น 1000% และคุณยังไม่ต้องยุ่งยากกับการซื้อทองที่ร้านมาเก็บไว้แล้วเอาไปขายกลับที่ร้านด้วย

ต้นทุนในการเทรด CFD

ต้นทุนในการเทรด CFD รวมไปถึงสเปรด (Spread)ค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมการถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืน


1. สเปรด (Spread) - ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย มีหน่วยเป็น pip


☆ ตัวอย่าง


หากคุณเปิดคำสั่งซื้อ EURUSD โดยราคา ซื้อ (ask) = 1.1236 และราคา ขาย (bid) = 1.1235 สเปรดจะเท่ากับ 1.1236 – 1.1235 = 1 pip


สเปรดเป็นต้นทุนสำคัญของการเทรด CFD ยิ่งสเปรดน้อยเท่าไหร่ คุณจะมีโอกาสทำกำไรมากขึ้น จากตัวอย่างข้างต้น หากคุณปิดสถานะของ EURUSD ที่ 1.1240 กำไรของคุณจะอยู่ที่ 1.1240 – (1.1236 + 0.0001) = 3 pip


· 1.1240 คือราคาที่คุณปิดคำสั่ง<ซื้อ

· 1.1236 คือราคาที่คุณเปิดคำสั่งซื้อ

· 0.0001 เท่ากับ 1 pip


2. ค่าคอมมิชชั่น คุณจะจ่ายเงินตามจำนวนที่กำหนดโดยโบรกเกอร์ต่อปริมาณการเทรดต่อครั้ง ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละโบรกเกอร์ มีโบรกเกอร์บางรายจะไม่เก็บค่าคอมมิชชั่น


3. ค่าธรรมเนียมการถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืน - หากคุณเปิดคำสั่งซื้อขายข้ามคืน(เลยเวลา 4 โมงเย็นตามเวลาไทย) คุณอาจจะถูกเรียกเก็บค่าสวอปจากโบรกเกอร์เพื่อรักษาคำสั่งซื้อขายดังกล่าว

CFD ทำงานอย่างไร


สถานะซื้อ (Long Position) และ สถานะซื้อขาย (Short Position)

ในการเทรด CFD คุณต้องทำการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะขึ้นหรือลง ซึ่งส่วนต่างของราคาเปิดและราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิงจะเป็นตัวกำหนดว่า คุณจะได้กำไรหรือขาดทุน


■ เปิดสถานะตามความคาดการณ์ของคุณ


  • หากคุณคิดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงมีแนวโน้มขาขึ้น คุณก็ทำการเปิดสถานะซื้อ(Long Position)


  • หากคุณคิดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงมีแนวโน้มดิ่งลง คุณก็ทำการเปิดสถานะขาย(Short Position)


■ คุณสามารถทำกำไรจากการเทรด CFD หาก


  • สำหรับสถานะซื้อ (Long) และราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเป็นขาขึ้นและไปถึงราคาที่คุณพอใจ คุณปิดสถานะแล้วจะได้กำไร เช่น คุณเปิดสถานะซื้อที่ $15 USD และปิดที่ 17 USD กำไรจะเป็น $17 - $15 = 2 USD*


  • สำหรับสถานะขาย (Short) และราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเป็นขาลงและไปถึงราคาที่คุณพอใจ คุณปิดสถานะแล้วจะได้กำไร เช่น คุณเปิดสถานะขายที่ 15 USD และปิดที่ 13 USD กำไรของคุณจะเท่ากับ $15 - $13 = 2 USD*


■ คุณจะขาดทุนจากการเทรด CFD หาก


  • สำหรับสถานะ ซื้อ (Long) แต่ราคาของสินทรัพย์เป็นขาลง คุณก็จะขาดทุน เช่น คุณเปิดสถานะซื้อที่ $15 USD และปิดสถานะที่ $13 USD คุณจะขาดทุนเป็น $13 -$15 = - 2 USD*


  • สำหรับสถานะ ขาย (Short) แต่ราคาของสินทรัพย์เป็นขาขึ้น คุณก็จะขาดทุน เช่น คุณเปิดสถานะขายที่ $15 USD และปิดที่ $17 USD คุณจะขาดทุนเป็น $15 - $17 = - 2 USD*


*ไม่รวมต้นทุนการเทรดและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ


ตอนนี้คุณคงพอเริ่มเห็นภาพคร่าว ๆ ของ CFD แล้ว แต่คุณยังคงสงสัยว่า CFD จะช่วยให้คุณลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยอย่างไร?


สำหรับคำตอบของคำถามนี้ ผมขอแนะนำศัพท์สำคัญอีกสองคำที่จะช่วยตอบคำถามของคุณคือ เลเวอเรจ (Leverage) และ มาร์จิ้น (Margin)


leverage in Forex.jpg


เลเวอเรจและมาร์จิ้น


เลเวอเรจ คือความสามารถในการเทรดปริมาณมากโดยไม่ใช้เงินตัวเอง เลเวอเรจมีเช่น 1:10, 1:50, 1:100, 1:200 เลเวอเรจยิ่งสูง เงินทุนที่คุณต้องการใช้ในการเทรดยิ่งน้อย


มาร์จิ้นคือหลักประกันที่คุณวางไว้กับโบรกเกอร์ในการเปิดสถานะซื้อขายแต่ละครั้ง


☆ ตัวอย่างเช่น

หากคุณเปิดสถานะซื้อคู่สกุลเงิน 1 ล็อตมาตรฐานโดยไม่มีเลเวอเรจ คุณจะต้องใช้เงิน $100,000 ดอลลาร แต่


※ ในกรณีที่มีเลเวอเรจ 1:100 มาร์จิ้น 1% คุณจะต้องมีเงินในบัญชีเพียง $1,000 ดอลลาร์ก็สามารถเปิดสถานะได้แล้ว


※ ในกรณีที่มี เลเวอเรจ 1:200 มาร์จิ้น 0.5% มาร์จิ้นจะลดลงเป็น $500 ดอลลาร์เท่านั้น


ด้วย CFD เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ ทำให้คุณสามารถทำการเทรดปริมาณมากด้วยเงินเพียงเล็กน้อย ซึ่งช่วยขยายขอบเขตในการทำกำไรได้(หากคุณคาดการณ์ถูกต้อง) หรือขอบเขตขาดทุน(หากคุณคาดการณ์ไม่ถูกต้อง) อย่างรวดเร็ว


ตอนนี้คุณคงพอเริ่มเข้าใจแล้วว่า CFD ทำงานอย่างไร เรามาดูที่หัวข้อถัดไปกันครับ

ความได้เปรียบของการเทรด CFD

  • การเทรดมีเลเวอเรจและมาร์จิ้น

    เทรดเดอร์ไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนในการเทรด CFD ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในสินทรัพย์โดยตรง


  • ทำการเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

    คุณสามารถทำการเทรดได้ไม่ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะขึ้นหรือลงก็ตาม ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในสินทรัพย์โดยตรง เช่น การลงทุนในหุ้นที่ตลากหลักทรัพย์ฯ ที่คุณสามารถทำกำไรจากขาขึ้นเพียงอย่างเดียว


  • ขนาดสัญญายืดหยุ่น

    ด้วยการเทรด CFD มีหลายขนาดสัญญา ทำให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นในการเทรด โดยเทรดเดอร์สามารถทำการเทรดด้วยสัญญาขนาดเล็กเช่น 0.5 ล็อต, 0.1 ล็อต หรือ 0.01 ล็อต ขนาดสัญญาขั้นต่ำจะตามสินทรัพย์ที่ซื้อขายและแต่ละโบรกเกอร์


  • เวลาซื้อขายยืดหยุ่น

    ตลาดการเงิน CFD เปิดทำการเทรด 24 ชั่วโมง 7 วันทำการ เทรดหลังเลิกงานหรือระหว่างการเดินทางได้สบายเลย


  • ไม่ต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์

    หากทำการซื้อขายหุ้นกับตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนต้องเสียค่าอากรแสตมป์ด้วย แต่การเทรดหุ้น CFD ไม่มีค่าส่วนี้


  • สามารถเข้าถึงตลาดการเงินได้หลายหมื่นแห่ง

    ตราสารอนุพันธ์ CFD สามารถเทรดได้ทั้งหุ้น ดัชนี forex ทองคำ สกุลเงินดิจิตอล ฯลฯ และทำการเทรดทั้งหมดนี้บนแพลตฟอร์มการเทรดอันเดียวได้ โดยไม่ต้องสลับใช้โบรกเกอร์หุ้น โบรกเกอร์ forex หรือโบรกเกอร์ futures


  • ป้องกันความเสี่ยง

    เทรดเดอร์จำนวนมากยังใช้ CFD ในการป้องกันความเสี่ยงของสถานะอื่นที่เปิดอยู่ หากคุณคิดว่าสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนของคุณอาจมีมูลค่าลดลงคุณสามารถ เปิดคำสั่งขาย CFD เพื่อชดเชยส่วนหนึ่งของการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้


  • ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณได้ถือหุ้น Facebook มูลค่า 1,000 ดอลล่าร์ในพอร์ต หากคุณเปิดคำสั่งขายหุ้น Facebook CFD มูลค่า 1,000 ดอลล่าร์ แม้ว่าราคาหุ้น Facebook ในตลาดอ้างอิงจะลดลง กำไรจากการเทรด CFD สามารถชดเชยการสูญเสียของพอร์ตหุ้นได้


  • ระบบถอนเงิน T+0

    ตราสาร CFD ส่วนใหญ่สามารถเปิดและปิดสถานะหลายครั้งภายในวันเดียวโดยไม่มีข้อจำกัด หมายถึงแม้ว่าคุณเพิ่งได้เปิดสถานะ 5 นาทีก่อนก็ตาม คุณก็ยังสามารถปิดสถานะที่เปิดไว้ได้ทันที ดังนั้น การเทรด CFD จะเอื้อต่อการซื้อขายระยะสั้นมากกว่าเมื่อเทียบกับรูปแบบการลงทุนอื่นที่มีระบบถอนเงิน T+1

ความเสี่ยงในการเทรด CFD

ทุกรูปแบบการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง การลงทุนใน CFD ประกอบด้วยความเสี่ยงต่อไปนี้


  • การใช้เลเวอเรจ

หนึ่งในข้อผิดพลาดสำคัญของเทรดเดอร์คือ ใช้เลเวอเรจสูงเกินไป เช่น 1:1,000 หรือ 1:2,000 หรือถึงแม้คุณจะใช้เลเวอเรจไม่สูงมากเช่น 1:25 แต่คุณทำการเปิดคำสั่งซื้อจำนวนมาก ทำให้เวลาที่ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ คุณจะขาดทุนอย่างหนักและรวดเร็วจนอาจถึงขั้นล้างพอร์ต ดังนั้น นักลงทุนควรใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยง เช่นเครืองมือ stop loss / trailing stop


  • อาจจะเจอโบรกเกอร์ที่หลอกลวงได้

โบรกเกอร์ CFD มีมากมาย นักลงทุนอาจจะเจอโบรกเกอร์ที่หลอกลวงก็ได้ ดังนั้น นักลงทุนควรหาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือเพื่อปกป้องเงินทุนของตน หลักเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการเลือกโบรกเกอร์ก็คือ เลือกโบรกเกอร์ที่ได้กำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น CIMA, ASIC, FCA, NFA เป็นต้น

กลยุทธ์การเทรด CFD

CFD ช่วยให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง และด้วยกลยุทธ์การเทรดเหล่านี้จะช่วยให้การเทรด CFD ของคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น


1. พัฒนาความรู้ของคุณเกี่ยวกับ CFD

เนื่องจากการเทรดเกี่ยวข้องกับเลเวอเรจเป็นส่วนใหญ่จึงต้องพัฒนาความรู้และฝึกฝนในการเทรดทุกวัน เพราะประสบการณ์เท่านั้นที่จะให้โอกาสคุณในการซื้อขาย CFD ได้อย่างประสบความสำเร็จ


2. สร้างแผนการซื้อขาย

เมื่อคุณมีแผนการเทรดเมื่อไหร่คุณก็จะเข้าใจขั้นตอนของการเทรดว่าต้องใช้เวลาเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นคุณรู้ยังว่าคุณมีเวลาเท่าไรในการวิเคราะห์เบื้องต้นและค้นหาสัญญาณยืนยัน, ควรตรวจสอบแผนภูมิการซื้อขายบ่อยแค่ไหน และสิ่งที่ควรทราบก่อนเทรดอื่น ๆ


3. ยึดมั่นในกลยุทธ์การซื้อขาย CFD ของคุณ

เมื่อคุณสร้างกลยุทธ์การเทรด CFD คุณต้องตัดสินใจว่าจะใช้การวิเคราะห์ประเภทใดเพื่อระบุจุดเข้าและออกในตลาด โดยให้เลือกว่าคุณต้องการเปิดสถานะซื้อและถือสินทรัพย์ที่คุณเลือกไว้ หรือเปิดสถานะเพื่อขาย 


4. วิเคราะห์ตลาดเพื่อกำหนดเวลาการซื้อขายของคุณ

เมื่อคุณสร้างกลยุทธ์การเทรด CFD คุณต้องตัดสินใจว่าจะใช้การวิเคราะห์ประเภทใดในการระบุจุดเข้าและออกในตลาด สำหรับการวิเคราะห์ที่เทรดเดอร์ใช้มีสองประเภทได้แก่ ทางเทคนิคที่เป็นการวิเคราะห์จากการวิเคราะห์กราฟราคาในอดีตและแบบพื้นฐานคือการมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ภายนอกและอิทธิพลต่าง ๆ 


5. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจขนาดตำแหน่งรวมของคุณ

ขนาดตำแหน่งของคุณคือมูลค่ารวมของการเทรดของคุณ กล่าวคือ เมื่อเปิดสถานะใหม่ คุณควรคำนึงถึงเงินทุนที่มีอยู่และจำนวนความเสี่ยงที่คุณยินดีรับ และยินดีเสี่ยงในแต่ละการซื้อขายในแผนการเทรดได้


6. จัดการความเสี่ยงของคุณด้วยการหยุดและจำกัด

คำสั่งหยุดการขาดทุนคือคำสั่งให้โบรกเกอร์ปิดการซื้อขายของคุณในราคาที่ไม่น้อยกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ในกรณีนี้คุณต้องถามตัวเองว่าคุณพร้อมจะเสียเงินเท่าไหร่ก่อนที่จะปิดการซื้อขายและตั้งค่า Stop-Loss ของคุณตามนั้น


7. เริ่มต้นจากเล็กๆ และกระจายการซื้อขายของคุณเมื่อเวลาผ่านไป

ฝึกฝนจากตลาดที่คุณถนัดหรือเน้นไปที่ตลาดที่คุณคุ้นเคยหรือสนใจอยู่แล้ว เมื่อคุณมีความมั่นใจในกลยุทธ์ของคุณมากขึ้นแล้ว คุณจึงสามารถเริ่มกระจายการลงทุนของคุณไปยังประเภทสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้


8. ตรวจสอบตำแหน่งที่เปิดของคุณ

ด้วยการกำหนดขนาดตำแหน่งรวจะช่วยให้คุณทราบปัญหาหรือโอกาสได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพราะระบบจะแจ้งให้คุณดำเนินการเมื่อจำเป็น สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเงินทุนในบัญชีของคุณเพียงพอเพื่อครอบคลุมหลักประกันการรักษาตำแหน่งที่จำเป็นของคุณ


9. อย่าเพิ่มการเทรดที่ขาดทุน

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จคือวิธีที่สามารถตอบสนองต่อการขาดทุนได้ ด้วยเทคนิคคือการมุ่งเน้นและสอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดคุณโดยไม่กระทำการด้วยความโลภตามด้วยรียนรู้ประสบการณ์การเทรดของคุณ


10. ฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชีทดลอง

วิธีที่ดีที่สุดในการทดสอบแผนการเทรดของคุณว่าได้ผลหรือไม่คือการเปิดบัญชีทดลองและฝึกฝนการเทรดยเงินเสมือนจริง เพราะบัญชีทดลองเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับตลาดจริงในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถเปิดบัญชีง่าย ๆ กับ MiTRADE ที่ให้คุณทดสอบกลยุทธ์และเรียนรู้เครื่องมือการเทรได้ในเวลาเดียวกัน


7 สุดยอด โบรกเกอร์ CFD ที่นิยมใช้กัน 2023

มีโปบรกเกอร์มากมายเลยตอนนี้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางซื้อขาย CFD ให้ ว่าแต่เจ้าไหนคือตัวจริงเสียงจริงในยุทธจักรเล่า ผมของนำข้อมูลของ โบรกเกอร์ CFD ที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทย มาร้อยเรียงให้เป็น 10 สุดยอด โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด 2023 ว่าอะไรเป็นจุดแข็งของพวกเขาในการดำเนินธุรกิจด้านนี้ พร้อมแล้วก็เตรียมเงินฝากของคุณแล้วเลือก เพื่อนคู่ใจจาก 7 สุดยอด โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด 2023 แล้วไปลงทุนด้วยกันครับ


สิ่งที่เราใช้พิจารณาในการเฟ้นหา 10 สุดยอด โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด 2023 คือ ต้องเป็นโบรกเกอร์ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว [ Regulation ] และมีค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม [ Trading Cost ] แพลติฟอร์มที่สามารถเลือกดำเนินการลงทุน  ตลาดที่ลงทุน ซึ่งแต่ละเจ้าที่เราเลือกมา มีทุกอย่างครบถ้วนแต่อาจแตกต่างกันไปในรายละเอยดบ้างครับ


1. MITRADE

เชื่อแน่ว่า หลายท่านต้องเคยเห็นโบรกเกอร์เจ้านี้กันมาบ้าง โดยเฉพาะตลาดนักลงทุนชาวไทยจนกลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ความน่าเชื่อถือของ MITRADE ที่เป็นส่วนสำคัญที่หลายคนตัดสินใจเลือกใช้บริการคือ การได้รับการรับรองจาก ASIC  ในฐานะผู้ประกอบการด้านการลงทุน FOREX และ CFD ในประเทศออสเตรเลีย ระบบการเทรดของ MITRADE เน้นการ เทรดมือ หรือ เทรดเองครับ


หลายคนคงหันหลังเพราะบอกว่า ฉันไม่มีเวลา แต่ในความเป็นจริง การ เทรดกับ  ไม่ได้ยุ่งยากเลย สามารถตั้งค่าเพื่อการเทรดได้ง่าย ๆ ใน ระบบ อีกทั้งยังสมารถเทรดได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือโดยเน้นการลงทุนในตลาดผลิตภัณฑ์การเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ครับ เรียกได้ว่า ครบเครื่องเลยทีเดียว ด้วยระบบการทำงานใช้ง่าย สะดวก ทำให้ MITRADE ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เติบโตเร็วสุดในออสเตรเลีย จาก International Business Magazine ปี 2022 รางวัล แพลตฟอร์มเทรดบนมือถือที่ดีที่สุดจาก Forex Awards ปี 2022 และ โบรกเกอร์ที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยมจาก FxDailyInfo ในปี 2022 ทั้งหมดคือความมั่นใจที่คุณสามารถพบได้ใน MITRADE ครับ


เทรดกับ Mitrade เดี๋ยวนี้ >>> 


2. XM

เจ้าใหญ่ เจ้าดังด้านการเทรด CFD ถือเป็นผู้อุ้มชูตลาด ( Market Maker ) เจ้าสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนตลาด CFD อีกทั้งมีค่าสเปรดและเลเวอร์เรจที่เหมาะสมต่อนักลงทุน  แต่ตลาดหลักของทาง XM.com ยังคงเป็น FOREX ที่ใช้การเทรด ผ่านทาง MT4 ที่นักลงทุน Forex คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อีกทั้งสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวอื่น มีทั้ง Option สัญญาซื้อขายสินค้าทางการเกษตรล่วงหน้า โดยเลือกในกลุ่มพืชเศรษฐกิจสำคัญของโลกอย่าง ข้าวสาลี โกโก้ และการลงทุทนในหุ้นชั้นนำของโลก นับว่าเป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจมากครับ


3. EXNESS

EXNESS คืออีกหนึ่งโบรกเกอร์ CFD ที่คนไทยคุ้นเคย ได้รับความนิยมอย่างมากจากตลาด forex ที่สามารถเลือกจับคู่สกุลเงินเพื่อการลงทุนหลากหลายประเภท นอกจากนั้นคุณสามารถเลือกลงทุนในหุ้นและดัชนี รวมไปถึง สินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มพลังงาน มีแพลตฟอร์มให้เลือกลงทุนทั้งบนระบบคอมพิวเตอร์และโทรศัทพ์มือถือ จุดเด่นคือ ระบบการสมัครสมาชิกที่แยกเป็นผู้เริ่มต้นที่สามารถฝากเงินเพื่อเริ่มการลงทุนได้ตามความต้องการของนักลงทุน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ ที่ไม่ต้องการใช้เงินในการลงทุนช่วงแรกมากนัก


4. Pepperstone

อ่านชื่อดู เหมือนไม่ใช่ชื่อโบรกเกอร์ แต่เจ้านี้เขาได้ชื่อว่าค่าสเปรดต่ำกว่าใครเพื่อน โดยกลุ่มสินค้ามีทั้ง FOREX และสินค้าโภคภัณฑ์ที่รวมไปถึงสินค้าด้านการเกษตรอีกด้วย เรียกได้ว่าว่า เทรดง่ายอีกเจ้า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้วพอสมควร


5. IC Market

หนึ่งในผู้นำค่าสเปรดต่ำสุด ต่ำถึงขนาดที่บางคำสั่งซื้อขายไม่มีการเก็บค่าสเปรด โดยมีผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนจำนวนมาก ทั้ง FOREX หุ้น และดัชนีต่าง ๆ ที่คุณสามารถเลือกได้ตามความชอบและความน่าสนใจของตัวคุณเอง  มั่นใจได้ว่า มีอะไรให้คุณได้ลงทุนอีกมาก อีกทั้งค่า เลเวอเรจกำลังพอดีอยู่ที่ 1:500 ป้องกันการขาดทุนขนาดหนักได้สบาย


6. FBS

นับเป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่คนไทยคุ้นเคย FBS คือหนึ่งใสนขาใหญ่แห่งวงการ CFD จุดเด่นของ FBS คือรองรับการทำงานของ EA สำหรับผู้ไม่มีเวลาเทรดเอง หรือ ระบบทำเงินแบบ Copy & Trade อันลือลั่นสำหรับนักลงุทนที่ต้องการผู้ช่วยในการวิเคราะห์การลงทุนแบบตามติด สามารถใช้โปรแกรมในการช่วยเทรดแทนเราได้ มีค่าเลเวอร์เรจที่น่าสนใจ เพียงพอต่อการลงทุน  จึงเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้มีประสบการณ์ด้านการลงทุนพอตัว มีค่าสเปรดในระดับมาตรฐาน สามารถลงทุนในสินค้ากลุ่ม FOREX หุ้นและอนุพันธ์ รวมไปถึงโลหะมีค่าต่าง ๆ ได้


7. FXTM (Forextime)

รองรับภาษาไทย ในรูปแบบที่ไม่ใช่การแปลจาก google จึงเข้าใจง่าย ค่าสเปรดต่ำ และจำนวนเลเวอร์เรจ อยู่ในเกณฑ์พอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป โดยเทรดผ่านแพลตฟอร์มอย่าง MT4 ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี สินค้ายังคงเน้นแต่ FOREX เท่านั้น

สรุป

ด้วยการแนะนำ CFD คืออะไร, การทำงานของ CFD, ข้อดีและความเสี่ยงในการเทรด CFD ที่กล่าวไปด้านบน เราสามารถสรุปได้ว่า CFD เหมาะกับสำหรับผู้ที่มีความคาดหวังว่าจะเก็งกำในระยะสั้นด้วยเงินทุนไม่มากนักและรับความเสี่ยงที่สูงได้


mitrade
🎉ห้ามพลาด!!!
ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ ! เงินฝากขั้นต่ำ $50
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50,000 ฟรี 
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
คำถามที่พบบ่อย

1.ผมจะใช้ CFD เพื่อป้องกันความเสี่ยงได้อย่างไร

คุณสามารถเปิดตำแหน่งที่จะทำกำไรได้หากตำแหน่งอื่นของคุณเริ่มขาดทุน ตัวอย่าง เช่น การปิดสถานะขายในตลาดที่ติดตามราคาของสินทรัพย์ที่คุณเป็นเจ้าของ จากนั้นมูลค่าสินทรัพย์ของคุณที่ลดลงจะถูกชดเชยด้วยกำไรจากการซื้อขาย CFD ของคุณ

2.ผมสามารถถือ CFD ได้นานแค่ไหน?

CFD ไม่มีวันหมดอายุ ดังนั้นคุณจึงสามารถถือไว้ได้อย่างไม่มีกำหนด ไม่ว่าคุณจะเปิดสถานะซื้อหรือขายก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในการเปิดสถานะสำหรับการเทรด CFD มีค่าธรรมเนียมสเปรดและค่าธรรมเนียมข้ามคืน ดังนั้นการถือครอง CFD เป็นเวลานานอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวนมาก

3.คุณสามารถสร้างรายได้ด้วย CFD ได้หรือไม่?

ได้ คุณสามารถสร้างรายได้จากการเทรด CFD ได้ อย่างไรก็ตาม การซื้อขาย CFD ถือเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงเมื่อเทียบกับการซื้อขายรูปแบบอื่น เทรดเดอร์ CFD ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ล้วนเป็นเทรดเดอร์ที่มากด้วยประสบการณ์และมีกลยุทธ์การเทรดในระดับสูง

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
บิทคอยน์ (Bitcoin) คืออะไร? ศึกษาให้ดีก่อนลงทุน ห้ามพลาด! บทความนี้จะตอบคำถามทั้งหมดที่นักลงทุนที่สนใจลงทุนใน Bitcoin รวมถึง Bitcoin คืออะไร, Bitcoin ทำงานอย่างไร, การขุด Bitcoin คืออะไรและได้เงินจริงไหม, จัดเก็บ bitcoin อย่างไร, บิทคอยน์ ผิดกฎหมายไหม พร้อมคำถามที่น่าตื่นเต้นที่สุด - วิธีเริ่มต้นเทรด Bitcoin นะครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 18 พ.ค. 2023
บทความนี้จะตอบคำถามทั้งหมดที่นักลงทุนที่สนใจลงทุนใน Bitcoin รวมถึง Bitcoin คืออะไร, Bitcoin ทำงานอย่างไร, การขุด Bitcoin คืออะไรและได้เงินจริงไหม, จัดเก็บ bitcoin อย่างไร, บิทคอยน์ ผิดกฎหมายไหม พร้อมคำถามที่น่าตื่นเต้นที่สุด - วิธีเริ่มต้นเทรด Bitcoin นะครับ
placeholder
วิเคราะห์แนวโน้มราคาบิทคอยน์ 2024 จะไปในทิศทางใดบทความนี้จะเป็นการเรียบเรียงข้อข้อมูลเกี่ยวกับ “Bitcoin” โดยตรง รวมไปถึงการวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ 10 ปีย้อนหลัง การวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ปี 2023 และวิเคราะห์บทสุปราคาบิทคอยน์จะขึ้นหรือลดลงและยังน่าลงทุนอยู่ไหมในปี 2024
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 19 พ.ค. 2023
บทความนี้จะเป็นการเรียบเรียงข้อข้อมูลเกี่ยวกับ “Bitcoin” โดยตรง รวมไปถึงการวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ 10 ปีย้อนหลัง การวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ปี 2023 และวิเคราะห์บทสุปราคาบิทคอยน์จะขึ้นหรือลดลงและยังน่าลงทุนอยู่ไหมในปี 2024
placeholder
6 หุ้น AI หรือหุ้น ปัญญาประดิษฐ์ ที่น่าจับตามองบทความนี้จะพูดถึงหุ้น AI ที่น่าจับตามอง และเป็นหุ้นที่น่าลงทุน รวมไปถึงการนำ AI เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการพอร์ตของนักลงทุน สามารถอ่านในบทความกันได้เลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 17 พ.ค. 2023
บทความนี้จะพูดถึงหุ้น AI ที่น่าจับตามอง และเป็นหุ้นที่น่าลงทุน รวมไปถึงการนำ AI เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการพอร์ตของนักลงทุน สามารถอ่านในบทความกันได้เลย
placeholder
มีเงิน 20,000 ลงทุนอะไรดีให้เหมาะกับตัวเอง วันนี้ผมมี 6 วิธีการลงทุน ที่จะทำให้เงินให้งอกเงย ตั้งแต่ผลตอบแทนน้อย ไปยังผลตอบแทนสูง แต่เพื่อนๆ อย่าลืมว่า ผลตอบแทนแทนที่คาดหวังสูง ก็จะมาพร้อมความเสี่ยงที่สูงตามนะครับ มาดูกันเลย!!
ผู้เขียน  ปรีชา มานพInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
วันนี้ผมมี 6 วิธีการลงทุน ที่จะทำให้เงินให้งอกเงย ตั้งแต่ผลตอบแทนน้อย ไปยังผลตอบแทนสูง แต่เพื่อนๆ อย่าลืมว่า ผลตอบแทนแทนที่คาดหวังสูง ก็จะมาพร้อมความเสี่ยงที่สูงตามนะครับ มาดูกันเลย!!
placeholder
ราคาบิทคอยน์ย้อนหลัง ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา และการคาดการณ์อนาคตแนวโน้มราคา บิทคอยน์วันนี้ไปถึงไหนแล้ว ในบทความนี้จะพาทุกคนมาดูข้อมูลล่าสุดของราคาเหรียญสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin ว่ามีราคาเพิ่มขึ้นลดลงอย่างไรบ้าง และเหรียญ BTC จะมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นในปี 2024 หรือไม่อย่างไรไปดูกันได้เลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 05 พ.ค. 2023
แนวโน้มราคา บิทคอยน์วันนี้ไปถึงไหนแล้ว ในบทความนี้จะพาทุกคนมาดูข้อมูลล่าสุดของราคาเหรียญสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin ว่ามีราคาเพิ่มขึ้นลดลงอย่างไรบ้าง และเหรียญ BTC จะมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นในปี 2024 หรือไม่อย่างไรไปดูกันได้เลย
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์