Emerging Market (EM) คืออะไร? ทำไมต้องลงทุน Emerging Markets
เชื่อว่านักลงทุนหลายคนจะได้ยินคำว่า Emerging Markets(EM) กันอย่างแพร่หลาย และไม่ทราบว่าทุกวันนี้ประเทศในตลาดเกิดใหม่หรือ Emerging Markets ไม่ได้พึ่งพารายได้จากภาคการผลิตและการเกษตรเพียงอย่างเดียวเหมือนสมัยก่อนแล้ว เพราะปัจจุบัน เต็มไปด้วยบริษัทที่มีทั้งนวัตกรรมและกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นขุมพลังหลักของตลาดเกิดใหม่หรือประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างแท้จริง! เรามาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น
Emerging Markets คือ?
Emerging Market หรือ ตลาดเกิดใหม่จะดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากที่ต้องการแสวงหากำไรจากการลงทุนในระยะยาว โดยอาศัยประโยชน์จากการการเริ่มต้นของเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งหมายถึง อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวกระโดดนั่นเอง แต่เดิมนั้นจะเรียกว่าตลาดกำลังพัฒนา สามารถแบ่งออกตามภูมิภาค 3 โซนด้วยกัน
ประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ไทย, เกาหลีใต้, จีน, อินเดีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย และปากีสถาน
ประเทศแถบละตินอเมริกา ได้แก่ อาร์เจนตินา, บราซิล, ชิลี, โคลัมเบีย, เม็กซิโก, เปรู และเวนาซูเอลา
ประเทศแถบยุโรปตะวันออกและตะวันออกกลาง ได้แก่สาธารณรัฐเชก,ฮังการี, โปแลนด์, รัสเซีย, อิสราเอล, จอร์แดน, โมร็อคโค, อียิปต์, แอฟริกาใต้ และตุรกี
ลักษณะของ Emerging Markets
เพื่อให้ชัดเจนมากขึ้นถึงลักษณะของ Emerging markets ดูได้ดังต่อไปนี้
การเติบโตทางเศรษฐกิจใน Emerging markets มักมีอัตราการเติบโตของ GDP ที่สูงกว่าตลาดที่เจริญและมีประชากรที่มีอัตราการเติบโตที่เร็ว มีการเพิ่มขึ้นของชั้นกลางของสังคมที่มีอำนาจซึ่งเป็นตัวผลักดันการบริโภคและการลงทุน
ปัจจัยทางการเงินของบาง Emerging markets อาจมีระบบการเงินที่ยังไม่เสถียรและยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึงทุน, การเงิน, และการบริหารความเสี่ยง
บาง Emerging markets มีการเปิดเผยต่อตลาดโลกและการค้าขายระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น. การทำนุบาลเพื่อให้รอบรู้และการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก็เป็นสิ่งสำคัญ
Emerging markets มักมีความเสี่ยงทางการเงินและความไม่เสถียรทางการเมืองที่สูง. ความขัดแย้งทางการเมือง, การเปลี่ยนแปลงในนโยบายรัฐบาล, และปัญหาทางการเงินอาจเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความเสี่ยงนี้
บาง Emerging markets มีการพัฒนาพื้นที่และอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสการลงทุนที่มากขึ้น
ประชากรใน Emerging markets มีผลกระทบจากประชากรที่มากมายและมีระดับความสามารถทำงานที่สูง
Developed Market คืออะไร
กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หมายถึง ตลาดที่พัฒนาแล้วคือประเทศที่มีการพัฒนามากที่สุดในแง่ของเศรษฐกิจและตลาดทุน ประเทศต้องมีรายได้สูง แต่ยังรวมถึงการเปิดกว้างต่อกรรมสิทธิ์ของต่างชาติ ความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเงินทุน และประสิทธิภาพของสถาบันการตลาดระบบเศรษฐกิจของตลาดพัฒนาแล้วที่มีขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐฯ กลุ่มประเทศยุโรป อังกฤษ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เป็นต้น มีลักษณะต่อไปนี้:
ประชากรมีรายได้เฉลี่ยที่สูง และมีความสามารถทางการศึกษาและการอบรมที่เน้นมาก
มีระบบด้านสุขภาพที่เจริญ, การดูแลรักษาสุขภาพที่มีคุณภาพ, และความยากจนทางการแพทย์น้อย
มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมและบริการที่แข็งแกร่ง, มีการลงทุนในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและเข้มแข็ง ซึ่งส่งผลให้ประชากรมีระดับการศึกษาที่สูง
มีการเจรจาทางการเมืองที่มีประชาชนมีสิทธิและมีการปฏิบัติตามกฎหมาย, มีความมีเสถียรภาพทางการเมือง
มีระบบสวัสดิการที่เน้นการดูแลประชากร, มีความเป็นอิสระ, และมีการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม
มีระบบการเงินที่มีความมั่นคง, ตลาดทุนที่กำลังแข็งแกร่ง, และการลงทุนที่เป็นไปได้
Emerging Market vs Developed Market
สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน อาจลังเลว่าควรเข้าลงทุนตลาดเกิดใหม่หรือตลาดพัฒนาแล้วดีกว่ากัน เพราะทั้งสองตลาดมีความน่าสนใจ ที่สำคัญอาจให้ผลตอบแทนที่คาดหวังแตกต่างกัน มาเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างในประเด็นๆต่างๆเพื่อตัดสินใจกัน
ทำความรู้จักกับ MSCI Emerging Markets Index
MSCI Emerging Markets Index เป็นดัชนีทางการเงินที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศที่ถือเป็นตลาด "Emerging Markets" หรือตลาดที่เริ่มเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว. ดัชนีนี้ถูกพัฒนาโดย MSCI Inc. (Morgan Stanley Capital International) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการจัดทำดัชนีและวิเคราะห์ทางการเงิน. ลักษณะสำคัญของ MSCI Emerging Markets Index ได้แก่
ที่มา: www.msci.com
-ดัชนีนี้ประกอบด้วยหลักทรัพย์จากตลาดหลักทรัพย์ของประเทศที่ถือเป็นตลาด "Emerging Markets" รวมถึงตลาดหลักทรัพย์จีน, บราซิล, อินเดีย, รัสเซีย, และประเทศอื่น ๆ ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ
-MSCI มีการปรับปรุงดัชนีอย่างต่อเนื่องเพื่อรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดหลักทรัพย์และเพื่อให้ดัชนีสะท้อนความเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจ
-หุ้นที่รวมอยู่ใน MSCI Emerging Markets Index จะมีน้ำหนักตามขนาดตลาดของบริษัทโดยมีการปรับน้ำหนักเพื่อให้ได้ผลรวมที่สอดคล้องกับโครงสร้างตลาดทั่วไป
-นักลงทุนและกองทุนส่วนใหญ่ในทั่วโลกนิยมใช้ MSCI Emerging Markets Index เป็นตัวชี้วัดในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการลงทุนในตลาด "Emerging Markets."
ที่มา: www.msci.com
สามารเลือกลงทุนใน กองทุน หรือ ETF ที่อ้างอิงกับ MSCI Emerging Markets Index ได้โดยตรงผ่านบลจ.หรือโบรกเกอร์ที่ให้บริการ แต่ส่วนมากนักลงทุนจะนิยมใช้บริการที่ง่ายกว่าคือ ลงุทนในรูปแบบของ CFD หรือสัญญาส่วนต่างที่อ้างอิงกับสินทรัพย์นั้น เช่น สนใจลงทุนหุ้นสหรัฐ อย่าง TESLA META หรือดัชนีดาวโจนส์ US30 ที่กำลังทำนิวไฮไปเรียบร้อย แม้แต่ถ้าจะลงทุนในน้ำมัน (WTI) มีให้เลือกลงทุนได้เช่นกัน
โดยที่โบรกเกอร์ MiTrade มีแพลตฟอร์มที่ให้บริการเทรดดังกล่าว ทำให้นักลงทุนสะดวก และใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 50 USD เพราะมีเรื่องของเลเวอเรจหรืออัตราทดช่วย สุดท้ายยังสามารถใช้บัญชีเดโม่หรือเงินทุนจำลอง มูลค่าสูงสุด 50,000 USD สำหรับฝึกฝนก่อนจะลงใช้เงินจริงอีกด้วย
5 Emerging Markets ที่สำคัญ
Emerging Markets ที่ใหญ่ที่สุด ประกอบด้วย 5 ประเทศสมาชิก เรียกว่า BRICS เป็นอักษรย่อใช้เรียกกลุ่มประเทศกําลังพัฒนาที่มีการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว (Emerging Market) ประกอบด้วยประเทศบราซิล (Brazil) รัสเซีย (Russia) อินเดีย (India) จีน (China)และแอฟริกาใต้ (SOUTH AFRICA) จะเห็นได้ว่ากลุ่ม BRICS มีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศเพิ่ มมากขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ ส่งผลให้กลุ่ม BRICS สามารถที่จะกลายเป็นขั้วอํานาจใหม่ ของเศรษฐกิจโลก (A New Polar of World Economy) ขึ้นมาท้าทายและถ่วงดุลอํานาจของสหรัฐฯและ EU
โดยคําศัพท์นี้ถูกบัญญัติขึ้นโดย นาย จิม โอนีลล์ (Mr. Jim O’Neil) หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจโลกจากโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ซึ่งคําว่า BRIC ใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการย้ายอํานาจเศรษฐกิจโลกจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่าง G7 มาสู่กลุ่มประเทศกําลังพัฒนา ซึ่ง BRICS สัดส่วน GDP โลกรวมกันประมาณ 1 ใน 4 ของทั้งหมด ถือว่าเป็นกลุ่มตลาดที่มีขนาดใหญ่ มีจำนวนคนซื้อสูง ทำให้มีโอกาสในการลงทุนและได้ผลตอบแทนสูง
ทำไมต้องลงทุน Emerging Markets
จุดเด่นของการลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่คือประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ที่สูงกว่าตลาดพัฒนาแล้ว เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา (ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ) จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 2% - 3% ต่อปี ส่วนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปอยู่ในระดับต่ำมานานมาก แต่ในประเทศเกิดใหม่ จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย3%เพราะในประเทศเกิดใหม่มีจำนวนประชากรที่มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีประชากรในวัยทำงานที่สูงกว่า มีความต้องการซื้อ ความต้องการสร้างฐานะ ทำให้สามารถขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ดีกว่า จึงสรุปออกมาได้ดังนี้
ศักยภาพในการเติบโตสูง เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่มักจะเติบโตในอัตราที่เร็วกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงขึ้น
การกระจายความเสี่ยงการลงทุน ในหุ้นในตลาดเกิดใหม่สามารถช่วยกระจายพอร์ตการลงทุน เนื่องจากตลาดเหล่านี้อาจไม่สัมพันธ์กันอย่างมากกับตลาดที่พัฒนาแล้ว สิ่งนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้น
การประเมินมูลค่าต่ำเกินไป หุ้นในตลาดเกิดใหม่อาจถูกตีราคาต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้ว ทำให้มีศักยภาพในการเพิ่มทุนในขณะที่เศรษฐกิจเหล่านี้เติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ข้อดีข้อเสียของการลงทุนใน Emerging Markets
การลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน ดังนี้:
ข้อดีของการลงทุนใน Emerging Markets
ศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ: ตลาดรุ่นเกิดมักมีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าตลาดที่เจริญเติบโตแล้ว ทำให้มีโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนที่สูง
ทรัพยากรธรรมชาติ: บางตลาดรุ่นเกิดมีทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่ามาก เช่น น้ำมัน, แร่, และพลังงานที่มีมูลค่า
ต้นทุนการผลิตต่ำ: บางพื้นที่มีค่าแรงงานต่ำ และต้นทุนการผลิตที่ลดลง, ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานอย่างมีกำไร
กลยุทธ์การลงทุนทางภาคอุตสาหกรรม: การลงทุนในตลาดที่มีฐานอุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตสามารถเป็นกลยุทธ์ที่ดี
กลุ่มผู้บริโภคที่กำลังเพิ่มขึ้น: บางที่มีกลุ่มผู้บริโภคที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, ทำให้เป็นที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจทางการตลาด
การแพร่หลายของการลงทุน: การลงทุนในตลาดรุ่นเกิดอาจเป็นวิธีที่ดีในการแพร่หลายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
ข้อเสียของการลงทุนใน Emerging Markets
ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ: ตลาดรุ่นเกิดมีความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจที่สูง, ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรภาพทางการเงินและการเมือง
ความเสี่ยงทางการเมือง: การลงทุนในบางที่อาจเผชิญกับความไม่เสถียรภาพทางการเมืองและความขัดแย้ง
ความไม่แน่นอนในนิตยสารทางกฎหมาย: มีความไม่แน่นอนในเรื่องของกฎหมายและนิตยสารทางกฎหมาย, ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
การขาดความเข้มงวดในการตรวจสอบ: บางที่อาจขาดความเข้มงวดในการตรวจสอบ, ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาทางกฎหมายและความปลอดภัย
ความเสี่ยงทางสกุลเงิน: การลงทุนในตลาดรุ่นเกิดอาจเผชิญกับความเสี่ยงทางสกุลเงิน, โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางสกุลเงินอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลเพิ่มเติม: 10 อันดับคู่เงิน forex ที่วิ่งแรงและน่าเทรด >>
กลยุทธ์ที่เหมาะกับ Emerging Markets
นอกจากผลตอบแทนจากการลงทุนที่ค่อนข้างสูง รวมถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ทำให้เม็ดเงินไหลเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การลงทุนกลุ่มประเทศเกิดใหม่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงควรเลือกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแรง สามารถเติบโตไปตามการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก มีความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมตัวเอง หรือดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนและให้ความสำคัญกับ ESG ในการลงทุน เป็นต้น หรือหากสนใจลงทุนตราสารหนี้ ควรเน้นลงทุนพันธบัตรรัฐรัฐบาลของประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี มีความสามารถในการขั บเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้ต่อเนื่อง
สรุป Emerging Markets
หลังจากโควิดเป็นต้นมา จากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงกลายเป็นความท้าทายสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดที่พัฒนาแล้วหรือตลาดเกิดใหม่ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีที่สุด ซึ่งตลาดเกิดใหม่ หรือ Emerging Markets นับว่าห้ามมองข้ามอย่างเด็ดขาด และควรมีติดพอร์คการลงทุนไว้ในสัดส่วนที่เหมาะสม ด้วยโอกาสและช่องว่างการเติบโตที่ยังมีศักยภาพสูงรองรับต่อการลงทุนในระยะกลางและยาว
ข้อมูลเพิ่มเติม: กองทุน ETF คืออะไร? >>
1. ข้อควรระวังในการลงทุนตลาด Emerging Markets
2.ตัวอย่างสินทรัพย์ที่สามารถซื้อขายใน MSCI Emerging Markets Index
3. ทำไม Emerging Markets หรือตลาดเกิดใหม่ จึงมีความน่าสนใจ และดึงดูดแก่นักลงทุน
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน