ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ คืออะไร

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

ในบทความนี้ทำความรู้จักที่มาที่ไปว่าทำไมถึงจึงควรศึกษาและเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์เป็นทางเลือกเพิ่มเติมและสามารถเทรดโดยใช้กลยุทธ์การเทรดอะไรบ้างดี ถึงจะทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ คืออะไร

Dow Jones Index Futures (DJI Index Futures) หรือที่รู้จักกันชื่อเต็ม "สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดาวโจนส์" หรือเรียกสั้นๆติดปากว่า "ดาวโจนส์ฟิวเจอร์" คือ หนึ่งในประเภทของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เอื้อให้นักลงทุนสามารถ "คาดการณ์" มูลค่าของสินทรัพย์ล่วงหน้าในดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์นั่นเอง และยังช่วยการลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนทั้งหมด โดยการจัดกลุ่มดาวโจนส์ฟิวเจอร์เข้ากับตราสารอื่นๆ ในพอร์ต


ความแตกต่างระหว่างดาวโจนส์ฟิวเจอร์และดัชนีดาวโจนส์

ดัชนีดาวโจนส์ คือ ดัชนีหุ้นสหรัฐประกอบไปด้วยหุ้นของ 30 บริษัทที่ถือเป็นตัวแทนสำคัญของเศรษฐกิจอเมริกา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในดัชนีนี้สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับทิศทางของตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาว่ามีแนวโน้มขึ้นหรือลงมากกว่ากัน


ความแตกต่างระหว่างดาวโจนส์ฟิวเจอร์สและดัชนีดาวโจนส์

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ (Dow Jones Futures)

  • เป็นสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินที่มีมูลค่าไปตามผลของดัชนีดาวโจนส์.

  • สัญญานี้อนุญาตให้ลูกค้าซื้อหรือขายดัชนีดาวโจนส์ในอนาคตที่กำหนด.

  • การซื้อขายดาวโจนส์ฟิวเจอร์สนั้นไม่ใช่การซื้อขายหุ้นตรงๆ แต่เป็นการซื้อขายสัญญาในการส่งมอบหุ้นในอนาคต


ดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average)

  • เป็นดัชนีหุ้นที่ประกอบไปด้วยหุ้นของ 30 บริษัทที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา.

  • สรุปผลประสิทธิภาพของตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา.การเปลี่ยนแปลงในดัชนีนี้สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางทางเศรษฐกิจของอเมริกา


ดังนั้นดาวโจนส์ฟิวเจอร์ เป็นสัญญาที่ไปลงทุนในดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) โดยนักลงทุนสามารถเลือกเทรดเป็น  US30 CFD ที่อ้างอิงจากดัชนีดาวโจนส์


จุดเด่นของสินค้า CFD คือลงทุนใช้เงินเริ่มต้นเพียงแค่ 50 USD เท่านั้นสำหรับเงินจริง และยังมีเลเวอเรจ ให้สุงสุดถึง 1 : 200 ซึ่งช่วยให้กำไรได้มากขึ้นโดยใช้เงินเท่าเดิม แต่นักลงทุนก็มีความเสี่ยงขึ้นเช่นกัน ดังนั้นควรศึกษาเรื่องของเลเวอเรจให้เข้าใจ และที่โบรกเกอร์ Mitrade มีบัญชีทดลองหรือเดโม่มูลค่าถึง 50,000 USD ให้นักลงทุนสามารถใช้ฝึกฟังก์ชั่นต่างๆก่อนลงสนามจริง


mitrade
🎉ลูกค้าใหม่ ห้ามพลาด !!!


แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ !🤑
ฝึกฝนการเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

มีหลายเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจเข้าลงทุนในดาวโจนส์ฟิวเจอร์


  • เป็น Likelihood of Hedging (การป้องกันความเสี่ยง)  ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน. การถือดาวโจนส์ฟิวเจอร์นั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้นและตลาดแลกเปลี่ยนการเงิน


  • ลงทุนในทิศทางที่ตลาดกำลังไป การศึกษาเทรด ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ สามารถให้คาดการณ์แนวโน้มของทิศทางที่ตลาดกำลังไป, ทำให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรจากการทำนายทิศทางของตลาดเช่นกัน


  • ความสะดวกสบายในการเทรด การซื้อขายดาวโจนส์ฟิวเจอร์ นั้นสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 5 วันต่อสัปดาห์, ทำให้สะดวกสบายสูงในการเทรดในเวลาที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุน


  • ช่วยทำกำไรจากความผันผวนของตลาด ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ มักมีความผันผวนนสูง, ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสทำกำไรสูง แม้ว่าความผันผวนนี้อาจทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นก็ตาม


  • เข้าถึงตลาดทางการเงินโลก ดาวโจนส์ฟิวเจอร์เป็นตัวแทนสำคัญของตลาดทางการเงินอเมริกา ทำให้มีผลต่อตลาดทั่วโลก. การเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์ สามารถเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงตลาดหุ้นสหรัฐ 

วิธีการเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์

การเทรดดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ไม่ซับซ้อนแต่อย่างใด มันคือการทำข้อตกลงระหว่าง 2 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายหนึ่งคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดกำลังจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามคาดการณ์ในทางตรงกันข้ามว่ามูลค่าของตลาดกำลังจะลดลง และเมื่อวันที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้นสิ้นสุด (หรือที่เรียกว่า "วันกำหนดชำระ") หากฝั่งที่คาดการณ์ได้ไม่ถูกต้องจะต้องจ่ายให้กับอีกฝั่งตรงข้ามที่คาดการณ์ถูก หากไม่ทำตามสัญญาดังกล่าวก็จะถือเป็นการผิดสัญญา จะตัวอย่างต่อไปนี้เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น


ตัวอย่างเช่น นักลงทุนตัดสินใจที่จะเข้าซื้อ BUY สัญญาดาวโจนส์ฟิวเจอร์สล่าสุด และดัชนีเท่ากับ 33,500 จุด โดยมีขนาดของสัญญามาตรฐานที่จะทำให้ท่านได้ 10 เท่า (ขึ้นอยู่กับเลเวอเรจ) ของจำนวนที่จะได้หรือเสีย เมื่อถึงวันกำหนดชำระและดัชนีดาวโจนส์ในขณะนั้นมีมูลค่า 34,000 จุด นั่นหมายความว่า มูลค่าของสัญญาของท่านได้เพิ่มขึ้น 500 USD ซึ่งเมื่อคูณด้วย 10 เท่ากับนักลงทุนจะได้กำไรจากฝั่งตรงข้ามเท่ากับ (500x10) = 5,000 USD


ทางตรงกันข้ามหากมูลค่าของดัชนีดาวโจนส์ลดลง (สมมุติว่าลดลง 33,200 จุด) ฝั่งของนักลงทุนต้องขาดทุนและจ่ายให้ฝั่งตรงข้ามที่ 3,000 USD เนื่องจากมูลค่าของสัญญานั้นลดลง 300 จุดคูณด้วย 10 ก็จะเท่ากับ (300x10) = 3,000 USD


3 เทคนิคเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์

รู้จักเรื่องโครงสร้างและที่มาที่ไปของดาวโจนส์ฟิวเจอร์แล้ว ต่อไปเรามาศึกษาเทคนิคในการเข้าเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์กันต่อว่ามีอะไรบ้าง


ใช้ตัวเลขเศรษฐกิจที่คาดการณ์หรือเปิดเผยออกมาในการวางแผนการเล่น 


การเทรดโดยใช้ตัวเลขพื้นฐานทางเศรษฐกิจ หมายถึงการใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจ เช่น ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ, อัตราแลกเปลี่ยน, อัตราดอกเบี้ย, และข้อมูลอื่น ๆ เพื่อวิเคราะห์และตัดสินใจในการเทรด. ตัวเลขพื้นฐานทางเศรษฐกิจสามารถให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานะของเศรษฐกิจ และสามารถช่วยในการทำนายทิศทางของตลาดได้.


นี่คือตัวอย่างของตัวเลขพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่นักเทรดส่วนมากใช้:


Gross Domestic Product (GDP): คือ ตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงมูลค่าทั้งหมดของสินค้าและบริการที่ผลิตในระบบเศรษฐกิจของประเทศ. การเปลี่ยนแปลงใน GDP สามารถบ่งบอกถึงการเจริญขึ้นหรือทรุดตัวของเศรษฐกิจ, ซึ่งอาจมีผลต่อตลาดหลักทรัพย์.


Unemployment Rate (อัตราการว่างงาน): อัตราการว่างงานแสดงถึงสัดส่วนของแรงงานที่ไม่ได้ทำงานในร้อยละของแรงงานทั้งหมด. การทำงานของตลาดหลักทรัพย์สามารถมีผลต่ออัตราการว่างงานและแกว่งไปตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจ.


Inflation Rate (อัตราเงินเฟ้อ): ซึ่งบ่งบอกถึงความแข็งแรงของเศรษฐกิจ ควรอยู่ในตัวเลขที่เหมาะสมที่ทางธนาคารกลางตั้งเป้าไว้


Ex. ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ล่าสุด ร่วงลงกว่า 100 จุด ก่อนการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ของสหรัฐในคืนนี้: จะเห็นว่าตัวเลข GDP ที่คาดการณ์ไว้น่าจะออกมาไม่ดีหรือต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์มองไว้ ทำให้กดดันต่อดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ดังนั้นนักลงทุนสามารถรอจังหวะที่จะเล่นฝั่ง Sell หรือ Short position เพื่อทำกำไรในฝั่งขาลง


ใช้กราฟหาแนวรับแนวต้านที่สำคัญในการวางแผนจุดเข้าออกที่ชัดเจน


แนวรับ แนวต้าน เครื่องมือสำคัญวิเคราะห์กราฟเทคนิคคอลและยังถือเป็นพื้นฐานหลักในการเทรดและการวิเคราะห์ตลาดการเงินอื่นๆ ด้วย โดยวิธีดูแนวรับแนวต้านหรือเครื่องมือหาแนวรับแนวต้านนี้จะใช้ Indicator แนวรับแนวต้าน หรือที่เราเรียกกันว่าตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้าน เป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อขายหุ้นและ CFD


แนวรับ (Support) คือ จุดที่เป็นจุดกลับตัวของกราฟ หรือจุดที่ราคาเคยต่ำที่สุดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็จะมีแนวโน้มแรงซื้อกลับเข้ามา และทำให้ราคาดีดตัวกลับขึ้นไปซะส่วนใหญ่ แนวรับนี้เองจึงเป็นจุดที่น่าซื้อ เพื่อที่จะทำกำไรในอนาคตสำหรับช่วงราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น 


Ex. จากกราฟเมื่อดาวโจนส์ฟิวเจอร์สของในช่วงเดือนกรกฎาคมและกันยายน  มีแนวรับที่เส้นสีเขียวบริเวณ 34,000 จุด ซึ่งเป็นโซนแนวรับที่สำคัญ สามารถกลับตัวได้ที่บริเวณนั้นเสมอ ถ้านักลงทุนเทรดฝั่ง Buy ที่แนวรับ เมื่อราคาขึ้นไปตามคาดการณ์จะกำไร ขณะเดียวกัน ถ้าราคาไม่สามารถยืนและหลุดแนวรับลงมา นักลงทุนต้องตัดขาดทุน

กราฟแสดงชาร์จของแนวรับ E-mini DJ Future



แนวต้าน (Resistance) คือ จุดที่เป็นจุดกลับตัวของกราฟ  หรือจุดที่ราคาเคยสูงสุดในช่วงเวลาที่ผ่านมา จึงมีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวลงมา เนื่องจากมีโอกาสที่ขายทำกำไร เพราะเห็นว่าดาวโจนส์ฟิวเจอร์สมีราคาที่สูง จึงเป็นจุดที่นักลงทุนจะชะลอการลงทุน และดูทิศทางในระยะต่อไป เพื่อเป็นการขายทำกำไรนั่นเอง


Ex. จากกราฟเมื่อดาวโจนส์ฟิวเจอร์สล่าสุด ขึ้นมาถึงที่เส้นแนวต้าน(เส้นสีแดง)บริเวณ 36,327 จุด เมื่อวันที่ 1ธันวาค 2023 ซึ่งเป็นโซนแนวต้านเดิมที่สำคัญ ดัชนียังไม่สามารถทะลุผ่านนั้น ถ้านักลงทุนทำการเล่นฝั่ง Sell ที่แนวต้านและถ้าราคาลงมาตามแผน จะกำไรเช่นกัน ตรงกันข้ามถ้าแนวต้านนั้นไม่สามารถยันราคาได้ จะทะลุกรอบขึ้นไปและนักลงทุนต้องทำการตัดขาดทุนหรือวางแผนให้เหมาะสมกับเงินทุนต่อไป

กราฟแสดงชาร์จแนวต้าน 5 years ของ E-mini DJ Future


ใช้เลเวอเรจ & Money Management ให้เป็นประโยชน์


การเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์ จะมีการใช้ตัวคูณดัชนี (Multiplier) ซึ่งทำให้เทรดเดอร์รับเลเวอเรจได้มากยิ่งขึ้นและขยายโอกาสในการทำกำไรมากขึ้นด้วย โดยเทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจ 1 ต่อ 10 หรือเลเวอเรจ 1,000% และนักลงทุนยังสามารถใช้เทคนิคการบริหารจัดการเงินทุนหรือ Money Management ( MM ) คือการจัดการเงินทุน เพื่อให้การเทรดของเราเป็นระบบ และมีหลักการ ซึ่ง MM จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พอร์ตเรามีความปลอดภัยมากขึ้น 2 วิธีด้วยกัน คือ 


  • วิธีถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงของการเทรดแต่ละครั้ง ที่จะกำหนดเงินที่จะลงทุนตาม Risk & Reward (RR) ของการวางแผนกำไรและขาดทุน เช่น R : R ที่ 2 ต่อ 1 เท่ากับ วางเป้ากำไร 200 USD แต่ให้ขาดทุนที่ 100 USD  


  • วิธีกฎ 2% ซึ่งจะกำหนดการขาดทุนของพอร์ตเราไว้ที่ 2% และจะหาจำนวนเงินลงทุนจากจำนวนเงินที่เรายอมขาดทุนได้นั่นเอง


สรุป

รู้จักมากขึ้นกับสินค้าดาวโจนส์ฟิวเจอร์ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนที่ชอบความผันผวน และลดความเสี่ยงจากการเทรดคู่เงินหรือหุ้น โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐมีปัจจัยทั้งเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญมาเป็นตัวเร่ง ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมของดาวโจนส์ฟิวเจอร์ให้เข้าใจและอาศัยความผันผวนช่วยให้ทำกำไรอีกทางหนึ่งในพอร์ตการลงทุน

คำถามที่พบบ่อย

1.ข้อควรระวังสำหรับเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์สำหรับนักลงทุนที่เริ่มต้น

การเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีความเสี่ยงทางการเงินที่สูง ให้ความสำคัญกับการจัดการเงินอย่างรอบคอบและตั้งเป้าหมายกำไรและตัดขาดทุน ข่าวสารและเหตุการณ์ทางการเมือง, เศรษฐกิจ, และเหตุการณ์ทางภูมิศาสตร์สามารถมีผลกระทบต่อตลาด. การติดตามข่าวสารทางการเงินและตลาดโลกเป็นสิ่งสำคัญ. เลือกใช้โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการควบคุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.

2.นักลงทุนสามารถติดตามข่าวสารทางด้านเศรษฐกิจทีเกี่ยวข้องกับดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์หรือตลาดหุ้นสหรัฐได้จากแหล่งใดบ้าง

เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นข่าวทางการเงินมีส่วนที่รายงานข่าวสารทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้น, เช่น Bloomberg, CNBC, Reuters, Financial Times หรือ invsting.com และยังมีหลายแพลตฟอร์มการเทรดมีส่วนที่ให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจและข่าวสารตลาด, อย่างเช่นMetaTrader, TradingView.

3.ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ขึ้นหรือลง

ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ประกาศโดยหน่วยงานราชการหรือบริษัทชั้นนำสามารถมีผลกระทบต่อตลาด. เช่น ข้อมูลการงาน, การเติบโตของ GDP, อัตราผลตอบแทนตราสาร หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายเศรษฐกิจที่ถูกประกาศโดยธนาคารกลางหรือหน่วยงานรัฐบาลสามารถมีผลกระทบต่อตลาด. เช่นกันผลการประกาศผลประกอบการของบริษัทที่รายงานผลต่าง และเหตุการณ์ทางโลกเช่น สงคราม, การเมือง, หรือวิกฤติการณ์ทางการเงินสามารถมีผลกระทบต่อตลาด.

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
หาเงินออนไลน์ ถูกกฎหมาย! แนะนำ 9 วิธีหาเงินออนไลน์การหาเงินหลักล้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคที่ไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเท่าเทียมกัน ห้ามพลาดกับวิธีหาเงินออนไลน์ทั้ง 9 แบบที่เรานำมาฝาก
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 28 พ.ย. 2023
การหาเงินหลักล้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคที่ไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเท่าเทียมกัน ห้ามพลาดกับวิธีหาเงินออนไลน์ทั้ง 9 แบบที่เรานำมาฝาก
placeholder
วิธีดูกราฟราคาทองที่นักลงทุนทองคำต้องรู้ ฉบับมือใหม่ต้องอ่านบทความนี้จะแนะนำวิธีดูกราฟราคาทองสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มตลาด และระบุจังหวะการซื้อขายที่เหมาะสม
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 01 มิ.ย. 2023
บทความนี้จะแนะนำวิธีดูกราฟราคาทองสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มตลาด และระบุจังหวะการซื้อขายที่เหมาะสม
placeholder
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และ มีอะไรบ้างต้นทุนในธุรกิจ ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ บทความนี้ เรามาทำความรู้จักกันว่า ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
3 เดือน 01 วัน ศุกร์
ต้นทุนในธุรกิจ ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ บทความนี้ เรามาทำความรู้จักกันว่า ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
placeholder
10 อันดับแอพหาเงินสร้างรายได้เสริมปี 2024ยังจำเป็นอยู่ไหมกับการทำงานกินเงินเดือนที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็นั่งทำงานหารายได้จากหลายช่องทางต้องบอกว่าหมดยุคแล้วกับตอกบัตรเข้าออฟฟิศ และนี่คือทั้งหมดของแอพหาเงินที่เรารวบรวมมาเป็นตัวเลือกสำหรับการสร้างรายได้แบบง่าย ๆ ที่บ้านสำหรับปีนี้ที่เรานำมาฝากกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 30 ส.ค. 2023
ยังจำเป็นอยู่ไหมกับการทำงานกินเงินเดือนที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็นั่งทำงานหารายได้จากหลายช่องทางต้องบอกว่าหมดยุคแล้วกับตอกบัตรเข้าออฟฟิศ และนี่คือทั้งหมดของแอพหาเงินที่เรารวบรวมมาเป็นตัวเลือกสำหรับการสร้างรายได้แบบง่าย ๆ ที่บ้านสำหรับปีนี้ที่เรานำมาฝากกัน
placeholder
คำสั่ง Long , Short คืออะไร? ​คำสั่ง Long (Buy), Short (Sell) คืออะไร คราวนี้เราก็จะมาพาเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ไปทำความรู้จักคำสั่งนี้กัน เพื่อคล้าโอกาสการเทรดและทำกำไรจากความผันผวนของตลาดเงินให้มากขึ้น ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 08 มิ.ย. 2023
​คำสั่ง Long (Buy), Short (Sell) คืออะไร คราวนี้เราก็จะมาพาเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ไปทำความรู้จักคำสั่งนี้กัน เพื่อคล้าโอกาสการเทรดและทำกำไรจากความผันผวนของตลาดเงินให้มากขึ้น ตามมาดูกันเลย
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์