วิธีลงทุนในดัชนีรัสเซีย โอกาสซ่อนอยู่ในมหาอำนาจของโลก!
"ดัชนีหุ้นรัสเซีย...สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศมหาอำนาจแห่งยุโรปตะวันออก ตั้งแต่ยุคโซเวียตจนถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นรัสเซียได้ผ่านพ้นวิกฤตและความเปลี่ยนแปลงมาอย่างมากมาย ประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อทั้งระบบเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ของโลก บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยไปสำรวจวิวัฒนาการของดัชนีหุ้นรัสเซีย พร้อมทั้งวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต"
ดัชนีรัสเซียคืออะไร
ดัชนีรัสเซียเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานโดยรวมของตลาดหุ้นรัสเซีย คล้ายกับดัชนีหุ้น SET ของไทยที่สะท้อนภาพรวมของตลาดหุ้นไทยนั่นเอง ดัชนีรัสเซียจะคำนวณจากราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มอสโก (Moscow Exchange) โดยบริษัทเหล่านี้มักจะเป็นบริษัทชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น พลังงาน ธนาคาร และอื่นๆ
ดัชนีรัสเซียมีลักษณะอย่างไร
ดัชนีรัสเซียที่สำคัญ ได้แก่
MOEX Russia Index: เป็นดัชนีหลักที่แสดงถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ 50 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์มอสโก พิจารณาจากมูลค่าตามราคาตลาดและสภาพคล่อง ภายในดัชนีประกอบด้วยสิบภาคส่วนของเศรษฐกิจรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการธนาคาร การผลิตน้ำมันและก๊าซ และอื่นๆ
RTS Index: เป็นดัชนีที่คำนวณจากมูลค่าตลาดของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มอสโก
วิธีการคำนวณดัชนีรัสเซียและส่วนประกอบของดัชนี
โดยทั่วไปแล้ว การคำนวณดัชนีหุ้นจะใช้หลักการคล้ายๆ กัน คือ การนำมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งหมดในดัชนีมาหารด้วยมูลค่าตลาด ณ วันฐาน (Base Value) แล้วคูณด้วยตัวเลขคงที่
สมมติว่าวันฐาน ดัชนีมีค่าเท่ากับ 1,000 และมูลค่าตลาดรวมของหุ้นทั้งหมดในดัชนีเท่ากับ 100,000 หน่วย
วันถัดมา: มูลค่าตลาดรวมของหุ้นทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 หน่วย
ดัชนีใหม่: (120,000 / 100,000) x 1,000 = 1,200 หมายความว่า ดัชนีเพิ่มขึ้น 20%
ดัชนีหุ้นรัสเซียประกอบด้วยหุ้นของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในหลากหลายภาคส่วน เช่น:
พลังงาน: บริษัทน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ เช่น Gazprom, Rosneft
ธนาคาร: ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น Sberbank
วัตถุดิบ: บริษัทผลิตโลหะมีค่าและวัตถุดิบอื่นๆ เช่น Norilsk Nickel
อุตสาหกรรม: บริษัทในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น รถยนต์, เครื่องบิน
ดัชนีรัสเซียต่างกับดัชนีประเทศอื่นๆอย่างไร
ดัชนีหุ้นรัสเซียมีความแตกต่างจากดัชนีของประเทศอื่นๆ เนื่องจากปัจจัยเฉพาะตัวที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของรัสเซีย การลงทุนในหุ้นรัสเซียจึงต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในปัจจัยเหล่านี้เป็นอย่างดี ดัชนีรัสเซียแตกต่างจากดัชนีประเทศอื่นๆ ใน 4 ประเด็นหลัก:
องค์ประกอบหุ้น: เน้นหุ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน ทรัพยากร และวัตถุดิบ มากกว่าประเทศอื่นที่มีความหลากหลายทางอุตสาหกรรม
ความผันผวน: มีความผันผวนสูงกว่าดัชนีของประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่มีเสถียรภาพ
ขนาดตลาด: เป็นตลาดขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป หรือญี่ปุ่น
การควบคุม: มีการแทรกแซงจากภาครัฐสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีโดยตรง
ประวัติศาสตร์ของดัชนีรัสเซีย
ดัชนีหุ้นรัสเซียมีวิวัฒนาการมาพร้อมกับตลาดหลักทรัพย์มอสโก (Moscow Exchange) ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ตลาดหลักทรัพย์มอสโกได้ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ และได้มีการพัฒนาดัชนีหุ้นเพื่อวัดผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นรัสเซีย นั้นเปรียบเสมือนเข็มทิศที่ชี้วัดผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์มอสโก คล้ายกับดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา หรือดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักร ดัชนีรัสเซียมีความสำคัญในตลาดการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งประวัติศาสตร์ออกเป็นบางช่วงสำคัญได้ดังนี้:
ยุคก่อนการเปลี่ยนแปลง (ก่อนปี 1990): ก่อนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจในรัสเซีย ดัชนีหุ้นไม่ได้มีความสำคัญมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล
การล่มสลายของสหภาพโซเวียต (1991): เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย รัสเซียได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจตลาด ทำให้เกิดการสร้างตลาดหุ้นใหม่และดัชนีแรกๆ เช่น RTS Index (Russian Trading System Index) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1995 เพื่อเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของหุ้นในตลาดรัสเซีย
ปี 2000-2008: ช่วงเวลานี้ดัชนีหุ้นในรัสเซียมีการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ และนักลงทุนต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจในตลาดรัสเซีย
วิกฤตการเงินโลก 2008: ดัชนีหุ้นรัสเซียได้รับผลกระทบอย่างมากจากวิกฤตการเงิน ส่งผลให้เกิดการลดลงในมูลค่า แต่ก็มีการฟื้นตัวในช่วงหลังจากนั้น
ยุคปัจจุบัน: ในช่วงปีที่ผ่านมามีความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อดัชนี รวมถึงการค sanctions ที่เกิดขึ้นจากการกระทำทางการเมืองระดับนานาชาติ ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นรัสเซียมีความผันผวนอย่างมาก
ดัชนีต่างๆ เช่น RTS และ MICEX จึงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนในการติดตามและประเมินศักยภาพของตลาดหุ้นในรัสเซีย
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อดัชนีรัสเซีย
ปัจจัยภายในประเทศ
นโยบายเศรษฐกิจ: นโยบายทางการเงินและการคลังของรัฐบาลรัสเซีย เช่น อัตราดอกเบี้ย การใช้จ่ายภาครัฐ และนโยบายควบคุมเงินทุนต่างชาติ
ราคาพลังงาน: เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ ราคาพลังงานโลกจึงมีผลต่อรายได้ของรัฐบาลและภาคเอกชนของรัสเซียอย่างมาก เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น มูลค่าของบริษัทพลังงานและดัชนีรัสเซียก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ความสัมพันธ์ทางการเมือง: สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศตะวันตก มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการไหลของเงินทุนต่างชาติ
การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ: มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่นานาชาติกำหนดต่อรัสเซียส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะส่งผลต่อดัชนีรัสเซียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัจจัยภายนอกประเทศ
ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์: ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคและทั่วโลก เช่น ความตึงเครียดระหว่างประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะปัจจุบันมีคู่กรณีทั้งยูเครน รวมถึงสหรัฐอเมริกาที่หลังจากเลือกตั้งปธน.ทรัมป์เข้ามา เริ่มมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการไหลของเงินทุน
เศรษฐกิจโลก: สถานการณ์เศรษฐกิจโลก เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยของประเทศเศรษฐกิจหลัก มีผลกระทบต่อความต้องการสินค้าและบริการของรัสเซีย และส่งผลต่อการไหลของเงินทุนระหว่างประเทศ
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์: นอกจากราคาน้ำมันแล้ว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น โลหะมีค่า และธัญพืช ก็มีผลต่อรายได้ของผู้ผลิตและส่งออกของรัสเซีย
วิเคราะห์แนวโน้มตลาดดัชนีรัสเซีย
การวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุด – ข้อมูลดัชนีรัสเซียล่าสุดและตีความหมายกราฟ
จากกราฟ MOEX ดัชนีรัสเชียอยู่ที่ 2,555.57 จุด เมื่อนำมาวิเคราะห์ทางเทคนิคอลที่สำคัญ จะเห็นดัชนีในปีนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนที่อยู่ในแนวโน้มขาลง โดยอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ EMA50 แสดงว่ายังอยู่ในขาลง แต่จะเห็นว่าดัชนีเริ่มไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ ( Lower Low ) ทำรอบนี้ ทำให้สามารถวางแผนให้รัดกุม โดยใช้ แนวรับที่บริเวณ 2,230-2,550 จุดเป็นแนวรับสำคัญ ถ้าดัชนีกลับตัวขึ้นไปจะมีเป้าหมายอยู่ที่ 2,600 และ 2,667 ตามลำดับ ใช้ 2,510 เป็นจุดเฝ้าระวัง
ที่มา investing.com
การเปรียบเทียบกับดัชนีของประเทศอื่นๆ – การวิเคราะห์ความแตกต่างกับดัชนีของประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ
จากกราฟด้านล่างเป็นดัชนี US30 ของอเมริกาซึ่งหลังจากผ่านเรื่องของวิกฤตทั้งโควิด ทั้งเงินฝืด เศรษฐกิจชะลอตัว ดัชนีได้หุ้นเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งเช่น NVIDIA , AMAZON , GOOGLE นำพาตลาดหุ้นสหรัฐ ทำ All Time High อย่างต่อเนื่อง และยังคงอยู่ในช่วงเทรนขาขึ้นอย่างแข็งแรง
ที่มา www.mitrade.com
ต่อมาเป็นดัชนีนิเคอิ ประเทศญี่ปุ่น หรือ JPN225 ซึ่งหลังที่ทำกราฟนิวไฮไปในช่วงกลางปี 2023 เศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในช่วงไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะภาคการเงินที่มีการอ่อนค่าลงของเงินเยนอย่างรุนแรง เนื่องมาจากนโยบายการเงินการคลังที่ตรึงเอาไว้ ทำให้กราฟปัจจุบันอยู่ในช่วงไซต์เวย์ขาขึ้น ยังเลือกทางจะทะลุกรอบล่างหรือบน เพื่อสร้างฐานอีกครั้ง
ที่มา www.mitrade.com
สรุปมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคต
นักวิเคราะห์ให้ติดตามปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นรัสเซียหลังประธานาธิบดี โดนัลล์ ทรัมป์ กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นวาระที่ 2 ซึ่งนโยบายหลักของทรัมป์ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่อง อเมริกาต้องมาก่อน ไม่ว่าจะภาษีนำเข้า หรืออะไรที่ได้เปรียบพลเมืองสหรัฐอยู่ เหล่านี้คือสิ่งที่ต้องทำการบ้าน
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน สหรัฐเองถือหางฝั่งยูเครนอยู่มิใช้น้อย และภายหลังจากที่ทรัมป์รู้ผลชนะเลือกตั้ง ก็เริ่มมีข่าวสงครามอย่างต่อเนื่องปะทุขึ้นมา
มาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศ อันเนื่องจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนเอง การขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจจะต่ำกว่าที่คาด ต้องพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้น
ราคาน้ำมันในตลาดโลก รัสเซียถือว่าเป็นแหล่งพลังงงานน้ำมันสำคัญของโลก และมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ร่วมกับทั้งกลุ่มโอเปค สหรัฐ สำหรับทิศทางราคาน้ำมัน โดยเฉพาะช่วงสงครามที่เริ่มกลับมาต้องดูว่าจะมีแผนการอะไรออกมาตอบโต้
นโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม้เบื่อไม้เมากันมานาน ไม่ว่าจะยุคไหน ทั้งสองประเทศมหาอำนาจของโลกมีข้อพิพาทกันเสมอ ทั้งทางตรงและทางอ้อม คาดว่าหลังจากแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ฝั่งของสหรัฐจะออกนโยบายต่างประเทศที่ข้มเข้นมากขึ้น
โดยรวมแล้วเศรษฐกิจรัสเซีย หดตัวในช่วงปี 2022-2024 และค่าเงินรูเบิลมีความผันผวนอย่างมาก ดังนั้นถ้าทางรัสเซียลดพึ่งพาเทคโนโลยีประเทศตะวันตกและหันมาค้าขายกับประเทศจีนและอินเดียมากขึ้น มีผลให้ผลประกอบการบริษัทและดัชนีรัสเซียฟื้นตัวได้ในอนาคต
คนไทยลงทุนในดัชนีรัสเซียได้อย่างไร
คนไทยสามารถลงทุนในดัชนีรัสเซียได้หลายวิธี ซึ่งรวมถึง:
1.การลงทุนผ่านกองทุนรวม: สามารถค้นหากองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดหุ้นรัสเซียหรือดัชนีรัสเซีย เช่น กองทุน ETF (Exchange Traded Fund) ที่มีการลงทุนในหุ้นรัสเซีย
2.การซื้อหุ้นต่างประเทศ: ซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างประเทศ ผ่านโบรกเกอร์ที่มีบริการในการลงทุนในตลาดต่างประเทศ สามารถซื้อหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนในรัสเซียได้โดยตรง เช่น Gazprom: เป็นบริษัทข้ามชาติของรัสเซียที่ดำเนินธุรกิจด้านก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก หรือ Lukoil: เป็นบริษัทน้ำมันเอกชนรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และเป็นหนึ่งในบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
3.การใช้บริการแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์: ปัจจุบันการลงทุนในรูปแบบของ CFD หรือสัญญาส่วนต่าง ที่ให้บริการเทรดดัชนีหุ้นมีให้บริการในหลายแพลตฟอร์มการลงทุน ซึ่งข้อดีของการเทรดแบบ CFD สามารถใช้ความได้เปรียบเรื่องของเลเวอเรจหรืออัตราทด ทำให้ใช้เงินลงทุนน้อยลง ทำกำไรได้มากขึ้น รวมถึงสามาถเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลงตามสภาวะตลาด รวมถึงมีสินค้าเทรดให้เลือกอย่างหลากหลาย
อย่างไรก็ตามต้องศึกษาในเรื่องของการบริหารจัดการเงินให้เหมาะสม รวมถึงลักษณะการเทรดในรูปแบบของ CFD ให้เข้าใจ
สรุป
ดัชนีรัสเซียเปรียบเสมือนเรือสำราญที่แล่นผ่านทะเลแห่งโอกาส แต่ก็ต้องเผชิญกับพายุและคลื่นลมอยู่เสมอ นักลงทุนที่กล้าเผชิญหน้ากับความท้าทาย อาจได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า แต่ก็ต้องพร้อมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน การลงทุนในดัชนีรัสเซียจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการแบ่งกระจายการลงทุน
ทำไมดัชนีรัสเซียถึงน่าสนใจ
ทรัพยากรธรรมชาติมหาศาล: รัสเซียมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเ ป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก
ศักยภาพการเติบโต: รัสเซียยังคงมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
ราคาหุ้นที่น่าสนใจ: เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในรัสเซียอาจดูน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการซื้อหุ้นในราคาที่ถูกกว่า
นักลงทุนควรคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้างที่มีโอกาสมากระทบการลงทุนในดัชนีรัสเซีย
ความผันผวนสูง เนื่องจากตลาดหุ้นรัสเซียมีความผันผวนสูงมาก เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน สถานการณ์ทางการเมืองของรัสเซียมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น และมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่นานาชาต ิกำหนดต่อรัสเซีย อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นรัสเซีย
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน