มือใหม่เรียนฟรี! S&P ASX200 คู่มือการเทรด ASX 200
ดัชนี ASX200 เคยสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจให้กับนักลงทุนมาแล้วหลายครั้ง ด้วยการเป็นประตูสู่ตลาดหุ้นออสเตรเลียที่แข็งแกร่ง แต่การจะลงทุนในดัชนีนี้ได้อย่างมั่นใจ จำเป็นต้องเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในประเทศ เช่น นโยบายของธนาคารกลาง หรือปัจจัยภายนอก เชิงเศรษฐกิจโลก บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงกลยุทธ์การลงทุนใน ASX200 ที่เหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละประเภท พร้อมทั้งแนะนำเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ตลาด
ดัชนี ASX 200 คืออะไร
ดัชนี ASX 200 (Australian Securities Exchange 200) เป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นตัวแทนของบริษัทขนาดใหญ่ 200 แห่งที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (Australian Securities Exchange: ASX) โดยดัชนีนี้ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในประเทศออสเตรเลีย
ลักษณะสำคัญของดัชนี ASX 200
-การคำนวณดัชนี คำนวณจากมูลค่าตลาด (Market Capitalization) ของบริษัทที่อยู่ในดัชนี ซึ่งมูลค่าตลาดนี้คำนวณจากราคาหุ้น X จำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายในตลาด
ดัชนีนี้ถูกปรับถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดของแต่ละบริษัท กล่าวคือบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากจะมีอิทธิพลต่อดัชนีมากกว่าบริษัทที่มีมูลค่าตลาดน้อย
-ความหลากหลายของอุตสาหกรรม:ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงินเหมืองแร่ อสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยี และสาธารณูปโภค เป็นต้น การลงทุนในดัชนีนี้จึงเสมือนการลงทุนในเศรษฐกิจออสเตรเลียโดยรวม
-การใช้งาน:นักลงทุนมักใช้ดัชนี ASX 200 เป็นตัวชี้วัดในการประเมินประสิทธิภาพของตลาดหุ้นออสเตรเลีย โดยนักลงทุนสามารถลงทุนในกองทุน ETF (Exchange-Traded Fund) ที่ติดตามดัชนี ASX 200 เพื่อกระจายความเสี่ยงในตลาดหุ้นออสเตรเลีย
ดัชนี ASX 200 ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ดัชนี S&P/ASX 200 ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้วัดผลประกอบการของหุ้น 200 ตัวที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดหุ้น ASX โดยใช้วิธีการปรับมูลค่าตลาดแบบลอยตัว เนื่องจากมีสภาพคล่องที่สูงและเข้าถึงกลุ่มหุ้นชั้นนำที่มีมูลค่าสูงของออสเตรเลีย ทำให้ถูกมองว่าเป็นดัชนีอ้างอิงของประเทศ โดยองค์ประกอบของดัชนีจะถูกนำมาจากหุ้นของบริษัทในตลาดหุ้น Australian Stock Exchange
ที่มา: Google/finance
เงื่อนไขของหุ้นใน S&P ASX200
หุ้น S&P ASX จะต้องมีสภาพคล่องขั้นต่ำ 50% เพื่อที่จะเข้าสู่ดัชนี ดังนั้นหากหุ้นตัวดมีสภาพคล่องลดลงต่ำกว่า 50% จะถูกถอดออกจากดัชนีในช่วงเวลาการรีวิวครั้งต่อไป
หุ้นในดัชนี ASX 200 ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลักๆ 11 อุตสาหกรรม แบ่งตาม%สัดส่วน อย่างเช่น
ธนาคาร (31.1%): เช่น Commonwealth Bank, National Australia Bank
วัตถุดิบ(7.2%): เช่น BHP Group, Rio Tinto
พลังงาน (3.2%): เช่น Woodside Energy, Santos
เทคโนโลยี (4.5%): เช่น Afterpay, WiseTech Global
อสังหาริมทรัพย์ (7%): เช่น Goodman Group, Scentre Group และอื่นๆ ทั้งสุขภาพ สินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าจำเป็น เป็นต้น
บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในดัชนีคือ Commonwealth Bank of Australia โดยมีมูลค่าตลอด $176 พันล้าน ในขณะที่หุ้นขนาดใหญ่อื่นๆประกอบด้วย CSL Ltd, BHP Group, Westpac Banking และ National Australia Bank.
รายชื่อหุ้น 10 บริษัทชั้นนำในดัชนี S&P ASX 200
บริษัทเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของออสเตรเลียและมีอิทธิพลอย่างมากต่อดัชนี S&P/ASX 200
1.Commonwealth Bank of Australia (CBA) – ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย หรือเรียกง่ายๆว่าCommBankเป็นธนาคารข้ามชาติของออสเตรเลียที่มีธุรกิจอยู่ทั่ นิวซีแลนด์ เอเชีย สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย รวมถึงการค้าปลีก การธนาคารเพื่อธุรกิจและสถาบัน การจัดการกองทุน เงินบำนาญ ประกันภัย การลงทุน
ราคา CBA.AU แบบเรียลไทม์
2.Westpac Banking Corporation (WBC) – หรือที่รู้จักกันในชื่อ Westpac เป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินและธนาคารข้ามชาติของออสเตรเลีย มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Westpac Place ในซิดนีย์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2360
3.BHP Group Ltd (BHP) – หนึ่งในบริษัทเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นบริษัทเหมืองแร่ โลหะ และปิโตรเลียมข้ามชาติสัญชาติแองโกล-ออสเตรเลียที่มี มูลค่าตามราคาตลาด อยู่ที่ 147.12 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2023 ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 ในชื่อ Broken Hill Proprietary Company ต่อมาควบรวมกับ Billiton ในปี 2001
ราคา BHP.AU แบบเรียลไทม์
4.Australia and New Zealand Banking Group Ltd (ANZ) – หนึ่งในสี่ธนาคารชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดแห่งแดนจิ้งโจ้ (ภายใต้ชื่อเต็มว่า Australia and New Zealand Banking Group Limited) โดยธนาคารเป็นผู้นำในตลาด New Zealand เป็นอันดับ 1 อีกด้วย
5.CSL Limited (CSL) – บริษัทข้ามชาติด้านเทคโนโลยีชีวภาพเฉพาะทางข้ามชาติของออสเตรเลีย ซึ่งทำการวิจัย พัฒนา ผลิต และทำการตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาและป้องกันสภาวะทางการแพทย์ที่ร้ายแรงในมนุษย์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ CSL ได้แก่ อนุพันธ์ของพลาสมาในเลือด วัคซีน ยาต้านพิษ
ราคา CSL.AU แบบเรียลไทม์
6.Macquarie Group Ltd (MQG) – รู้จักกันในนาม Macquarie Bank คือกลุ่มวาณิชธนกิจและบริการทางการเงินระดับโลกที่ให้บริการด้านการธนาคาร ที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุน และการจัดการกองทุน แก่ลูกค้าและคู่ค้าสถาบัน องค์กร และรายย่อยทั่วโลก
7.Wesfarmers Ltd (WES) – เป็นกลุ่มบริษัทสัญชาติออสเตรเลียซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย มีความสนใจส่วนใหญ่ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยดำเนินธุรกิจด้านการค้าปลีก เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย ด้วยรายได้ 43.5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในปีงบประมาณ 2023
8.National Australia Bank Ltd (NAB) – หนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในสี่สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียในแง่ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด รายได้ และลูกค้า NAB ได้รับการจัดอันดับให้เป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 21 ของโลกเมื่อวัดจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
ราคา NAB.AU แบบเรียลไทม์
9.Woolworths Group Ltd (WOW) –เป็นบริษัทการเงินและค้าปลีกข้ามชาติของออสเตรเลีย โดยมีชื่อเสียงในด้านการดำเนินงานของเครือข่ายร้านค้าปลีก Woolworths Supermarkets ทั่วออสเตรเลีย, Woolworths ในนิวซีแลนด์ และห้างสรรพสินค้าลดราคา Big W
10.Rio Tinto Limited (RIO) - เป็นบริษัทข้ามชาติระหว่างอังกฤษและออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทด้านโลหะและเหมืองแร่ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2416
เหตุใดดัชนี S&P/ASX 200 จึงมีความสำคัญ
ดัชนี S&P/ASX 200 นั้นมีความสำคัญต่อตลาดหุ้นออสเตรเลียและนักลงทุนทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้
ตัวแทนของตลาดหุ้นออสเตรเลีย
สะท้อนภาพรวม: ดัชนี ASX 200 ถือเป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนให้เห็นภาพรวมของตลาดหุ้นออสเตรเลีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 200 อันดับแรก และบ่งบอกถึงสุขภาพเศรษฐกิจ: การเคลื่อนไหวของดัชนีนี้มักจะสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของออสเตรเลีย หากดัชนีสูงขึ้น แสดงว่าเศรษฐกิจโดยรวมกำลังเติบโต
เครื่องมือในการลงทุน
นักลงทุนมักใช้ดัชนี ASX 200 เป็นมาตรฐานในการเปรียบเทียบผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนของตนเองการลงทุนแบบพาสซีฟ: นักลงทุนสามารถลงทุนในดัชนี ASX 200 ได้โดยตรงผ่านกองทุนรวมดัชนี (ETF) ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนแบบพาสซีฟที่ได้รับความนิยม ป้องกันความเสี่ยง: การลงทุนในดัชนีช่วยกระจายความเสี่ยง เนื่องจากเราได้ลงทุนในบริษัทหลากหลายอุตสาหกรรม
บ่งชี้ทิศทางของตลาด
ตัวบ่งชี้แนวโน้ม: การเคลื่อนไหวของดัชนี ASX 200 สามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มของตลาดหุ้นออสเตรเลียได้ในระยะสั้นและระยะยาวส่งผลต่อตลาดอื่น: การเปลี่ยนแปลงของดัชนี ASX 200 อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตลาดโลก
พื้นฐานในการวิเคราะห์
จุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์: นักวิเคราะห์และนักลงทุนมักใช้ดัชนี ASX 200 เป็นจุดเริ่มต้นในการวิเคราะห์ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เปรียบเทียบกับดัชนีอื่น: การเปรียบเทียบดัชนี ASX 200 กับดัชนีอื่นๆ ทั่วโลก ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจตำแหน่งของตลาดหุ้นออสเตรเลียในระดับสากล
ปัจจัยที่ผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี ASX 200
การเคลื่อนไหวของดัชนี ASX 200 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:
-ผลประกอบการของบริษัท: ราคาหุ้นของบริษัทที่อยู่ในดัชนี ASX 200 จะได้รับผลกระทบจากผลประกอบการของบริษัทเหล่านั้น หากบริษัทรายงานผลกำไรที่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ราคาหุ้นอาจปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ดัชนีโดยรวมเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน หากผลประกอบการต่ำกว่าคาด ราคาหุ้นอาจลดลงและส่งผลให้ดัชนีลดลง
-ปัจจัยทางเศรษฐกิจ: ดัชนี ASX 200 จะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น การเติบโตของ GDP, อัตราดอกเบี้ย, อัตราเงินเฟ้อ, การว่างงาน และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง การเปลี่ยนแปลงในปัจจัยเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทำให้ดัชนีเคลื่อนไหว
-สถานการณ์ทางการเมือง: เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง, การเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาล, และความขัดแย้งระหว่างประเทศ สามารถส่งผลกระทบต่อดัชนี ASX 200 ได้ เนื่องจากเหตุการณ์เหล่านี้สามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดและทำให้นักลงทุนตัดสินใจซื้อขายหุ้น
-ปัจจัยภายนอก: การเปลี่ยนแปลงในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นหลักเช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือจีน สามารถส่งผลกระทบต่อดัชนี ASX 200 ได้ เช่น ถ้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับตัวลงอย่างมาก อาจทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลและขายหุ้นในตลาดออสเตรเลียเช่นกัน
-อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา: การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) สามารถส่งผลกระทบต่อดัชนี ASX 200 โดยเฉพาะบริษัทที่มีการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ ค่าเงินที่แข็งค่าหรือลดค่าอาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและผลประกอบการของบริษัทเหล่านั้น
-การเปลี่ยนแปลงในราคาสินค้าโภคภัณฑ์: เนื่องจากออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน และทองคำ ราคาสินค้าเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อดัชนี ASX 200 เพราะหลายบริษัทในดัชนีนี้เป็นบริษัทเหมืองแร่และทรัพยากรธรรมชาติ
การเคลื่อนไหวของดัชนี ASX 200 จึงเป็นผลมาจากการผสมผสานของปัจจัยเหล่านี้ ซึ่งอาจทำให้ดัชนีมีความผันผวนในระยะสั้นและระยะยาว
ลงทุนดัชนี ASX 200 ได้อย่างไร?
นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนดัชนี ASX 200 ตามความเข้าใจ ความเสี่ยงและสไตล์การลงทุนแต่ละคน
1. กองทุนรวมดัชนี (ETF) เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการลงทุนในดัชนี ASX 200 เพียงแค่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน ETF ที่ติดตามดัชนีนี้
- การลงทุนใน ETF ช่วยให้คุณกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นหลายตัวในดัชนี
- ซื้อขายได้เหมือนหุ้น: ETF สามารถซื้อขายได้ตลอดทั้งวันในตลาดหลักทรัพย์
ตัวอย่างกองทุน iShares Core S&P/ASX 200 ETF (IOZ): เป็นหนึ่งใน ETF ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในออสเตรเลีย โดยติดตามดัชนี S&P/ASX 200 อย่างใกล้ชิด
SPDR S&P/ASX 200 Fund (STW): อีกหนึ่ง ETF ที่น่าสนใจ ซึ่งมีสภาพคล่องสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ
2. ฟิวเจอร์ส (Futures) สัญญาซื้อขายล่วงหน้า: ฟิวเจอร์สเป็นสัญญาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์ในอนาคตในราคาที่กำหนด
- การเทรดฟิวเจอร์สมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์
- นอกจากการเก็งกำไรแล้ว ฟิวเจอร์สยังสามารถใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ได้ด้วย
3. ซื้อหุ้นในบริษัทที่อยู่ในดัชนี ASX 200 โดยตรงได้เลยผ่านโบรกเกอร์ภายในประเทศหรือนอกประเทศ เช่น SCBX , MAYBANK , DBS เป็นต้น
-ควบคุมพอร์ตการลงทุน: คุณสามารถเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่คุณสนใจในดัชนี ASX 200 ได้โดยตรง
-ได้รับเงินปันผล: หากบริษัทจ่ายเงินปันผล คุณจะได้รับเงินปันผลนั้น การซื้อหุ้นโดยตรงอาจต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
4.สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) เป็นวิธีการลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน และนักลงทุนควรศึกษาเพิ่มเติม ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
🔸 เก็งกำไรระยะสั้น: CFD ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของดัชนี ASX 200 ได้ทั้งในทิศทางขึ้นและลง
🔸 ใช้เงินลงทุนน้อย: คุณสามารถใช้เงินลงทุนน้อยกว่าในการเทรด CFD เมื่อเทียบกับการซื้อหุ้นโดยตรง
🔸 มีความเสี่ยงสูง: การเทรด CFD มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากคุณอาจขาดทุนมากกว่าเงินที่ลงทุนไป เนื่องจากมีการใช้อัตราทดหรือเลเวอเรจ เพื่อเพิ่มการกำไรและขาดทุน
ราคา AUS200 แบบเรียลไทม์
จากชาร์ตจะเป็นสัญลักษณ์ AUS 200 ในแพลตฟอร์มเทรด Mitrade ซึ่งเป็นดัชนีที่สำหรับเทรด S&P ASX 200 ดังนั้นต้องมีความรู้และประสบการณ์: การเทรด CFD ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์ตลาด และเข้าใจในรูปแบบการลงทุน รวมถึง Money Management ให้เหมาะสม
สรุป
การลงทุนใน ASX 200 ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังตลาดที่มีเสถียรภาพสูง เช่น ออสเตรเลีย ดัชนีนี้ประกอบไปด้วยบริษัทชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกมีความผันผวน ดัชนีนี้ยังคงมีโอกาสเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
ASX 200 คืออะไร?
ASX 200 คือดัชนีตลาดหุ้นที่ประกอบด้วยหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุด 200 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (ASX) โดยดัชนีนี้แสดงถึงสภาพรวมของตลาดหุ้นออสเตรเลียและมักถูกใช้เป็นเกณฑ์วัดผลการลงท ุน
ความเสี่ยงในการลงทุนใน ASX 200 มีอะไรบ้าง?
การลงทุนใน ASX 200 แม้จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นรายตัว แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในออสเตรเลีย การเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงิน และความผันผวนของตลาดโลก
ทำไมการลงทุนในดัชนี ASX 200 ผ่านรูปแบบของ CFD เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
นักลงทุนเลือกลงทุนในสัญญาส่วนต่างหรือ CFD ช่วยให้สะดวกสำหรับนักลงทุนใช้เงินลงทุนี่น้อยลง เพราะใช้อัตราทดหรือเลเวอเรจ ทำกำไรได้มากขึ้น และต้องระวังการขาดทุนเช่นกัน รวมถึงสามารถเทรดได้ตามสถานการณ์ของตลาดทั้งขาขึ้นและขาลง วางแผนได้อย่างยืดหยุ่น รวมถึงบัญชีเทรดเดียวสามารถเลือกเทรดสินค้ าหลากหลาย ไม่ว่าจะดัชนี ทองคำ ค่าเงิน เป็นต้น
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน