NASDAQ 100 คืออะไร สรุปทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนลงทุนใน 100 หุ้นระดับโลก

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

หากกล่าวว่า Nasdaq 100 คือดัชนีหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เชื่อว่าหลายคนจะต้องสงสัยและเกิดคำถามว่าคืออะไร ในบทความนี้ เราจะพาคุณทำความเข้าใจองค์ประกอบสำคัญของ Nasdaq 100 ตั้งแต่การคัดเลือกหุ้น การแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรม ไปจนถึงวิธีการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจและสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ

Nasdaq 100 คืออะไร

Nasdaq 100 เป็นดัชนีหุ้นที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบด้วยหุ้นของ 100 บริษัทขนาดใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq โดยส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น Apple, Microsoft และ Amazon ดัชนีนี้มีความสำคัญเพราะใช้เป็นเครื่องชี้วัดภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเป็นที่นิยมในการลงทุนผ่านกองทุน ETF

หลักทรัพย์ที่จะเข้าดัชนี Nasdaq 100 จำเป็นต้องผ่านเกณฑ์อะไรบ้าง

ข้อมูลจาก Nasdaq รายงานหลักเกณฑ์ของดัชนี Nasdaq 100 ที่ใช้สำหรับคัดเลือกหลักทรัพย์ บริษัทจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนดังต่อไปนี้


  • หลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ได้แก่ใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันทางการเงินในสหรัฐอเมริกา (ADR), หุ้นสามัญและหุ้นติดตาม (Tracking Stock) 

  • จะต้องไม่ใช่กองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)

  • ไม่ได้ทำธุรกิจด้านการเงิน

  • บริษัทนั้น ๆ จะต้องมีการซื้อขายรายวัน ในปริมาณ 200,000 หุ้นเป็นอย่างต่ำ

  • บริษัทจะต้องมีการถ่วงดุลและอัปเดตรายงาน ทั้งรายไตรมาสและรายปี

  • จะต้องเป็นบริษัทที่ไม่อยู่ในการดำเนินคดีล้มละลาย


หากบริษัทใดที่ผ่านเกณฑ์ของดัชนี Nasdaq 100 แล้ว แต่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ครบทุกข้อ จะถือว่าขาดคุณสมบัติและจะถูกเพิกถอนรายชื่อ ไม่ได้อยู่ในดัชนี Nasdaq 100 อีกต่อไป และจะมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของดัชนีใหม่เกิดขึ้นทันที

หุ้นหลักในดัชนี Nasdaq 100

กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)

  • Apple (AAPL): ผู้นำด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และบริการดิจิทัล มีผลิตภัณฑ์หลักคือ iPhone, iPad, Mac และบริการอย่าง App Store, Apple Music

  • Microsoft (MSFT): ให้บริการซอฟต์แวร์และคลาวด์สำหรับองค์กร มีผลิตภัณฑ์หลักคือ Windows, Office 365 และ Azure

  • NVIDIA (NVDA): ผู้ผลิตชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่ใช้ในเกม การประมวลผล AI และ cryptocurrency mining

  • Intel (INTC): ผู้ผลิตชิปประมวลผลหลัก (CPU) สำหรับคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์


กลุ่มการสื่อสารและบริการ (Communication Services)

  • Meta (META): เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม Facebook, Instagram, WhatsApp และกำลังลงทุนใน metaverse

  • Alphabet (GOOGL): บริษัทแม่ของ Google ให้บริการค้นหาข้อมูล, YouTube, Gmail และลงทุนในเทคโนโลยี AI

  • Netflix (NFLX): ผู้นำด้านสตรีมมิ่งความบันเทิง ผลิตคอนเทนต์ออริจินัลและให้บริการสมาชิกทั่วโลก


กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Discretionary)

  • Amazon (AMZN): ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซและบริการคลาวด์ AWS พร้อมบริการ Prime Video และ Alexa

  • Tesla (TSLA): ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด พัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ

  • Starbucks (SBUX): เครือข่ายร้านกาแฟระดับโลก เน้นประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมด้านการชำระเงิน


กลุ่มการแพทย์และสุขภาพ (Healthcare)

  • Gilead Sciences (GILD): บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ที่พัฒนายารักษาโรคติดเชื้อและมะเร็ง

  • Moderna (MRNA): บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่พัฒนาวัคซีน mRNA และการรักษาโรคต่างๆ

  • Vertex (VRTX): บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนายารักษาโรคทางพันธุกรรม

วิธีการคำนวณดัชนีหุ้น Nasdaq 100 และการถ่วงดุล

ดัชนีหุ้น Nasdaq 100 มีสุดยอดหุ้นมากกว่า 50 บริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต ส่วนที่เหลือคือบริษัทที่ประกอบด้วยหลากหลายธุรกิจ หากมองภาพรวมง่าย ๆ ว่า เมื่อมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจเดียวกันมากกว่าครึ่งของบริษัททั้งหมด ความผันผวนของราคาดัชนีจึงมีความรุนแรงสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นดัชนี Nasdaq 100 จึงใช้วิธีการคำนวณแบบ Market Cap Weight เพื่อเป็นการถ่วงดุล ซึ่งสามารถอธิบายให้นักลงทุนมือใหม่เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าทำไมจึงต้องมีการถ่วงดุลวิธีนี้


เพราะ 100 บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในดัชนีหุ้น Nasdaq 100 ล้วนเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในระดับโลก บางบริษัทมีขนาดใหญ่กว่าบริษัทอื่นที่ทำธุรกิจเดียวกัน ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทที่มีขนาดใหญ่และมีอิทธิพลมาก ๆ ส่งผลกระทบต่อราคาดัชนีโดยรวมมากไป จึงต้องใช้วิธีการให้แต่ละบริษัทใช้ค่าถ่วงน้ำหนักของมูลค่าหลักทรัพย์ ด้วยราคาตลาดเพื่อเป็นการถ่วงดุลซึ่งกันและกัน โดยการถ่วงดุลนี้ได้กำหนดอย่างเข้มงวดว่า จะต้องมีการปรับเป็นรายไตรมาส

 

นอกจากความเข้มงวดในการถ่วงดุลเป็นรายไตรมาสแล้ว Nasdaq 100 ยังกำหนดให้มีการปรับปรุงรายชื่อบริษัทประจำปีด้วย โดยข้อกำหนดที่ว่าคือ หากราคาหุ้นในวันซื้อขายสุดท้ายของเดือนตุลาคม กับจำนวนหุ้นทั้งหมดในวันสุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน ยังคงอยู่ใน 100 อันดับแรก บริษัทนั้น ๆ จะยังอยู่ในดัชนี Nasdaq 100 ต่อไป แต่ถ้าปรับปรุงรายชื่อแล้วบริษัทหลุดออกจาก 100 อันดับแรก แต่ไม่เกินอันดับที่ 125 บริษัทนั้น ๆ ก็จะได้รับอนุญาตให้อยู่ในดัชนี Nasdaq 100 ได้ต่อ แต่มีข้อแม้ว่าบริษัทที่หลุดอันดับนั้น ๆ จะต้องเคยอยู่ใน 100 อันแรกในปีที่ผ่านมาเท่านั้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาดัชนีหุ้น Nasdaq 100

จากข้อมูลในอดีตเราจะพบว่าผลตอบแทน 1 ปีของดัชนี Nasdaq100 มีความสัมพันธ์กับอัตราเงินเฟ้อ เมื่อใดที่อัตราเงินเฟ้อสูงอัตราผลตอบแทนของดัชนีจะลดลงทันที สาเหตุเนื่องมาจากการที่เงินเฟ้อสูงจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสะกัดเงินเฟ้อ และการที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นจะส่งผลให้บริษัทมีรายจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้นและผู้บริโภคอาจมีแรงจูงใจในการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการน้อยลงเพราะสามารถนำเงินไปฝากธนาคารแล้วได้ดอกเบี้ยสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีในดัชนี Nasdaq 100 ซึ่งอาจจะยังไม่สามารถนับได้ว่าเป็นสินค้าจำเป็นเท่าไรนัก รายจ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นพร้อมกับยอดขายที่อาจลดลงจึงส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทโดยตรง และส่งผลกดดันต่อราคาหุ้นและการเคลื่อนไหวของดัชนีโดยรวม 


ความสัมพันธ์เชิงผกผันของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐและผลตอบแทน 1 ปีดัชนี Nasdag 100

* ที่มา yahoo finance 


ในอนาคตถ้าเราอยากรู้ว่าดัชนี Nasdaq 100 จะปรับตัวขึ้นเมื่อไร เราก็สามารถคาดการ์ณได้จากอัตราเงินเฟ้อนี่เอง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อจะเป็นดัชนีชี้วัดหลักในการคาดการณ์ต่อไปว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือไม่ มีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ ปรับตัวลดลงจนถึงอัตราเป้าหมายของเฟดจากสองปัจจัยคือ 


1.ความพยายามของเฟดในการควบคุมเงินเฟ้อด้วยการขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องน่าจะเริ่มส่งผลต่อพื้นฐานทางเศรษฐกิจแล้ว 


2. ฐานดัชนีค่าครองชีพที่สูงในปีก่อนหน้าจะทำให้เงินเฟ้อ (เปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพโดยรวม) ปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่มากนัก 


ดังนั้นจึงมีโอกาสที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนี Nasdaq 100 จะค่อยๆ ทรงตัวได้หลังจากที่ปรับลดลงมาอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เป็นโอกาสที่จะค่อยๆ ทยอยสะสมหุ้นคุณภาพดีเข้าพอร์ต แต่การถือครองควรเป็นระยะยาวแบบ 1 ปี ขึ้นไป และคงไม่สามารถคาดหวังที่จะทำกำไรในระยะสั้นได้เพราะยังคงมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่แน่นอนอยู่ เมื่อไรก็ตามที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนีจะถูกเทขายทิ้งอีก

เหตุใดจึงควรลงทุนในดัชนี Nasdaq 100

การลงทนในดัชนี Nasdaq 100 เป็นการเปิดโอกาสให้เราสามารถลงทุนและเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้ทางอ้อม ด้วยประวัติผลตอบแทนที่มักสูงกว่าค่าเฉลี่ยในตลาด ช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนแค่เฉพาะในประเทศไทย ไม่พึ่งพาการเติบโตของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่ครอบคลุมไปยังบริษัทเทคโนโลยีขนานใหญ่หลายต่อหลายแห่ง นอกจากนี้หุ้นในดัชนี Nasdaq 100 ยังมีสภาพคล่องสูง เพราะเป็นที่นิยมในการซื้อขาย ทำให้รายจ่ายในการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นแต่ละตัวค่อนข้างต่ำ สถาบันการเงินรายใหญ่ทั่วโลกให้การยอมรับ แม้ว่าหุ้นแต่ละตัวอาจให้ผลตอบแทนที่สูง แต่ก็ย่อมมีความเสี่ยงมากกว่าเช่นกัน 


  1. ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง ทั้ง 100 บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เหมาะกับใครที่กำลังมองหาผลตอบแทนอย่างมหาศาลจากการลงทุน


  2. ดัชนี Nasdaq มีการเติบโตที่มั่นคง ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน โดยถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนที่ดีที่สุดในโลก


  3. การกระจายความเสี่ยงไปในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เปิดโอกาสให้คุณเป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก กระจายความเสี่ยงไปยังหลายๆ อุตสาหกรรม ดีกว่าเลือกลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง


ในประเทศไทยเราสามารถลงทุนผ่านช่องทางใดได้บ้าง

อย่างไรก็ดีนักลงทุนไม่สามารถลงทุนในดัชนี Nasdaq 100 ได้โดยตรงแต่สามารถลงทุนผ่านทาง 2 ช่องทางคือ กองทุนรวมและ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract of Difference: CFD) 


1. กองทุนรวม

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนหลายแห่งเปิดให้ลงทุนในกองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในหุ้นตาม Nasdaq 100 ตามละเอียดดังต่อไปนี้


ตัวแทนจำหน่ายกองทุนรวมรหัสกองทุนเงินลงทุนขั้นต่ำปันผลค่าธรรมเนียมการจัดการระดับความเสี่ยงข้อมูลกองทุน
BCAP Asset Managementกองทุนเปิดบีแคป หุ้นยูเอส เอ็นดี 100BCAP-USND100500ไม่จ่ายไม่เกิน 1.605% (เก็บจริง0.321%)6คลิกที่นี่
บลจ กสิกรไทยกองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดสะสมมูลค่าK-USXNDQ-A(A)500ไม่จ่ายไม่เกิน 3.2100% ต่อปี6คลิกที่นี่
บลจ กสิกรไทยกองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผลK-USXNDQ-A(D)500จ่ายไม่เกิน 3.2100% ต่อปี6คลิกที่นี่


2. Contract of Difference (CFD) 

Contract of Difference หรือสัญญาส่วนต่างเป็นตราสารทางการเงินชนิดหนึ่งที่เราสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยที่ตัวเราไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเจ้าของหลักทรัพย์ดังกล่าวโดยตรง เพียงแค่เราถือสัญญาไว้ เราก็สามารถทำกำไรได้ด้วยการวางหลักประกันเพียงแค่บางส่วน 


ยกตัวอย่างเช่นในกรณีนี้ เราไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนสูงขนาดที่จะสามารถซื้อหุ้น 100 ตัวในดัชนี Nasdaq 100 แต่สามารถทำกำไรจากการขึ้นลงของราคาได้แทน เช่น ถ้าเราคาดว่าระดับดัชนีจะเพิ่มขึ้นให้เราเปิดคำสั่งซื้อ (BUY) เอาไว้ แต่ถ้าคิดว่าราคาจะลงให้เปิดคำสั่งขาย (Sell) และหากทิศทางของราคาเป็นไปตามที่คุณคาดไว้ก็สามารถทำกำไรจาก CFD ได้ทันที ซึ่งโดยรวมแล้วการซื้อขาย CFD เป็นการลงทุนที่ใช้เงินทุนต่ำ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง 


เนื่องจากการวางเงินประกันที่น้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าเงินลงทุนจริง เช่น 1 ต่อ 500 ซึ่งหมายความว่า มีเงินวางประกันไว้ 100 บาท จะสามารถเก็งกำไรดัชนีมูลค่า 50,000 บาทได้ หากมูลค่าดัชนีผันผวนเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้เงินประกันที่วางไว้หมด จนถูกบังคับให้ปิดสัญญาหรือขายขาดทุนค่อนข้างมาก ซึ่งจะต่างจากการถือครองกองทุนรวม ที่เรามีส่วนเป็นเจ้าของหุ้นโดยตรง โดยนักลงทุนที่สนใจอยากทำกำรไจาก CFD ก็สามารถสมัครและเปิดคำสั่งซื้อขายได้ที่โบรกเกอร์ชั้นนำต่าง ๆ เช่น Mitrade เป็นต้น


mitrade    
💸 ห้ามพลาด!!! 💸    
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁    

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑    
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน


สรุป

จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ดัชนี Nasdaq 100 เป็นดัชนีที่ควรลงทุน ด้วยเหตุผลที่สรุปได้ง่าย ๆ ว่า เป็นดัชนีที่รวมหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกเอาไว้ถึง 100 บริษัท และชื่อเสียงของแต่ละบริษัทก็เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดี อีกทั้งยังมีความน่าเชื่อถือและความมั่นคง แต่นักลงทุนควรตระหนักเสมอว่า การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงดังนั้นอย่าลืมศึกษาวิธีการลงทุนให้ละเอียดและรอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย

สังเกตให้ดีอย่าสับสน ดัชนี Nasdaq 100 และ Nasdaq Composite แตกต่างกันอย่างไร

เชื่อว่าหลายคนจะต้องคุ้นเคย หรือไม่ก็ต้องเคยได้ยินชื่อดัชนี Nasdaq Composite กันมาบ้าง แต่ทราบหรือไม่ว่า ดัชนีตัวนี้แตกต่างจากดัชนี Nasdaq 100 ยังไง และหากคุณกำลังสับสนระหว่างดัชนี 2 ตัวนี้ เรามีหลักจำและวิธีการสังเกตความแตกต่างง่าย ๆ มาฝากคือ ​ดัชนี Nasdaq Composite คือดัชนีที่รวมหุ้นของบริษัททั้งในสหรัฐอเมริกาและในต่างประเทศเอาไว้มากกว่า 3,000 บริษัท โดยบริษัททั้งหมดจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq แต่สำหรับ Nasdaq 100 จะเป็นดัชนีที่รวมหุ้นกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 100 อันแรกในตลาด Nasdaq ซึ่งไม่รวมบริษัททางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารสำหรับการลงทุน หรือธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นหากพูดถึงความผันผวนแล้วดัชนี Nasdaq 100 จะเกิดความผันผวนรุนแรงมากกว่าดัชนี Nasdaq Composite เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
SET50 คืออะไร? SET50 มีอะไรบ้าง? และลงทุน SET50 ยังไง?บทความนี้เราขอแนะนำดัชนี SET50 นะครับ รวมถึง SET50 คืออะไร, SET50 มีอะไรบ้าง, วิธีคำนวณ SET50 และปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET50 และลงทุน SET50 ยังไงนะครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
บทความนี้เราขอแนะนำดัชนี SET50 นะครับ รวมถึง SET50 คืออะไร, SET50 มีอะไรบ้าง, วิธีคำนวณ SET50 และปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET50 และลงทุน SET50 ยังไงนะครับ
placeholder
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 หรือ ดัชนี S&P 500 คืออะไร?บทความนี้จะพานักลงทุนทำความรู้จักกับดัชนีหุ้นสหัฐ S&P 500 รวมถึง S&P 500 คืออะไร, S&P 500 คำนวณอย่างไร, รายชื่อหุ้นใน S&P 500, S&P 500 และ Dow Jones แตกต่างกันอย่างไร
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
บทความนี้จะพานักลงทุนทำความรู้จักกับดัชนีหุ้นสหัฐ S&P 500 รวมถึง S&P 500 คืออะไร, S&P 500 คำนวณอย่างไร, รายชื่อหุ้นใน S&P 500, S&P 500 และ Dow Jones แตกต่างกันอย่างไร
placeholder
นิเคอิ225(Nikkei 225) คืออะไร? ลงทุนหุ้นญี่ปุ่นผ่านดัชนีนิเคอิ225 Nikkei 225 ขึ้นสู่จุดสูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1990 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2023 อะไรทำให้ราคาของ Nikkei 225 พุ่งกระฉูด? เราจะทำกำไรจากกระแสของ Nikkei 225 ได้อย่างไร? บทความนี้จะแจ้งให้คุณทราบ
ผู้เขียน  เมธิณี วสุมดีInsights
วันที่ 14 มี.ค. 2023
Nikkei 225 ขึ้นสู่จุดสูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1990 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2023 อะไรทำให้ราคาของ Nikkei 225 พุ่งกระฉูด? เราจะทำกำไรจากกระแสของ Nikkei 225 ได้อย่างไร? บทความนี้จะแจ้งให้คุณทราบ
placeholder
Dow Jones(DJIA) คืออะไร? สำคัญยังไง? ทำไมต้องดูทุกวันบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ดัชนี Dow Jones คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อตลาดหุ้นทั่วโลกพร้อมเผยรายชื่อบริษัทที่อยู่ในดัชนี Dow Jones การวิเคราะห์แนวโน้มดัชนีหุ้น Dow Jones ปี 2025 และลงทุนในดัชนี Dow Jones ยังไง ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 25 พ.ค. 2023
บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ดัชนี Dow Jones คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อตลาดหุ้นทั่วโลกพร้อมเผยรายชื่อบริษัทที่อยู่ในดัชนี Dow Jones การวิเคราะห์แนวโน้มดัชนีหุ้น Dow Jones ปี 2025 และลงทุนในดัชนี Dow Jones ยังไง ตามมาดูกันเลย
placeholder
SET100 คืออะไร? รายชื่อหุ้น SET 100SET100 คือดัชนีหุ้นที่นิยมในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบไปด้วยหุ้น 100 บริษัทชั้นนำที่มีปริมาณซื้อขายสูง และมีการคำนวณตัวชี้ที่สะท้อนสถานะของตลาดหุ้นไทย บทความนี้จะสำรวจทุกอย่างเกี่ยวกับ SET100 เช่น SET100 คืออะไร, เกณฑ์ของหุ้น SET100 และ วิธีการคำนวณหุ้น SET100 Index ตามมาดูกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 17 มี.ค. 2023
SET100 คือดัชนีหุ้นที่นิยมในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบไปด้วยหุ้น 100 บริษัทชั้นนำที่มีปริมาณซื้อขายสูง และมีการคำนวณตัวชี้ที่สะท้อนสถานะของตลาดหุ้นไทย บทความนี้จะสำรวจทุกอย่างเกี่ยวกับ SET100 เช่น SET100 คืออะไร, เกณฑ์ของหุ้น SET100 และ วิธีการคำนวณหุ้น SET100 Index ตามมาดูกัน
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์