GBP คืออะไร? วิธีเทรด GBPUSD สำหรับมือใหม่หัดเทรด

GBP ซึ่งเป็นเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษที่ถือเป็นสกุลเงินหลักระดับโลกและมีสถานะที่โดดเด่นในการค้าระหว่างประเทศ มูลค่าของ GBP ได้รับอิทธิพลจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและเหตุการณ์ทางภูมิศาสตร์การเมือง จึงทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่แสวงหาโอกาสที่หลากหลาย สำรวจความแตกต่าของการเทรด GBP ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากบทความนี้ได้เลย

GBP ย่อมาจาก 

GBP ย่อมาจาก Great British Pound  คือ รหัสย่อที่ใช้เรียกสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling) ซึ่งสกุลเงินตราอย่างเป็นทางการของสหราชอาณาจักรและ 9 ดินแดนอาณานิคมของสหราชอาณาจักร ส่วน ปอนด์ (สัญลักษณ์:£) เป็นหน่วยหลักของสเตอร์ลิงและคำว่าปอนด์ใช้เรียกสกุลเงินอังกฤษโดยทั่วไปโดยมักเรียกในต่างประเทศว่า ปอนด์อังกฤษ หรือ ปอนด์สเตอร์ลิง โดยอัตราเทียบคือ 1 ปอนด์ จะมี 100 Penny “เพนนี”

ประวัติของ GBP 

เงินปอนด์เริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ กล่าวคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. 1320 ราชอาณาจักรแซกซัน (อาจเรียกว่าพวกอังกฤษสมัยโบราณก็ได้ แต่ความจริงแล้ว แซกซันไม่ได้เป็นบรรพบุรุษโดยตรงของอังกฤษปัจจุบัน) ได้ทำเหรียญกษาปณ์ขึ้นจากโลหะเงินแท้ น้ำหนัก 1 ปอนด์ ซึ่งได้เหรียญเงินเป็นจำนวน 240 อัน เรียกว่า เหรียญสเตอร์ลิง และด้วยน้ำหนักเท่ากับ 1 ปอนด์นี้เอง เมื่อต้องใช้จ่ายเงิน ก็จะบอกค่าเป็นจำนวนปอนด์ของเหรียญสเตอร์ลิง (pounds of sterlings) และภายหลังเรียกสั้นลงว่า ปอนด์สเตอร์ลิง (pound sterling)

ปอนด์อังกฤษเป็นสกุลเงินของสหราชอาณาจักรและเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับ 4 รองจากดอลลาร์สหรัฐ เยนญี่ปุ่น และยูโร อีกทั้งยังถูกใช้เป็นสกุลเงินสำรองมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก นอกจากนี้ เงินปอนด์ยังเป็นสกุลเงินที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

โดยคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเทรด GBP คู่กับสกุลเงินใดก็ได้ แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการเทรดคู่กับ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือ USD  โดยในแพลตฟอร์มเทรดออนไลน์คือ  "คู่เงิน GBP/USD" นั่นเอง หรือที่เรียกว่าคู่ “Cable”

เป็นหนึ่งในคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด ติดอันดับ 3 ในรายการตราสารที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดค่าเงิน รองลงจาก EUR/USD และ USD/JPY เหตุผลที่นักลงทุนเลือกเทรดคู่ GBP/USD ข้อแรกเลยก็คือทั้งอังกฤษและสหรัฐฯ มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดและดำเนินกิจการมายาวนานที่สุดในโลก ข้อสองคือทั้งสองประเทศมีระดับความมั่นคง ปลอดภัยสูง และสกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนสูง ทำให้เพิ่มโอกาสในการลงทุนได้มากขึ้น

นักลงทุนนิยมหันมาลงทุนในสกุลเงิน GBP มากขึ้นในช่วงสิบปีหลัง ด้วยจากหลายปัจจัยทั้งความเป็นสกุลเงินสำรองอันดับสามของโลก และมีเรื่องความผันผวนที่สูง (High Volatility) เป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนที่ชอบความผันผวน และที่น่าสนใจเช่นกันคือ เหตุการณ์สำคัญต่างๆในช่วงหลัง ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ค่าเงินปอนด์หรือ GBP นั้นได้รับผลกระทบโดยตรง

Brexit แรงกระเพื่อมที่ฉุดมูลค่าของ GBP

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์การลงประชามติ Brexit มาจากคำว่า  British+Exit  หรือโหวตให้ "อังกฤษออกจากยูโรโซน" เกิดขึ้นในปี 2016 เหตุผลที่อังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรปมาในหลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงความเห็นของประชาชนเชื่อว่าการเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปมีผลกระทบของต่ออังกฤษมีมากมาย ซึ่งเหตุการณ์ Brexit ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจอังกฤษผันผวนหลังจากออกจากสหภาพยุโรป 

เบรทซิท (Brexit) ยังส่งผลให้อังกฤษเสี่ยงต่อการเสียหายเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและการลงทุน ในส่วนของค่าเงินปอนด์นั้นทำให้เกิดแรงเทขายมหาศาลในสกุลเงิน GBP จากจุดเริ่มต้นในวันที่ 23 มิถุนายน 2016 ใช้เวลาเพียง 1 ปี ค่าเงิน GBP อ่อนค่ามากกว่า 17% และหากนับจากจุด 2016 ไปจนถึงจุดต่ำกว่าในปี 2020 จะเห็นว่า แนวโน้มของ GBPUSD นั้นปรับตัวลงถึง 30% 

สถานการณ์เงินปอนด์อ่อนค่าหนัก ในปี 2022 

โดยค่าเงินปอนด์ไปแตะที่ 1 ปอนด์ = 1 ดอลล่าร์ นับเป็นการร่วงลงถึง 20% และเป็นการอ่อนค่าครั้งที่หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์เลย ซึ่งวิกฤตค่าเงินปอนด์เกิดจากอะไรบ้างมาดูสาเหตุกัน อย่างแรก สหราชอาณาจักรได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาพลังงานจึงเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่แรกเริ่มสงคราม 

อย่างที่สองที่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่กว่าเดิมเริ่มขึ้นหลังการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Liz Truss ในเดือนกันยายน 2022 โดยได้มีการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเรียกว่า “งบประมาณแผ่นดินฉบับย่อ (The mini-budget)” ซึ่งแทนที่จะสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ กลับกลายเป็นสร้างความกังวลต่อสถานะทางการคลังเนื่องจากเป็นนโยบายที่จะลดการจัดเก็บภาษีโดยไม่มีการระบุแหล่งที่มาว่าจะหารายได้จากไหนมาชดเชย ซึ่งหากรัฐบาลต้องก่อหนี้เพิ่มก็จะยิ่งสร้างภาระในระยะยาวทั้งที่เศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว 

อีกทั้งการลดภาษียังอาจส่งผลให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นและจะยิ่งดันอัตราเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นอีก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นช่วงเดียวกันกับที่ดอลล่าร์สหรัฐกำลังแข็งค่าจากการเพิ่มดอกเบี้ยนโยบาย ยิ่งส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ยิ่งอ่อนค่าหนักเป็นประวัติการณ์  

ซึ่งจะเห็นว่าการวิเคราะห์สถานการณ์ข่าวที่เกี่ยวข้องให้ทันท่วงที ว่ามีผลดีหรือผลเสียต่อสกุลเงินนั้นๆ ช่วยให้คาดการณ์แนวโน้มของค่าเงินนั้นได้ ช่วยให้ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจสภาพแวดล้อมของสกุลเงินนั้นๆจริงๆ  

ราคา GBPUSD แบบเรียลไทม์

ข้อดีของการลงทุนในตลาดค่าเงินหรือ (Foreign Exchange) ของ CFD (Contract for Difference) ที่คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น-ขาลง โดยไม่จำเป็นต้องถือครองสกุลเงินจริง คุณสามารถเลือกที่จะลงทุนได้ทั้งฝั่งขาขึ้นโดยเลือก Buy และขาลงโดยเลือก Sell ตัวอย่างเช่น

• Buy: ลองจินตนาการว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังนั้น คุณตัดสินใจซื้อ(Buy) GBPUSD ที่อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ 1.4000 โดยคาดว่าเงินปอนด์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ คุณซื้อ 10,000 GBP โดยใช้จ่าย 14,000 ดอลลาร์ หากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเป็น 1.4500 คุณสามารถขาย (Buy) GBP ของคุณในราคา 14,500 ดอลลาร์ และทำกำไรได้ 500 ดอลลาร์

  
  

• Sell: ในทางกลับกัน หากคุณเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งขึ้น คุณอาจขาย (Sell) GBPUSD ที่ 1.4000 สมมติว่าคุณขายได้ 10,000 GBP โดยได้รับเงิน 14,000 ดอลลาร์ หากอัตราแลกเปลี่ยนตกลงไปที่ 1.3500 คุณสามารถขาย (Sell) 10,000 GBP ในราคา 13,500 ดอลลาร์ และได้รับกำไร 500 ดอลลาร์

หากคุณพร้อมที่จะเริ่มต้นลงทุนในคู่สกุลเงิน GBPUSD แต่ยังไม่พร้อมที่จะเสี่ยงกับเงินทุนของคุณเอง คุณสามารถเปิดใช้บัญชีทดลองเทรดที่ Mitrade ได้ฟรี ซึ่งจะช่วยให้คุณจะสามารถพัฒนาความรู้และทักษะการเทรดของคุณได้ และเมื่อคุณพร้อมแล้วก็สามารถเปลี่ยนไปใช้บัญชีจริงที่ให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกลัวเสี่ยงกับการขาดทุน

🎉ห้ามพลาด!!!

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี

ลองใช้บัญชีทดลองฟรี!!

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

ถ้าคุณต้องการซื้อขายแต่ไม่รู้ขั้นตอน? ไม่ต้องกังวลเลย!! มีคำอธิบายโดยละเอียดด้านล่าง

ยกตัวอย่าง เทรด GBPUSD กับ Mitrade

Mitrade เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่มีเทรดเดอร์นิยมใช้งาน ได้รับอนุญาตและควบคุมอย่างเคร่งครัดโดยหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งทั้ง (CIMA) และ  (ASIC) มีระบบป้องกันเงินทุนของลูกค้า เพื่อให้มั่นใจทุกครั้งที่ฝากเงินเข้าไปลงทุน ขั้นตอนในการลงทุนเทรดสกุลเงิน GBP/USD ผ่าน MiTrade ทำดังนี้

1)ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Mitrade จากทั้ง แอนดรอยด์ และ IOS

2)เมื่อบัญชีอนุมัติแล้ว เปิดแอฟ Mitrade เลือกเมนู “เซ็นเตอร์” กดเลือกฝากเงิน (การฝากเงินขั้นต่ำที่ 50$ และไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ)

3)พิมพ์ค้นหาสัญลักษณ์ “GBP/USD” กดเลือก 

4)คลิกที่คำสั่ง Buy หรือSell เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนใส่ราคาหรือคำสั่งอื่น ๆ เช่น Lot size / เลเวอเรจ / เป้าขาย / ตัดขาดทุน 

5) ติดตามผลกำไรและขาดทุน และปิดสถานะออเดอร์

รู้หรือไม่ประมาณ 15% ของธุรกรรมที่เทรดค่าเงินทั้งหมด เลือกในคู่เงิน GBP/USD เหตุผลคือสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ชั้นนำของโลกและหลังจากที่เหตุการณ์ Brexit จบลงนั้น เงินปอนด์เติบโตขึ้นอย่างมากและสกุลเงินเริ่มได้รับความนิยม นักลงทุนอาจเลือกคู่เทรดเงินปอนด์คู่ใดก็ได้ แต่ควรเริ่มจากคู่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก่อน ซึ่งคู่ GBP/USD ความนิยมของคู่ปอนด์/ดอลลาร์นี้มีเหตุผลอยู่ คู่เทรดนี้มีสภาพคล่องและความผันผวนสูงจึงทำให้คุณมีโอกาสทำกำไรได้มากในแต่ละวัน

และข้อควรรู้ก่อนเทรดคู่เงินนั้นๆ คือ ช่วงโซนของเวลาตลาดที่ค่าเงินนั้นๆเปิด ถึงแม้ว่าตลาดฟอเรกซ์จะสามารถให้เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ใน 5 วัน ทำการก็ตามแต่เรื่องของสภาพคล่องหรือความผันผวนของตลาด (volatility) ทำให้รู้ช่วงเวลาไหนควรจะเข้าเทรดเพราะมี Volatility สูง อย่างคู่เงิน GBP/USD เกี่ยวกับ GBP ที่เป็นค่าเงินจากตลาดยุโรป ก็ไปดูว่าตลาดยุโรปเปิดตอนไหน ปิดตอนไหน และตลาด USD หรือ อเมริกาหรือเรียกว่า New York ว่าเปิดและปิดตอนไหน

***ตลาดคู่เงินอังกฤษ เปิด-ปิด 15.00-22.00 น. ส่วนตลาดอเมริกา เปิด-ปิด 19.00-03.00 น. 

จะเห็นว่าช่วงเวลาที่ตลาดค่าเงินของอังกฤษและอเมริกา ที่มีเวลาคาบเกี่ยวกันคือช่วงที่วงกลมสีชมพูไว้ คือช่วง 19.00-22.00 น.เป็นต้นไป จะเป็นช่วงที่มีปริมาณซื้อขายหรือความผันผวนอย่างมาก เหมาะสำหรับการเทรดที่ต้องการแรงซื้อขายมาก

เมื่อทำการซื้อขาย GBP การใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ มีปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมหลายประการที่มีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยน GBP USD โดยเราได้คัดเลือกประเด็นสำคัญ ดังนี้

• การตัดสินใจของธนาคารกลางอังกฤษหรือ Bank of England (BOE) นโยบายการเงินมีผลกระทบสูงสุดต่อค่าเงินปอนด์ (GBP) เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ค่าเงินปอนด์จะแข็งค่าขึ้นอย่างมาก เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ค่าเงินปอนด์จะลดลง

  
  

• เงินเฟ้อ (Inflation) หมายถึง การเพิ่มขึ้นของระดับราคาของสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้มูลค่าของเงินลดลง กล่าวคือเงินสามารถซื้อสินค้าและบริการน้อยลงเมื่อเทียบกับเวลาก่อนหน้านี้

  
  

• อัตราการจ้างงาน (Employment Rate) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวิเคราะห์สถานะของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งตัวเลขสูงหมายถึงความแข็งแกร่งของภาคแรงงานและบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่แข็งแรง 

  
  

• อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) คืออัตราส่วนของประชากรทำงานที่ไม่มีงานทำและกำลังมอง

  
  

• ดลการค้า (Trade Balance) คือ สถานะทางเศรษฐกิจของประเทศที่วัดความแตกต่างระหว่างมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นส่งออกไป (ส่วนรายได้) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้ามา (ส่วนรายจ่าย) ในระหว่างช่วงเวลาที่กำหนด 

  
  

• ตัวชี้วัด GDP รายไตรมาส GDP ย่อมาจากคำว่า "Gross Domestic Product" ซึ่งในภาษาไทยคือผลิตภาพของประเทศ หรือผลิตภาคใน   ประเทศ มันเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดขนาดและประสิทธิภาพของเศรษฐกิจของประเทศ

  
  

• ข้อมูลจากตลาดอสังหาริมทรัพย์

ราคา GBPUSD ปัจจุบันคือ 1.24655 ที่ลดลงจากเมื่อวานที่จุด 1.28943 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาลง และอาจมุ่งไปทดสอบแนวรับที่ 1.24077 ก่อนที่ราคาจะกลับมาลดลงอีกครั้ง จากแนวโน้มของเส้น SMA บอกเราว่าราคา GBPUSD มีแนวโน้มที่จะลดลงต่อไป

จากการวิเคราะห์ช่วงวันที่ 1-10 เมษายน 2024 ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) ฟื้นตัวในช่วงสั้น ๆ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) แต่ยังคงไม่สามารถรักษาระดับราคาได้เนื่องจากคู่ GBP/USD พยายามดิ้นรนที่จะทะลุระดับ 1.2700  ความเชื่อมั่นของตลาดที่เกี่ยวข้องกับการพลิกผันของนโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ มีอิทธิพลต่อความผันผวนของ GBPUSD โดยไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่มีนัยสำคัญจากสหราชอาณาจักร 

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมากส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แม้ว่าตลาดยังคงมีราคาที่มีแนวโน้มว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น ความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ Fed ทำให้เกิดความไม่แน่นอน ส่งผลให้การซื้อขายมีความผันผวน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และรายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่สดใสหนุนค่าเงินดอลลาร์เพิ่มเติม โดยผลักดันให้ GBPUSD ต่ำกว่า 1.2600 เมื่อมองไปในอนาคต ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และสุนทรพจน์จากผู้กำหนดนโยบายของ Fed จะมีความสำคัญต่อทิศทางของตลาด ในทางเทคนิคแล้ว GBPUSD ยังคงเป็นขาลง โดยผู้ที่จะขายจับตาดูระดับแนวรับหลักที่ 1.2540 และ 1.2500 ในขณะที่ผู้ซื้ออาจตั้งเป้าหมายการดีดตัวไปที่แนวต้าน 1.2700 หาก SMA 200 วัน ที่ 1.2587 ยังคงอยู่

สกุลเงินปอนด์ หรือ GBP คืออีกสกุลเงินหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เข้ามาเทรดในตลาด FOREX ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 และเหตุการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรเอง ที่ทำให้การเข้ามาเทรดสกุลเงิน GBP นั้นเป็นอีกโอกาสที่น่าลงทุน 

สำหรับผู้เริ่มต้นใน Forex การทำความเข้าใจ GBPUSD ยังเกี่ยวข้องกับการติดตามภาวะเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคาที่อยู่อาศัยและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อทั้งคู่ ติดตามข่าวสาร ใช้การบริหารความเสี่ยง และทำความเข้าใจการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อสำรวจความสัมพันธ์ของคู่สกุลเงินระหว่างเงินปอนด์อังกฤษและดอลลาร์สหรัฐในคู่สกุลเงินยอดนิยมนี้