Fvg forex คืออะไร เทคนิคการเทรดฟอเร็กซ์สำหรับมือใหม่
หนึ่งในปัญหาหลักของเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ก็คือเมื่อราคามีการเหวี่ยงขึ้นลงอย่างรุนแรงจนทำให้หาจุดเข้าซื้อได้ยาก แต่ด้วย FVG สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ได้ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกว่า FVG คืออะไร และมีเคล็ดลับที่น่าสนใจอะไรบ้าง
FVG Forex คืออะไร
Fair Value Gap หรือเรียกสั้นๆ ว่า fvg forex คือ ช่องว่างราคาที่ปรากฏบนกราฟ Forex เกิดจากการที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมีนัยสำคัญซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปิดทำการหรือเมื่อมีสภาพคล่องต่ำจึงทำให้ราคาพุ่งข้ามช่วงราคาโดยไม่มีการซื้อขายใด ๆ เทรดเดอร์หลายคนมองว่า FVG เป็น ตัวแม่เหล็กดึงดูดราคาช่วยระบุโอกาสการเทรดจากการเปลี่ยนแปลงของราคา
ช่องว่างระหว่างราคาปัจจุบันและมูลค่าที่เหมาะสม (fair values) จะเข้ามาระบุบริเวณที่ราคาที่จัดเป็นโอกาสในการซื้อขายที่ดีเยี่ยม เพราะสัญญาณที่ราคาอาจกลับมาเพื่อเติมช่องว่างเดิม เทรดเดอร์มักใช้เทคนิคนี้เพื่อช่วยในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาและเป้าหมายในอนาคต อีกทั้งยังให้ข้อมูลเชิงลึกของตลาดเน้นย้ำถึงความแตกต่างของตลาดอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน รวมทั้ง Fair Value Gap ยังเป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่มีประสิทธิภาพในการกำหนดระดับการทำกำไรเชิงกลยุทธ์ได้อีกด้วย
ส่วนประกอบของ FVG Forex
FVG Forex มีความสำคัญในการระบุความไม่มีประสิทธิภาพของตลาดและโอกาสในการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น FVG ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่งที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อการเคลื่อนไหวของราคาส่วนใหญ่เกิดขึ้นในทิศทางเดียว ช่องว่างจะเกิดขึ้นระหว่างไส้เทียนของแท่งเทียนแท่งแรกและไส้เทียนแท่งที่สาม ช่องว่างนี้บ่งบอกถึงการรวมตัวของการซื้อขายที่อาจดึงดูดการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
โดยทั่วไป FVG Forex จะเกิดขึ้นระหว่างจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของแท่งเทียนแท่งแรกและจุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุดของแท่งเทียนแท่งที่สาม โดยขึ้นอยู่กับประเภทของ FVG
ส่วนที่เรากำลังให้ความสนใจก็คือ แท่งเทียนแท่งที่สอง ซึ่งเรียกว่าแท่งเทียนที่ไม่สมดุล หรือ Imbalance จะเป็นตัวส่งสัญญาณถึงการเกิดขึ้นของ FVG ซึ่งช่องว่างนี้เน้นถึงความไม่สมดุลในตลาดที่เกิดจากการซื้อขายจำนวนมากที่เกิดขึ้นในทิศทางเดียวเป็นหลัก เมื่อเทรดเดอร์จำนวนมากวางคำสั่งซื้อในทิศทางเดียวกันภายในระยะเวลาสั้น ๆ ช่องว่างดังกล่าวจะสร้างความแตกต่างระหว่างราคาที่แสดงโดยแท่งเทียนแท่งแรกและแท่งที่สาม โดยหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงราคาแบบค่อยเป็นค่อยไปตามปกติ ความไม่สมดุลนี้มักดึงดูดให้ราคามีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตในขณะที่ตลาดพยายามที่จะ "เติมเต็ม" หรือแก้ไขช่องว่างดังกล่าว ทำให้ช่องว่างดังกล่าวกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดราคาสำหรับเทรดเดอร์
ข้อดีและข้อเสียของ FVG
ข้อดีของ FVG
โอกาสในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น: FVG มักทำหน้าที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดราคาให้กลับเข้ามาในพื้นที่ช่องว่าง ซึ่งทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวเหล่านี้
พร้อมใช้งานในทุกกรอบเวลา: เราสามารถระบุ FVG ได้ในทุกกรอบเวลา ไม่ว่าจะเป็นกราฟรายวัน รายชั่วโมง หรือนาที ความคล่องตัวนี้ทำให้เทรดเดอร์สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้กับกลยุทธ์การซื้อขาแบบอื่นได้
ความเรียบง่าย: แนวคิดของ FVG เรียนรู้ได้ง่ายทำให้เรียนรู้และนำไปใช้ในการซื้อขายได้ทันทีแม้จะเป็นมือใหม่ก็ตาม
สามารถในการนำไปใช้ในตลาดที่หลากหลายได้: สามารถใช้กลยุทธ์นี้กับสินทรัพย์ต่างๆ ได้หลากหลาย รวมถึงหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งตลาดคริปโตที่ทำให้มีความคล่องตัวสูง
ให้ผลตอบแทนที่ดี: การเทรดด้วยเทคนิค FVG สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากช่องว่างที่เกิดขึ้นมักให้จุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน จึงช่วยให้เทรดเดอร์จัดการการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อเสียของ FVG
อาจให้สัญญาณที่ไม่สมบูรณ์: ราคาอาจไม่ได้กลับสู่ FVG เสมอไป ทำให้เป็นสัญญาณที่ไม่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น เทรดเดอร์ควรระมัดระวังและไม่พึ่งพา FVG เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจเทรด
ต้องใช้การวิเคราะห์เสริม: การพึ่งพา FVG เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ดังนั้น ควรใช้ร่วมกับวิธีการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้: เช่นเดียวกับเทคนิคการเทรดทั้งหมด การใช้ FVG ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้น เทรดเดอร์ควรตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้และวางแผนให้เข้ากับตนเอง
Fvg forex เกิดขึ้นเมื่อใด
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อ fvg forex มีหลายประการซึ่งเราได้สรุปมาในหัวข้อนี้
1. เหตุการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นกะทันหัน
ข่าวที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของตลาดอย่างรุนแรงอาจกระตุ้นให้เกิดการซื้อหรือขายเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดช่องว่างเมื่อราคาพุ่งสูงขึ้นเพื่อสะท้อนข้อมูลใหม่ ลองนึกภาพบริษัทประกาศรายได้ที่แข็งแกร่งเกินความคาดหมาย ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นและเกิดช่องว่างบนกราฟ
2. การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจ
การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยหรือตัวเลขการว่างงาน อาจทำให้เกิดความไม่สมดุลในลักษณะเดียวกัน หากข้อมูลดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนส่วนมากก็อาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในทิศทางใดทิศทางหนึ่งจึงทำให้เกิดช่องว่างของราคา
3. การซื้อขายจากสถาบันขนาดใหญ่
การซื้อขายครั้งใหญ่โดยนักลงทุนแบบสถาบันยังสามารถทำให้เกิด FVG ได้อีกด้วย เพราะเมื่อกองทุนป้องกันความเสี่ยงหรือธนาคารซื้อหรือขายหลักทรัพย์จำนวนมาก ก็อาจทำให้รายการคำสั่งซื้อขายที่มีอยู่มากมายนี้นำไปสู่การดันให้ราคาขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วจนเกิดช่องว่าง
4. การเปิดหรือปิดตลาด
บางครั้งช่องว่างอาจเกิดขึ้นในช่วงที่สภาพคล่องต่ำ เช่น ในช่วงที่ตลาดเปิดหรือปิดทำการ เมื่อมีแรงซื้อหรือขายที่น้อยลงอาจทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นซึ่งไม่สามารถต้านทานได้ทันที
5. ช่องว่างในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
FVG อาจเกิดขึ้นบ่อยขึ้นระหว่างช่วงปิดตลาดวันศุกร์และช่วงเปิดตลาดวันจันทร์ ซึ่งสะท้อนข่าวสารหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห
ประเภทของ FVG และตัวอย่างการอ่านกราฟ
FVG มี 2 ประเภทโดยแต่ละประเภทมีนัยสำคัญต่อผู้ซื้อขายที่แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้
1. FVG ที่เป็นขาลง
รูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุดคือ Bearish Gap ซึ่งโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นแท่งเทียนสีแดง 3 แท่งติดกัน โดยแท่งเทียนที่สองคือ Imbalance ราคาจะปรับตัวขึ้นสู่โซน FVG บ่อยครั้ง ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นต่อไป การเปิดคำสั่งขายในสถานการณ์นี้อาจเป็นประโยชน์ เนื่องจากราคามีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากการปรับราคา
ตัวอย่างการอ่านกราฟ
1. จุดต่ำสุดของแท่งเทียนแรก (ด้านซ้ายสุด) คือจุดสูงสุดของ FVG
2. แท่งเทียนที่สองคือการเปลี่ยนแปลงราคา
3. จุดสูงสุดของแท่งเทียนที่สาม (ด้านขวาสุด) คือจุดต่ำสุดของ FVG
2. FVG ที่เป็นขาขึ้น
โดยทั่วไปจะมีแท่งเทียนสีเขียวสามแท่งเรียงกัน โดยแท่งเทียนที่สองจะเป็นแท่งเทียน Imbalance ราคาจะปรับตัวลงมาที่โซน FVG บ่อยครั้ง ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงดำเนินต่อไป การเปิดคำสั่งซื้อในสถานการณ์นี้อาจเป็นประโยชน์ เนื่องจากราคามีแนวโน้มที่จะดีดตัวกลับอย่างรวดเร็วหลังจากการปรับราคา
ตัวอย่างการอ่านกราฟ
1. จุดสูงสุดของแท่งเทียนแรก (ด้านซ้ายสุด) คือจุดต่ำสุดของ FVG
2. แท่งเทียนที่สองคือการเปลี่ยนแปลงราคา
3. จุดต่ำสุดของแท่งเทียนที่สาม (ด้านขวาสุด) คือจุดสูงสุดของ FVG
วิธีเทรดด้วยเทคนิค Fvg forex ใน 3 ขั้นตอนง่ายๆ
เมื่อระบุ FVG ได้แล้ว ก็มีกลยุทธ์การเทรดไดเหลายวิธีที่คุณสามารถใช้ได้ มาดูวิธีการเทรดด้วยเทคนิค fvg forex ดังนี้
1. กำหนดทิศทางแนวโน้ม
การทำความเข้าใจอารมณ์ของตลาดมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์นี้ หากราคาสร้างจุดต่ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าคุณกำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และคุณควรพิจารณาซื้อจุดเข้า ในทางกลับกัน หากราคาสร้างจุดสูงและจุดต่ำที่ต่ำลง แสดงว่ามีแนวโน้มขาลง และคุณควรเน้นที่การขายจุดเข้า
การกำหนดทิศทางของแนวโน้มจะให้กรอบเวลาพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจซื้อขาย หรือให้เปลี่ยนไปใช้กรอบเวลาที่สูงขึ้น เช่น 4 ชั่วโมง รายวัน และรายสัปดาห์แทน
2. ระบุโซนแนวรับและแนวต้าน
เมื่อคุณกำหนดแนวโน้มได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการระบุโซนแนวต้านและแนวรับหรือชุดคำสั่งซื้อที่สอดคล้องกับแนวโน้มนั้น
ในบริบทของแนวโน้มขาขึ้น ให้ดูโซนแนวรับ เพราะโซนเหล่านี้เป็นพื้นที่ที่มีความสนใจในการซื้อสูง และอาจผลักดันให้ราคาตลาดสูงขึ้นได้ ในทางกลับกัน ในแนวโน้มขาลง คุณจะต้องการเน้นที่โซนแนวต้าน ซึ่งแรงขายอาจสูง
3. ตั้งจุดตัดขาดทุนและเป้าหมายกำไร
เช่นเดียวกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่น ๆ การจัดการความเสี่ยงมีความสำคัญ เมื่อดำเนินการซื้อขายตามกลยุทธ์ FVG ให้ตั้งจุดตัดขาดทุนและเป้าหมายกำไรที่เหมาะสม หากคุณเข้าสู่การซื้อขายจากโซนแนวต้าน คุณควรตั้งจุดตัดขาดทุนไว้เหนือโซนนั้น ซึ่งจะช่วยปกป้องเงินทุนของคุณในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกับตำแหน่งของคุณ
เป้าหมายการทำกำไรของคุณควรตั้งไว้เหนือโซนแนวรับถัดไปในทิศทางการซื้อขายของคุณ โซนนี้แสดงถึงจุดที่มีแนวโน้มว่าตลาดจะกลับตัว ทำให้คุณสามารถรักษาผลกำไรของคุณได้
เคล็ดลับในการเทรดด้วย Fvg forex
ต่อไปนี้คือเคล็ดลับจะช่วยให้คุณเทรดด้วยเทคนิค fvg forex ได้ง่ายขึ้น
ใช้ตัวบ่งชี้หลายตัวร่วมกัน
เมื่อเทรดด้วย FVG การใช้ตัวบ่งชี้หลายตัวร่วมกันเพื่อเสริมการตัดสินใจเทรดของคุณอาจเป็นประโยชน์ได้ เพราะการ ใช้ตัวบ่งชี้หลายตัวร่วมกันสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญและเพิ่มความแม่นยำในการเทรดของคุณได้ การผสมผสานนี้สามารถช่วยระบุจุดเข้าและจุดออกที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดโดยรวมของคุณได้
ใช้จุดตัดขาดทุน
การใช้จุดตัดขาดทุนเป็นสิ่งสำคัญเมื่อเทรดด้วย FVG เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงนี้ช่วยปกป้องผลกำไรของคุณและลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด การตั้งจุดตัดขาดทุนจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการสูญเสียของคุณจะถูกจำกัดไว้หากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกับตำแหน่งของคุณ ทำให้เงินทุนของคุณยังคงเหลือไว้สำหรับเทรดในอนาคต
รอการยืนยันจากตลาด
ก่อนที่จะเข้าเทรดโดยใช้ FVG จำเป็นต้องรอการยืนยันว่าตลาดจะดำเนินต่อไปในทิศทางของช่องว่าง การยืนยันนี้สามารถสังเกตได้ผ่านแท่งเทียนขาขึ้นหรือขาลง เช่น รูปแบบการกลืนกินในกรอบเวลาที่ต่ำกว่าหลังจากช่องว่างถูกเติมเต็มแล้ว
รอจังหวะเวลา
จังหวะเวลาของการซื้อขายของคุณมีความสำคัญมาก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด โดยพิจารณาจากสภาพตลาดและพฤติกรรมของ FVG ความอดทนและความแม่นยำในการจับเวลาสามารถปรับปรุงผลลัพธ์การซื้อขายของคุณได้อย่างมาก
เลือกสภาพคล่อง
คุณควรให้ความสนใจกับพื้นที่ที่อาจเลือกสภาพคล่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก FVG อยู่ใกล้กับจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของวันก่อนหน้า รอให้มีการเลือกสภาพคล่องในภูมิภาคเหล่านี้ก่อนเข้าสู่การซื้อขาย วิธีนี้จะช่วยให้มีจุดเข้าซื้อขายที่เชื่อถือได้มากขึ้น ทำให้โอกาสในการซื้อขายประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น
สรุป
เราได้สรุปคำถามที่พบบ่อยแล้วว่า Fair Value Gap หรือ fvg forex คืออะไร และตอนนี้คุณก็ได้ทำความเข้าใจแล้วว่า fvg เป็นเครื่องมือที่มีค่าในการวิเคราะห์กราฟ Forex ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในการทำการซื้อขายที่ทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรใช้ควบคู่กับวิธีการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยง การทำความเข้าใจและฝึกฝนการเทรดโดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เหมือนใครที่ FVG มอบให้ในโลกการซื้อขาย Forex ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> Forex เล่นยังไง?วิธีเล่น Forex สำหรับมือใหม่ |
FVG สามารถนำมาใช้ในตลาดและกรอบเวลาที่แตกต่างกันได้หรือไม่?
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเทคนิค FVG มีอะไรบ้าง?
หากอยากลองเทรดฟอเร็กซ์ด้วยเทคนิค FVG ทำได้ที่ไหนบ้าง?
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน