เช็คโบรกเกอร์ forex ก่อนเทรด มือใหม่เรียนฟรี!

ข่าวลือที่เรามักได้ยินกันบ่อยก็คือ โบรกเกอร์ forex ปิดหนีโดยที่เราไม่ตั้งตัว หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เป็นใครก็ต้องรู้สึกกลัวและตกใจเป็นธรรมดา ดังนั้น ด้วยการรับมือที่ดีที่สุดก่อนที่จะเปิดบัญชีเทรดก็คือการรับทราบข้อมูลทั้งหมดของโบรกเกอร์ก่อนที่เราจะเริ่มเทรด และในบทความนี้เราจะมาแชร์เว็บไซต์เช็กโบรกเกอร์ Forex ที่ใช้แแล้วได้ผลจริง

หากเริ่มเทรดครั้งแรกอย่างพึ่งวู่วาม เพราะเราต้องทำการตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ที่เราเลือกนั้นปลอดภัยหรือไม่ และได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้จริงหรือไม่ มาดูกันว่าในเบื้องต้นนี้เราจะตรวจสอบโบรกเกอร์ได้อย่างไร

1.โบรกเกอร์ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้หรือไม่

เมื่อเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ให้ตรวจสอบการควบคุมกับหน่วยงานทางการเงินที่มีชื่อเสียง เช่น FCA (สหราชอาณาจักร) ASIC (ออสเตรเลีย) หรือ CIMA เพราะว่าโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมจะปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดมีความโปร่งใส คุ้มครองเงินของลูกค้า และมีแนวทางการซื้อขายที่เป็นธรรม 

แล้วเราจะตรวจสอบใบอนุญาตเหล่านี้ได้อย่างไรล่ะ? วิธีก็คือให้ตรวจสอบหมายเลขใบอนุญาตของโบรกเกอร์และตรวจสอบความถูกต้องในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของหน่วยงานกำกับดูแล ตัวอย่างเช่น ที่ Mitrade ได้รับการควบคุมดูแลจากหน่วยงานการเงินที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง:

• Australian Securities and Investments Commission (ASIC): Mitrade Global Pty Ltd ถือใบอนุญาตบริการทางการเงินของออสเตรเลีย (AFSL 398528)

• Cayman Islands Monetary Authority (CIMA): Mitrade Holding Ltd ได้รับอนุญาตและควบคุมโดย CIMA โดยมีหมายเลขใบอนุญาต SIB คือ 1612446

• Mauritius Financial Services Commission (FSC): Mitrade International Ltd ได้รับอนุญาตและควบคุมโดย FSC โดยมีหมายเลขใบอนุญาตคือ GB20025791

2.ค่าธรรมเนียมในการเทรด และเงื่อนไขการให้บริการของโบรกเกอร์

ต่อมาให้ประเมินโครงสร้างค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ รวมถึงสเปรด ค่าคอมมิชชัน และค่าธรรมเนียมข้ามคืน การกำหนดราคาที่โปร่งใสถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะค่าธรรมเนียมที่ซ่อนอาจทำให้ไม่ได้กำไรอย่างที่คาดหวังไว้ ดังนั้นให้เลือกสเปรดแบบคงที่หรือตามกลยุทธ์ของคุณ ประเมินประเภทบัญชี เงินฝากขั้นต่ำ โดยเฉพาะโบรกเกอร์ที่ม่ค่าธรรมเนีนมที่สมเหตุสมผลและเงื่อนไขที่โปร่งใส

ตัวอย่างเช่น ที่ Mitrade เสนอค่าธรรมเนียมโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง เช่น

• สเปรดแบบลอยตัวเริ่มต้นที่ 0.6 pipsสำหรับคู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.08 พิป

• ไม่เรียกเก็บคอมมิชชันในการซื้อขาย ค่าใช้จ่ายหลักคือสเปรด

• ค่าธรรมเนียมการระดมทุนข้ามคืนมีผลใช้บังคับหากถือตำแหน่งเกินเวลาชำระราคา อัตราแตกต่างกันไปตามตราสารที่เทรด

• ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากและถอนเงิน

3.เลเวอเรจและจำนวนเงินที่ต้องวางมาร์จิ้น

เนื่องจากเลเวอเรจเป็นตัวช่วยเพิ่มพลังการซื้อขายแต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในเวลาเดียวกันได้ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อเสนอเลเวอเรจและข้อกำหนดมาร์จิ้นของโบรกเกอร์ก่อน โดยปกติแล้วโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงจะให้เลเวอเรจและมาร์จิ้นที่เข้ากับสไตล์การเทรดของแต่ละคน ตัวอย่างเช่น ที่ Mitrade เสนอเลเวอเรจสูงถึง 1:200 ขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์

• คู่สกุลเงินหลัก: สูงถึง 1:30

• คู่สกุลเงินที่ไม่ใช่หลัก ทองคำ ดัชนีหลัก: สูงถึง 1:20

• สินค้าโภคภัณฑ์ (ไม่รวมทองคำ) และดัชนีที่ไม่ใช่หลัก: สูงถึง 1:10

• หุ้นและกองทุน ETF: สูงถึง 1:5

• สกุลเงินดิจิทัล: สูงถึง 1:2

4.สินทรัพย์ที่ให้เลือกเทรดมีอะไรบ้าง

การลงทุนในตะกร้าหลายใบจะช่วยลดความเสี่ยง ดังนั้น ควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์เสนอคู่สกุลเงิน CFD สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และสกุลเงินดิจิทัลหรือไม่ เทรดเดอร์เฉพาะทางอาจให้ความสำคัญกับโบรกเกอร์ที่มีสินทรัพย์เฉพาะกลุ่ม ความหลากหลายของสินทรัพย์ช่วยกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงตลาดทั่วโลกได้ ตัวอย่างเช่น ที่ Mitrade มีเครื่องมือซื้อขายที่หลากหลาย อาทิ

• Forex: คู่สกุลเงินหลัก รอง และสกุลเงินใหม่

• ดัชนี: ดัชนีทั่วโลก เช่น Dow Jones 30 และ Germany 40

• สินค้าโภคภัณฑ์: รวมถึงทองคำ น้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร

• หุ้น: CFD ในหุ้นของบริษัทใหญ่

• ETF: กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนต่างๆ

• สกุลเงินดิจิทัล: สินทรัพย์ดิจิทัลยอดนิยม เช่น Bitcoin

5.ช่องทางการฝากเงินและถอนเงิน

กระบวนการฝากและถอนเงินที่มีประสิทธิภาพมีความสำคัญกับการเทรดเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นควรตรวจสอบวิธีการชำระเงินที่รองรับ เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร บัตรเครดิต กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ และค่าธรรมเนียม เพราะการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ และปลอดภัยบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ ดังนั้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเวลาในการดำเนินการถอนเงินสอดคล้องกับความต้องการของคุณ

ตัวอย่างเช่น ที่ Mitrade รองรับวิธีการชำระเงินหลายแบบไม่มีค่าธรรมเนียมวิธีสำหรับการฝากและถอนเงิน เช่น

• บัตรธนาคาร: Visa และ MasterCard

• การโอนเงินผ่านธนาคาร

• กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์: ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

6.รองรับบริการช่วยเหลือลูกค้า

การสนับสนุนลูกค้าที่เชื่อถือได้มีความสำคัญอย่างยิ่งในกรณีที่มีปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับบัญชี ประเมินความพร้อมในการสนับสนุนของโบรกเกอร์ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันทุกวั ช่องทางการสื่อสารอย่าง แชทสด อีเมล โทรศัพท์และเวลาตอบกลับที่รวดเร็ว ตัวอย่างเช่น ที่ Mitrade ให้บริการสนับสนุนลูกค้าที่มีความพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ อีเมล แชทสด และโทรศัพท์

7.แหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเทรด

แหล่งข้อมูลการศึกษาที่มีคุณภาพช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบรู้ โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงเสนอเว็บสัมมนา บทความ บทช่วยสอน และบัญชีสาธิตเพื่อฝึกฝน การเข้าถึงการวิเคราะห์ตลาด ปฏิทินเศรษฐกิจ และเครื่องมือการซื้อขายจะช่วยเสริมกลยุทธ์ของคุณ ให้ความสำคัญกับโบรกเกอร์ที่ลงทุนในการให้ความรู้แก่ลูกค้า อย่างเช่นที่ Mitrade จัดเตรียมชุดสื่อการเรียนรู้ที่ครอบคลุมซึ่งเหมาะสำหรับผู้ซื้อขายทุกระดับประสบการณ์:

• คู่มือการซื้อขาย: ครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูง

• การวิเคราะห์ตลาด: ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์

• เว็บสัมมนาและบทช่วยสอน: เซสชันปกติเพื่อเสริมทักษะการซื้อขาย

• บัญชีทดลอง: อนุญาตให้ฝึกฝนด้วยเงินเสมือนจริง

หากต้องการเช็คโบรกเกอร์ forex ด้วยตนเองสามารถเช็คผ่านช่องทางไหนได้บ้าง มาดูรีวิวได้ที่นี่

1. WikiFX

แพลตฟอร์มรีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกฎข้อบังคับของโบรกเกอร์ เงื่อนไขการซื้อขาย และคะแนนของผู้ใช้ โดยจะให้คะแนนความปลอดภัยตามใบอนุญาต ความเสี่ยงในการดำเนินงาน และคำร้องเรียน

ขั้นตอนในการตรวจสอบโบรกเกอร์ด้วย WikiFX

1. เข้าไปที่เว็บไซต์หรือแอป WikiFX และค้นหาชื่อโบรกเกอร์ในแถบค้นหา

2. ตรวจสอบคะแนนความปลอดภัยและใบอนุญาต

2. Trustpilot

นำเสนอรีวิวลูกค้าสำหรับบริการต่างๆ รวมถึงโบรกเกอร์ โดยเน้นที่ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ

ขั้นตอนในการตรวจสอบจาก trustpilot

1. ไปที่ Trustpilot และค้นหาโบรกเกอร์

2. วิเคราะห์คะแนนโดยรวมและบทวิจารณ์แต่ละรายการ

1. เข้าใจพื้นฐานการเทรด

การเริ่มต้นด้วยความมั่นใจนั้นต้องอาศัยการเตรียมตัวและการฝึกฝน เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้พื้นฐานของการซื้อขาย เช่น โครงสร้างตลาด ประเภทคำสั่งซื้อขาย และกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง ใช้บัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนการซื้อขายแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องเสี่ยงเงิน ตั้งเป้าหมายที่สมจริงและเริ่มต้นด้วยเงินทุนที่จัดการได้ สร้างแผนการซื้อขายโดยระบุกลยุทธ์ การยอมรับความเสี่ยง และวัตถุประสงค์ของคุณ คอยติดตามข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์ ความมั่นใจจะเติบโตได้จากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การเรียนรู้จากความผิดพลาด และการรักษาวินัยในการดำเนินการของคุณ

2. ลองซื้อขายกับโบรกเกอร์

การทดสอบโบรกเกอร์ด้วยบัญชีทดลองถือเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เสนอบัญชีทดลองพร้อมเงินเสมือนจริง ซึ่งช่วยให้คุณฝึกฝนกลยุทธ์การซื้อขายได้โดยปราศจากความเสี่ยง ประเมินอินเทอร์เฟซ เครื่องมือ และความเร็วในการดำเนินการของแพลตฟอร์ม ประเมินแหล่งข้อมูลด้านการศึกษา บริการลูกค้า และข้อเสนอสินทรัพย์ ใช้ช่วงทดลองใช้เพื่อให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์สอดคล้องกับรูปแบบและความชอบในการซื้อขายของคุณ การทดสอบจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ และเลือกโบรกเกอร์ที่สนับสนุนการเติบโตของคุณในฐานะเทรดเดอร์

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

บัญชีทดลองเทรดฟรี >

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

3. อ่านรีวิวและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้จริง

ก่อนเลือกโบรกเกอร์ ให้ลองอ่านบทวิจารณ์จากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Trustpilot และ WikiFX คำติชมจากผู้ใช้จริงจะเน้นที่จุดแข็งและจุดอ่อน เช่น บริการลูกค้า กระบวนการถอนเงิน และความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม เน้นที่การร้องเรียนหรือคำชมอย่างสม่ำเสมอเพื่อประเมินชื่อเสียงของโบรกเกอร์ ยืนยันความน่าเชื่อถือของบทวิจารณ์โดยตรวจสอบกับเว็บไซต์หรือฟอรัมที่กำกับดูแล การหาสมดุลระหว่างข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้กับความต้องการของคุณจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

4. ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง

การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญสู่การเทรดที่ประสบความสำเร็จ คอยติดตามข่าวสารในตลาด เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ และกลยุทธ์การเทรด ใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลที่โบรกเกอร์จัดเตรียมให้ เช่น เว็บบินาร์ บทความ และบทช่วยสอน เข้าร่วมฟอรัมหรือชุมชนการเทรดเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและเรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ เทรดเดอร์ที่มีข้อมูลคือเทรดเดอร์ที่มีความมั่นใจ

5. เริ่มต้นจากจำนวนน้อยและค่อยเป็นค่อยไป

เริ่มซื้อขายด้วยเงินทุนจำนวนน้อยเพื่อลดความเสี่ยงไปพร้อมกับสะสมประสบการณ์ เน้นที่การเชี่ยวชาญตลาดหรือกลยุทธ์หนึ่งหรือสองอย่างก่อนที่จะกระจายความเสี่ยง เมื่อความมั่นใจและทักษะของคุณดีขึ้น ให้ค่อยๆ เพิ่มการลงทุนของคุณ การเริ่มต้นจากจำนวนน้อยจะช่วยลดความเครียดและสร้างรากฐานที่มั่นคง

6. ใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยง

ใช้แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ ใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น คำสั่งตัดขาดทุนและการกำหนดขนาดตำแหน่งเพื่อจำกัดการสูญเสีย อย่าเสี่ยงเกิน 1-2% ของบัญชีซื้อขายของคุณในการซื้อขายครั้งเดียว การจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมจะสร้างความมั่นใจและรับประกันความยั่งยืนในระยะยาวในการซื้อขาย

การเทรดฟอเร็กซ์จะเป็นเรื่องง่ายเมื่อเลือกสมัครกับโบรกกเกอร์ที่ปลอดภัย ดังนั้น ด้วยการเช็คโบรกเกอร์ Forex ก่อนเทรดจริงจะช่วยให้การเริ่มต้นเทรดของคุณปลอดภัยหายห่วง โดยเฉพาะผู้ที่พึ่งเริ่มต้นเทรดครั้งแรกยิ่งต้องให้ความสนใจกับการเลือกโบรกเกอร์ที่ปลอดภัย