โปรแกรมเทรด Forex ตัวไหนดี 7 โปรแกรมเทรด Forex ที่ยอดนิยมสำหรับมือใหม่ 2566
โปรแกรมเทรด Forex คืออะไร
โปรแกรมเทรด Forex หรือ Automated Forex trading Software คือโปรแกรมที่เป็นตัวกลางในการส่งคำสั่งซื้อขายซึ่งสามารถส่งคำสั่งได้ทั้งแบบวางคำสั่งด้วยตัวเองและทั้งการเขียนเงื่อนไขในการส่งคำสั่งแบบ Algorithmic Trading โดยที่นักเทรดไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าหน้าจอหรือคอยจับจังหวะในการซื้อขายแบบเรียลไทม์อีกต่อไป ในทางตรงกันข้ามเมื่อวางเงื่อนไขคำสั่งไว้แล้ว นักเทรดสามารถทิ้งให้โปรแกรมเทรดทำงานต่อไปได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีใครเฝ้ากำกับ
โดยทั่วไปโปรแกรามเทรด Forex มีฟีเจอร์คล้ายกับแพลตฟอร์มในการเทรดทั่วไป นั่นคือ มีส่วนสำหรับการเฝ้าดูราคาสินทรัพย์ ส่วนของกราฟราคาและเครื่องมือทางเทคนิคต่าง ๆ รวมทั้งส่วนในการส่งคำสั่งซื้อขาย มากไปกว่านั้นโปรแกรมเทรด Forex จะมีส่วนของการเพิ่มเงื่อนไขคำสั่งซื้อขายด้วยการเขียนคำสั่งด้วยภาษา MQL4, MQL5, Pine Script ฯลฯ
โปรแกรมเทรด Forex ส่วนใหญ่มีการติดตั้งที่ค่อนข้างใช้ทรัพยากรในการติดตั้ง นั่นคือจำเป็นต้องมีการโหลดโปรแกรมมาติดตั้งในอุปกรณ์ก่อนการใช้งาน และการทำงานของโปรแกรมจะขึ้นอยู่กับทรัพยากรของอุปกรณ์ที่ใช้งาน ขณะที่แพลตฟอร์มการเทรด Forex มักไม่จำเป็นต้องโหลดโปรแกรมมาติดตั้งแต่เป็นการทำงานบนเว็บเบราเซอร์เป็นหลัก
เลือกโปรแกรมเทรด Forex ที่เหมาะสมกับเราอย่างไร
ปัจจุบันมีโปรแกรมเทรด Forex หลายเจ้าที่เปิดให้เลือกใช้บริการ ซึ่งโปรแกรมเทรด Forex แต่ละตัวก็มีคุณสมบัติและฟีเจอร์สำหรับใช้งานที่แตกต่างกัน และนี่คือลิสต์ที่นักเทรดควรคำนึงถึงก่อนเลือกใช้
1. มีข้อมูลสินทรัพย์และข้อมูลบริษัทที่ต้องการครบถ้วน
เพราะข้อมูลมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อขายและการประมวลผลของอัลกอริทึม ยิ่งมีข้อมูลมากยิ่งเสริมให้ระบบเทรดมีความแม่นยำได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของสินทรัพย์ ข้อมูลเชิงปริมาณ รวมถึงข้อมูลเชิงคุณภาพ
2. ความเร็วในการประมวลผล
ความเร็วมีผลต่อราคาซื้อขายจึงส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนและผลกำไรที่นักเทรดจะได้ โดยเฉพาะหากนักเทรดต้องใช้อัลกอริทึมในการเทรดก็จะมีช่วงเวลาที่ต้องใช้ในการประมวลผลเพิ่มเข้าไปอีก และใครที่ทำได้เร็วกว่าก็จะได้เปรียบกว่านักเทรดคนอื่น ๆ
3. ความยากง่ายในการปรับแต่งฟีเจอร์ที่ต้องการ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่นักเทรดทุกคนที่เขียนโปรกแกรมได้อย่างเชี่ยวชาญและมีความสามารถด้านเทคโนโลยี ดังนั้นโปรแกรมเทรดที่ใช้งานได้ง่าย ใช้ภาษาในการเขียนคำสั่งที่เรียบง่าย ตอบสนองการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นอีกปัจจัยที่นักเทรดควรคำนึงถึง
4. มีความปลอดภัยในการใช้งาน
เพราะอีกด้านหนึ่งโปรแกรมเป็นตัวจัดการเงินทุนของนักเทรด ความปลอดภัยของโปรแกรมที่ไม่ให้คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชีเข้ามาใช้งานได้ บวกกับการรักษาเงินทุนที่ตรงตามมาตรฐานของโบรกเกอร์จะช่วยให้นักเทรดมั่นใจว่าเงินทุนจะถูกเก็บรักษาอย่างดีและไม่ถูกแทรกแซงจากคนอื่น
5. ค่าธรรมเนียมสมเหตุสมผล
โปรแกรมเทรด Forex ส่วนใหญ่จะมีโบรกเกอร์เสนอให้นักเทรดได้ใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและจะเสียเป็นค่าคอมมิชชั่นหรือสเปรดราคาเมื่อทำการเทรดกับโบรกเกอร์แทน แต่ก็มีโปรแกรมเทรด Forex บางเจ้าที่นักเทรดสามารถสมัครใช้งานเพิ่มเติมโดยเสียค่าใช้จ่ายตามแพ็กเกจที่เลือกได้เพิ่มเติม
6. ลองใช้บัญชีทดลองเพื่อทดสอบความเหมาะสม
เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ แล้วสนใจโปแกรมเทรด Forex ตัวไหน นักเทรดสามารถเลือกเปิดบัญชีทดลองเพื่อขอใช้โปรแกรมเทรด Forex ที่สนใจก่อนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อทดสอบว่าเหมาะกับการใช้งานของตัวเองได้จริง ๆ หรือไม่ในท้ายที่สุด
โปรแกรมเทรด Forex ตัวไหนดี แนะนำ 7 โปรแกรมเทรด Forex ที่ยอดนิยมสำหรับมือใหม่ 2566
1. MetaTrader4 (MT4)
MT4 เป็นโปรแกรมเทรด Forex ที่ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้งานแล้วมากกว่า 40 ล้านคนทั่วโลก โดยมีจุดเริ่มต้นการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2005 โดย MetaQuotes Software โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ตลาดการเงินและสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ ด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ รองรับการซื้อขาย Forex และ CFD โดยเฉพาะ จนถึงปัจจุบัน MT4 นับเป็นโปรแกรมเทรด Forex ที่ได้รับความนิยมใช้แพร่หลายมากที่สุดและนับเป็นเครื่องมือจำเป็นลำดับต้น ๆ ของนักเทรดเลยก็ว่าได้
การใช้งาน MT4 มีแกนหลักอยู่ที่กราฟราคาที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงส่งคำสั่งซื้อขายได้ทั้งแบบ Market Execution และ Pending Order ด้วยการวางเงื่อนไขราคา 4 รูปแบบ คือ Buy Limit/ Sell Limit/ Buy Stop/ Sell Stop และการกำหนดจุดทำกำไรและตัดขาดทุน นอกจากนี้ยังมีเทอร์มินอลติดตามข่าวสาร การ
แจ้งเตือน รวมถึงการแสดงผลกราฟราคาที่สามารถแสดงได้หลายหน้าต่างพร้อมกัน ด้วยอินดิเคเตอร์กว่า 50 ตัว และการแสดงผล 9 ไทม์เฟรมให้เลือกใช้
การเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมของ MT4 ทำได้ด้วยการใช้ภาษา MQL4 เพื่อสร้างอินดิเคเตอร์หรือ Expert Advisor ขึ้นมาใช้งานเองได้ ยิ่งไปกว่านั้น MT4 ยังรองรับการเขียนคำสั่งเพื่อสร้าง Algorithmic Trading โดยที่นักเทรดไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอระหว่างเทรดได้ด้วย ซึ่งเหล่านี้แน่นอนว่าต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการใช้งานในฟีเจอร์ขั้นสูงเหล่านี้
รายละเอียด
คุณสมบัติ: เทรดได้ในหนึ่งคลิก, รองรับ Expert Advisors, มีอินดิเคเตอร์ให้ใช้กว่า 50 ตัว กับ 9 ไทม์เฟรมให้เลือกใช้, วาง Pending order/Limit Order พร้อมจุดตัดขาดทุนได้
จุดเด่น: มีความเสถียรสูง, ใช้งานง่ายปรับแต่งได้หลากหลาย, รองรับการใช้งานทั้ง Windows Android และ iOS
ข้อด้อย: บางโบรกเกอร์ให้บริการ MT4 ด้วยสเปรดที่มากกว่าสเปรดที่คิดบนแพลตฟอร์มเทรดของตัวเอง, นักเทรดอาชีพบางส่วนมองว่า MT4 ทำรายการได้ช้ากว่าโปรแกรมเทรดอื่น
โบรกเกอร์ Forex ที่รองรับ: IC Markets, Pepperstone, FXCM, Tickmill, FP Markets
2. MetaTrader5 (MT5)
MT5 เป็นโปรแกรมเทรด Forex ที่พัฒนาต่อยอดมจาก MT4 และมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก โดยเวอร์ชั่นนี้มีการพัฒนาให้รองรับระบบบัญชีที่หลากหลายขึ้น คือรองรับทั้งการหักลบบัญชีแบบดั้งเดิม และ แบบ Hedging Option ทั้งยังมีการเพิ่มวิธีส่งคำสั่งเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ Instant, Request, Market และ Exchange execution รองรับการวางเงื่อนไขราคาถึง 6 รูปแบบ ได้แก่ Buy Stop/ Sell Stop/ Buy Limit/ Sell Limit/ Buy Stop-Limit และ Sell Stop-Limit พร้อมเงื่อนไข Stop Loss, Trailing Stop และ จุด Take Profit
ไม่ต่างจาก MT4 ตัวเทอร์มินอล MT5 ก็มีแกนหลักอยู่ที่กราฟราคาที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ พร้อมช่องทางการติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือน รวมถึงเครื่องมือการวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและพื้นฐาน โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกอินดิเคเตอร์ได้กว่า 512 ตัว กับ 21 ไทม์เฟรม ซึ่งรองรับการใช้งานได้แบบยืดหยุ่น ทั้งยังมีการบอกความลึกของตลาดให้เห็น Bid/Ask ของสินทรัพย์ที่ต้องการเทรดได้
หากฟีเจอร์เหล่านี้ยังไม่จุใจ นักเทรดสามารถใช้ภาษา MQL5 เขียนเงื่อนไขอินดิเคเตอร์ขึ้นใช้งาน สร้าง Expert Advisor หรือ Robot Trade ขึ้นใช้งานได้เองอีกด้วย ซึ่งแม้ฟีเจอร์ของ MT5 จะมาแบบค่อนข้างครบและยืดหยุ่นขึ้นกว่า MT4 แต่โดยรวมแล้วโปแกรมเทรด Forex ทั้งสองมีแกนสำคัญที่ไม่ต่างกันมากทำให้มีผู้ใช้ไม่มากที่เปลี่ยนมาใช้ MT5 ซึ่งมองว่าใช้งานได้เร็วกว่า MT4 อยู่บ้างนั่นเอง
รายละเอียด
คุณสมบัติ: เทรดได้ในหนึ่งคลิก, รองรับ Expert Advisors & Copy Trading, ปรับแต่งอินดิเคเตอร์ได้กว่า 512 ตัว กับ 21 ไทม์เฟรมให้เลือกใช้, มี Peding Order 6 รูปแบบพร้อมวางจุดตัดขาดทุนได้, มีความลึกของตลาด (Dept of Market) ให้เห็น Bid/Ask ของสินทรัพย์ที่เทรดได้
จุดเด่น: มีความเสถียรสูงและค่อนข้างเร็วกว่า MT4 รองรับการใช้งานทั้ง Windows Android และ iOS
ข้อด้อย: บางโบรกเกอร์ให้บริการ MT5 บนสเปรดที่สูงกว่า โดยรวมมีฟีเจอร์ค่อนข้างซ้ำซ้อนกับ MT4 ทำให้เทรดเดอร์เปลี่ยนมาใช้น้อยกว่า
โบรกเกอร์ Forex ที่รองรับ: IC Markets, Pepperstone, FXCM, Tickmill, FP Markets
3. cTrader
cTrader เป็นโปรแกรมเทรด Forex ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Spotware เพื่อจุดมุ่งหมายในการสร้างสมดุลระหว่างความซับซ้อนของตลาดการเงินและความเรียบง่ายในการเทรด รองรับการใช้งานของนักเทรดตั้งแต่ระดับมือใหม่ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ และถูกนำมาใช้เพื่อการเทรด Forex และ CFD โดยเฉพาะ
เทอร์มินอลของ cTrade มีแกนกลางที่กราฟราคาและชาร์ตแสดงความเคลื่อนไหวของราคาให้นักเทรดได้ติดตามความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ มีฟังก์ชั่นการวิเคราะห์พร้อมอินดิเคเตอร์ที่จำเป็นให้เลือกใช้ และมีฟังก์ชั่น Copy Trade ให้นักเทรดมือใหม่ได้ลองการเทรดเหมือนมืออาชีพได้อีกด้วย
จุดเด่นของ cTrader อยู่ที่การปรับแต่งขั้นสูงด้วย cTrader Automate ที่เป็นฟีเจอร์เฉพาะ cTrader บนเดสก์ท็อป ทำให้นักเทรดสามารถพัฒนา Indicator และ cBot เพื่อช่วยในการเทรดได้ด้วยการเขียนภาษา C# และแพลตฟอร์ม .NET สามารถนำไปใช้ส่งคำสั่งซื้อขายได้แบบอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ซึ่งแน่นอนว่าฟีเจอร์นี้อาศัยความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเขียนโปรแกรมและการวางระบบเทรดเป็นพิเศษ และนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการใช้ก็ต้องอาศัยเวลาในการเรียนรู้พอสมควร
รายละเอียด
คุณสมบัติ: เทรดได้ในหนึ่งคลิก, รองรับการเทรดแบบออโตเมตด้วย cAlgo, รองรับการปรับแต่งอินดิเคเตอร์เพิ่มได้กว่าพันชนิด, เขียนคำสั่งปรับแต่งเพิ่มเติมได้หลากหลาย, เป็น Open source, มีความลึกของตลาด (Dept of Market) ให้เห็น Bid/Ask ของสินทรัพย์ที่เทรดได้
จุดเด่น: มีการแสดงผลกราฟขั้นสูงที่รองรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้หลากหลาย, มีความเสถียรในการใช้งาน, รองรับการใช้งานทั้งบน iOS Android และ Windows
ข้อด้อย: มีโบรกเกอร์ไม่มากที่เปิดให้ใช้, ปรับแต่งลำบากต้องเรียนรู้การใช้งานก่อนพอสมควร, มีการปรับแต่งเลเยอร์หรือเพิ่มอินดิเคเตอร์ได้จำกัด, ฟีเจอร์สำคัญอาจถูกจำกัดการใช้งานในบางโบรกเกอร์
โบรกเกอร์ Forex ที่รองรับ: Pepperstone, IC Markets, FxPro, Fibo Group, Roboforex
4. NinjaTrader
NinjaTrader เป็นโปรแกรมเทรด Forex ที่ได้รับความนิยมอีกตัวหนึ่งที่ให้ความเสถียรสูงและมีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2003 และเป็นโปรแกรมเทรดที่ให้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคกับผู้ใช้หลากหลาย โดยมีอินดิเคเตอร์ให้ใช้กว่า 100+ ชนิด รวมถึงมีส่วนเสริมให้ติดตั้งจากการพัฒนาของบุคคลที่สามให้นำมาเสริมเติมแต่งใช้งานต่อได้อีกมากมาย
สำหรับเทอร์มินอลของ NinjaTrader ค่อนข้างเรียบ ๆ มีการแสดงผลกราฟราคาที่สามารถปรับแต่งได้แบบเต็มที่ ทั้งสี ตัวอักษร รูปแบบกราฟ ฯลฯ ทั้งยังเติมอินดิเคเตอร์ วางเลย์เอาท์สำหรับการวิเคราะห์ได้เพียงการคลิกวาง
สำหรับการปรับแต่งขั้นสูง เช่น การปรับแต่งรูปแบบการวางออเดอร์ที่ซับซ้อนขึ้น การสร้างระบบเทรดแบบออโตเมต รวมถึงการทำทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) ก็สามารถทำได้ด้วยการใช้ภาษา C# เป็นตัวกลางในการพัฒนา นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Order Flow+ ที่ช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์ Order Flow, ปริมาณการซื้อขาย, ความลึกของตลาด ที่จะช่วยให้นักเทรดเข้าใจสภาพแวดล้อมในการเทรดมากยิ่งขึ้น แต่ฟีเจอร์ขั้นสูงเหล่านี้มาพร้อมกับแพ็กเกจราคาที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
รายละเอียด
คุณสมบัติ: มีอินดิเคเตอร์ให้ใช้กว่า 100+ ชนิด, รองรับการเทรดแบบออโตเมต, ปรับแต่งการแสดงผลกราฟเทคนิคได้หลากหลาย, มีการจำลองการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตเพื่อฝึกเทรด, มีความลึกของตลาด (Dept of Market) ให้เห็น Bid/Ask ของสินทรัพย์ที่เทรดได้
จุดเด่น: มีความเสถียรในการแสดงข้อมูล, มีการจำลองราคาสำหรับฝึกเทรด, รองรับการใช้งานทั้งบน Windows Android และ iOS
ข้อด้อย: มีโบรกเกอร์ที่ให้บริการไม่มาก, มีชุมชนผู้ใช้ไม่ใหญ่, ต้องเรียนรู้การใช้งานก่อนพอสมควร, ไม่รองรับการใช้งานผ่านมือถือหรือแท็ปเล็ต, มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับฟีเจอร์ขั้นสูง
โบรกเกอร์ Forex ที่รองรับ: Forex.com, FXCM, OANDA
5. TradingView
TradingView เป็นโปรแกรมเทรดที่เริ่มจากการเป็นผู้ให้บริการข้อมูลและกราฟราคาเพื่อการวิเคราะห์ตลาดการเงินที่รวบรวมเอาข้อมูลสินทรัพย์และหุ้นในแทบทุกตลาดในทุกมุมโลกมาไว้ ทำให้มีข้อมูลด้านปริมาณอย่างค่อนข้างครบ เมื่อบวกรวมกับเครื่องมือด้านการวิเคราะห์และอินดิเคเตอร์มากมายที่มีให้ใช้ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างครบสำหรับนักเทรดตัวหนึ่งทีเดียว
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถใช้ภาษา Pine Script เพื่อสร้างอินดิเคเตอร์ของตัวเอง สร้างกลยุทธ์การเทรด สร้างเงื่อนไขการแจ้งเตือน รวมทั้งเป็นเงื่อนไขของการเทรดได้ด้วย ตัวแพลตฟอร์มสามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บเบราเซอร์ ติดตั้งบน Desktop รวมทั้งใช้งานบนแท็ปเล็ต ทั้งยังสามารถใช้ API ฟีดข้อมูลไปประมวลผลด้วยโปรแกรมอื่นต่อได้ หรือสามารถลงปลั๊กอิน Paper Trading เพื่อส่งคำสั่งซื้อขายได้บน TradingView เอง
ด้วยความเป็น open source ที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคนทั่วโลกทำให้โปรแกรมเทรด Forex ตัวนี้มีความไดนามิกและมีชุมชนผู้ใช้งานสำหรับแบ่งปันการใช้งานและไอเดียการปรับแต่งได้มากมาย หลายโบรกเกอร์เช่น Pepperstone หรือ Capital.com ยังให้บริการโปรแกรมเทรดตัวนี้ด้วย
รายละเอียด
คุณสมบัติ: การแสดงผลกราฟราคาที่ให้ข้อมูลหลากหลายในแทบทุกตลาด, มีเครื่องมือและอินดิเคเตอร์มากมายให้เลือกใช้ หากไม่พอใจสามารถเขียนอินดิเคเตอร์ใช้เองได้
จุดเด่น: อินเตอร์เฟซสวยงามน่าใช้, เครื่องมือพื้นฐานจำนวนมากใช้งานได้ง่าย, เริ่มใช้งานง่ายด้วยการเปิดใช้ได้บนเบราเซอร์, มีข้อมูลราคาสินทรัพย์จำนวนมากให้เลือกวิเคราะห์, มีชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่, รองรับการใช้งานทั้งบน Desktop เว็บเบราเซอร์ และบนแท็ปเล็ต
ข้อด้อย: การส่งคำสั่งซื้อขายต้องลงปลั๊กอินเพิ่ม, หากต้องการเขียนโค้ดขึ้นใช้เองต้องเรียนรู้การใช้งานก่อนพอสมควร, มีคำสั่งในการวางออเดอร์ให้เลือกไม่มาก, การใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงอาจต้องจ่ายเงินซื้อแพ็กเกจเพิ่ม
โบรกเกอร์ Forex ที่รองรับ: Pepperstone, Capital.com, Moneta Markets, IQCent
6. ZuluTrade
ZuluTrade เป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลการเงินที่มีสำนักงานอยู่ในกรีซและญี่ปุ่นด้วยแนวคิดเริ่มต้นที่มากจากความต้องการคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์ที่ดีที่สุดมาใช้งาน ทำให้โปรแกรมเทรด Forex ตัวนี้เข้ามาเติมเต็มช่องว่างของข้อมูลในตลาดเงินกับนักเทรด ด้วยการแปลงคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาเป็นคำสั่งซื้อขายได้อีกด้วย พร้อมกับที่คนในชุมชนก็สามารถแบ่งปันแนวคิดในการเทรดได้อย่างอิสระ ทำให้ ZuluTrade กลายมาเป็นโปรแกรมเทรดที่ทำให้นักเทรดสามารถซื้อขายได้เหมือนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และเทรดได้เหมือนนักเทรดมืออาชีพ
ZuluTrade รองรับการใช้งาน MT4 และ ZuluTrade+ ที่ตัวหลังเป็นแพลดฟอร์มสำหรับผู้ใช้ไว้เขียนโปรแกรมด้วยภาษา ZuluScript เพื่อสร้างโรบอทเทรดเป็นของตัวเองได้ นอกจากนี้ ZuluTrade ยังมาพร้อมกับกราฟราคาที่อินเตอร์เฟซไม่ซับซ้อน มีรูปแบบกราฟและอินดิเคเตอร์ให้เลือกหลากหลาย ทั้งยังสามารถเรียกใช้ Expert Advisor ได้อย่างต่อเนื่อง รองรับการใช้งานทั้งคอมพิวเตอร์และแท็ปเล็ตตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียด
คุณสมบัติ: การแสดงผลกราฟราคาพร้อมอินดิเคเตอร์สำคัญครบถ้วน, มีฟีเจอร์ ZuluTrade Automator สร้างเงื่อนไขการเทรดแบบอัตโนมัติได้ด้วยภาษา ZuluScript, สามารถติดตาม CryptoTraders จากทั่วโลก
จุดเด่น: มีฟีเจอร์ Copy Trade ให้สามารถทำกำไรได้เหมือนนักเทรดอาชีพ, สามารถเชื่อมต่อการใช้งาน MT4 ไปยัง ZuluTrade ได้ทำให้ใช้งานหลายโบรกเกอร์ได้ในเวลาเดียวกัน, รองรับการใช้งานทั้ง iOS Android และ Windows
ข้อด้อย: มีชุมชนผู้ใช้งานจำกัด, มีโบรกเกอร์ที่ให้บริการไม่มาก, มีอินดิเคเตอร์และกราฟราคาที่แสดงผลไม่มากเท่าโปรแกรมตัวอื่น, ไม่มีเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดและข่าว
โบรกเกอร์ Forex ที่รองรับ: FXCM
7. แพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นกรรมสิทธิ์
แพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นกรรมสิทธิ์ - Mitrade
แพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นกรรมสิทธิ์คือ แพลตฟอร์มการเทรดที่โบรกเกอร์ต่าง ๆ พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้าที่เปิดบัญชีโดยเฉพาะทำให้สามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่แล้วแพลตฟอร์มเหล่านี้จะสามารถรันได้บนเว็บเบราเซอร์โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมฝังลงในตัวเครื่อง การใช้งานแพลตฟอร์มกินทรัพยากรน้อยทำให้มีความคล่องตัวและรวดเร็วในการใช้งาน โดยที่สามารถใช้งานได้ทันทีหลังเปิดบัญชีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ด้านรูปแบบอินเตอร์เฟซมักมีหน้าตาที่เรียบง่ายทำให้เข้าใจได้ไม่ยาก การใช้งานไม่ซับซ้อน แต่ครบด้วยเครื่องมือเช่น การวางวัตถุบนกราฟได้แบบคลิกวาง หรือการเพิ่มและปรับแต่อินดิเคเตอร์ได้เพียงไม่กี่คลิก ปรับแต่งรูปแบบกราฟและไทม์เฟรมได้ไม่หลากหลาย แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี
ด้วยความเรียบง่ายแต่ครบด้วยฟังก์ชั่นที่จำเป็นแบบครบถ้วน ทำให้แพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นกรรมสิทธิ์เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้แต่นักเทรดมือใหม่ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที ที่สำคัญคือมักสามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์และแท็ปเล็ต ทำให้นักเทรดคอยติดตามและส่งคำสั่งซื้อขายได้แบบทุกที่ทุกเวลาโดยไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมหรือปรับแต่งเครื่องมือมากมายนัก
รายละเอียด
คุณสมบัติ: มีกราฟแสดงราคาพร้อมอินดิเคเตอร์และไทม์เฟรมให้เลือกหลากหลาย สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ด้วยเงื่อนไข Market Order/ Limit Order และการตั้งจุดตัดขาดทุน Stoploss, Trailing Stop
จุดเด่น: มีอินเตอร์เฟซสวยงามน่าใช้, มีเครื่องมือพื้นฐานครบครันใช้งานได้ง่าย, เริ่มต้นใช้งานได้ไม่ยากด้วยการเปิดใช้ได้บนเบราเซอร์หรือแอปพลิเคชั่น แบบที่แม้แต่นักเทรดมือใหม่ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที
ข้อด้อย: ไม่สามารถปรับแต่งเงื่อนไขการเทรด, การแจ้งเตือน, การแสดงผล, รวมถึงการติดตั้งอินดิเคเตอร์ใหม่ ๆ ได้
โบรกเกอร์ Forex ที่รองรับ: Mitrade เสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่พัฒนาขึ้นเพื่อนักเทรดโดยเฉพาะ ครบทั้งตัวช่วยการวิเคราะห์ราคาอย่างกราฟและอินดิเคเตอร์ รวมถึงส่วนของการส่งคำสั่งซื้อขายที่ Market Order/ Limit Order และจำกัดความเสี่ยงได้ด้วย Stoploss, Trailing Stop, FxPro เสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ครบครันด้วยเครื่องมือวิเคราะห์และส่งคำสั่งซื้อขาย เป็นต้น
โปรแกรมเทรด Forex และแพลตฟอร์มการเทรด Forex ต่างกันอย่างไร
ถึงแม้ว่าโปรแกรมเทรด Forex และแพลตฟอร์มการเทรด Forex จะใช้สำหรับติดตามการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์และสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้เหมือน ๆ กัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายส่วน
ผู้พัฒนา โปรแกรมเทรด Forex มักสร้างโดยนักพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ขณะที่แพลตฟอร์มการเทรดมักพัฒนาขึ้นโดยโบรกเกอร์ผู้ให้บริการเป็นหลัก
การติดตั้ง การติดตั้งโปรแกรมเทรด Forex มักต้องดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งในอุปกรณ์ที่ใช้งานและใช้ทรัพยากรของตัวเครื่องเพื่อประมวลผล ขณะที่แพลตฟอร์มกาเรทรดไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมใด ๆ แต่สามารถใช้งานได้บนเว็บเบราเซอร์ได้ทันที
ความซับซ้นอของการใช้งานและการปรับแต่งฟีเจอร์ต่าง ๆ การใช้งานโปรแกรมเทรด Forex มักสามารถปรับแต่งฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่างการสร้างอินดิเคเตอร์ใหม่ ๆ การพัฒนา Expert Advisor หรือ การพัฒนาโรบอทเทรดขึ้นได้ด้วยการเขียนโปรแกรมคำสั่ง ขณะที่แพลตฟอร์มการเทรด Forex ไม่สามารถทำได้
ราคา การใช้งานโปรแกรมเทรด Forex ที่โบรกเกอร์ต่าง ๆ ให้ใช้ได้ฟรีนั้นมักเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมที่สามารถใช้ได้ แต่หากนักเทรดต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงขึ้นไปอาจจำเป็นต้องซื้อแพ็กเกจเพิ่มเติม ขณะที่แพลตฟอร์มการเทรดนั้นสามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
FAQ
1. แพลตฟอร์มการเทรด Forex ที่ยอดนิยมมีอะไรบ้าง
แพลตฟอร์มการเทรด Forex ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีอยู่หลายแพลตฟอร์ม เช่น Mitrade จากโบรกเกอร์ Mitrade ที่มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค ข่าวสาร และส่วนของการส่งคำสั่งซื้อขายที่ครบด้วยตัวเลือกคำสั่งซื้อขายสำคัญ ที่ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายใช้งานไม่ยากในแบบที่นักเทรดมือใหม่ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ตัวแพลตฟอร์มยังสามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บเบราเซอร์โดยไม่ต้องมีการลงโปรแกรมก่อนและยังรองรับการใช้งานบนแท็ปเล็ตด้วย
นอกจากนี้ SaxoTraderGO จากโบรกเกอร์ Saxo เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มเทรดที่น่าสนใจและออกแบบมาให้ใช้งานได้ด้วยความเร็วที่มีประสิทธิภาพด้วยการใช้งานที่เรียบง่าย รวมถึงแพลตฟอร์ม IG Trading จากโบรกเกอร์ IG ก็ยังคงได้รับความนิยมสูงเช่นกัน
บทความที่คุณอาจสนใจด้วย>>> |
2. คุณสามารถรวยด้วยการเทรด Forex ได้หรือไม่
การเทรด Forex ไม่ต่างจากการลงทุนรูปแบบอื่นที่มีความเสี่ยง นั่นคือนักลงทุนสามารถทำกำไรจากการเทรด Forex ได้ ในทางตรงกันข้ามก็สามารถขาดทุนจากการเทรด Forex ได้ด้วย ความพิเศษของการเทรด Forex ที่แตกต่างจากการลงทุนรูปแบบอื่นอาจอยู่ที่ความเสี่ยงที่สูงเป็นพิเศษ ทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้แบบไม่จำกัด ในทางตรงกันข้ามก็สามารถสูญเสียเงินทุนทั้งหมดไปได้
ดังนั้น ด้วยการเทรด Forex ที่มีความเสี่ยงสูงมากแบบนี้ นักลงทุนสามารถรวยจากการเทรด Forex ได้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากไม่มีการวางแผนและควบคุมความเสี่ยงที่ดีก็สามารถขาดทุนทั้งหมดได้เช่นกัน
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือโปรแกรมเทรด forex ยอดนิยมที่นักเทรด Forex ทั่วโลกเลือกใช้ แน่นอนว่าโปรแกรมเทรด Forex แต่ละตัวก็มีจุดเด่นและข้อด้อยที่แตกต่างกันไปและอาศัยความชำนาญที่แตกต่างกัน สำหรับนักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์หรือต้องการใช้งานอย่างเรียบง่ายก็สามารถเริ่มต้นใช้งานแพลตฟอร์มเทรด Forex หรือฟีเจอร์ทั่วไปในโปรแกรมเทรด Forex และเมื่อเรียนรู้เพิ่มเติมก็สามารถเลือกใช้ฟีเจอร์ที่สูงขึ้นเพื่อเป็นตัวช่วยในการเทรดต่อไปได้
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน