Moving Average คืออะไร สำคัญต่อการเทรดมากแค่ไหน

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

Moving Average คือ เครื่องมือทางการเทรดที่นักลงทุนส่วนมากนิยมใช้กัน โดยเฉพาะนักลงทุนที่ชื่นชอบการเทรดทอง เนื่องจากว่าเครื่องตัวนี้สามารถใช้วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำในตลาดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ยังสามารถใช้เทรดในสินทรัพย์อื่นๆ ได้อีกด้วย เนื้อหาบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้เกี่ยวกับ Moving Average คืออะไร มีการทำงานอย่างไร มีกี่ประเภท และมีความสำคัญต่อการเทรดอย่างไรบ้าง ใครที่เป็นสายเทรดที่กำลังมองหาเครื่องมือหรือตัวช่วยดีๆในการเทรด สามารถติดตามเนื้อหาได้ในบทความนี้เลย

Moving Average คืออะไร

Moving Average คือ Indicator เส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนของราคาในอดีต ที่ถูกนิยมนำไปใช้กันอย่างมากในตลาด Forex ทั้งนี้ยังสามารถนำไปวิเคราะห์ร่วมกับตลาดหุ้น หรือ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) เป็นตัวบ่งชี้หุ้นที่ใช้กันทั่วไปในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เหตุผลในการคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของหุ้นคือการช่วยให้ข้อมูลราคามีความราบรื่นโดยการสร้างราคาเฉลี่ยที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา


ทั้งนี้ Moving Average ที่นิยมใช้กันนั้นมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ 

  1. Simple Moving Average (SMA) จะเป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ผลกระทบของความผันผวนในระยะสั้นแบบสุ่มต่อราคาหุ้นในช่วงเวลาที่กำหนดจะลดลง

  2. Exponential Moving Average (EMA) ให้น้ำหนักกับราคาล่าสุดมากกว่าราคาเก่าในช่วงเวลาหนึ่ง


Keyword สำคัญของเส้น MA 

  • ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) เป็นตัวบ่งชี้หุ้นที่ใช้กันทั่วไปในการวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ช่วยปรับระดับข้อมูลราคาในช่วงเวลาที่กำหนดโดยการสร้างราคาเฉลี่ยที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา

  • Simple Moving Average (SMA) คือการคำนวณที่ใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของราคาที่กำหนดในช่วงจำนวนวันที่กำหนดในอดีต

  • ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) เป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ให้ความสำคัญกับราคาหุ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามากขึ้น ทำให้เป็นตัวบ่งชี้ที่ตอบสนองต่อข้อมูลใหม่ได้มากขึ้น

Moving Average มีการทำงานอย่างไร

Moving Average คืออะไร


สำหรับระบบการทำงาน MA นั้นถือว่าเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคคือชุดเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอนุกรมเวลา แนวคิดพื้นฐานคือการใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มีทักษะและความเข้าใจจะช่วยปรับปรุงการตัดสินใจได้


เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องมือที่สำคัญที่สุดเพียงเครื่องมือเดียวสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคคือแผนภูมิหุ้นที่สร้างขึ้นโดยการวางแผนราคาในอดีตของอนุกรมเวลา เนื่องจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นตัววัดราคาหุ้น จึงสามารถซ้อนทับบนแผนภูมิเดียวกันได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มปริมาณข้อมูลที่เป็นประโยชน์และย่อยง่าย นอกเหนือจากกราฟและราคาแล้ว เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ยังเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญที่สุดอีกด้วย

ประเภทของ MA มีอะไรบ้าง

จากกที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าเส้น MA ที่นักลงทุนหรือนักเทรดที่นิยมใช้กันนั้นมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ SMA และ EMA แต่ก็ยังมีประเภทอื่นๆที่ไม่ค่อยถูกนิยมใช้กันสักเท่าไหร่ เนื่องจากว่ามีการเคลื่อนไหวราคาช้า ทำให้นักลงทุนพลาดจังหวะการซื้อ-ขาย ในระดับราคาที่เหมาะสม โดยเนื้อหาในประเด็นนี้เราจะมาทำความเข้าอย่างละเอียดว่า แต่ละประเภทของเส้น MA นั้นมีความสำคัญและมีความแตกต่างกันอย่างไร


1. Simple Moving Average (SMA)

Simple Moving Average (SMA) คำนวณโดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของชุดค่าที่กำหนดในช่วงเวลาที่กำหนด ชุดตัวเลขหรือราคาหุ้นจะถูกบวกเข้าด้วยกันแล้วหารด้วยจำนวนราคาในชุด สูตรการคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย คือ 


สูตรรคำนวณ Simple Moving Average (SMA)


  • ข้อดีของ SMA คือ เป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่มีการคำนวณได้ง่าย เหมาะแก่การใช้คำนวณมูลค่าราคาของสินทรัพย์ที่นิ่ง


  • ข้อเสียของ SMA คือ เป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่มีการตอบสนองราคาค่อนข้างช้า ที่เป็นเหตุผลทำให้นักลงทุนพลาดจังหวะการเข้าซื้อ-ขาย สินทรัพย์ในระดับราคาที่เหมาะสม และไม่เหมาะแก่การใช้วิเคราะห์สภาวะตลาดที่มีการแกว่งตัวของราคาที่ค่อนข้างสูง


2. Exponential Moving Average (EMA) 

Exponential Moving Average (EMA) จะใช้วิธีการคำนวณที่ให้น้ำหนักกับราคาล่าสุดมากกว่าเพื่อพยายามให้ราคาตอบสนองต่อข้อมูลใหม่ได้ดีขึ้น ในการคำนวณ EMA จะมีการคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ก่อนจากนั้นคำนวณตัวคูณสำหรับการถ่วงน้ำหนัก EMA หรือที่เรียกว่า "ปัจจัยการปรับให้เรียบ" ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นไปตามสูตรดังรูปภาพด้านล่าง 


สูตรรคำนวณ Exponential Moving Average (EMA)

สำหรับความแตกต่างของ 2 ประเภทนี้ที่แยกออกได้ชัดเลย นั่นก็คือ EMA จะให้น้ำหนักที่สูงกว่ากับราคาล่าสุด ในขณะที่ SMA กำหนดการถ่วงน้ำหนักที่เท่ากันให้กับค่าทั้งหมด


  • ข้อดีของ EMA คือ มีการตอบสนองราคาได้อย่างแม่นยำและตอบโจทย์นักลงทุนในตลาด Forex เป็นอย่างมาก เนื่องจากค่าคำนวณที่ได้นั้นการเคลื่อนไหวตามราคาได้เป็นอย่างดี


  • ข้อเสียของ EMA คือ สมการมีความซับซ้อนมีการคำนวณที่ยุ่งยาก


3. Triangular Moving Average (TMA) 

Triangular Moving Average (TMA) จะเป็นวิธีคำนวณที่มีการนำค่าทั้งหมดในระยะที่กำหนดไว้มาหาค่าเฉลี่ย และ ถ่วงน้ำหนักมาที่ราคา ณ จุด Median หรือ ราคาที่อยู่ตรงกลางของระยะมากที่สุด แต่ตัว TMA นั้นช้าต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านของราคามากที่สุด กล่าวคือมีการตอบสนองต่อราคาช้าเกินไป จึงทำให้นักเทรดไม่นิยมใช้วิธีนี้กันสักเท่าไหร่ 


  • ข้อดีของ TMA คือ สมการคำนวณง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเข้าสู่วงการเทรด


  • ข้อเสียของ TMA คือ มีการตอบสนองราคาช้าจนเกินไป 

Moving Average มีความสำคัญอย่างไร

เนื่องจากว่า MA หรือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ได้มีการคำนวณเพื่อระบุทิศทางแนวโน้มของหุ้นหรือเพื่อกำหนดระดับแนวรับและแนวต้าน โดยเป็นตัวบ่งชี้ที่ติดตามแนวโน้มหรือล้าหลังเนื่องจากขึ้นอยู่กับราคาในอดีต


กล่าวคือ ยิ่งระยะเวลาของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่นานขึ้น ความล่าช้าก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันจะมีระดับความล่าช้ามากกว่า MA 20 วันมาก เนื่องจากประกอบด้วยราคาสำหรับ 200 วันที่ผ่านมา ตัวเลขค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 200 วันได้รับการติดตามอย่างกว้างขวางจากนักลงทุนและเทรดเดอร์ และถือเป็นสัญญาณการซื้อขายที่สำคัญ


นักลงทุนอาจเลือกช่วงเวลาที่แตกต่างกันและมีความยาวต่างกันเพื่อคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตามวัตถุประสงค์ในการซื้อขาย โดยทั่วไปแล้วค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่สั้นกว่าจะใช้สำหรับการซื้อขายระยะสั้น ในขณะที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาวจะเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวมากกว่า


แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ความเคลื่อนไหวในอนาคตของหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง แต่การใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิจัยสามารถช่วยคาดการณ์ได้ดีขึ้น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่าหลักทรัพย์อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ลดลงบ่งชี้ว่าหลักทรัพย์อยู่ในแนวโน้มขาลงนั่นเอง 

Moving Averages ใช้ทำอะไร?

MA หรือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการลงทุนที่พยายามทำความเข้าใจและสร้างกำไรจากรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาของหลักทรัพย์และดัชนี โดยทั่วไป นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อตรวจสอบว่าหลักทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมหรือไม่ เช่น ราคาหลักทรัพย์มีการเคลื่อนตัวลงกะทันหันหรือไม่ ในบางครั้ง พวกเขาจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อยืนยันข้อสงสัยว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

เลือกใช้ Moving Average ให้เหมาะกับการลงทุน

จะเห็นได้ว่า MA เป็นตัว Indicator ที่นักลงทุนและเทรดนิยมใช้เป็นตัวช่วยในการเทรดกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าสามารถบ่งบอกสถานการ์ณตลาดในปัจจุบันนได้เป็นอย่างดี ในตลาดแห่งการลงทุนเราทุกคนต่างพากันทราบดีอยู่แล้วว่ามีสินทรัพย์ทางเลือกหลายอย่างที่เราสามารถเทรดได้ ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ ค่าเงิน หุ้น และคริปโทเคอเรนซี่ แต่ทั้งหมดนี้ก็ใช้กลยุทธ์ในการเทรดที่คล้ายคลึงกัน ในประเด็นนี้ทางผู้เขียนจะมาแชร์ความรู้การเลือกใช้ MA ให้เหมาะกับการลงทุนเป็น 3 รูปแบบ นั่นก็คือ การลงทุนในระยะสั้น ระยะกลาง และในระยะยาว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 


  • ลงทุนในระยะสั้น

นักลงทุนส่วนมากจะนิยมเลือกใช้เส้น MA ที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 5-20 วันโดยประมาณ เนื่องจากว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการช่วยดูแนวโน้มราคาในระยะสั้นๆ ซึ่งจะเหมาะแก่การเทรดในรูปแบบ Day Trade 


  • ลงทุนในระยะกลาง 

จะเป็นรูปแบบการลงทุนที่ต้องการเก็งกำไร ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยนักลงทุนส่วนมากจะเลือกเส้น MA ในระยะเวลา 50,70 และ 100 ตามลำดับ เนื่องจากว่าเป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้การแนวโน้มราคามีความน่าเชื่อถือที่สุดนั่นเอง


ลงทุนในระยะกลาง

  • ลงทุนในระยะยาว

คือวิธีการลงทุนมีมีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป ดังนั้นเส้น MA ที่นักลงทุนจะนิยมเลือกใช้จะเริ่มต้นตั้งแต่ระยะเวลา 100-200 วัน เป็นต้นไป เนื่องจากว่าต้องดูราคากราฟและแนวโน้มราคารอบใหญ่นั่นเอง 


ลงทุนในระยะยาว

(ที่มาของรูปภาพ www.school.stockcharts.com)

ความเสี่ยงพื้นฐานจากการเทรดแบบ MA

ขึ้นชื่อว่าการลงทุนหรือการเทรดนั้นย่อมมีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญอยู่เสมอ โดยรูปแบบควงามเสี่ยงจะเจออาจจะมีความแตกต่างกันไป แตาสำหรับวิธีการเทรดที่เลือกใช้ Indicator MA ก็มีรูปแบบความเสี่ยงที่เราจะต้องทำความเข้าใจนั่นก็คือในส่วนของกลยุทธ์ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคได้รับความนิยมในช่วงการปฏิวัติข้อมูล ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นส่วนหนึ่งของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่(MA) เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับกลยุทธ์อีกรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากการเปลี่ยนสถานะที่เป็นไปได้หลายอย่างมีความชัดเจน สัญญาณอนุญาตให้ทั้งการเข้าและออกเป็นไปโดยอัตโนมัติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้การันตีว่าสัญญาณที่เกิดขึ้นเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายว่าราคาของตลาดจะเป็นไปในทิศทางใด


ความเสี่ยงอีกข้อของ MA ที่ต้องเจอก็คือความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาหลักทรัพย์จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยปัจจัยพื้นฐาน เช่น การเกิดสงคราม อัตราดอกเบี้ย หรือบริษัทประกาศล้มละลาย ทั้งหมดนี้ถือว่าผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นหรือต่ำลง โดยไม่คำนึงถึงว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือทางเทคนิคอื่น ๆ ยืนอยู่จุดใด ซึ่งออาจจะทำให้นักลงทุนเกิดความขาดทุนได้นั่นเอง


บทสรุป

ในบทความนี้เราได้ทำความรู้จักกับ Moving Average คืออะไรแล้ว จะเห็นได้ว่า Moving Average ที่เป็นรูปแบบการวิเคราะห์ความเคลื่อนของเวลาแบบอนุกรมเวลานั้น ถือว่าเป็นตัว Indicator มีประโยชน์ที่ชัดเจนสำหรับนักลงทุน ในระดับหนึ่ง ควรเป็นส่วนหนึ่งของทุกวิธีการลงทุนอย่างมีเหตุผล เนื่องจากเวลายังมาพร้อมกับความเสี่ยงในรูปแบบอื่นๆ ที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ 

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
6 โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2567คราวนี้เราได้รวบรวมลิสต์โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2567 มาไว้เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น!
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 19 พ.ค. 2023
คราวนี้เราได้รวบรวมลิสต์โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2567 มาไว้เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น!
placeholder
วิธีอ่านกราฟแท่งเทียนในการเทรด Forex สำหรับมือใหม่หากคุณต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในการเทรด Forex การอ่านกราฟแท่งเทียนให้แตกฉานถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกราฟแท่งเทียนเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่คุณสามารถพบได้บนทุกแพลตฟอร์ม และเทรดเดอร์หลายคนสามารถทำกำไรก้อนโตจากฟอเร็กซ์โดยอาศัยเพียงการอ่านกราฟแท่งเทียนเพียงอย่างเดียว บทความนี้จะสอนวิธีการอ่านกราฟแท่งเทียนในการเทรด Forex หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์มือใหม่ทุกท่านนะครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 26 ก.ค. 2023
หากคุณต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในการเทรด Forex การอ่านกราฟแท่งเทียนให้แตกฉานถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกราฟแท่งเทียนเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่คุณสามารถพบได้บนทุกแพลตฟอร์ม และเทรดเดอร์หลายคนสามารถทำกำไรก้อนโตจากฟอเร็กซ์โดยอาศัยเพียงการอ่านกราฟแท่งเทียนเพียงอย่างเดียว บทความนี้จะสอนวิธีการอ่านกราฟแท่งเทียนในการเทรด Forex หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์มือใหม่ทุกท่านนะครับ
placeholder
ตลาด Forex เปิดกี่โมง(เวลาไทย)และเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด Forexการประสบความสำเร็จในการเทรด Forex คุณจำเป็นจำต้องรักษาสมดุลระหว่างหลักการและกลยุทธ์ หากพยายามมองเกมในมุมสูงคุณอาจจะเห็นภาพรวม แต่ก็อาจจะตกมาเจ็บก็ได้ ดังนั้นการมองหลายๆ ด้านถือเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญของ VI โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวอย่าง “เวลา” ในการเปิดปิดของตลาด Forex ในแต่ละประเทศ ซึ่งหากคุณมองข้อได้เปรียบจากจุดนี้ออกคุณจะทราบช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำกำไรของคุณ และแน่นอนสำหรับเวลาที่เสี่ยงที่สุดที่คุณควรหลีกเลี่ยง เวลาในแต่ละตลาดจะต่างกันไปตามโซนทวีปซึ่งผลจะอธิบายโดยอ้างอิงตามเวลาไทยเพื่อความเข้าใจของผู้อ่าน นอกจากนี้เราจะไปติดตามผลกระทบของข่าวในตลาด Forex ว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างกำไรได้อย่างไรอีกด้วย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
การประสบความสำเร็จในการเทรด Forex คุณจำเป็นจำต้องรักษาสมดุลระหว่างหลักการและกลยุทธ์ หากพยายามมองเกมในมุมสูงคุณอาจจะเห็นภาพรวม แต่ก็อาจจะตกมาเจ็บก็ได้ ดังนั้นการมองหลายๆ ด้านถือเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญของ VI โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวอย่าง “เวลา” ในการเปิดปิดของตลาด Forex ในแต่ละประเทศ ซึ่งหากคุณมองข้อได้เปรียบจากจุดนี้ออกคุณจะทราบช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำกำไรของคุณ และแน่นอนสำหรับเวลาที่เสี่ยงที่สุดที่คุณควรหลีกเลี่ยง เวลาในแต่ละตลาดจะต่างกันไปตามโซนทวีปซึ่งผลจะอธิบายโดยอ้างอิงตามเวลาไทยเพื่อความเข้าใจของผู้อ่าน นอกจากนี้เราจะไปติดตามผลกระทบของข่าวในตลาด Forex ว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างกำไรได้อย่างไรอีกด้วย
placeholder
Forex เล่นยังไง? วิธีเทรด Forex สำหรับมือใหม่ 2567Forex เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีปริมาณการซื้อขายสูงชนิดหนึ่งของโลก ในปี 2566 ตลาด Forex มีปริมาณการซื้อขายหมุนเวียนต่อวันกว่า $6.6 ล้านล้าน ด้วยสภาพคล่องจำนวนมากและเครื่องมือในการเทรด Forex ที่หลากหลายจึงเปิดโอกาสให้นักเทรดหลากหลายกลุ่มเข้มาแสวงหากำไรจากตลาดนี้ได้ไม่ยาก คราวนี้เราจะจึงมาดูกันว่า Forex เล่นยังไง? และสำหรับนักเทรดทั่วไปจะมีวิธีเทรด Forex ได้อย่างไรบ้าง?
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 08 มิ.ย. 2023
Forex เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีปริมาณการซื้อขายสูงชนิดหนึ่งของโลก ในปี 2566 ตลาด Forex มีปริมาณการซื้อขายหมุนเวียนต่อวันกว่า $6.6 ล้านล้าน ด้วยสภาพคล่องจำนวนมากและเครื่องมือในการเทรด Forex ที่หลากหลายจึงเปิดโอกาสให้นักเทรดหลากหลายกลุ่มเข้มาแสวงหากำไรจากตลาดนี้ได้ไม่ยาก คราวนี้เราจะจึงมาดูกันว่า Forex เล่นยังไง? และสำหรับนักเทรดทั่วไปจะมีวิธีเทรด Forex ได้อย่างไรบ้าง?
placeholder
3 อันดับ Indicator Forex ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบทความนี้ เราขอแนะนำให้คุณอย่าตัดสินหนังสือด้วยหน้าปก เพราะเราจะหาคำอธิบายของ 3 อันดับ Indicator Forex ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เรารับรองว่าคุณจะเข้าใจวิธีการใช้ Indicator ได้แน่นอน หากคุณเริ่มสนใจแล้ว เรามาเริ่มกันเลย!
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มิ.ย. 2023
ในบทความนี้ เราขอแนะนำให้คุณอย่าตัดสินหนังสือด้วยหน้าปก เพราะเราจะหาคำอธิบายของ 3 อันดับ Indicator Forex ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เรารับรองว่าคุณจะเข้าใจวิธีการใช้ Indicator ได้แน่นอน หากคุณเริ่มสนใจแล้ว เรามาเริ่มกันเลย!
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์