Liquidity คืออะไร? ความสำคัญของสภาพคล่องในการซื้อขาย Forex
คำว่าสภาพคล่องหรือ liquidity คือองค์ประกอบหลักในตลาดการเงินทุกประเภทซึ่งรวมถึงตลาด Forex ด้วย แนวคิดของสภาพคล่องมักจะมีผลต่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนอยู่เสมอเนื่องจากมีความสำคัญในโลกการเงิน ดังนั้น สภาพคล่องคืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ สามารถอ่านต่อได้จากบทความนี้
Liquidity คืออะไร? เหตุใดจึงสำคัญ
คำว่า Liquidity คือ ประสิทธิภาพหรือความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ให้เป็นเงินสดพร้อมใช้ทันทีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาตลาดและสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากที่สุดคือเงินสด ดังนั้น เงินสดจึงมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวของตลาดเพราะเมื่อสินทรัพย์มีสภาพคล่องมากเท่าใด การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์กลับเป็นเงินสดก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม หากสินทรัพย์ใดมีสภาพคล่องที่น้อยกว่าการแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดก็อาจทำให้ใช้เวลาและมีต้นทุนสูงกว่า
Liquidity เป็นแนวคิดพื้นฐานของตลาดการเงินที่แสดงถึงระดับที่สินทรัพย์สามารถซื้อหรือขายได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องค่อนข้างน้อย เช่น อสังหาริมทรัพย์ งานวิจิตรศิลป์ และของสะสม ในขณะที่ประเภทสินทรัพย์ที่จัดว่ามีสภาพคล่องอยู่ในลำดับต้น ๆ ที่ล้วนสินทรัพย์ทางการเงินอื่น เช่น หุ้น ฟอเร็กซ์ เป็นต้น
Liquidity ในการซื้อขายฟอเร็กซ์คืออะไร
สำหรับ สภาพคล่อง (Liquidity )ในฟอเร็กซ์คือความสามารถของคู่สกุลเงินที่จะซื้อและขายในตลาดฟอเร็กซ์โดยไม่ส่งผลกระทบหลักต่ออัตราแลกเปลี่ยน เมื่อสกุลเงินสามารถซื้อและขายได้อย่างง่ายดายโดยอัตราแลกเปลี่ยนไม่มีความผันผวนมากนักจะถือว่าเป็นสกุลเงินที่มีสภาพคล่อง และเมื่อพูดถึงสภาพคล่องในการซื้อขาย ฟอเร็กซ์เรื่องของคู่สกุลเงินจึงมีความสำคัญ และแน่นอนว่าคู่สกุลเงินหลักมีสภาพคล่องมากที่สุดและคู่สกุลเงินเกิดใหม่มีสภาพคล่องน้อยที่สุด
ตัวอย่างคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่มีสภาพคล่องสูง
🔸 EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ): คู่ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์จึงทำให้มีสภาพคล่องมากที่สุด โดยคู่สกุลเงินทั้งสองนี้เป็นตัวแทนของสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
🔸 USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น): คู่นี้มีการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับสอง เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเป็นเศรษฐกิจของประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสาม และเงินเยนเป็นสกุลเงินสำรองที่สำคัญ คู่ USD/JPY ที่ขึ้นชื่อในเรื่องสภาพคล่องและสเปรดที่แคบ
🔸 GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ): คู่นี้แสดงถึงเศรษฐกิจที่สำคัญของสองประเทศ จุดเป็นคู่ที่มีสภาพคล่องสูง โดยเฉพาะในช่วงการซื้อขายของยุโรป
🔸 USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส): คู่นี้มีการซื้อขายกันสูง เนื่องจากฟรังก์สวิสถือเป็นสกุลเงิน “สวรรค์” มีสภาพคล่องสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
🔸 AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ): ออสเตรเลียมีเศรษฐกิจที่เน้นสินค้าโภคภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง และคู่ AUD/USD มักจะซื้อขายตามราคาทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ เป็นคู่ที่มีสภาพคล่องสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการซื้อขายในเอเชีย
ตัวอย่างคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่มีสภาพคล่องต่ำ
🔸 USD/SEK (ดอลลาร์สหรัฐ/โครนาสวีเดน): แม้ว่าสวีเดนจะมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่โครนาสวีเดนไม่ใช่สกุลเงินที่มีการซื้อขายกันโดยทั่วไป คู่นี้มีสภาพคล่องน้อยกว่าคู่หลักและมีสเปรดที่กว้างกว่า
🔸 GBP/ZAR (ปอนด์อังกฤษ/แรนด์แอฟริกาใต้): แรนด์แอฟริกาใต้ถือเป็นสกุลเงินที่แปลกใหม่ ปริมาณการซื้อขายลดลง และสเปรดสามารถครอบคลุมได้เนื่องจากความผันผวนของสกุลเงินและสภาพคล่องที่ลดลง
🔸 USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ/ลีราตุรกี): ลีราตุรกีค่อนข้างผันผวนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ เป็นผลให้คู่นี้มีสภาพคล่องน้อยลงและมีสเปรดที่กว้างได้
🔸 EUR/HUF (ยูโร/โฟรินท์ฮังการี): นี่เป็นอีกคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องน้อยกว่า โฟรินท์ฮังการีไม่ใช่สกุลเงินที่มีการเทรดมากจึงเกิดสเปรดที่กว้างกว่า
Liquidity ในฟอเร็กซ์จะเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน การเทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูงสุดคือเมื่อศูนย์การเงินทั่วโลกหลายแห่งเปิดใช้งาน เช่น การทับซ้อนกันระหว่างเซสชันลอนดอนและนิวยอร์ก ช่วงนี้ทำให้มั่นใจได้ถึงสภาพคล่องที่สูงขึ้นและโอกาสในการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
ความสำคัญของ Liquidity ในการซื้อขายฟอเร็กซ์
Liquidity มีความสำคัญในตลาดในฟอเร็กซ์เนื่องจากมีแนวโน้มช่วยลดความเสี่ยงของ slippage, ช่วยให้ดำเนินการตามคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้น และสเปรด รวมถึง bid-offer ที่แคบซึ่งหมายความว่าสามารถดำเนินการซื้อขายด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุดและใกล้กับราคาเข้าที่เทรดเดอร์ต้องการได้
เมื่อเทรดเดอร์ที่ดำเนินการเปิดตำแหน่งบ่อย ๆ จะช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมได้ สำหรับสถาบันที่มีการเทรดแต่ละครั้งในปริมาณมาก สภาพคล่องที่สูงจะทำให้สามารถดำเนินการตามคำสั่งซื้อจำนวนมากได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หากค่าเงินมีความผันผวนมากเกินไปสามารถส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศในสกุลเงินนั้น ๆ ได้ เช่น ขัดขวางนักลงทุน ส่งผลกระทบต่อความสมดุลของราคาสินค้าและบริการ เป็นต้น ในทางตรงกันข้ามเมื่อสกุลเงินมีสภาพคล่องสูงก็จะทำให้การเปลี่ยนแปลงของราคาเป็นไปโดยราบรื่นและสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้ง่ายขึ้น
ใครคือผู้ให้บริการสภาพคล่องในตลาดฟอเร็กซ์
ผู้ให้บริการสภาพคล่องคือโบรกเกอร์ในหลักทรัพย์หรือสถาบันซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องมืออาชีพ โดยทำงานที่ปลายทางทั้งสองด้านของธุรกรรมสกุลเงิน
ผู้เข้าร่วมในตลาดหลายประเภทจะมอบสภาพคล่องให้กับตลาดฟอเร็กซ์ที่จะเป็นการเพิ่มปริมาณสภาพคล่องของฟอเร็กซ์รวมถึงธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์และการลงทุนรายใหญ่ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ ผู้จัดการการลงทุนต่างประเทศ โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ผู้ค้าปลีก และบุคคลที่มีรายได้สุทธิสูง
ในฐานะผู้ให้บริการสภาพคล่องสามารถมีอิทธิพลต่อเสถียรภาพของราคา ได้มากขึ้น และยังทำให้สภาพคล่องมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยปกติแล้วผู้ให้บริการสภาพคล่องจะรับความเสี่ยงจำนวนมากแต่ยังคงสามารถทำกำไรจากสเปรดหรือโดยการวางตำแหน่งตัวเองได้
วิธีการวัดสภาพคล่องในตลาดฟอเร็กซ์
การวัดสภาพคล่องในตลาดฟอเร็กซ์อาจเป็นเรื่องยาก เพราะการทำธุรกรรมทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ดังนั้น เทรดเดอร์จึงใช้อินดิเคเตอร์หลายตัวเพื่อประเมินสภาพคล่องสัมพัทธ์ของคู่สกุลเงินด้วยวิธีการวัดดังต่อไปนี้
Bid-Ask และสเปรด
เป็นตัวบ่งชี้สภาพคล่องโดยตรง เพราะสเปรดที่แคบบ่งบอกถึงสภาพคล่องที่สูง ในขณะที่สเปรดที่กว้างบ่งบอกถึงสภาพคล่องที่ต่ำกว่า
ปริมาณ (Volume)
ปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่งสามารถบ่งบอกถึงสภาพคล่องที่สูง ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายที่ต่ำบ่งบอกถึงสภาพคล่องที่ต่ำลง โดยวิธีที่จะสามารถวัดสภาพคล่องด้วยปริมาณคือการเปรียบเทียบปริมาณของคู่สกุลเงินกับปริมาณในอดีตเพื่อวัดสภาพคล่องสัมพัทธ์ แทนที่จะเปรียบเทียบคู่สกุลเงินสองคู่ที่แตกต่างกัน
การเคลื่อนไหวของราคา
ในตลาดที่มีสภาพคล่องราคาจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่นโดยราคาจะไม่มีช่องว่างที่ชัดเจน ตรงกันกับหากตลาดมีสภาพคล่องต่ำมักมีความผันผวนแลมีช่องว่างของราคาที่ชัดเจน
ความลึกของตลาด (Market Depth)
ความลึกของตลาดแสดงปริมาณคำสั่งซื้อและขายในระดับราคาที่แตกต่างกัน เมื่อตลาดลึกบ่งชี้ว่ามีสภาพคล่องสูง ในขณะที่ตลาดตื้นบ่งชี้ว่ามีสภาพคล่องต่ำ
สภาพคล่องสูงและสภาพคล่องต่ำดูได้จากอะไร
ในการค้นหาสภาพคล่องในฟอเร็กซ์ เทรดเดอร์สามารถใช้อินดิเคเตอร์เพื่ออธิบายปริมาณการซื้อขายของสินทรัพย์นั้น ๆ และใช้ตัวบ่งชี้เพื่อระบุโซนสภาพคล่องของฟอเร็กซ์ซึ่งเทรดเดอร์มักเรียกกันว่าโซนอุปสงค์และอุปทาน
ตัวอย่างตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์สภาพคล่อง เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, โบลินเจอร์ แบนด์ หรือตัวบ่งชี้ปริมาณได้ ตัวชี้วัดเหล่านี้ยังสามารถใช้สำหรับการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาทะลุแนวรับ หรือแนวต้านที่มีแนวโน้มว่าจะมีกิจกรรมการซื้อขายในปริมาณมาก
ความแตกต่างระหว่างสภาพคล่องและความผันผวน
สภาพคล่องและความผันผวนเป็นสองแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญในตลาดฟอเร็กซ์ ความผันผวนหมายถึงจำนวนการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง โดยกิจกรรมการเทรดที่สูงกว่าปกติมักเรียกว่าตลาดที่มีความผันผวน ในขณะที่สภาพคล่องคืการแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสดในราคาตลาดปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย
ความผันผวนในตลาดฟอเร็กซ์
สำหรับความผันผวนของฟอเร็กซ์วัดความถี่ของการเปลี่ยนแปลงในราคาของสกุลเงิน ยิ่งความผันผวนของสกุลเงินสูงเท่าใด ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินนั้นในตลาดฟอเร็กซ์ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากคุณซื้อขายคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนสูง คุณก็จะได้รับผลตอบแทนที่เหลือเชื่อเช่นกันโดยที่:
คู่สกุลเงินหลักมีความผันผวนน้อยที่สุด
คู่สกุลเงินใหม่มีความผันผวนมากที่สุด
สภาพคล่องในตลาดฟอเร็กซ์
สำหรับสภาพคล่องในฟอเร็กซ์คือความสามารถของคู่สกุลเงินที่จะซื้อและขายในตลาดฟอเร็กซ์โดยไม่ส่งผลกระทบหลักต่ออัตราแลกเปลี่ยน เมื่อสกุลเงินถูกซื้อและขายได้อย่างง่ายดายโดยอัตราแลกเปลี่ยนไม่มีความผันผวนมากนักจึงจะถือว่าเป็นสกุลเงินที่มีสภาพคล่องโดยที่:
คู่สกุลเงินหลักมีสภาพคล่องมากที่สุด
คู่สกุลเงินใหม่มีสภาพคล่องน้อยที่สุด
ความเกี่ยวข้องกันระหว่างสภาพคล่องและความผันผวนของตลาดฟอเร็กซ์อาจกล่าวได้ว่า สภาพคล่องในตลาดฟอเร็กซ์จะส่งผลกระทบต่อราคาตลาดที่นำไปสู่ตลาดที่มีความผันผวนหรือไม่ผันผวน เมื่อสภาพคล่องในตลาดฟอเร็กซ์ต่ำก็จะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น และยังส่งผลให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดฟอเร็กซ์มีสภาพคล่องสูง ตลาดจะมีความผันผวนน้อยลง โดยที่ราคาคู่สกุลเงินจะไม่ผันผวนมากนัก และถือว่ามีเสถียรภาพและความเสี่ยงน้อย
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ Liquidity
Liquidity forex คือการที่ Liquidity อาจได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ตัวแปรต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนปริมาณการเทรดและสภาพคล่องของคู่สกุลเงินเฉพาะได้ ปัจจัยเหล่านี้สามารถนำไปสู่สภาพคล่องในตลาดสกุลเงินที่มีสภาพคล่องมากที่สุด เช่น
เวลาทำการของตลาด
ตลาดฟอเร็กซ์ดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ในเขตเวลาที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องไม่คงที่ในช่วงเวลาเหล่านี้ สภาพคล่องมีแนวโน้มสูงที่สุดในช่วงที่ทับซ้อนกันของช่วงตลาดหลัก ๆ โดยเฉพาะช่วงลอนดอนและนิวยอร์ก ในทางกลับกัน ในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน เช่น ช่วงปลายของสหรัฐฯ หรือช่วงต้นของเอเชียก็จะมีสภาพคล่องอาจค่อนข้างต่ำ
ข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์ต่างๆ
ข่าวสารเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสภาพคล่องของฟอเร็กซ์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่นำไปสู่และหลังจากการประกาศทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบสูง เช่น รายงานการจ้างงาน ข้อมูลเงินเฟ้อ หรือประกาศของธนาคารกลาง สภาพคล่องมักจะนิ่งระหว่างที่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการอย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากในภายหลัง การประกาศที่ส่งผลให้มีสภาพคล่องมากขึ้น
ความเชื่อมั่นของตลาด
ในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนหรือความผันผวนของตลาดสูง เช่น ในช่วงวิกฤตทางภูมิรัฐศาสตร์หรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เทรดเดอร์อาจลังเลที่จะเปิดตำแหน่ง สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ปริมาณการเทรดที่ลดลงและสภาพคล่องที่ลดลง ในทางกลับกัน อารมณ์เชิงบวกของตลาดที่เทรดเดอร์มีความมั่นใจและเต็มใจที่จะเทรดก็สามารถกระตุ้นกิจกรรมทางการตลาดและสภาพคล่องได้
สรุป
ตลาดฟอเร็กซ์เป็นที่ทราบกันดีว่ามีความผันผวนสูงแต่ก็สามารถทำกำไรให้ได้มากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นเป็นมือใหม่ที่พึ่งเริ่มต้นเทรดในตลาดนี้ การเริ่มต้นทำความเข้าใจว่า Liquidity คืออะไรและส่งผลต่อการเทรดของคุณได้อย่างไรจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก หนึ่งในคำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นเทรดในตลาดฟอเร็กซ์นั้นคือให้ลงทุนในสกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงและไม่ผันผวนมากจนเกินไป เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่าและผลกำไรที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังควรจับตาดูการอัปเดตข่าวสารของสกุลเงินที่คุณกำลังเทรดเป็นประจำเพื่อเข้าใจถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาพคล่องและความผันผวนเพื่อนำไปสู่การเทรดที่ประสบความสำเร็จ
1.ประโยชน์ของการเทรดในตลาดที่มีสภาพคล่องคืออะไร?
2.สภาพคล่องส่งผลต่อกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์อย่างไร?
3.มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพคล่องสูงหรือไม่?
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน