เลเวอเรจเยอะดีไหม?วิธีใช้เครื่องมือการลงทุนให้ได้ประโยชน์สูงสุด

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ อาจจะเจอคำว่า เลเวอเรจ (Leverage) บ่อยมาก โดยเฉพาะในการเทรด Forex หรือแม้แต่การเทรดน้ำมัน ทองคำ ดัชนี Bitcoin และสินทรัพย์อื่นๆ ก็เห็นมี เลเวอเรจ (Leverage) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย


แต่เลเวอเรจ (Leverage) คืออะไร?มีประโยชน์ต่อการเทรดของเราอย่างไรบ้าง?และที่สำคัญคือ เมื่อมีเลเวอเรจ(Leverage) เข้ามาเกี่ยวข้อง นักลงทุนจะคำนวณกำไรและขาดทุนได้อย่างไร? บทความนี้จะให้คำตอบของคำถามทั้งหมดนี้

Leverage (เลเวอเรจ) คืออะไร

เลเวอเรจ (Leverage) คือ การที่นักเทรดใช้เงินยืมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการลงทุนของตน เลเวอเรจช่วยให้ผู้เทรดสามารถควบคุมตำแหน่งที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนที่มีอยู่จริง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการลงทุนตลาดการเงินเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน


อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจต้องทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากแม้จะเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน เพราะหากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ก็อาจทำให้คุณสูญเสียเงินทั้งหมดได้ ดังนั้น การเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการทำงานของเลเวอเรจและการบริหารความเสี่ยงอย่างถ่องแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักลงทุนในตลาดการเงินทุกท่าน

ตัวอย่างการใช้เลอเวอเรจในตลาดทองคำ

ตัวอย่างการใช้เลอเวอเรจในตลาดทองคำ


จากตัวอย่างข้างต้นคือการเทรดทองคำด้วยการเทรดขาขึ้น ในกรณีนี้คือการลงทุนด้วยราคา 1,530 USD และคุณคิดว่าราคาทองคำจะเพิ่มสูงขึ้น จากนั้นคุณเลยตัดสินใจซื้อทองคำทำให้คุณมีโอกาสได้กำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคา 


และด้วยการเทรดจาก “เลเวอเรจ” คุณยังสามารถเทรดผลิตภัณฑ์ทางการเงินด้วยเงินทุนเป็นเท่าโดยการจ่ายมาร์จิ้นที่กำหนดไว้แทนที่จ่ายเงินลงทุนทั้งหมด จากตัวอย่างก็คือ หากคุณเทรดโดยไม่ใช้เลเวอเรจคุณจะได้กำไรจากการเทรดนี้เพียง 20 USD ในทางตรงข้ามหากคุณเทรดด้วยเลเวอเรจ 100 เท่า กำไรจากการคาดการณ์ของคุณจะเปลี่ยนจาก 20 USD เป็น 2,000 USD


ตัวอย่างการใช้เลอเวอเรจในตลาดคริปโต


ตัวอย่างการใช้เลอเวอเรจในตลาดคริปโต


การใช้เลเวอเรจในตลาดคริปโตช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่กว่าด้วยเงินทุนจำนวนน้อยกว่าได้ อย่างที่เราทราบกันดีว่าเลเวอเรจสามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน


สมมติว่าคุณมีเงิน 1,000 ดอลลาร์ในบัญชีของคุณและต้องการเทรด Bitcoin (BTC) ด้วยเลเวอเรจ 10 เท่า (10:1)


กรณีที่ไม่ใช้เลเวอเรจ

หากคุณใช้เงิน 1,000 ดอลลาร์เพื่อซื้อ BTC ที่ราคา 50,000 ดอลลาร์  และต่อมา BTC เพิ่มขึ้น 10% เป็น 55,000 ดอลลาร์ 


ดังนั้น ตอนนี้บัญชีของคุณก็จะมีมูลค่า 1,100 ดอลลาร์ ทำให้มีกำไร 100 ดอลลาร์


ในกรณีที่ใช้เลเวอเรจ 10 เท่า

เงิน 1,000 ดอลลาร์ของคุณทำหน้าที่เป็นหลักประกัน และด้วยเลเวอเรจ 10 เท่า คุณจะควบคุมตำแหน่งที่ราคา 10,000 ดอลลาร์ได้


หาก BTC ขึ้น 10% เป็น 55,000 ดอลลาร์ สถานะบัญชีของคุณก็จะมีมูลค่า 11,000 ดอลลาร์ทำให้คุณได้กำไร 1,000 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 100%) 


อย่างไรก็ตาม หาก BTC ลดลง 10% เป็น 45,000 ดอลลาร์ สถานะของคุณก็จะมีมูลค่า 9,000 ดอลลาร์ และคุณจะสูญเสียมาร์จิ้นมากถึง 1,000 ดอลลาร์

mitrade    
💸 ห้ามพลาด!!! 💸    
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁    

เทรดด้วยเลเวอเรจสูงถึง 1:200  
ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50🤑     
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

ความเสี่ยงของเลเวอเรจในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

แม้ว่าเลเวอเรจอาจนำไปสู่ผลกำไรจำนวนมากหากการลงทุนของคุณดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการสูญเสียจำนวนมากหากมูลค่าการลงทุนลดลงได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้การจัดการเลเวอเรจอย่างเหมาะสมมีความสำคัญในการหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินอย่างยิ่งที่อาจกล่าวได้ว่า เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพแต่มีความเสี่ยงในกลยุทธ์ทางการเงินเช่นกัน มาดูว่ามีความเสี่ยงที่เราควรพิจารณาอะไรบ้าง


1. การขาดทุนอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากเลเวอเรจเพิ่มปริมาณของตำแหน่งที่ควบคุม การเคลื่อนไหวของตลาดที่ตรงกันข้ามกับทิศทางที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้สามารถนำไปสู่การขาดทุนที่สูงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเกินกว่าทุนเริ่มต้นที่ลงทุนไป


2.การเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call)

หากมูลค่าของตำแหน่งที่เปิดด้วยเลเวอเรจลดลงจนถึงระดับหนึ่ง นักลงทุนอาจต้องเผชิญกับการเรียกเพิ่มทุน ซึ่งเป็นการแจ้งให้นักลงทุนเพิ่มเงินหลักประกันเพื่อรักษาระดับของตำแหน่งที่เปิดอยู่ หากไม่สามารถเพิ่มทุนได้ ตำแหน่งอาจถูกปิดโดยอัตโนมัติ


3. ความผันผวนของตลาด

ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง การเคลื่อนไหวของราคาอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด ทำให้เลเวอเรจเพิ่มความเสี่ยงให้กับนักลงทุน


4. ความเสี่ยงในการตัดสินใจ

เนื่องจากเลเวอเรจมีศักยภาพในการขยายผลขาดทุน การตัดสินใจที่ไม่ดีอาจนำไปสู่ผลเสียที่มีขนาดใหญ่ การวิเคราะห์ที่ไม่เพียงพอหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจทำให้เกิดการขาดทุนในวงกว้าง


5. ความเสี่ยงด้านจิตวิทยา

การใช้เลเวอเรจสูงอาจส่งผลต่อจิตวิทยาของนักลงทุน ทำให้เกิดความเครียดและการตัดสินใจที่ขาดการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ


การใช้เลเวอเรจนั้นต้องใช้ความระวังและการพิจารณาอย่างรอบคอบเสมอ หากคุณเป็นมือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยการใช้เลเวอเรจเพียงเล็กน้อยเพื่อลดความเสี่ยง ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่ากลยุทธ์การลงทุนของคุณจะประสบความสำเร็จหลายครั้ง แต่การเคลื่อนไหวที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียทั้งหมดได้ 


ตัวอย่างเช่น การเทรดด้วยเลเวอเรจ 500  จะช่วยให้คุณทำกำไรได้ 500 เท่า และเมื่อคุณคาดการณ์ถูกต้องอย่างต่อเนื่องก็สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คุณควรกระจายการลงทุนและหลีกเลี่ยงการตั้งค่าเลเวอเรจเกินตัวกว่าที่คุณจะแบกรับความเสี่ยงทั้งหมดได้ที่อาจเริ่มจากการเริ่มจากการลงทุนทีละน้อยและใช้ตัวคูณที่ต่ำก่อน เพราะแม้ว่าคุณจะคาดการณ์ได้ถูกต้อง 100 ครั้ง แต่คาดการณ์ผิดเพียงครั้งเดียวก็สามารถสูญเสียเงินทั้งหมดไปได้


ดังนั้น จงอย่าลืมว่าการใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวังและรอบคอบจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้ในขณะที่ลดความเสี่ยงของการสูญเสียครั้งใหญ่

ประโยชน์ของเลเวอเรจ

การลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินด้วยเลเวอเรจมีประโยชน์ที่น่าสนใจมากมาย หนึ่งในข้อดีเด่นๆมีดังต่อไปนี้


1.เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของเลเวอเรจคือศักยภาพในการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน เพราะการใช้เลเวอเรจช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงเงินทุนที่เกินกว่าทุนของตนเอง ทำให้สามารถลงทุนในโอกาสต่างๆ ที่อาจพลาดไปได้


2.ต้นทุนเงินทุนที่ต่ำลง

ศักยภาพในการลดต้นทุนเงินทุน และการใช้เลเวอเรจสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้ เนื่องจากกำไรนั้นมาจากเงินทุนจำนวนมากขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินโดยรวมได้อย่างมาก


3.การกระจายความเสี่ยง

เลเวอเรจยังสามารถใช้ในการกระจายพอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์ของคุณซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในลาดใดตลาดหนึ่งได้ และด้วยการใช้เลเวอเรจที่ถูกต้องอาจช่วยเพิ่มผลตอบแทนโดยรวมได้


4.เพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุน

เลเวอเรจยังสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการลงทุนของคุณได้อีกด้วย เพราะการใช้เลเวอเรจช่วยครอบคลุมต้นทุนปัจจุบันและจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การลงทุนของคุณสามารถดำเนินการต่อไปได้ยาวนานมากขึ้นและยังช่วยให้การลงทุนของคุณเติบโตและมีสภาพคล่องมากขึ้นได้


5.ฝึกฝนการจัดการเงินทุน

ในที่สุด เลเวอเรจจะช่วยฝึกทักษะการจัดการเงินทุนของคุณให้ชำนาญมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยการควบคุมเงินทุนดั้งเดิมของคุณ รวมทั้งการเลือกใช้เลเวอเรจที่สัมพันธ์กับเป้าหมายการลงทุนของคุณจะยิ่งทำให้คุณเชี่ยวชาญดานการจัดการเงินทุนในการลงทุนผลิตภัณฑ์การเงินได้ดีมากขึ้น

ฉันควรใช้เลเวเรจหรือไม่

เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการซื้อขายฟอเร็กซ์ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นและเพิ่มผลกำไรได้ อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจมาพร้อมกับความเสี่ยงเช่นกันและอาจเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการสูญเสียจำนวนมาก


ดังนั้น การเลือกระดับเลเวอเรจที่เหมาะสมถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ เทรดเดอร์ที่ไม่ค่อยมั่นใจหรือมือใหม่ในการซื้อขายฟอเร็กซ์อาจเลือกใช้เลเวอเรจที่ต่ำ เช่น 4:1, 5:1 ในขณะเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์อาจใช้เลเวอเรจที่สูงกว่า เช่น 50:1 หรือ 100:1 แต่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและไม่ตัดสินใจเทรดตามอารมณ์

ความแตกต่างระหว่างมาร์จิ้นและเลเวอเรจ

การเข้าใจความแตกต่างระหว่างมาร์จิ้นและเลเวอเรจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักเทรดในตลาด Forex ทั้งสองคำนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด แต่มีความหมายที่แตกต่างกัน:



มาร์จิ้น (Margin)เลเวอเรจ (Leverage)
ความหมายเงินที่นักลงทุนจำเป็นต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เพื่อเป็นหลักประกันสำหรับการเปิดตำแหน่งเทรดเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่เล็กลง
วัตถุประสงค์ทำหน้าที่เป็นเงินประกันเพื่อรักษาตำแหน่งเปิดตัวช่วยขยายทั้งกำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
การแสดงผลแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ (เช่น 1%, 5%, 10%)แสดงเป็นอัตราส่วน (เช่น 1:50, 1:100, 1:500)
ผลกระทบต่อการซื้อขายกำหนดเงินทุนขั้นต่ำที่จำเป็นในการเข้าสู่การค้าขายกำหนดว่าเทรดเดอร์สามารถควบคุมเงินทุนได้เท่าใดโดยขึ้นอยู่กับมาร์จิ้นของตน
ปัจจัยด้านความเสี่ยงช่วยป้องกันความเสี่ยงที่มากเกินไปโดยการกำหนดให้มียอดคงเหลือขั้นต่ำความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้เลเวอเรจที่สูงขึ้นหมายถึงการเปิดรับความเสี่ยงต่อความเคลื่อนไหวของราคาที่มากขึ้น
ตัวอย่างมาร์จิ้น 1% หมายความว่าคุณต้องฝากเงิน 1,000 ดอลลาร์เพื่อซื้อขายตำแหน่ง 100,000 ดอลลาร์เลเวอเรจ 1:100 ช่วยให้คุณได้กำไร 100,000 ดอลลาร์ด้วยเงินลงทุนเพียง 1,000 ดอลลาร์เท่านั้น


  • มาร์จิ้น (Margin)

มาร์จิ้นคือเงินที่เทรดเดอร์ต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เป็นหลักประกันเพื่อเปิดการซื้อขาย มาร์จิ้นเป็นเปอร์เซ็นต์เล็กน้อยของขนาดการซื้อขายทั้งหมด ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่กว่าได้ หากการซื้อขายเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ตรงข้ามกับเทรดเดอร์ เทรดเดอร์อาจต้องเพิ่มเงินเพื่อให้ตำแหน่งนั้นเปิดอยู่


  • เลเวอเรจ (Leverage)

เลเวอเรจคือการกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดของการซื้อขาย โดยแสดงเป็นอัตราส่วน (เช่น 1:50 หรือ 1:100) ซึ่งหมายความว่าเงินฝากจำนวนเล็กน้อยสามารถควบคุมการซื้อขายที่ใหญ่กว่าได้มาก แม้ว่าเลเวอเรจจะช่วยเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการสูญเสียเงินด้วยเช่นกัน


ความแตกต่างโดยสรุปคือ มาร์จิ้นเปรียบเสมือนเงินฝากที่ปลอดภัยซึ่งช่วยให้ซื้อขายโดยใช้เลเวอเรจได้ ในขณะที่เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่ขยายทั้งกำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น ผู้ซื้อขายต้องใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง


กล่าวโดยสรุปแล้วเลเวอเรจ เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังซึ่งสามารถทำให้ผลตอบแทนในการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากแต่ก็ยังเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนอย่างมากด้วย ดังนั้น การใช้งานอย่างมีความรู้คือกุญแจสำคัญในการนำเลเวอเรจไปใช้ในการลงทุนในตลาดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ



*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
8 โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2025คราวนี้เราได้รวบรวมลิสต์โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2025 มาไว้เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น!
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 19 พ.ค. 2023
คราวนี้เราได้รวบรวมลิสต์โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2025 มาไว้เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น!
placeholder
วิธีอ่านกราฟแท่งเทียนในการเทรด Forex สำหรับมือใหม่หากคุณต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในการเทรด Forex การอ่านกราฟแท่งเทียนให้แตกฉานถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกราฟแท่งเทียนเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่คุณสามารถพบได้บนทุกแพลตฟอร์ม และเทรดเดอร์หลายคนสามารถทำกำไรก้อนโตจากฟอเร็กซ์โดยอาศัยเพียงการอ่านกราฟแท่งเทียนเพียงอย่างเดียว บทความนี้จะสอนวิธีการอ่านกราฟแท่งเทียนในการเทรด Forex หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์มือใหม่ทุกท่านนะครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 26 ก.ค. 2023
หากคุณต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในการเทรด Forex การอ่านกราฟแท่งเทียนให้แตกฉานถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกราฟแท่งเทียนเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่คุณสามารถพบได้บนทุกแพลตฟอร์ม และเทรดเดอร์หลายคนสามารถทำกำไรก้อนโตจากฟอเร็กซ์โดยอาศัยเพียงการอ่านกราฟแท่งเทียนเพียงอย่างเดียว บทความนี้จะสอนวิธีการอ่านกราฟแท่งเทียนในการเทรด Forex หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์มือใหม่ทุกท่านนะครับ
placeholder
เทรด forex โบรกไหนดี?10 อันดับโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือในปี 2025คราวนี้เรามาชวนคุยเรื่องโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ และนำเสนอ 10 อันดับโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือให้เพื่อน ๆ ได้ลองพิจารณากัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 01 มิ.ย. 2023
คราวนี้เรามาชวนคุยเรื่องโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ และนำเสนอ 10 อันดับโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือให้เพื่อน ๆ ได้ลองพิจารณากัน
placeholder
ตลาด Forex เปิดกี่โมง(เวลาไทย)และเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด Forexการประสบความสำเร็จในการเทรด Forex คุณจำเป็นจำต้องรักษาสมดุลระหว่างหลักการและกลยุทธ์ หากพยายามมองเกมในมุมสูงคุณอาจจะเห็นภาพรวม แต่ก็อาจจะตกมาเจ็บก็ได้ ดังนั้นการมองหลายๆ ด้านถือเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญของ VI โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวอย่าง “เวลา” ในการเปิดปิดของตลาด Forex ในแต่ละประเทศ ซึ่งหากคุณมองข้อได้เปรียบจากจุดนี้ออกคุณจะทราบช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำกำไรของคุณ และแน่นอนสำหรับเวลาที่เสี่ยงที่สุดที่คุณควรหลีกเลี่ยง เวลาในแต่ละตลาดจะต่างกันไปตามโซนทวีปซึ่งผลจะอธิบายโดยอ้างอิงตามเวลาไทยเพื่อความเข้าใจของผู้อ่าน นอกจากนี้เราจะไปติดตามผลกระทบของข่าวในตลาด Forex ว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างกำไรได้อย่างไรอีกด้วย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
การประสบความสำเร็จในการเทรด Forex คุณจำเป็นจำต้องรักษาสมดุลระหว่างหลักการและกลยุทธ์ หากพยายามมองเกมในมุมสูงคุณอาจจะเห็นภาพรวม แต่ก็อาจจะตกมาเจ็บก็ได้ ดังนั้นการมองหลายๆ ด้านถือเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญของ VI โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวอย่าง “เวลา” ในการเปิดปิดของตลาด Forex ในแต่ละประเทศ ซึ่งหากคุณมองข้อได้เปรียบจากจุดนี้ออกคุณจะทราบช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำกำไรของคุณ และแน่นอนสำหรับเวลาที่เสี่ยงที่สุดที่คุณควรหลีกเลี่ยง เวลาในแต่ละตลาดจะต่างกันไปตามโซนทวีปซึ่งผลจะอธิบายโดยอ้างอิงตามเวลาไทยเพื่อความเข้าใจของผู้อ่าน นอกจากนี้เราจะไปติดตามผลกระทบของข่าวในตลาด Forex ว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างกำไรได้อย่างไรอีกด้วย
placeholder
Forex เล่นยังไง? วิธีเทรด Forex สำหรับมือใหม่ 2568Forex เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีปริมาณการซื้อขายสูงชนิดหนึ่งของโลก ในปี 2567 ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 7.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยสภาพคล่องจำนวนมากและเครื่องมือในการเทรด Forex ที่หลากหลายจึงเปิดโอกาสให้นักเทรดหลากหลายกลุ่มเข้ามาแสวงหากำไรจากตลาดนี้ได้ไม่ยาก
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 08 มิ.ย. 2023
Forex เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีปริมาณการซื้อขายสูงชนิดหนึ่งของโลก ในปี 2567 ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 7.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยสภาพคล่องจำนวนมากและเครื่องมือในการเทรด Forex ที่หลากหลายจึงเปิดโอกาสให้นักเทรดหลากหลายกลุ่มเข้ามาแสวงหากำไรจากตลาดนี้ได้ไม่ยาก
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์