บัญชีเทรดแบบ ECN คืออะไร? เลือกบัญชี ECN โบรกไหนดี?

ดำดิ่งสู่อนาคตของ Forex ด้วยการซื้อขายแบบ ECN! เครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ECN เชื่อมต่อเทรดเดอร์กับผู้ให้บริการสภาพคล่องระดับโลกโดยตรง ด้วยการเสนอการดำเนินการแบบเรียลไทม์ ความโปร่งใส และสเปรดที่เข้มงวดยิ่งขึ้น มาทำความรู้จักกับ ECN และเริ่มเทรดตอนนี้กันเลย

ECN คืออะไร?

คำว่า ECN ย่อมาจาก Electronic Communication Network โดย ECN คือ หนึ่งในประเภทบัญชีของ Forex ที่เทรดเดอร์สามารถส่งคำสั่ง ซื้อ-ขาย เข้าไปยังตลาดโดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านโบรกเกอร์ตัวกลาง สร้างความได้เปรียบให้กับนักลงทุนในหลาย ๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็น การทำกำไรจากตลาดฟอเร็กซ์ที่ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาดในการส่งคำสั่งซื้อ ค่าธรรมเนียมถูกลง สามารถตรวจสอบและติดตามสถานะได้ทั้ง 24 ชั่วโมง

การเทรดในตลาด Forex ด้วยบัญชี ECN ถือเป็นการใช้เครือข่ายการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้ เพราะเป็นกลไกที่นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ผ่านระบบศูนย์กลางที่กำกับดูแลโดยโปรโตคอลอย่างเข้มงวด ลดปัญหาการทุจริตโดยโบรกเกอร์ ไม่ต้องเสี่ยงลงทุนผ่านระบบที่มีตัวกลางอีกต่อไป

ที่มาของ ECN

เครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ (ECN) ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 โดยเริ่มจากในการปฏิวัติการพัฒนาในตลาดการเงินช่วงทศวรรษ 1990 เพราะ ตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิมเผชิญกับข้อจำกัด เช่น ความล่าช้าและความไร้ประสิทธิภาพในการดำเนินการซื้อขาย ECN แก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยการสร้างแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์แบบกระจายอำนาจที่เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง 

การเกิดขึ้นของ ECN ไม่เพียงแต่ทำให้กระบวนการซื้อขายคล่องตัวขึ้นเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งความโปร่งใสด้วยการแสดงข้อมูลคำสั่งซื้อขายแบบเรียลไทม์ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเปลี่ยนกระบวนทัศน์เพื่อเคลื่อนไปสู่อีกกระบวนทัศน์หนึ่ง ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกการซื้อขายให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมและมีการแข่งขันมากขึ้น

ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า ECN ก็ขยายออกไปนอกเหนือจากตลาดตราสารทุนไปสู่ตลาดการเงินอื่น ๆ โดยเฉพาะตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) Forex ECN เช่น Reuters Matching และ EBS (Electronic Broking Services) ได้เปลี่ยนแปลงการซื้อขายสกุลเงินโดยให้การเข้าถึงสภาพคล่องระหว่างธนาคารได้โดยตรง 

วิวัฒนาการเหล่านี้ทำให้ตลาดฟอเร็กซ์เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น จึงทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงราคาที่ดีที่สุดได้ และเพิ่มความสมบูรณ์ของตลาดโดยรวม ดังนั้น ด้วยประวัติความเป็นมาของ ECN เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในการปรับเปลี่ยนระบบการเงินแบบดั้งเดิมอย่างชัดเจน

หลักการทำงานของ ECN

ระบบเครือข่ายถูกสร้างขึ้นเพื่อเข้ามาลดอุปสรรคและข้อจำกัดด้านการลงทุนในมิติต่างๆ เนื่องจากปกติแล้ว เทรดเดอร์จะต้องทำธุรกรรมผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสและเพิ่มค่าธรรมเนียมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำงานของ Electronic Communication Network จะไม่ใช้ตัวกลาง สามารถส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดเงินได้ด้วยตัวเอง ในขณะที่ข้อมูลการสั่งยังว่างอยู่ ระบบจะแสดงราคาเสนอสูงสุดและราคาซื้อต่ำสุดแบบเรียลไทม์ ดังนั้น ECN จึงเข้ามามีบทบาทและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเทรดเดอร์ได้หลายอย่าง อาทิ 

• ECN ช่วยให้ลูกค้าเข้าสู่ตลาด forex และจับคู่สกุลเงินกับการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว

• ECN ทำหน้าที่เสนอราคาที่แตกต่างกันให้กับเทรดเดอร์ ด้วยชุดข้อมูลที่ดีที่สุดในตลาด

• ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด เป็นผู้ป้อนการซื้อขายลงบนเซิร์ฟเวอร์ ECN เพื่อทำให้ราคาเหล่านั้นพร้อมใช้สำหรับนักลงทุนในแต่ละวัน

ECN เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่แสดงราคาเสนอที่ดีที่สุดและเชื่อมต่อราคาจากผู้เข้าร่วมตลาดหลายราย จากนั้นจับคู่และดำเนินการตามคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติ ECN ไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกในการซื้อขายในการแลกเปลี่ยนหลักในช่วงเวลาทำการของตลาดเท่านั้น แต่ยังใช้สำหรับการซื้อขายนอกเวลาทำการและการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศหรือ ฟอเร็กซ์ได้อีกด้วย  ดังนั้นมาดูความเกี่ยวข้องกันระหว่าง ECN และตลาดฟอเร็กซ์ในหัวข้อนี้เลย

ตลาดฟอเร็กซ์ คืออะไร?

ฟอเร็กซ์ หรือ Foreign Exchange คือ ตลาดที่นักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากการแลกเปลี่ยนเงินตราที่ผันแปรไปตาม Demand และ Supply ได้ในแต่ละวัน ด้วยทิศทางของราคาที่สร้างผลตอบแทนได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ซึ่งจะต้องศึกษาการอ่อนค่าและแข็งค่าของสกุลเงินที่นำมาเปรียบเทียบ เช่น แลกเงิน บาท (BAHT) ไปเป็นเงิน ดอลลาร์ (USD) เป็นต้น มันจึงสำคัญมากๆ ที่คุณจะต้องศึกษา อัตราเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำ สภาพเศรษฐกิจ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในต่างประเทศ

การเทรดแบบ ECN ในตลาดฟอเร็กซ์

การเทรดแบบ ECN จะใช้แพลตฟอร์มการซื้อขาย MT4 หรือ MT5 เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้จากตลาดฟอเร็กซ์ โดยปริมาณการซื้อขายต่อวันจะอยู่ราวๆ 6.6  ล้านล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า Forex จึงกลายเป็นตลาดที่มีการซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดให้ทำการซื้อขายตลอดทั้ง 5 วัน 24 ชั่วโมง ซึ่ง ECN ก็กลายเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความปลอดภัยด้วยโปรโตคอลที่มีความมั่นคงสูง

ดัชนีหุ้น NASDAQ คือตัวอย่างการซื้อขายที่ดีที่สุดแบบ ECN จากผู้ดูแลสภาพคล่องที่เปิดให้เทรดตั้งแต่บุคคลทั่วไปและบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ต้องผ่านการตรวจคุณสมบัติเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถอำนวยความสะดวกและรองรับการซื้อขายในแบบ ECN ได้จริง 

จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่าการเชื่อมต่อโดยตรงกับตลาดระหว่างธนาคาร ทำให้คุณพบกับการดำเนินการตามคำสั่งซื้อขายได้ทันทีและความโปร่งใสในการกำหนดราคาแบบเรียลไทม์ เมื่อคุณเทรด NASDAQ ด้วยระบบ ECN จะจับคู่คำสั่งซื้อของคุณกับคู่สัญญาได้อย่างราบรื่น โดยไม่จำเป็นต้องมีโบรกเกอร์แบบเดิม การเข้าถึงโดยตรงนี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดสเปรดให้เหลือน้อยที่สุด ช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนของคู่สกุลเงินที่จดทะเบียนใน NASDAQ ด้วยความเร็วและประสิทธิภาพ

โดยค่า Spread จะเป็นผลต่างระหว่างราคา Bid และ ราคา Ask ที่อ้างอิงตามเครื่องมือทางการเงินที่เลือกใช้งาน ซึ่งเพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ ค่าสเปรดจะมีหน่วยที่แสดงเป็นpips pips เพื่อใช้อธิบายการเปลี่ยนแปลงของราคา เช่น ราคา Bid ที่ 1.11115 และ ราคา Ask ที่ 1.11121 ค่าสเปรดจพเท่ากับ 0.00006 หรือ 0.6 pips นั่นเอง

การเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์เพื่อซื้อขายอัตราการแลกเปลี่ยนใน Forex ถือเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญ เทรดเดอร์ต้องประเมินถึงข้อดีและข้อจำกัด เปรียบเทียบว่าตัวเลือกไหนที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณมากที่สุด ซึ่งในรีวีวนี้ เราจะพาไปเช็ค 2 ประเภทบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อย่าง ECN และ STP

ECN คือ โบรกเกอร์ที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงระบบการเทรดเงินตราระหว่างประเทศ เป็นเสมือนนายหน้าที่นำเสนอโซลูชั่นและฟีเจอร์สำหรับตลาด Forex ที่ครบสมบูรณ์แบบมากที่สุด ด้วยระบบ Electronic Communication Network เครือข่ายที่จับคู่คำสั่งซื้อหลักทรัพย์ในตลาดโดยอัตโนมัติ มีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อนักลงทุนในพื้นที่ต่างๆ ต้องการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้บุคคลที่สาม

โบรกเกอร์ ECN ถือเป็นนวัตกรรมด้านการลงทุนอันดับต้นๆ ที่ผู้ใช้งานทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เป็นเครือข่ายที่เปิดใช้งานเลเวอเลจ (Leverage) ใช้ค่าสเปรดที่น้อยมากๆ นำเสนอจุดเด่นด้วยการซื้อขายที่รวดเร็วและโปร่งใสที่สุด เรียกว่าเป็นศูนย์กลางแห่งความมั่งคั่งที่มีเม็ดเงินหมุนเสียนในตลาดอย่างมหาศาล

ตัวอย่างการเทรดแบบ ECN

ทุกวันนี้การเทรดแบบ ECN ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์ที่อัดแน่นไปด้วยหุ้นตัวใหญ่ๆ ที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งโบรกเกอร์ที่รองรับการเปิดบัญชีแบบ ECN ก็จะมี Instinet, SelectNet และ NYSE Arca ซึ่งจากข้อมูลพบว่า การเปิดบัญชีแบบ ECN เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1996 เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมระหว่างสถาบัน

ดัชนีหุ้น NASDAQ คือตัวอย่างการซื้อขายที่ดีที่สุดแบบ ECN จากผู้ดูแลสภาพคล่องที่เปิดให้เทรดตั้งแต่บุคคลทั่วไปและบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ต้องผ่านการตรวจคุณสมบัติเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถอำนวยความสะดวกและรองรับการซื้อขายในแบบ ECN ได้จริง 

โบรกเกอร์ ECN มีข้อดีหลายประการที่จะช่วยให้คุณเทรดฟอเร็กซ์ได้อย่างราบลื่น ซึ่งนอกจากระบบการบริหารที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือแล้ว ECN ยังสร้างความประทับใจด้วยโซลูชั่นการลงทุนที่เทรดเดอร์จากทั่วโลกให้การยอมรับ ไม่ว่าจะเป็น

1. ระบบการเทรดที่รักษาความเป็นส่วนตัวสูง

ECN ออกแบบระบบการเทรดที่เน้นความเป็นส่วนตัวของนักลงทุนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ใช้ลงทะเบียน ประวัติการทำธุรกรรม และความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ทุกๆ อย่างจะถูกดูแลโดยระบบหลังบ้านที่ทันสมัย พร้อมฝ่ายบริการลูกค้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

2. ความรวดเร็วในการซื้อขาย

จุดเด่นของ ECN คือระบบการส่งคำสั่งซื้อที่รวดเร็ว ไม่มีดีเลย์ จากคอนเซ็ปท์การทำงานที่ไร้ตัวกลาง ทำให้ Electronic Communication Network จับคู่คำสั่งซื้อแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องรอการตรวจสอบหรืออนุมัติหลายขั้นตอน

3. ลดปัญหาด้าน Requote

การเทรดด้วย ECN จะลดปัญหาด้านการ Requote แทบจะ 100% ซึ่งการรีโควท คือสถานการณ์ที่คุณเปิดคำสั่งซื่อขาย แต่ระบบไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยอาจแจ้งในภายหลังว่าเส้นราคานั้นมีการเปลี่ยนแปลงใหม่

4. การเชื่อมต่อที่สม่ำเสมอ

โบรกเกอร์ ECN มีการเชื่อมต่อบัญชีซื้อขายกับ Forex แบบเรียลไทม์ ใช้ระบบหลังบ้านที่ค่อนข้างเสถียร มีประสิทธิภาพ รับส่งสัญญาณผ่านเครือข่ายที่แข็งแกร่ง

5. ง่ายต่อการเข้าถึง เงื่อนไขน้อย

ไม่ว่าใครก็สามารถเปิดบัญชีซื้อขายกับ ECN ได้ทั้งนั้น แม้จะกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำ แต่นักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์และเครื่องมืออินดิเคเตอร์หลากหลายชนิด มีความโปร่งใส เข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ซื้อขายในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง

การเทรด Forex ด้วยบัญชี ECN นับเป็นทางเลือกที่จะเซฟค่าใช้จ่ายจากการลงทุนได้มากที่สุด เพราะอย่างที่หลายๆ คนรู้ดี ค่าธรรมเนียมจากตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตรานั้นค่อนข้างสูง มีการคำนวณและเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากหลายๆ ช่องทาง แต่นั้นไม่ใช่สำหรับ ECN จากนโยบายที่กำหนดค่าสเปรด (Spread) ไว้ค่อนข้างต่ำ แตกต่างจากโบรกเกอร์ในยุคก่อนๆ ที่มุ่งทำรายได้จากค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนต้องจ่ายในอัตราที่สูง

โดยค่า Spread จะเป็นผลต่างระหว่างราคา Bid และ ราคา Ask ที่อ้างอิงตามเครื่องมือทางการเงินที่เลือกใช้งาน ซึ่งเพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ ค่าสเปรดจะมีหน่วยที่แสดงเป็นปิ๊ป เพื่อใช้อธิบายการเปลี่ยนแปลงของราคา เช่น ราคา Bid ที่ 1.11115 และ ราคา Ask ที่ 1.11121 ค่าสเปรดจพเท่ากับ 0.00006 หรือ 0.6 ปิ๊ปนั่นเอง

เพราะ Electronic Communication Network จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายในแต่ละครั้ง เทรดเดอร์ต้องมีเงินก้อนในการเปิดบัญชีซื้อขาย โดยทั่วไปแล้วสเปรดจะถูกปรับให้อยู่ในระดับที่ต่ำ แต่ถ้าปริมาณการซื้อขายในตลาดค่อนข้างสูง ค่าคอมมิชั่นที่เรียกเก็บก็จะสูงตามไปด้วย

ต่อไปนี้คือข้อจำกัดของบัญชี ECN ที่น่าสนใจ

• โบรกเกอร์จะเก็บค่าคอมมิชชั่นในเรทที่คงที่ เก็บทุกครั้งที่ทำการซื้อขาย ดังนั้นต้องวางแผนการลงทุนในระยะยาวให้ดีๆ

• สเปรดค่อนข้างผันผวน จากราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักลงทุนทำการเทรดในช่วงที่ซ้อนทับกัน

• ความเสี่ยงในการดำเนินการก็ยังคงมีอยู่ เพราะถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นการลงทุนเมื่อไหร่ เทรดเดอร์จะต้องรับเมื่อกับความเสี่ยงในทุกๆ สถานการณ์

การเทรดแบบ ECN ในปัจจุบันนี้ถือเป็นความก้าวของอุตสาหกรรมการลงทุนยุคใหม่ที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ในทุกๆ มิติ โดยเฉพาะถ้าใครที่ต้องการชนะ & รับผลตอบแทนจากตลาด Forex คุณพลาดไม่ได้อย่างยิ่งกับบัญชี ECN เครือข่ายอัจฉริยะที่นำเสนอโซลูชั่นการเก็งกำไรที่ดีที่สุด ผ่านโปรโตคอลที่เน้นการบริหารสภาพคล่องเป็นหลัก ตอกย้ำความมั่นใจด้วยระบบจับคู่คำสั่งซื้อแบบอัตโนมัติ โดยเทรดเดอร์สามารถใช้อินดิเคเตอร์และอัปเดตข่าวสารเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการกำหนดคำสั่งซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ