ADX คืออะไร? เจาะลึก ADX สำหรับการเทรดฟอเร็กซ์

การเทรดในสินทรัพย์ใด ๆ ก็ตามล้วนเป็นความเสี่ยง เช่นเดียวกันกับการเทรด “ฟอเร็กซ์” ฉันใดก็ฉันนั้น แต่เมื่อใดก็ตามที่เทรดเดอร์เทรดด้วยแนวโน้ม หรือ Trend ตามสภาวะการเคลื่อนที่ของราคาที่บ่งบอกว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดระหว่าง แนวโน้มขาขึ้น หรือ Uptrend, แนวโน้มขาลง หรือ Downtrend และ แนวโน้มด้านข้าง หรือ Sideway ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างแน่นอน 

วิธีการที่จะวิเคราะห์แนวโน้มอาจมีหลายวิธี เช่นการฝึกฝนเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือวิธีที่ง่ายที่สุดและสามารถนำไปใช้ได้เลยทันทีก็คือ การใช้อินดิเคเตอร์ที่ช่วยให้การตัดสินใจทิศทางของแนวโน้มได้ง่ายขึ้น ดังนั้น อินดิเคเตอร์ ADX จะมีช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร? ใช้อย่างไร? และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร สามารถติดตามได้จากบทความนี้ได้เลย

ADX ย่อมาจาก Average Directional Index คือ ดัชนีทิศทางเฉลี่ย เป็นตัวชี้วัดที่ช่วยระบุแนวโน้มของราคาได้ หนึ่งในการวิเคราะห์สำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ให้ประสบความสำเร็จก็คือการดูแนวโน้ม เพราะเมื่อมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งจะช่วยคุณตัดสินใจได้ว่าควรติดตามราคานั้นหรือไม่และเมื่อมั่นใจในแนวโน้มที่ไปในทิศทางที่ถูกต้องแล้วจึงนำไปสู่การเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการเทรดได้ในที่สุด ในที่นี้ตัวบ่งชี้ ADX จึงเข้ามาตอบโจทย์ด้านการอ่านแนวโน้มของตลาดให้กับเทรดเดอร์ได้

อินดิเคเตอร์ ADX ใช้กับอินดิเคเตอร์ทิศทางบวก (+DI) และอินดิเคเตอร์ทิศทางลบ (-DI) ทั้ง +DI และ -DI ที่มาจากชื่อตัวย่อตัวบ่งชี้ว่า Directional Movement Index (DI) มีหน้าที่วัดการเคลื่อนไหวของราคาขึ้นและลง และการตัดกันของเส้นเหล่านี้สามารถใช้เป็นสัญญาณซื้อขายได้ ในขณะที่ ADX วัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มไม่ว่าจะขึ้นหรือลง การอ่านค่าที่สูงกว่า 25 บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง เมื่อรวมกันแล้วจึงเป็นตัวบ่งชี้ที่รวมกันเป็นกลุ่มจากบ่งชี้ด้วยกันที่ช่วยให้คุณติดตามได้ทั้งทิศทางและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

ความเป็นมา ADX

พัฒนาขึ้นโดย J. Welles Wilder ในปี 1978 เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้มในชุดราคาของสินทรัพย์ทางการเงิน Wilder เป็นวิศวกรเครื่องกลชาวอเมริกันที่เป็นที่รู้จักดีที่สุดจากผลงานการวิเคราะห์ทางเทคนิคและยังเป็นบิดาของตัวบ่งชี้เชิงเทคนิคหลายตัวที่ในปัจจุบันได้กลายเป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับนักวิเคราะห์ทางเทคนิค และได้รับการจัดให้เป็นมาตรฐานอินดิเคเตอร์ที่ต้องมีในแพลตฟอร์มการเทรดต่าง ๆ นอกจากอินดิเคเตอร์ Average Directional Index แล้ว ยังมีตัวบ่งชี้อื่น ๆ ที่พัฒนาโดย Wilder ได้แก่ Average True Range, Relative Strength Index (RSI), Average Directional Index และ Parabolic SAR

หลักการพื้นฐานของ ADX Indicator

ดัชนี ADX กำหนดความแข็งแกร่งของแนวโน้มแต่ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่าแนวโน้มเป็นขาขึ้นหรือขาลงเหมือนตัวบ่งชี้ยอดนิยมอื่น ๆ อย่างเช่น RSI อย่างไรก็ตาม ADX มีหลักการใช้งานดังต่อไปนี้

• แสดงให้เห็นเมื่อตลาดมีแนวโน้ม

• กรองการเคลื่อนไหวแบบสวนเทรนด์เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ไล่ตามแนวโน้มได้

• ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุแนวโน้มที่ทำกำไรได้มากที่สุด

• ค่าของ ADX ช่วยในการกำหนดระหว่างเงื่อนไขที่มีแนวโน้มและไม่มีแนวโน้ม หรือเมื่อราคาเข้ามาสู่กรอบราคา

• ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์การเทรดามแนวโน้มได้

• ADX คือตัวบ่งชี้ที่ทำให้ความต่างระหว่าง DI+ (Plus Directional Index) และ DI- (Minus Directional Index) ดูเรียบ และไม่สามารถเป็นค่าลบได้

ADX ระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่งเมื่อ ADX มีค่ามากกว่า 25 และมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อ ADX ต่ำกว่า 20 สามารถดูจากการไขว้ของเส้น -DI และ +DI เพื่อสร้างสัญญาณการซื้อขายได้

ADXเป็นอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม โดยทั่วไปจะใช้เพื่อระบุว่าราคามีแนวโน้มหรืออยู่ในกรอบราคาหรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว ADX คำนวณโดยใช้ความแตกต่างระหว่างตัวบ่งชี้ทิศทางสองตัวจาก Directional Movement Indicator โดยทั่วไปคือ +DI และ -DI ซึ่งขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาสูงและราคาต่ำสุดของราคา ADX เป็นเส้นเรียบที่มีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 ดังนั้นเมื่อนำมาใช้ด้วยกันจะอ่านได้ดังต่อไปนี้

• เส้น +DI แสดงถึงความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวในเชิงบวก และคำนวณโดยการนำราคาสูงสุดของวันก่อนหน้าออกจากราคาสูงสุดของวันปัจจุบัน

• เส้น -DI บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวเชิงลบ และคำนวณโดยการนำระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้าออกจากระดับต่ำสุดของวันปัจจุบัน

• เส้น ADX บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาดังกล่าว

  
  

เทรดเดอร์จำนวนมากอาจตีความว่าค่า ADX ที่สูงกว่า 25 เป็นแนวโน้มที่แข็งแกร่งในการติดตามราคาเพื่อเข้าซื้อ และสำหรับ ADX ที่ต่ำกว่า 25 คือช่วงเวลาของการสะสมเพื่อรอเวลากลับขึ้นมาแข็งแกร่งอีกครั้งและเมื่อ ADX อยู่ต่ำกว่า 25 เป็นเวลา 30 วันราคามักจะเข้าสู่กรอบเวลาและเกิดความผันผวนระหว่างแนวรับและแนวต้านเพื่อรอการขาย

สิ่งที่น่าสนใจคือการตีความ ADX อย่างถูกต้องเป็นส่วนสำคัญของการเทรดเชิงเทคนิค เพราะในบางครั้ง  ADX ไม่ได้บ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้ม แต่เป็นเพียงการพิจารณาว่าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่งพอหรือไม่ บ่อยครั้งที่ ADX ลดลงมักถูกตีความว่าเป็นการบ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้ม แต่การตกลงของ ADX เป็นเพียงตัวบ่งชี้ว่าแนวโน้มปัจจุบันกำลังจะเปลี่ยนไป

ดังนั้น ทิศทางของเส้น ADX มีความสำคัญต่อการอ่านความแข็งแกร่งของแนวโน้ม เมื่อเส้น ADX เพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งของแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น และราคาจะเคลื่อนไหวในทิศทางของแนวโน้ม เมื่อเส้นลดลง ความแข็งแกร่งของแนวโน้มจะลดลง และราคาจะเข้าสู่ช่วงของการกลับตัว

“สูตรการคำนวณได้แก่ ADX = 100 × ( +DI ลบ -DI) ÷ (+DI บวก -DI) ÷ ATR”

+DI คือ 100 เท่าของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) ของ +DI หารด้วย Average true range (ATR) ของจำนวนระยะเวลาที่กำหนด (โดยทั่วไปคือ 14 วัน) 

-DI เท่ากับ 100 เท่าของ EMA ของ -DI หารด้วย Average true range (ATR)

ADX เท่ากับ 100 เท่าของ EMA ของค่าสัมบูรณ์ของ (+DI ลบ -DI) หารด้วย (+DI บวก -DI)

การเคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นบวกเกิดขึ้นเมื่อค่าสูงสุดในปัจจุบันลบค่าสูงสุดก่อนหน้าเท่ากับมากกว่าค่าต่ำสุดก่อนหน้าลบค่าต่ำสุดในปัจจุบัน การเคลื่อนที่ในทิศทางเชิงลบเกิดขึ้นเมื่อค่าต่ำสุดก่อนหน้าลบค่าต่ำสุดในปัจจุบันเท่ากับค่าที่มากกว่าค่าสูงสุดในปัจจุบันลบค่าสูงสุดก่อนหน้า

แม้ว่าการรู้สูตรจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องวัดผลการคำนวณ ADX ด้วยตัวคุณเอง เนื่องจากระบบการซื้อขายออนไลน์ส่วนใหญ่จะคำนวณตัวชี้วัดทางเทคนิคโดยอัตโนมัติ รวมถึงแพลตฟอร์มการเทรดที่ Mitrade

ข้อดีของ ADX

1. ช่วยเทรดเดอร์ระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้มและศักยภาพในการกลับตัวของแนวโน้ม

2. เทรดเดอร์สามารถใช้ ADX เพื่อช่วยระบุจุดเข้าหรือออกสำหรับการเทรด

3. สามารถใช้ ADX เพื่อระบุระดับการซื้อมากเกินไป (overbought) หรือการขายมากเกินไป (oversold) ที่อาจเกิดขึ้นในตลาด

ข้อเสียของ ADX

1. สามารถสร้างสัญญาณเท็จซึ่งอาจทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนได้

2. การเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างล่าช้า ดังนั้นอาจทำให้เทรดเดอร์ที่จะดำเนินการการเทรดที่ต้องการสายเกินไป

3. ADX ให้ข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับตลาดและไม่ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระยะเวลาที่เป็นไปได้

แม้ว่าจะเป็นตัวบ่งชี้ที่ทรงพลัง แต่ ADX ก็มีข้อมีข้อจำกัดของการใช้งานดังต่อไปนี้

การตอบสนองต่อตลาดค่อนข้างล่าช้า

ตัวบ่งชี้นี้ใช้เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอค่อนข้างช้า จึงทำให้ไม่สะท้อนถึงสภาวะตลาดที่ถูกต้องและอาจนำไปสู่การส่งสัญญาณเท็จ  

ขาดข้อมูลราคา

ตัวบ่งชี้นี้รองรับข้อมูลแนวโน้มเพียงอย่างเดียวเท่านั้นจึงไม่มีข้อมูลของราคาอื่น ๆ จึงทำให้ เทรดเดอร์จำเป็นต้องพึ่งพาตัวบ่งชี้และเครื่องมือเสริมเพื่อระบุจุดเข้าและออกได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

ไม่เหมาะสำหรับทุกสภาวะตลาด 

ทำงานในกรณีของตลาดที่มีแนวโน้ม ดังนั้น ในกรณีที่ตลาดไซด์เวย์และแสดงทิศทางที่ไม่ชัดเจน ตัวบ่งชี้ ADX อาจไม่เป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ได้และอาจสร้างสัญญาณที่ไม่ถูกต้องจนนำไปสู่การขาดทุน  

ไม่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกราย

เนื่องจากทุกคนมีสไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน เช่น เทรดเดอร์ที่ต้องการมองหาโอกาสในการเทรดจากการทะลุแนวรับแนวต้านอาจไม่ได้รับข้อมูลผ่านตัวบ่งชี้ ADX นี้มากนัก

ADX ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดได้ว่าเมื่อใดที่การฝ่าวงล้อมหรือ การทะลุแนวรับ-แนวต้านที่จะแข็งแกร่งพอให้เห็นแนวโน้ม การฝ่าวงล้อมนี้เป็นช่วงเวลาในกราฟราคาเมื่อมีความขัดแย้งระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ส่งผลให้แนวโน้มมีการกลับตัว อย่างไรก็ตาม การฝ่าวงล้อมมักจะไม่คืบหน้าและจบลงด้วยการเป็นกับดัก ดังนั้น ADX จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อการฝ่าวงล้อมแข็งแกร่งพอที่จะมีแนวโน้ม เมื่อ ADX เพิ่มขึ้นเหนือ 25 จึงจะเป็นแนวโน้มที่แข็งแกร่งที่ควรจะติดตาม

ตัวบ่งชี้ ADX ยังมีประโยชน์ในฐานะตัวค้นหาระยะ เมื่อ ADX เลื่อนจากเหนือ 25 ไปต่ำกว่า 25 ช่วง แสดงว่ามีแนวโน้มอ่อนแอ ในช่วงนี้ แนวโน้มกำลังเคลื่อนที่ไปด้านข้าง ADX จะยังคงอยู่ในระดับนี้จนกว่าความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง

ADX สามารถช่วยให้คุณได้รับกลยุทธ์การเทรดที่ชนะเมื่อรวมกับราคา เพราะช่วยให้คุณระบุได้เมื่อราคามีแนวโน้ม และด้วยเหตุนี้ คุณสามารถสร้างกลยุทธ์ในทิศทางของแนวโน้มได้ เมื่อราคามีแนวโน้ม การดึงกลับจะถูกใช้เป็นจุดเริ่มต้น

ตัวอย่างระบบเทรด ADX

ที่มา:Investopedia

เมื่อ +DI อยู่เหนือ -DI ราคาจะขยับขึ้น และ ADX จะวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น เมื่อ -DI อยู่เหนือ +DI ราคาจะเคลื่อนลง และ ADX จะวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาลง จากรูปภาพแสดงให้เห็นว่าเป็รตัวอย่างของแนวโน้มขาขึ้นที่กลับเป็นขาลง สังเกตว่า ADX เพิ่มขึ้นอย่างไรในช่วงขาขึ้น เมื่อ +DI อยู่เหนือ -DI เมื่อราคากลับตัว -DI ตัดเหนือ +DI และ ADX เพิ่มขึ้นอีกครั้งเพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาลง

ADX ให้สัญญาณกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมเมื่อรวมกับราคา ขั้นแรกให้ใช้ ADX เพื่อพิจารณาว่าราคามีแนวโน้มหรือไม่มีแนวโน้ม จากนั้นเลือกกลยุทธ์การเทรดตามเงื่อนไขในตลาด สำหรับเงื่อนไขที่มีแนวโน้ม ตัวบ่งชี้จะดึงกลับและดำเนินการในทิศทางของแนวโน้ม อย่างไรก็ตาม การเปิดสถานะสามารถทำได้ด้วยการกลับตัวที่แนวรับ (ยาว) และแนวต้าน (สั้น) ก็ได้

สำหรับผลกำไรที่ดีที่สุดของการเทรดฟอเร็กซ์มาจากการเทรดในแนวโน้มที่แข็งแกร่งที่สุดและ ADX ไม่เพียงแต่ระบุเงื่อนไขแนวโน้มเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ค้นหาแนวโน้มที่แข็งแกร่งที่สุดในการเทรดให้อีกด้วย        

นอกจากข้อได้เปรียบของการมองหาแนวโน้มที่แข็งแกร่งนี้แล้ว ยังช่วยให้คุณสามารถมองหาเทรนด์จากไซด์เวย์เพื่อการเทรดที่แม่นยำยิ่งขึ้น และสำหรับผู้ที่ใช้กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มยิ่งเหมาะกับการใช้อินดิเคเตอร์นี้อย่างมาก เพราะ ADX  ช่วยบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคาเพื่อการจัดการความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณอาจอยากลองสัมผัสกับอินดิเคเตอร์นี้จริง ๆ และคุณก็สามารถทำได้ฟรี! โดยที่ไม่ต้องฝากเงิน เพราะที่ Mitrade มีระบบบัญชีเดโม่ที่ให้ทดลองเทรดได้ฟรี เพียงเข้าสู่เว็บไซตต์และเลือกคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่คุณกำลังมองหา จากนั้นเลือกอินดิเคเตอร์ ADX ตามรูปภาพและเริ่มต้นเทรดได้เลย จากนั้น เมื่อคุ้นเคยกับการเทรดแล้วสามารถสลับมาใช้บัญชีจริงเพื่อเทรดและรับกำไรด้วยเงินจริงต่อได้เลย

🎉ห้ามพลาด !!! 

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี

บัญชีทดลอง>

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

ADX เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดแนวโน้มของทิศทางราคา แต่ก็ยังสามารถใช้ควบคู่กับตัวชี้วัดอื่น ๆ ได้อีกเพื่อเป็นการยืนยันทิศทางที่แม่นยำมากขึ้น เพราะโดยทั่วไปแล้วอินดิเคเตอร์ฟอเร็กซ์จะไม่สามารถใช้เพียงตัวเดียวและตัดสินใจเปิดจุดซื้อ-ขายได้ทันที หนึ่งในอินดิเคเตอร์ตัวฮิตที่มักจะมาใช้คู่กับ ADX  เช่น RSI, Aroon และอื่น ๆ ที่จะปรับเปลี่ยนไปตามสไตล์การเทรดของแต่ละคน

เปรียบเทียบตัวบ่งชี้ Aroon VS ตัวบ่งชี้ ADX

ตัวบ่งชี้ Aroon เป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้มที่มีความคล้ายคลึงกับ ตัวบ่งชี้ ADX กล่าวคือ ตัวบ่งชี้ทั้งสองมีเส้นที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวในทิศทางเชิงบวกและเชิงลบ อย่างไรก็ตาม ตัวบ่งชี้ Aroon มีเส้นทั้งหมดสองเส้นได้แก่เส้น Aroon up ที่ใช้วัดช่วงเวลาตั้งแต่ราคาสูง และเส้น Aroon down ที่ใช้วัดช่วงเวลาตั้งแต่ราคาต่ำ สิ่งเหล่านี้ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของเทรนด์และทิศทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวบ่งชี้ ADX ไม่มี

เช่นเดียวกับ ADX เส้นตัดกันของเส้น Aroon สองเส้นช่วยให้เกิดสัญญาณแนวโน้ม แต่เนื่องจากการคำนวณของตัวบ่งชี้แต่ละตัวแตกต่างกัน การตัดกันของตัวบ่งชี้แต่ละตัวจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ต่างกัน นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้ Aroon ยังไม่มีสูตรที่ซับซ้อนเนื่องจากไม่ได้ใช้ Average True Range (ATR) เพื่อทำให้กราฟเรียบขึ้น ซึ่งหมายความว่ามีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาภายในกราฟราคาได้เร็วกว่า ADX

การใช้ตัวบ่งชี้ ADX สำหรับการเทรดรายวัน (Day Trading)

เทรดเดอร์รายวันสามารถใช้ตัวบ่งชี้ ADX เพื่อระบุการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นหรือยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้ โดยเทรดเดอร์สามารถใช้ตัวบ่งชี้ ADX ในลักษณะดังต่อไปนี้

ระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่ง

เดย์เทรดเดอร์สามารถใช้ ADX เพื่อระบุแนวโน้มของตลาดที่แข็งแกร่ง โดยทั่วไปแล้ว ตัวบ่งชี้ที่สูงกว่า 25 ถือเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มที่แข็งแกร่งที่เดย์เทรดเดอร์สามารถใช้ตัวบ่งชี้นี้เพื่อค้นหาโอกาสในการเข้าสู่การซื้อขายตามทิศทางของแนวโน้มได้

มองหาครอสโอเวอร์

เทรดเดอร์รายวันยังสามารถใช้เส้น +DI และ -DI เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้ ตลาดแสดงแนวโน้มขาขึ้นเมื่อเส้น +DI ข้ามเหนือเส้น -DI และแนวโน้มขาลงเมื่อเส้น -DI ข้ามเหนือเส้น +DI

การระบุแนวโน้มการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น

ตัวบ่งชี้ ADX ยังสามารถใช้เพื่อหยุดการกลับตัวของแนวโน้ม เส้น ADX ที่ร่วงลงอาจบ่งบอกว่าแนวโน้มกำลังอ่อนตัวลงและอาจเกิดการกลับตัวที่ขอบฟ้า เทรดเดอร์รายวันควรมองหาตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อยืนยันการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้เพิ่มเติม

การจัดการความเสี่ยง

ตัวบ่งชี้ ADX ยังสามารถนำมาใช้ในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์สามารถใช้เส้น ADX ที่กำลังร่วงลงเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มที่อ่อนตัวลงได้ เทรดเดอร์จึงสามารถออกจากสถานะการซื้อขายหรือลดขนาดสถานะเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

การเทรดในทิศทางของแนวโน้มเป็นพื้นฐานของเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์เชิงเทคนิค แม้ว่าเทรดเดอร์จะใช้แผนภูมิ ตัวบ่งชี้ และรูปแบบการเทรดหลายอย่างเพื่อทำความเข้าใจทิศทางของแนวโน้ม แต่หากคุณต้องการทำความเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้ อินดิเคเตอร์ ADX จึงทำให้การเทรดเกิดประโยชน์ได้สูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยอินดิเคเตอร์นี้ยังช่วยให้คุณทราบได้ว่าเมื่อใดที่ราคาเข้าสู่กรอบราคาเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจการตัดสินใจในการเปิดสถานะซื้อหรือขายได้จึงไม่ต้องเสียเวลาตามหาเทรนด์ที่ชัดเจน นอกเหนือสิ่งอื่นใด อินดิเคเตอร์ ADX ยังช่วยจัดการความเสี่ยงที่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ชอบการเทรดตามแนวโน้มได้อย่างแน่นอน